ความคิดเห็นที่: 141 / 908 : 780174

โดย: pim

มันจำเป็นค่ะที่ต้องไปช่วยน้องชายสุดที่รักที่แหลมฯ จริงๆ แล้วไม่ว่าคนไทยหรือต่างด้าว พิมไม่กลัวหรอกค่ะเพราะระวังตัวทุกเวลาทุกวินาที มีตาเป็นตาสับปะรด (แว่นตั้งห้าหกอัน ไม่รู้มีทำไมกันเยอะแยะ) ไม่พกอาวุธเลยกลัวมันเข้าตัว แต่ใช้วิธีหลีกเลี่ยง ถอยห่างอย่างเดียว พอเริ่มมืดก็รีบล็อกห้อง ล็อกบ้านแล้วค่ะ เคยเจอพวกแขมร์เป็นแก๊งในตลาดสด 6-7 คนพูดจาเสียงดัง ได้ยินก็รีบติดเบรคใส่เกียร์ถอยเป็นโร้ดรันเนอร์ชิ่งไปเลยค่ะ จริงๆโจรน่ะไม่กลัว แต่ที่กลัวคือ กลัวเจ็บ กลัวต้องฉีดยากินยา

แต่ที่กลัวกว่าต่างด้าวอีกคือ กลัวโดนยื้มเงินค่ะ เพราะมันไม่ยอมคืนกัน (ฮา) เรื่องจริงนะ โดนบ่อยจนทั้งเสียและเกือบเสียเพื่อน
ขอบพระคุณป๋ามากค่ะที่เป็นห่วง

ชักงงค่ะป๋า ในคห. 112 ข้อ 4 ที่ป๋าบอกว่าสเปคน้ำมันพาวเวอร์ต้องเป็น DX-II แล้วทำไมต้องมาพิจารณาข้อแตกต่างระหว่าง DX-II กับ DX-III ก่อนเปลี่ยนอีกล่ะคะ

“ DX-III จะรู้สึกพวงมาลัยเบากว่ามาก ขับช้าๅเลี้ยวเข้าจอดที่แคบง่ายไม่ต้องออกแรง แต่ปั๊มจะทำงานหนักมากๆเวลาเลี้ยวสุดแคบๆดึงกำลังเครื่องมาก ”
ที่ป๋าอธิบายข้างบนพิมก็อยากได้แบบพวงมาลัยเบาๆ ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็เบา (0 เติม DX-III ให้) แต่ป๋าเคยบอกว่าสเปคน้ำมันพาวเวอร์ต้องเป็น DX-II คำถามคือ
แล้วจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไม๊คะ
ถ้าไม่เปลี่ยนต่อไปพวงมาลัยจะเป็นยังไง ตอนนี้มันก็ยังปกติดีค่ะ

จากที่ป๋าวี + ป๋ายุทธ์อธิบาย พิมก็ขอสรุปว่าความเสี่ยงเยอะมาก ไม่ควรล้างระบบน้ำมันพาวเวอร์ แสดงว่าถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนเฉพาะในกระปุกเท่านั้น พิมเข้าใจถูกต้องไม๊คะ แล้วน้ำมันที่เปลี่ยนใหม่ในกระปุกมันคิดเป็นจำนวนเท่าไหร่ของน้ำมันพาวเวอร์ในระบบทั้งหมด
ขอป๋าช่วยสรุปให้อีกทีนะคะ อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับรถที่จะให้มันอยู่กับเรานานๆ ก็จะเอาอันนั้นค่ะ

ในเมื่อรถหรือเครื่องจักรถูกกำหนด spec/design มาให้ใช้งานยังไง มันก็ควรจะใช้งานอย่างนั้น
หลายปีก่อนพิมเคยคิดจะเปลี่ยนล้อรถ (ทั้งแม็กซ์ทั้งยาง) ให้ใหญ่ขึ้น ร้านยางก็บอกว่าไม่ควรเปลี่ยนเพราะจะทำให้ part อื่นของรถที่เกี่ยวเนื่องกับล้อจะมีผลกระทบด้วย กินน้ำมันมากขึ้น บลาๆๆ จำไม่ได้แล้ว ด้วยความกลัวว่าจะมีปัญหาก็เลยไม่ได้เปลี่ยนค่ะ แล้วก็ไม่เคยคิดจะดัดแปลงอะไรรถอีกเลย แต่ก็ยังคิดอยู่ในใจว่าแล้วทำไมคนอื่นเขาเปลี่ยนกันได้ แล้วเค้าเจอปัญหาอะไรกันบ้างหรือเปล่า

งั้นเรื่องติดแผ่นกันความร้อนก็ไม่ติดแระ เรื่องร้อนก็หยั่งที่บอกน่ะแหละค่ะมันร้อนเอานิ้วจิ้มแช่ไม่ได้ ต่อไปนานปี สีที่แผงเกียร์ก็คงจะแตกไปเรื่อยๆ งั้นเดี๋ยวจะไปดูต่อค่ะว่ายางหิ้วท่อไอเสีย 2 ข้างมันอยู่ตรงไหน แล้วระดับท่อไอเสียมันอยู่ห่างจากตัวถังแค่ไหน รถพิมก็ไม่เคยโมอะไรเลย นอกจากหม้อพักกลางที่ช่างเด็กๆ บอกว่ามันเป็นสนิมแล้วตัดออกเอาของใหม่ใส่แทน


อยากเม้าอีกค่ะ ไม่รู้จะเม้าให้ใครฟังดี เอาพี่ๆน้องๆ ในนี้แล้วกัน อย่าพึ่งเบื่อนะ ตั้งแต่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาเนี่ย เหมือนได้รถใหม่อย่างพี่ทิวว่า ขับรถไม่รู้สึกตกใจหรือรำคาญใจอีกแล้ว ดีใจจิงจิ๊งงงงงง ขับทางไกลจากแหลมฯ วิ่ง 90-110 ตลอดทางไม่สะดุดเลย รถวิ่งดีมาก แสดงว่าเกียร์ยังดีอยู่ เจอแค่จอดติดไฟแดงแล้วออกตัวมีอาการสะดุดเบาๆ 2 ครั้ง เออ! ค่อยยังชั่ว

 ความคิดเห็นที่: 142 / 908 : 780201

โดย: ทวีรัฐ

ตอนนี้กำลังเดินทางไปสุรินทร์ ไว้พรุ่งนี้เลิกงานเข้าที่พักจะมาตอบนะครับ
โดยเฉพาะประเด็น เกรดน้ำมันพาวเว่อร์ dextron llครับ
แค่อยากบอกว่า ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็อย่าเพิ่งไปเปลี่ยนมันก็ได้ครับ ไม่มีผลเสียเหมือนเกียร์หรอก
ไว้อธิบายเพิ่มพรุ่งนี้นะครับ ขับรถต่อล่ะ

 ความคิดเห็นที่: 143 / 908 : 780202

โดย: pim

ขอบคุณค่ะ
ขับรถปลอดภัยนะคะ

 ความคิดเห็นที่: 144 / 908 : 780210

โดย: ทิว

ผมก็พึ่งจะกลับมาจากร้อยเอ็ดครับ ขาดการติดต่อจากโลกภายนอกไปเลย
เรื่องน้ำมันพาวเวอร์ซึม ก็แก้ปัญหาเฉพาะจุดไปก่อนก็ได้ครับ
มันต่างกันแค่ความหนืด เหมือนอย่างที่ป๋าวีบอก
ที่เหลือคือผลกระทบเล็กน้อย(รึป่าว?) จากการที่ความหนืดเปลี่ยนไปครับ

 ความคิดเห็นที่: 145 / 908 : 780353

โดย: pim

ที่พี่ทิวว่าผลกระทบเล็กน้อย? มันมีอะไรบ้างคะ 1, 2, 3

ตอนนี้ชักไม่ไหวแล้วต้องเช็ดท่อยางทุกวัน เติม DX-II ลงไปหน่อยดันหกเลอะเทอะอีก

พรุ่งนี้จะเอาไปให้อู่เช็คแล้ว ไม่รู้จะได้ซ่อมหรือเปล่า ถามอู่อู่ยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้เวลาซ่อมนานไม๊ มีของหรือเปล่า

 ความคิดเห็นที่: 146 / 908 : 780361

โดย: ทิว

เรื่องผลกระทบป๋าวีตอบไปแล้วครับที่ คห.138 จะมองว่าเล็กน้อยก็ได้ มากก็ได้แล้วแต่ทัศนคติครับ

ส่วนเรื่องซ่อมเท่าที่ผมลองอ่านตาม คิดว่าน่าจะซ่อมได้นะครับ น่าจะมีปัญหาที่เข็มขัดรัดไม่แน่นรึป่าว ต้องลองให้ช่างตรวจสอบดูอีกทีครับ แล้วจะเติมกลับเท่าไหร่ อย่าไปคิดปริมาตรให้ปวดหัวเล่นเลยครับ สำหรับน้ำมันเพาเวอร์เติมเต็มเกินขีด max ก็โอเคแล้วครับ

ระวังก็แค่ตอนเติมนี่แหละ น้ำมันเกียร์มันกัดสีรถนะครับ (ถ้าจำไม่ผิด) พยายามอย่าให้หก หรือ ถ้าหกไปแล้วก็เช็ดออกโดยเร็วครับ เห็นว่าทำหกไปแล้วด้วย

 ความคิดเห็นที่: 147 / 908 : 780385

โดย: pim

ซวยเลย แต่ตอนหกมันหกลงไปข้างล่างโดนตัวถังด้านใน แถวๆกะปุก แต่ไม่ทันสังเกตว่าสีหลุดหรือเปล่า

เอ ได้ซ่อมกับซ่อมได้ เราเข้าใจตรงกันไม๊เนี่ย แซวเล่นน่ะค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 148 / 908 : 780478

โดย: pim

วันนี้ไปเช็คน้ำมันพาวเวอร์ที่ซึมมาแล้วค่ะ 0 ทำเรื่องอีกแล้ว ช่างอู๊ดบอกว่าท่อที่ 0 ใส่ให้มันเป็นท่อที่ใหญ่กว่าของเดิมแล้วก็เป็นท่อยางที่ไม่ได้ใช้สำหรับน้ำมัน พอมันเจอความร้อนความดันท่อมันก็เลยบวม บวมจริงๆด้วยค่ะ น้ำมันก็ซึมออกมาทั้งเส้นเลย แล้วต่อไปมันก็จะแตก ช่างอู๊ดก็เลยเอาของมือสองมาให้ พร้อมกับเอาน้ำมันเบนซินล้างบริเวณให้เรียบร้อย แต่ไม่ค่อยสะอาด เดี๋ยวต้องเอาไปล้างใหม่ กระปุกน้ำมันไม่แตกไม่ร้าว โชคดีไป

0 ก็คงเหลือ 0 สมชื่อแล้วครานี้ ทำให้ลูกค้าเสียเงินไปฟรีๆ แถมยังบอกอีกว่าในท่อน้ำมันพาวเวอร์ไม่มีความดัน ฮ่วย!

พี่ทิว น้ำมันพาวเวอร์ไม่กัดสีค่ะ น้ำมันเบรคต่างหากที่กัด ทราบแล้วเปลี่ยน!

 ความคิดเห็นที่: 149 / 908 : 780480

โดย: ทิว

อ่า...ผมคงจำสลับกับน้ำมันเบรคจริงๆด้วยครับ ขอบคุณที่เข้ามาเตือนกันครับ

ว่าแต่ ตอนนี้หายซึมแล้วรึยัง คงต้องสังเกตุอีกซักพักนะครับ ว่าหายสนิทแล้วจริงๆ

ส่วนเรื่องศูนย์ก็ปล่อยเค้าไปตามชื่อเถอะครับ ผมว่าหลายๆท่านก็โดนมาแล้วบ้างเหมือนกัน รวมผมด้วย
ว่าแต่เอาของที่ใช้ไม่ได้มาเปลี่ยนให้รถลูกค้านี่มันน่า...จริงๆ

 ความคิดเห็นที่: 150 / 908 : 780487

โดย: ทวีรัฐ

หายซึม

ก็กลัยมาร่าเริง สดใสได้เหมือนเดิมแล้วสิครับ


(จะโดนมั๊ยเนี่ย)

 ความคิดเห็นที่: 151 / 908 : 780543

โดย: pim

หายซึม! ใช่ ใช่ ใช่ ปะเดี๋ยวจะได้เริงร่าพามันไปเที่ยวแหลมฯ อีกแล้วค่ะ

สดใสร่าเริง ป๋าคิดได้ไงตอนสามทุ่ม โอ้ะ! ชอบคำนี้มากเลยค่ะ โลกนี้มันช่างน่าอยู่จริงๆ

พวกโลกสวย ก็มันสวยจริงๆ นี่นา ก็เพราะได้ขับแอสทีน่านี่ไง

ลืมขอบคุณช่างอู๊ดที่คิดราคาไม่แพง และแก้ปัญหาให้ ขอบคุณทุกท่านในนี้ด้วยที่ช่วยดูแลรถ และแนะนำอู่ให้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

จะคอยดูว่ามันจะซึมอีกไม๊
แต่ก็ยังซึมหน่อยๆค่ะ เพราะน้ำมันเคร่ื่องที่เปลี่ยนกับช่างอู๊ดพร้อมกันด้วย รู้สึกจะเหยี่ยบรถไม่ค่อยออกเท่าของเดิม เดี๋ยวจะลองใช้ไปสักพัก ของเดิม10W30 ของใหม่10W40 แต่แปลกนะ ช่างอู๊ดอธิบายไม่ได้ว่าน้ำมันมันต่างกันยังไง พิมอุตสาห์ถามเจาะจะเอาคำตอบให้ได้ก่อนเปลี่ยน แต่พอกลับมาอ่านที่ป๋าตอบให้ก็พอเข้าใจแล้ว)

โอ๊ยหิว ตื่นเช้าทีไรหิวทุกที ไปหละ

 ความคิดเห็นที่: 152 / 908 : 780611

โดย: ทวีรัฐ

เคยได้ยิน ลุงๆป้าๆพูดกันว่า

คน..........ตื่นเช้า สาวๆ ตื่นสาย นะ

 ความคิดเห็นที่: 153 / 908 : 780631

โดย: ทิว

เอ่อ...ป๋าวีครับ เกรงว่าจะงานเข้าได้นะครับ

เรื่องน้ำมันเครื่อง แน่นอนครับว่าเบอร์ 10W30 นั้นปรู๊ดปร๊าดกว่าเป็นแน่แท้ เพราะใสกว่าครับ
แต่จะมีปัญหาทำให้เครื่องอาจจะ (ผมใช้คำว่าอาจจะนะครับ) สึกหรอเพิ่มขึ้นถ้าใช้ในเมืองร้อนและใช้งานต่อเนื่อง ยาวนาน อย่างเช่นบ้านเราครับ ไหนจะเรื่องยี่ห้อนี่ก็มีผลอีกครับ แต่ละยี่ห้อ น้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกันก็ใส่สารปรับปรุงคุณภาพ (Additive) ที่แตกต่างกัน ส่งผลถึงสมรรถนะที่แตกต่างกันครับ แต่ก็ไม่ได้บอกว่ายิ่งหนืดยิ่งดีนะครับ เอาเป็นว่าตามคู่มือดีที่สุดครับ

ส่วนพวกรถใหม่ๆอย่างน้อง2 ทำไมคู่มือกำหนดให้ใช้ใสถึงเบอร์ 20 นั่นก็เพราะว่าค่าความห่างของชิ้นส่วนในเครื่องยนต์น้อยกว่ารถเก่าๆอย่างพวกเราเยอะครับ เบอร์ใสๆก็เพียงพอในการหล่อลื่นชิ้นส่วนแล้ว

 ความคิดเห็นที่: 154 / 908 : 780645

โดย: ทวีรัฐ

งานเข้า !



ป๋าคิดได้ไงตอนสามทุ่ม => คนดีๆคิดไม่ได้ ต้องคนแบบนี้
http://www.youtube.com/watch?v=5QynfovZvNg

 ความคิดเห็นที่: 155 / 908 : 780696

โดย: Fujiwara Takumi

ผมใช่ 5W30 อ่ะครับ ท่านทิว ตาม SHOP ก็เกรดนี้อ่ะ ( ส่วนตัวชอบเกรดนี้ครับ ) ว่าแต่เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นานมานี้ เวลาเติมทำไมมันแค่ 3 ลิตร ครึ่งเองอ่ะื มันยังเหลือตั้งเยอะ ว่าจะถ่ายรูปมาให้ดูว่าที่เหลือว่ามันเหลืออีกตั้งเยอะ ( แต่ตอนนี้อยู่หล่มสักอ่ะ ) หรือมันปกติน่ะ

 ความคิดเห็นที่: 156 / 908 : 780707

โดย: ทิว

ปกติครับท่าน Fujiwara Takumi
น้ำมันเครื่องสำหรับโปเต้รวมเปลี่ยนกรองแล้วใช้ประมาณ 3 ลิตรครึ่งครับ (เครื่อง 1.6)

ในคู่มือ(ของไทย) ระบุให้ใช้ได้แทบจะทุกเบอร์ครับ 20 - 50
แต่ถ้าดูที่อุณหภูมิร่วมด้วย ในตารางเดียวกัน (หน้า 8-8) จะเห็นว่า
เบอร์ 5W-30 แนะนำให้ใช้ที่อุณหภูมิ -30 ถึงประมาณ 38 C
เบอร์ 10W-40, 10W-50 แนะนำให้ใช้ที่อุณหภูมิ - 28 ถึงมากกว่า 50 C

และคูมือได้ระบุชัดเจนว่า "เมื่อเลือกน้ำมันเครื่อง ให้พิจารณาถึงช่วงอุณหภูมิที่รถยนต์ของท่านจะต้องทำงานก่อนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แล้วเลือกความหนืดที่แนะนำตามแผนภูมินี้"

ดังนั้นตามความคิดเห็นของผม ผมแนะนำเบอร์ 40 สำหรับรถทั่วไป และ 50 สำหรับเท้าหนักหน่อย
เพราะเดี๋ยวนี้บ้านเรานี่ร้อนทะลุระดับ 40 C กันแล้วครับ
ส่วนเหยียบแล้วลื่นเท้าที่สุดผมยังยืนยันว่า เบอร์ 30 ครับ แต่การปกป้องมันต่ำกว่าที่อุณหภูมิสูงครับผม

 ความคิดเห็นที่: 157 / 908 : 780716

โดย: Fujiwara Takumi

 ความคิดเห็นที่: 158 / 908 : 780829

โดย: ทิว

ท่าน Fujiwara Takumi
ผมบอกด้วยความหวังดี โป้งผมทามมายยยยยยยยย

 ความคิดเห็นที่: 159 / 908 : 780887

โดย: pim

ป๋าคะ ขอเรื่องแรกก่อน มีความในใจอยากบอกค่ะ (แน่ะ ๆ คิดมากละสิ ฮา) อยากบอกจริงๆ ค่ะ ด้วยความจริงใจ

อะไรล่ะ !

ติดค้างคาใจมาเดือนนึงแระที่เข้ามาที่นี่น่ะ พิมรู้สึกแย่ ไม่ค่อยดีเลย

อะไรล่ะ!

เปิดเข้ามาทุกๆ ครั้งทีไรเจอมันทุกที จริงนะคะป๋า วันนี้เข้ามาก็อีกแระ ป๋าน่ะ ชอบทำร้ายความรู้สึกคนอื่น รึป่าว

แล้วอะไรล่ะ ซะทีสิ กวนจริง ๆ

ก็ใครกวนใครก่อนล่ะ
เอ่อ! เอาไว้บอกคราวหน้าดีกว่า แกล้งคนสนุกดี 555 to be continued 555 เอิ๊กๆๆ

สงสัยต้องยอม.........ตามที่ป๋าว่าล่ะ เฉพาะวันศุกร์วันเดียวเท่านั้นนะ วันอื่นให้ตายก็ยอมไม่ได้ 555

เมื่อเช้า 6 โมง พิมทำตามคำแนะนำป๋า เลยเจอดีเลย เช็ครถทุกเช้า แต่วันนี้ดันเช็คบนลานจอดรถกว้าง จอดรถได้ประมาณ 200 คัน มีพิมคนเดียวที่เปิดฝากระโปรงรถ ก้มๆ เงยๆ ไฟฉายส่องๆๆ
รถเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นไร แค่เช็คตามปกติค่ะ ขอบคุณค่ะ (สงสัยไม่เคยเห็นผู้หญิงเช็ครถ)
รถสวยดีนะครับ
ขอบคุณค่ะ เราก็ยิ้มสิ ด้วยความภูมิใจ อ้าวแล้วทำไมไม่ไปล่ะ ยืนวนดูรถอีก ไอ่เราอายก็อาย ก็รถมันรอยกรีด ขีดข่วนรอบคัน ไม่ได้อยากให้ใครมาดูใกล้ๆหรอก ไม่ไปซักที

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ต่อไปอย่าเช็ครถให้ใครเห็น อาจเจอดีเข้าสักวัน

0 ใส่เบอร์ 30 ก็แสดงว่าคู่มือต้องเป็นเบอร์ 30 (เชื่อ 0 ได้อีกไม๊ว้า เข็ดแล้ว) แต่ช่างอู๊ดก็บอกว่าหลายคันที่มาอู่นี้ก็ใช้เบอร์นี้กันทั้งนั้น มันฝืดจริงๆแหละ แต่มันช่วยยืดอายุเครื่องยนต์แน่นะพี่ทิว เดี๋ยวต้องกลับไปหาคู่มือก่อน อุตสาห์เก็บไว้ แต่มันอยู่ตรงไหนเนี่ยสิ

 ความคิดเห็นที่: 160 / 908 : 780891

โดย: pim

ป๋าคิดได้ไงตอนสามทุ่ม => คนดีๆคิดไม่ได้ ต้องคนแบบนี้
http://www.youtube.com/watch?v=5QynfovZvNg


แล้วอย่าลืมไปฉีดยานะคะ เดี๋ยวไม่สบาย เปนห่วง ตอนนี้ยังไม่พ้นหน้าร้อน 555