Close this window

รถเริ่มงอแงค่ะ แอสทีน่า

หน้าที่: 1 ... 10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   [20]   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30 ... 46

 ความคิดเห็นที่: 381 / 908 : 788056
โดย: ทวีรัฐ
บ้าจี้ครับ

เอ่อ ใครช่วยอธิบายแทนทีครับ
วันที่: 13 Jul 13 - 19:36

 ความคิดเห็นที่: 382 / 908 : 788058
โดย: pim
คิดถึงเพื่อนที่เมืองจีนเป็นคนจีนที่เก่งมาก ตอนมันมาทำงานเมืองไทย พิมนั่งโต๊ะติดกับมัน (ใช้คำว่ามันนี่แหละ สนิทกันค่ะ) ได้คุยกันทีไรเป็นต้องมีเรื่องได้หัวเราะกันทุกทีทุกวัน จนมันพูดไทยได้ พิมหาว่ามันติงต๊อง มันก็ว่าพิมติงต๊อง พอกันเลยทั้งคู่ เลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย แต่ตอนนี้กลับไปเมืองจีนแล้ว อยากมีเพื่อนแบบนี้อ่ะป๋า

สรุปว่ายังไม่บ้าค่ะ แต่คงใกล้แล้วหละ ฮ่าๆๆ
วันที่: 13 Jul 13 - 20:05

 ความคิดเห็นที่: 383 / 908 : 788060
โดย: ทิว
เข้ามาช่วยป๋า

ยางไดเร็คชั่น คือยางที่ระบุทิศทางการหมุนครับ จะมีลูกศรกำกับอยู่ที่ขอบยางว่าต้องให้หมุนทิศทางนี้เท่านั้น (ในทิศเดินหน้า) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของยาง เพราะออกแบบลายดอกอย่างมาในทิศทางนี้ ถ้าเราสลับจากล้อซ้ายไปขวา ยางมันก็จะหมุนในทิศตรงข้าม ทำให้ประสิทธิภาพลดลงมาก อาจจะไม่รีดน้ำเลยก็ได้ ถ้าเจอแอ่งน้ำก็หมุนติ้วๆๆๆๆๆ ประมาณนี้ครับ

ส่วนเรื่อง E85 ไปลองรถกลับมาแล้วครับ ปกติครับ วิ่งดี เร่งแซงจาก 100 ไป 140 ไม่สะดุด และรู้สึกจะมาไวขึ้นนิดหน่อย ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว สงสัยคงจะต้องคบหาดูใจกันซักพัก เดินเบาก็ไม่มีปัญหาครับ (ส่วนใหญ่จะมีปัญหากันเรื่องนี้)
วันที่: 13 Jul 13 - 20:23

 ความคิดเห็นที่: 384 / 908 : 788065
โดย: Fujiwara Takumi
ยางประเภท rotate direction คือมันกำหนดทิศทางการหมุนที่ตายตัว และหน้ายางสมมาตร
อ่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น BS MY 01,02
ปกติยางประเภทนี้เค้าจะถอดล้อออกมาแล้วงัดเอายางออกมาสลับ

ยางรถจะแบ่งลักษณะหลักดอกยางแค่ 3 ประเภท
1.ดอกยางแบบสวนทาง เป็นประเภท นุ่ม เงียบ นิ่ง ยางประเภทนี้สามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้เลยทุกตำแหน่ง
2.ดอกยางแบบหมุนไปทางเดียว ซิ่ง วิ่ง หนึบ ยางประเภทนี้จะมีลูกศรเพื่อบอกทิศทางการหมุนของมันเพื่อเวลาเราเมื่อต้องสลับยาง จำเป็นต้องดูทิศทางของลูกศรให้ถูกต้อง เพราะจะมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพและอายุของยางประเภทนี้ครับ ( ประเภทพวกซิ่งทางตรงเหมาะมาก )
3.ดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asysimatic) โค้ง เหนียว หนึบ ( ผมใช้ประเภทนี้ ) ดอกยางรูปแบบนี้มีลักษณะของดอกยางด้านนอกและด้านในที่ไม่เท่ากัน ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่ต้องเผชิญหน้ากับทางโค้งมากกว่าทางตรง มันจะมี inside - outside ระบุไว้ ( เหมาะกับขาซิ่งทางโค้งทั้งแถบอย่างผม )

แล้วถ้าถามว่าเอา inside มาไว้ข้างนอก ผลคือ การทำงานของดอกยาง จะผิดปกติไปหมด สมรรถนะทั้งหมดจะลดลง เช่น รีดน้ำไม่ดี ยางจากเคยเงียบก็มีเสียง เข้าโค้งไม่ดี ฯลฯ เนื่องจากดอกยางถูกกำหนดให้ทำงานด้านใน ด้านนอกแตกต่างกัน ส่วนประเภทนี้จริง ๆ สามารถสลับยางได้หมด เช่นหน้าซ้ายไปหลังขวา หน้าขวาไปหลังซ้าย ส่วนยางหลังทั้งคู่ก็สลับขึ้นไปตรง ๆ หลังซ้ายไปหน้าซ้าย หลังขวาไปหน้าขวา ได้แค่อยู่ในพื้นฐานว่า outside ต้องอยู่ข้างนอกเท่านั้นเอง แต่ส่วนมาก จะสลับหน้าไปหลัง หลังไปหน้าฝั่งเดียวกัน
วันที่: 13 Jul 13 - 20:43

 ความคิดเห็นที่: 385 / 908 : 788071
โดย: pim
OOhhhh No !! สุดยอดอ่ะ อยู่ท่ามกลางผู้รู้ เยี่ยมจริงๆ น่ารักอ่ะ ขอบพระคุณน้องทิวน้องฟูจิมั่กๆๆๆ เลย ขอก๊อบเก็บก่อนนะคะ
วันนี้ได้ความรู้เยอะมาก แถมยังได้หัวเราะเฮฮา ถ้าวันนี้หนีเที่ยวคงเสียดายแย่เลย

งั้นพรุ่งนี้ดึกๆ คงได้มารายงานความสำเร็จจ้าาา
วันที่: 13 Jul 13 - 21:31

 ความคิดเห็นที่: 386 / 908 : 788091
โดย: ทวีรัฐ
ยังไง ผมชื่อว่ายางขอบ14 ที่ใช้อยู่คงเป็น แบบดอกยางสวนทางธรรมดา จะสลับซ้าย ใส่ขวาก็ไม่เป็นไรครับ

แต่ถ้าจะทำอย่างนั้น มีแม่แรง 2 ตัวรึเปล่าล่ะ

หรือไม่ก็มีอีกวธีทีนุงแต่ต้องขึ้นแม่แรง 3 ครั้ง คือ
เริ่มจากยกหลังขวา ถอดล้อออกมา กองไว้ แล้วเอายางอะไหล่(ที่มีลม) ใส่เข้าไป ขันน๊อตล้อแค่พอตึง
เอาแม่แรงลง แล้วมายกฝั่งตรงข้าม หลังซ้าย ถอดล้อนี้ออก แล้วเอาล้อข้างนู้นที่กองไว้มาใส่ ให้ถูกวิธี

แล้วเอาแม่แรงลง มายกหลังขวาข้างเดิม เพื่อเอายางอะไหล่ออก แล้วเอาล้อข้างตะกี้มาใส่ให้แน่นหนา
เก็บยางอะไหล่ จบ

เฮ้อ จะจบมั๊ยเนี่ย
ถ้าแม่แรงติดรถธรรมดา เวลาจะเอาแม่แรงยก ไม่ใช่นึกจะยกตรงไหนก็ได้นะครับ มีบุบแน่ ตรงชายล่าง มันจะมีตำแหน่งให้สำหรับเป็นจุดแข็ง เพื่อใช้สำหรับเป็นจุดรองแม่แรง
ดูดีๆที่แม่แรงน่าจะมี สติกเกอร์ระบุจุดยกอยู่

หวังว่าตะเข็บชายล่างคงไม่ล้มยับบู้บี้ เพราะฮ้อยส์ด้อยคุณภาพของอู่ทั่วไป ไปก่อนแล้วนะ
วันที่: 14 Jul 13 - 01:01

 ความคิดเห็นที่: 387 / 908 : 788092
โดย: ทวีรัฐ
เพิ่มตัวอย่าง
ลายแบบนี้ คือยางธรรมดา ใสสลับล้อไหนก็ได้
วันที่: 14 Jul 13 - 01:08

 ความคิดเห็นที่: 388 / 908 : 788093
โดย: ทวีรัฐ
นี่คือยางDirection
สังเกตุที่ลาย การหมุนของยาง ให้จินตนาการว่าร่องดอกยางต้องรีดน้ำจากหน้ายางออกนอก นั่นคือทิศการหมุน
ในรูปทิศการหมุนคือกลิ้งมาหาตัวเรา
วันที่: 14 Jul 13 - 01:22

 ความคิดเห็นที่: 389 / 908 : 788094
โดย: ทวีรัฐ
และนี่คือลายยางแบบไม่สมมาตร ก็เป็นแบบ direction เช่นกัน
วันที่: 14 Jul 13 - 01:24

 ความคิดเห็นที่: 390 / 908 : 788116
โดย: ทิว
วันที่: 14 Jul 13 - 10:10

 ความคิดเห็นที่: 391 / 908 : 788171
โดย: pim
ป๋ามาให้ข้อมูลต่อจากน้องสองคนได้สมบูรณ์แบบมากเลยค่ะ มีภาพประกอบอธิบายเรียบร้อย ให้มันได้หยั่งงี้สิ แล้วพิมจะหาข้อแก้ตัวได้ยังล่ะทีนี้ เหลืออย่างเดียวคือต้องลงมือทำ

แต่พิมดันหลับไปซะก่อนอ่ะ ตอนเช้าก็ไม่ได้เปิดดูที่ป๋าอธิบาย ขอบพระคุณป๋ามากกกกเลยค่ะที่ให้ข้อมูลครบถ้วนแม้กระทั่งเรื่องแม่แรง ป๋ามองและคิดเผื่อให้พิมด้วย พิมยังไม่ได้คิดเรื่องต้องใช้แม่แรงสองตัวด้วยซ้ำ แต่บังเอิญที่บ้านมีรถหลายคัน (ญาติเยอะมากกกกกกกกค่ะ) เลยแก้ปัญหาตรงนั้นได้ ทุกคนน่ารักอย่างนี้แล้วพิมจะหนีไปไหนได้เนี่ยยยยย

งั้นมาดูลิงปีนรถกันอีกครั้งละกันนะคะ
วันที่: 15 Jul 13 - 00:12

 ความคิดเห็นที่: 392 / 908 : 788172
โดย: pim
วิธีถอดล้อซ้าย
วันที่: 15 Jul 13 - 00:13

 ความคิดเห็นที่: 393 / 908 : 788173
โดย: pim
เย้ ดีใจถอดได้แล้ววววววว
วันที่: 15 Jul 13 - 00:15

 ความคิดเห็นที่: 394 / 908 : 788174
โดย: pim
นี่ไงหลักฐานครบ ทำเองน้า ไม่มีคนช่วยเลย
วันที่: 15 Jul 13 - 00:17

 ความคิดเห็นที่: 395 / 908 : 788175
โดย: pim
ใส่ล้อโคดยาก หารูอยู่นานมาก หนักก็หนัก กล้ามขึ้นเลย
วันที่: 15 Jul 13 - 00:19

 ความคิดเห็นที่: 396 / 908 : 788176
โดย: pim
ลิงตัวนั้นคือพิมเองล่ะคะ

ใน 1 ชั่วโมงนี่ ถอดน๊อต ถอดล้อ ใส่ล้อ ใส่น๊อต ครึ่งชั่วโมง อีกครึ่งชั่วโมงนี่คือขันน๊อตให้แน่นค่ะ ตอนขันก็ขันอย่างที่ป๋าบอกขันให้ตรงข้ามกัน แล้วค่อยไปขันอีกด้านนึง พอขันด้านนึงเสร็จ อีกด้านนึงก็หลวมอีก สลับไปสลับมากันอยู่แบบนี้จนหมดแรงหลายรอบเลยค่ะ แล้วพามันไปวิ่งอีกรอบ แล้วมาดูอีกทีว่ามีน๊อตหลวมบ้างหรือเปล่าเพื่อความมั่นใจ
สรุปขันให้แน่นนี่ยากที่สุดเลย

พิมรู้แล้วค่ะว่าทำไมเกียร์มันร้อนจนเอานิ้วแตะไม่ได้
ตะกี้ขับมาจากบ้านแม่ ออกจากบ้านแม่ 3 ทุ่มกว่า ขึ้นทางด่วนซิ่งยาว 120 โดยไม่เปิดแอร์ พอมาถึงบางนาเอานิ้วแตะที่แผงเกียร์ มันร้อนจัดจนนิ้วแตะไม่ได้ ก็เลยลองเปิดแอร์ ปรากฏว่าความร้อนลดลงเอานิ้วแต่ได้ปกติ ลองใหม่ซิ่งใหม่โดยไม่เปิดแอร์ความร้อนก็ขึ้นอีก เปิดแอร์ก็ลดลง แต่ถ้าไม่เปิดแอร์แต่ขับช้าเกียร์ก็ไม่ร้อนค่ะ
เกียร์ร้อนมันต้องสัมพันธ์กับแอร์แน่ๆ รบกวนป๋าช่วยอธิบายให้หน่อยนะคะ

ขอบพระคุณป๋าอีกครั้งค่ะ
ดีใจมากเลยค่ะที่เปลี่ยนยางเองได้แล้ว เครื่องมือก็มีครบแล้ว
แต่ยังไงๆ ก็ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ที่ต้องเปลี่ยนยางดีกว่า
วันที่: 15 Jul 13 - 00:27

 ความคิดเห็นที่: 397 / 908 : 788181
โดย: ทิว


เยี่ยมเลยครับ

ส่วนเรื่องเกียร์ร้อนเนี่ยสงสัยอาจจะยังไม่เข้าใจที่ป๋าพยายามอธิบายไปก่อนหน้านี้รึเปล่าครับ
สรุปว่าตรงนั้นมันไม่ใช่เกียร์อะครับ มันเป็นแค่คันชักสำหรับเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นมันคือความร้อนสะสม อันจะเกิดได้จากหลอดไฟที่ให้แสงสว่างตรงนั้น(ตรงตัวอักษร) ความร้อนจากท่อไอเสีย(ขับเร็วความร้อนสะสมก็เยอะ) และอื่นๆอีก ทีนี้พอคุณ pim เปิดแอร์(ห้องโดยสารเย็นขึ้น) มันก็ช่วยระบายความร้อนบริเวณนั้น บวกกับไม่ได้ซัด 120 แล้ว ความร้อนที่จะสะสมที่ท่อไอเสียก็ลดไปอีก ทำให้บริเวณคันเกียร์มันเย็นลงครับ

ได้ลองซัด 120 แบบเปิดแอร์ด้วยรึเปล่า ผมว่ายังไงตรงคันเกียร์ก็น่าจะร้อนเหมือน(หรือน้อยกว่านิดๆ)กับตอนปิดแอร์ซัดอะครับ เพราะมันเป็นความร้อนสะสมจากอย่างอื่นครับ
วันที่: 15 Jul 13 - 07:07

 ความคิดเห็นที่: 398 / 908 : 788218
โดย: ทวีรัฐ
รู้สึกดีใจเล็กๆ ที่อย่างน้อย ผ่านมาหลายร้อย คห ก็ทำให้ สามารถเริ่มทำอะไร ที่คนทั่วไป มักหาข้ออ้างว่าทำไม่เป็นทำไม่ได้ ได้เองครับ (เจ้าหน้าที่เคลมของบริษัทประกันภัยแห่งนึง ยังทำไม่เป็นเลย ผู้ชายแท้ๆ แค่สลับแบต หรือ เปลี่ยน บางแม่มก็บอกทำไม่เป็น หรือขี้เกียจก็ไม่รู้)

แต่ จะบอกว่า การถอดและใส่น๊อตล้อ ไม่ใช่ท่าลิงเขย่า แบบนั้นนะครับ 5555
ท่านั้นเขาอนุโลม เฉพาะกรณีจำเป็นต้องเปลี่ยนยาง ข้างถนน กรณีฉุกเฉิน ซึ่งมันไม่ใช่จะมีบ่อยๆแน่ๆ

ปกติเขาใช้ท่า พายเรือ ครับ

งง อ่ะสิ

หมายถึง หาท่อเหล็ก ที่ยาวประมาณ 1 เมตร ขึ้นไป (แต่ไม่ใช่ยาว 3-4 เมตรล่ะ นั่นก็เกินไป)
มาสวมที่ปลายประแจถอดน๊อตล้อ ทีนี้แทนที่จะขึ้นไป ขย่มๆทิ้งน้ำหนักลงทั้งตัว

คุณก็แค่สวมท่อเข้าไปจับให้เป็นแนวฉาก แล้วก็ดัน หรือดึง ในทิศคลายตัว
นึกถึง moment คานดีด คาน งัด สิครับ ยิ่ง R ยาวเท่าไหร่ แรงที่กระทำจะลดลง

จะพบว่าไม่ต้องใช้แรงมากเลย แค่2 มือก็สามารถคลายน๊อตล้อได้ง่ายๆ ไม่เหนื่อยด้วย
(แต่ที่ไม่บอกตอนแรก เพราะจะได้รู้และมีข้อมูลเปรียบเทียบว่าง่ายกว่ากันจริง)
แต่ใช่้ท่อต้องระวัง ความยาวท่อเวลาน๊อตมันคลายตัว ระวังจะไปฟาดกระจกมองข้างหัก ถ้ายาวเกินตามที่บอกช่วงแรก

พอน๊อตคลายตัว ก็ถอดท่อออกใช้เฉพาะประแจหมุนได้สบายแล้ว

เวลาใส่่ก็เช่นกัน นึกถึงแรงตอนถอด ทีนี้พอใส่น๊อตตึงมือทุกตัวเอาแม่แรงลง ก็กวดแน่น
สวมท่อ เข้าเหมือนตอนถอดแต่ขันเข้าโดยให้แรงเท่าๆกับตอนถอด ไม่ต้องขึ้นไปเหยรยบทั้งตัวแบบนั้น

ปล. ผมเคยเป็นแผลที่หน้าแข๊ง ยาวประมาณ เกือบ10 ซม เพราะขึ้นไปยืนแบบนี้ ขย่ม
แต่ประแจถอดล้อของผมไม่ใช่แบบหนาๆเหมือนของติดรถ เพราะรูที่ล้อแมกซ์มันเล็กกว่าทั่วไป จึงต้องไปซื้อแบบบาง มาใช้
ปรากฏว่ามันแตก แบบฉีกขาดในเบ้าสวมหัวน๊อตเลย เพราะน้ำหนักที่กระแทก ทำให้ร่วงลงพื้นทั้งคน ทั้งด้ามประแจ และบริเวณที่ฉีกขาดของเนื้อโลหะ ก็ ขูด หน้าแข้ง เข้าให้ จดจำเข้าสายเลือดเลยของจริง

ถ้าหาท่อเหล็ก ขนาดเหมาะสมที่ว่าได้ ทำตัวยึด ใสกับท้ายรถได้จะดีมาก นอกจากใช้ถอดล้อเวลาเกิดเหตุสุดวิสัยได้แล้ว ยังไว้เป็นอาวุธ ฟาดหัว ผู้ไม่ประสงค์ดีทั้งหลายได้อีกด้วยครับ


เพิ่มเติม กลางวันถึงไม่เปิดหลอดไฟ ถ้าวิ่งช้าๆแบบไม่มีลมเป่า ผ่านยังไงก็ร้อน
และตรงนั้น ไม่ใช่ตำแหน่งเกียร์ (อธิบายครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย)
วันที่: 15 Jul 13 - 10:17

 ความคิดเห็นที่: 399 / 908 : 788227
โดย: ทวีรัฐ
ปล กฏความปลอดภัย ขึ้นเหยียบแบบนั้น ไม่ควรใส่รองเท้าแตะ ยิ่งใส่ถุงเท้าด้วย โอกาสลื่นพลาด มีสูงมาก
วันที่: 15 Jul 13 - 10:34

 ความคิดเห็นที่: 400 / 908 : 788250
โดย: ทวีรัฐ
ย้ำอีกที ที่ก้านคอนโซลเกียร์ในห้องโดยสาร ไม่มีเกียร์อยู่ที่นั่น
เวลาช่างยกรถก็ดูได้ครับ ตรงนั้นเป็นโพรง มีแต่ท่อไอเสียผ่าน
เกียร์จะอยู่ใต่เครื่องด้านขวา(ถ้ามองจากหน้ารถ)

ความสัมพันธ์ มันเกี่ยวกับการทำงานของ"พัดลมแอร์"และอากาศไหลผ่าน

วิ่งโดยไม่เปิดแอร์ พัดลมระบายความร้อนด้านที่เป็นพัดลมแอร์ไม่ทำงาน กว่าจะืำงานก็ความร้อนสะสมได้ระดับนึงก่อน แน่นอนความร้อนสะสมก็จะสูงกว่าปกติ ไอร้อนก็พัดผ่านเข้ามามากกว่าปกติ

เปิดแอร์ พัดลมหน้าเครื่องที่เป็นพัดลมแอร์ทำงานตลอด แน่นอนความร้อนสะสมก็ย่อมน้อยกว่า เพราะลมพัดพาความร้อนออก

ความร้อนสะสมของน้ำมันเกียร์ที่ไหลไประบายความร้อนที่หม้อน้ำ + ความร้อนของน้ำหล่อเย็นเอง

ผมว่าต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่างถ้าขนาดเอานิ้วแตะไม่ได้เนี่ย
มันไม่ควรร้อนสะสมสูงขนาดนิ้วแตะไม่ได้ พลาสติกควรจะเสียหาย เสียรูปบ้างแล้วล่ะครับ
วันที่: 15 Jul 13 - 12:37

หน้าที่: 1 ... 10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   [20]   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30 ... 46