Close this window

รถเริ่มงอแงค่ะ แอสทีน่า

หน้าที่: 1   2   3   4   5   6   7   8   9   [10]   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21 ... 46

 ความคิดเห็นที่: 181 / 908 : 781524
โดย: วิตต์
บอกยี่ห้อน้ำมันเครื่องมาเนี่ย รู้เลยว่าอู่ไหน

ผมซื้อจากพี่เค้าครั้งละ4-5แกลลอนเหมือนกันครับยี่ห้อนี้
วันที่: 24 May 13 - 22:37

 ความคิดเห็นที่: 182 / 908 : 781757
โดย: pim
สวัสดีตอนเย็นค่ะ

ขอโทษนะคะ ไม่ได้เข้ามาอ่านเลยตั้งสองวัน เพิ่งสูดกลิ่นซัลเฟอร์เข้าเต็มเปาริมก้นอ่าว วิ่งกลับเข้ารถแทบไม่ทัน นึกว่าจะไม่มีสารเคมีนี้ที่แหลมฯ เจอจนได้ หาดสวยๆ กลับต้องเสียหายเพราะนายทุนที่ไม่รับผิดชอบ ปล่อยกลิ่นออกมาไล่ชาวบ้าน คนยากจนนี่ช้ำจริงๆ ซวยซ้ำซวยซ้อน นอนกลางคืนไม่รู้ยังหายใจได้อยู่หรือเปล่า

แค่ประถมเองเหรอคะป๋า อุตส่าห์เรียนจบตั้งปริญญาตรี เอาวุฒิมาปรับให้บ้างไม่ได้เหรอคะ
เฮ้อ! คงอีกนานนนนน
พิมแค่เก็บข้อมูลไว้ก่อนน่ะค่ะ (แต่ใจน่ะมันอยากรู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่มีใครเข้าใจเราเลย) ถึงเวลาจะใช้ก็หยิบใช้ได้เลย พิมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนแล้วค่ะ ชอบเอาหนังสือเรียนของพี่มาอ่าน เอาหนังสือเรียนของคณะอื่นมาอ่าน ตำราแพทย์ยังเอามาอ่านเลยค่ะ จริงๆ
ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลยนะเนี่ย มันเป็นความลับค่ะ อย่าเอ็ดไป

ตอนนี้อาการแบบนี้ก็ยังไม่หาย ของตัวเองไม่ค่อยสนใจ ไม่รู้มันเป็นยังไง ชีวิตมนุษย์มันรอบด้านจริงๆเลยนะคะ อ่านจนหัวจะแตกก็ไม่หมด

เจอแล้วค่ะ ตัวการทำเสียงดัง ตรงข้องอก่อนเข้าท่อพักปลายใบใหญ่ ตอนเช้าพิมขับไปจอดบนเนิน มุดเข้าไปดูท้ายรถ แต่เห็นไม่ค่อยชัดเลยเอามือคลำๆ ดู โห มันผุค่ะ เป็นรู 3 รู รูใหญ่เหมือนกัน คล้ายกับมีรอยแตกด้วยค่ะ ได้ความรู้อีกแล้ว เสียเงินอีกแล้วววว อีกซักเท่าไหร่
แต่สงสัยค่ะว่าทำไมมันผุตรงนี้ ท่อพักปลายใบใหญ่ทำไมไม่ผุเลย กันสนิมก็ยังอยู่เรียบร้อยดี จุดอื่นยังไม่ได้ดูค่ะ
พิมก็มาคิดเล่นๆต่อ แสดงว่าควันไอเสียมันพุ่งมากระแทกจุดนี้ พอมันร้อนมากๆ ถูกเผานานปี มันก็เลยผุ ควันไอเสียมันออกตรงรอยผุก่อน ทำให้เกิดเสียงดัง แรงอัดมันสูญเสียไป ทำให้รถไม่วิ่งตามที่ป๋าว่า พิมคิดถูกไม๊คะเนี่ย

ตอนนี้พิมอยู่แหลมฯ ค่ะ ขามาเติมลมยาง 31 เติมเบนซิน95 แทนแก๊สโซฮอล95 แถมบรรทุกเต็มท้ายรถอีก เหยียบแค่ 90 ขากลับก็ต้องบรรทุกอีก สงสัยคงไม่ได้เปรียบเทียบความแตกต่างแล้วค่ะ เอาไว้วันศุกร์ค่อยว่ากันใหม่

พี่ทิวจำแม่นอ่ะ รถถูกตัดแคตตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ ออกไปแล้วซัก 3 ปี เขาเอาอันใหม่ใส่ให้แต่ไม่รู้ว่ามันมีทองคำขาวอยู่หรือเปล่า หรือแค่เป็นแบบธรรมดา ตอนแซง 3-4 ครั้งก็ก่อนถูกตัดค่ะ อยากติดใหม่เหมือนกันเพื่อความสนุกสนานในการขับมากขึ้นในบางอารมณ์

พี่ทิว อยากเข้าใจคำนี้ค่ะ “เพราะออโต้ต้องการท่ออั้นๆหน่อย ไอเสียถึงจะไหลได้เร็ว รถก็จะวิ่งออกตามไปด้วย”
สงสัยต้องโดนป๋าเบรกอีกเป็นแน่เลยเรา


ทำไมพี่วิตต์เข้าหลายอู่จัง ทำไมมันมีขายที่อู่นี้อู่เดียวเหรอคะ หรือว่าอู่นี้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แล้วยี่ห้อนี้มันดียังไงคะ ราคามันถูกกว่าหรือคะ พิมยังติดอยู่กับชื่อ Castrol Pacer นี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย คำอ่านก็ไม่ค่อยเพราะเลย (พาเซ่อ เอ๊ยไม่ใช่ เขียนผิดต้องมี ร์ ด้วยสิถึงจะถูก (ฮา))
วันที่: 26 May 13 - 20:11

 ความคิดเห็นที่: 183 / 908 : 781762
โดย: ทวีรัฐ
ทะเล แถว แหลมฯ ถ้าไม่นับกลิ่นที่ลอยมา
ลองเดินลงไปตรงริมหาดตอนกลางคืน ดูที่ปลายคลื่นที่ซัดาบนหาดนะ คุณจะเห็น แสงสีน้ำเงินเรืองๆ สวยๆเป็นจุดเล็กๆ

แต่มันก็คือสารเคมีอะแหละ ดูเฉยๆ

จากคำถาม แสดงว่า
ยังไม่ได้อ่าน ข้อมูลในนี้สักเท่าไหร่ เพราะ ไม่นานมานี้ก็มีคุยเรื่องท่อพัก ไอเสีย และมีการพูดคุยเรื่องความต้องการที่แตกต่างระหว่างเกียร์ออโต่(อั้น นิดหน่อย) กับเกียร์ธรรมดา (โล่งเข้าไว้)

เหล็ก เมื่อโดนความร้อนสูงจนหลอมเหลว จากการเชื่อมตัด ธรรมชาต จะเกิดการoxidation ขึ้น (อันนี้น่าจะเข้าใจนะครับ) บริเวณที่โดนความร้อนสูง ในเมื่อมีเชื้อ จากการoxidation มันก็ย่อมขยาย ลามผุกร่อนไปเรื่อย เป็นธรรมชาติมากๆ ยิ่งอยู่ใต้ท้องรถโดนทั้งร้อน เย็น น้ำ โคลน ฯลฯ ยิ่งเป็นการเร่งให้การขยายตัวของ oxide ทำได้อย่างรวดเร็วไงครับ

ท่อพักดูดีๆ ว่าเหล็กชนิดใด 555

เรื่องท่อ แคตฯ ถ้าไม่อยากใส่อีก ก็หาพักกลางที่ใส้ย้อน หรือ ใส้อะไรก็ตามที่มันไม่ใช่โล่งออกตรงๆ ก็ใช้ทดแทนได้ ถูกกว่า หม้อ แคตฯ เยอะครับ
อยู่ที่ฝีมือร้านที่ทำท่อพักล่ะ
จริงๆท่อพักปลายใบโตก็อั้นระดับนึงแล้ว

ผมว่าแก้ไข ให้ร้านตัดที่ผุออกเชื่อมต่อใหม่ ราคาไม่กี่ร้อยบาท ก็น่าจะกลับมาเหมือนเดิมได้แล้วล่ะครับ

ส่วนของท่านทิว น่ะ
ท่านทิวน่าจะพิมพ์สลับกันนะ

โล่งๆเกียร์ธรรมดา ไอเสียจะไหลออกได้เร็ว
ออโต้ต้องอั้นๆนิดนึง ช่วงตีนต้นหรือเร่งแซงจะได้มีกำลัง

หลังจากตัดผุซ่อมท่อที่ผุแล้ว ยังไม่ต้องทำอะไร ลองดูว่าเหมือนเดิมไหม ก็น่าจะจบแล้วครับ

ส่วนน้ำมันเครื่อง ผมว่า ผมย้ำให้แล้วนะครับ ว่าให้ดูที่เกรด ไม่ใช่ยี่ห้อเป็นหลัก (แต่ไม่แนะนำ พลังไทยเพื่อไทย) ส่วนเมื่อเริ่มเป็นคนใช้รถเป็น รู้จักเริ่มสังเกตุ ก็จะทราบว่ารถคุณ ใช้น้ำมันตัวไหนแล้วคุณรู้สึกชอบที่สุด เรื่องนี้ นานาจิตตัง นิดนึงครับ
วันที่: 26 May 13 - 20:51

 ความคิดเห็นที่: 184 / 908 : 781767
โดย: ทิว
ลองอ่านดูเล่นๆครับ เรื่อง "โมดิฟาย เครื่องยนต์ NA หลักสูตรประถม ม้วน 1" เขียนโดยคุณแพน Commander CHENG! แห่ง Headlightmag
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1234:-na&catid=29:fart-a-furious&Itemid=156
อันนี้อาจจะยังไม่ละเอียดมาก แต่พอจะได้ concept นะครับ

สรุปคร่าวๆก็คือ รถยนต์คันหนึ่งๆ จะทำอัตราเร่งได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อ มีไอเสียไหลด้วยความเร็วคงที่ ที่ประมาณ 250 ฟุต/วินาที คราวนี้ถ้าท่อมันโล่งเกินไป ไอเสียมันก็จะไหลช้า เพราะมีที่ว่างให้ไอเสียวิ่งเล่นในท่ออยู่ มันเลยไม่ยอมไหลออก (คิดถึงสายยางฉีดน้ำก็ได้ครับ หลักการเดียวกัน)

ที่นี้ทำไมออโต้ต้องการท่อเล็กๆ มีอะไรขวางหน่อย หรือภาษานักซิ่งบ้านเราเรียกท่ออั้นๆหน่อย ก็เพราะเกียร์ออโต้ ไม่สามารถเล่นรอบเครื่องที่รอบสูงๆได้เหมือนเกียร์ธรรมดา ซึ่งส่วนใหญ่เกียร์ออโต้จะเน้นใช้รอบต่ำๆ ซึ่งที่รอบต่ำๆเนี่ย ไอเสียก็จะมีน้อยตามไปด้วย แล้วไอเสียน้อยๆถ้าท่อโล่ง(จากการโดนตัดแตตาไลติคหรือท่อผุเนี่ย)จะเป็นอย่างไร พอจะคิดสเตปต่อไปได้แล้วใช่มั๊ยครับ
วันที่: 26 May 13 - 21:07

 ความคิดเห็นที่: 185 / 908 : 781768
โดย: ทิว
อ่า...ขอบคุณครับป๋าวี ผมมัวแต่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ไม่ค่อยได้ตรวจทานครับ
วันที่: 26 May 13 - 21:10

 ความคิดเห็นที่: 186 / 908 : 781769
โดย: วิตต์
ทำไมพี่วิตต์เข้าหลายอู่จัง ทำไมมันมีขายที่อู่นี้อู่เดียวเหรอคะ หรือว่าอู่นี้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย แล้วยี่ห้อนี้มันดียังไงคะ ราคามันถูกกว่าหรือคะ พิมยังติดอยู่กับชื่อ Castrol Pacer นี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย คำอ่านก็ไม่ค่อยเพราะเลย (พาเซ่อ เอ๊ยไม่ใช่ เขียนผิดต้องมี ร์ ด้วยสิถึงจะถูก (ฮา))

เข้ามันเกือบทุกอู่ครับ ผมถือคติ อู่แต่ละอู่เก่งและชำนาญ/ถนัดไม่เหมือนกัน เข้าทุกอู่แล้วดูว่าอู่ไหนถนัดเรื่องไหน แล้วเลือกอู่ตามอาการรถครับ ผมอยู่ใต้ แต่(รถ)ผมใช้บริการอู่ในกทม.เหมือนกันนะ เคยขับรถมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถึงพระราม9นะ 55555
แต่ส่วนมากทำเอง ถ้าไม่ทำเองก็อู่ประจำที่หาดใหญ่
ค่อยๆศึกษาไปเดี๋ยวก็เก่งเองครับคุณพิม

อ่อ ส่วนน้ำมันเครื่องยี้ห้อนี้ ใช้เพราะประทับใจส่วนตัวครับ ไม่มีข้อมูลทางวิชาการมารับรองแต่อย่างใด
วันที่: 26 May 13 - 21:11

 ความคิดเห็นที่: 187 / 908 : 781926
โดย: pim
อะไรของป๋าคะ 555 อยู่คนเดียว คนอื่นนั่งตาละห้อย รวมทั้งพิมด้วย ทำไมเค้าไม่ใช้เหล็กชนิดเดียวกันละคะในเมื่อลักษณะการใช้งานก็เป็นแบบเดียวกัน หรือว่ามันแพง ถ้าพิมไปทำท่อใหม่สามารถบอกช่างได้ไม๊ว่าเอาแบบอยู่ได้นานๆ ราคาไม่กี่ร้อยที่ป๋าว่าอยู่ได้นานเท่าไหร่ ปีสองปีไม่เอาค่ะ เอาซัก 5 ปี แล้วช่างปะผุเขาสามารถเช็ครอยรั่วตลอดแนวท่อทุกจุดที่ป๋าว่าได้ไม๊

แล้วจะไปเข้าอู่ปะผุไหนดีล่ะ ไม่รู้จักซักร้าน กลัวโดนแจ็คพ็อทค่ะ ไม่อยากถูกใครๆหลอกอีกแล้วค่ะ มีท่านใดพอจะบอกพิกัดบ้างได้ไม๊ แถวบางนาน่ะค่ะ แถวฝั่งธนฯ จรัญฯ ท่าพระ ศิริราช หรือวงเวียนใหญ่ ลาดหญ้า ก็ได้ค่ะ

อยากให้วันนึงมีซัก 72 ชั่วโมง จะได้ทำทุกอย่างที่อยากทำให้ครบ งกไม๊ พยายามจัดเวลาสุดๆ แล้วเนี่ย

ป๋าแนะนำว่าไม่แนะนำน้ำมันเครื่อง……. แถมไม่บอกเหตุผล เป็นคำแนะนำที่ถูกใจพิมมากเลยค่ะ คนอื่นว่าดีให้ตายเทพแค่ไหน พิมก็ว่ามันไม่ดีค่ะ 555 ถูกใจๆ


อีกเรื่องค่ะ พิมกังวลมากเลยค่ะ
ปีก่อนรถตายกลางทาง 0 เค้าก็ส่งช่างมาดูรถให้เอาเครื่องมือมาทำนู่นนี่ให้เค้าไม่คิดตังค์ด้วยค่ะ ยังงงอยู่ (เค้าก็มีดีเหมือนกันนะ) แล้วเนี่ยถ้ามันตายกลางทางอีก พิมจะโทรหาช่างอู๊ดแล้วเค้าจะมาบริการให้ไม๊คะ
กลัวอยู่ค่ะเพราะรถมีปัญหาก็0 อย่างเดียวเลย ปีกยังไม่แข็ง แต่จะโบยบินเองซะแล้ว เพราะป๋าเป็นคนแนะนำไม่ต้องเข้า0 ป๋าต้องรับผิดชอบด้วยค่ะ แฮ่ๆ แซวเล่นค่ะ แต่ยังกลัวจริงๆ

พี่ทิว พิมเข้าใจแล้วค่ะ ดีจังสรุปให้ด้วย ขอบพระคุณมากเลยนะคะ ขอเก็บข้อมูลเข้าคลังก่อน โกดังเกือบเต็มแล้ว เดี๋ยวต้องขยายโกดังก่อน

ขอบคุณพี่วิตต์ที่ให้กำลังใจ ขอเวลาอีกซักหน่อย ตั้งเป้าไว้แล้วว่าต่อไปจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ เปลี่ยนหลอดไฟบ้าน ซ่อมหลังคาบ้าน ฯลฯ เท่าที่สามารถเองค่ะ
วันที่: 27 May 13 - 21:42

 ความคิดเห็นที่: 188 / 908 : 781964
โดย: ทวีรัฐ
" เพราะป๋าเป็นคนแนะนำไม่ต้องเข้า0 ป๋าต้องรับผิดชอบด้วยค่ะ "

ท่อไอเสีย มันมีวัสดุที่นิยมใช้อยู่ 2 ชนิด คือเหล็กทั่วไป กับ สแตนเลส
ซึ่งสแตนเลส นี่เกิดภายหลัง
แต่ สำหรับรถเดิมๆ ใส่สแตนเลสไป ไม่ได้ช่วยให้ได้คุณสมบัติได้คุ้มค่าครับ
จริงอยู่เพราะไม่เป็นสนิม แต่ คุณสมบัติของเหล็ก กับสเตนเลส เมื่อขึ้นสันกระโดด โดนขูดขีด อะไรต่างๆ เสียงที่ออมาจากปลายท่อเพราะขนาดถูกเปลี่ยนจะการบุบ บี้ จะต่างกันทันที
และราคาก็ต่างกันมาก

แต่ยังไงมันก็โดนร้อน โดนเย็น โดนน้ำ โดนโคลน โดนฝุ่น โดน ดิน ฯลฯ

ถ้าไม่ใช่รถแต่ง กะเอาเสียงเพราะๆ ท่อเหล็กธรรมดาคุ้มกว่าเยอะครับ

ส่วนความทน มันมีตัวแปรเยอะแยะ คนอื่นก็ใช้ท่อเหล็กธรรมดา ก็ใช่ว่าจะผุง่ายๆบ่อยๆถ้าไม่ลุยน้ำ ลุยโคลน แล้วปล่อยให้สกปรกโดยไม่ล้างทำความสะอาด

ถ้าสะอาด ต่อให้เปียกน้ำ แต่มันร้อน แป๊บเดียวก็แห้ง

แต่หากปล่อยสกปรก ไม่ด๔แล ฝุ่นโคลนที่สะสม มันจะเก็บความชื่น และกว่าจะแห้งใช้เวลานานกว่า ก็ผุกร่อนเร็วกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

ผมว่าอย่าไปวิตกกับมันมากเกินเหตุเลยครับ แต่ตัดต่อ บริเวณที่ผุ ร้านข้างถนนทั่วไปก็ทำได้ครับ ชี้จุด บอกให้เขาแก้ไข เฉพาะบริเวณนั้น ถามราคาก่อน แล้วค่อยให้ทำ

พอทำเสร็จ ตรวจเช็คก่อนเอาขาตั้งลงนะ ติดเครื่องให้เขามุดดูรอยที่ซ่อม และ ตอนนี้แหลให้บอกว่าดูว่ามีรั่วตรงอื่นด้วยไหมให้ตรวจให้ด้วย ถ้ามีรูเล็กๆเขาจะซ่อมให้(ส่วนมาไม่คิดเงินส่วนนี้ ถ้าไม่ถึงกับต้องตัดท่อ)


แค่นี้เองครับ จบ ไม่ต้องคิดเยอะ
วันที่: 28 May 13 - 08:49

 ความคิดเห็นที่: 189 / 908 : 782006
โดย: ทิว
ราคาเดินท่อใหม่ ใช้หม้อพักเดิมหมด แถวที่ผมอยู่ประมาณ 1,500 บาทครับ เป็นเหล็กขาว เห็นช่างว่างั้น
วันที่: 28 May 13 - 13:37

 ความคิดเห็นที่: 190 / 908 : 782022
โดย: ทวีรัฐ
เหล็กขาว กับเหล็กรมดำ
ตัวเนื้อเหล็ก ก็ SPCC ธรรมดาเหมือนกัน แค่เตรียมผิวต่างกันนิดเดียว ครับ ใช้ไปนานๆก็แปลงร่างเป็นสีสนิมเหมือนกัน เพราะความร้อนทำให้เกิดปฏิกริยา oxidation ตลอดเวลาเหมือนกัน

ราคา ตามนั้นครับถ้าท่อพักเดิมหมด เท่าที่เคยถามดู ไม่ว่าท่อขาวท่อดำ ก็ 1500 ยกเว้นท่อสเตนเลส โดดไป 5000 ขึ้น

แต่ร้านท่อไอเสีย มักนิยมหลอกอ้างว่า ข้อต่ออ่อน(ที่ออกจากท่อร่วมไอเสีย ก่อนเข้าท่อไอเสียทางตรง) มักเสียบ้าง รั่วบ้าง ไม่ดีแล้วบ้าง ถ้าใส่เข้าไปเดี๋ยวก็รั่ว ฯลฯ
เพื่อหาเรื่อง ให้เปลี่ยน ซึ่งราคา ก็มีตั้งแต่ 1000 ต้นๆขึ้นไป

ตรงนี้ถ้ายืนยันไม่เปลี่ยน ก็ทำใจกับราคาปะเก็นท่อตรงที่เป็นข้อต่อ ที่อาจต้องเปลี่ยน ไม่งั้นมันจะรั่วบริเวณนี้
แต่กรณี คุณพิม ถ้ารั่วเฉพาะจุด ก็ตัดต่อเฉพาะช่วงก็พอครับ

นิดนึง ตรงที่ผมแนะนำว่าไม่ให้เข้า 0 เนี่ย อย่าเพิ่งตีความผิดนะครับ
เพราะยังไงการ preventive maintenance ก็เป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ขับที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง

ผมแนะนำว่าเลิกเข้า0 แต่ คุณพิม ควรหา อู่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน หรือ ที่โอเค สักที่นึง เอาไว้เป็นอู่ประจำครับ คุยกับเขาว่าเราจะให้เขาเป็นอู่ประจำ ต้องเข้าเช็ค ซึ่งเขาน่าจะแนะนำอะไรได้บ้าง
แล้วจะรู้ว่าราคา มันแตกต่างกันแค่ไหนครับ
ไม่ใช่ไม่เข้า ไม่ซ่อมเลย อย่างนั้นเดี๋ยวก็ได้เสียกลางทางจริงๆหากไม่รู้จักสังเกตุ อาการผิดปกติเล็กน้อยๆ และ ไม่มีการตรวจเช็คตอนเช้า

พวกเราที่นี่ส่วนใหญ่ โดนมากันถ้วนหน้า มากบ้างน้อยบ้าง จนซ่อมเองเป็นกันทั้งนั้นละครับ
ผมเองยังโดนบ่อยเลย เพราะคิดกับเขาในแง่ดี(เกินไป)
เราเปิดใจ เชื่อใจเขา แต่ถ้าเจ้าไหนจ้องจะฟันหัวเราก็จำไว้ และไม่แนะนำ พร้อมกับเขาก็ได้เงินเราครั้งนั้นครั้งเดียว ทำแบบนี้ไม่มีทางรวย หรือมีความสุขแน่
เจ้าไหนดี เราก็เข้าใช้บริการซ้ำ เพื่อหาว่าเขาเก่งเรื่องอะไร

อย่างที่ ตาวิตต์บอกครับ ผมก็เลือกเข้าหลายอู่ แล้วแต่ว่าอู่ไหน เก่งเรื่องอะไร ซึ่ง ก็ผ่านการลองผิดลองถูกมาพอสมควรกันถ้วนหน้า
วันที่: 28 May 13 - 15:39

 ความคิดเห็นที่: 191 / 908 : 782058
โดย: pim
ไม่ได้วิตกอะไรมากหรอกค่ะ เพียงแต่คิดว่าซ่อมแล้วก็ให้มันอยู่ได้นานหน่อย ไม่จุกจิก พิมคงต้องดูแลคันนี้อีกหลายๆๆๆๆๆเรื่องน่ะค่ะ แค่คิดก็เริ่มวิงเวียนแล้ว

พิมไม่เคยล้างไม่เคยสนใจท่อไอเสียเลยค่ะ งั้นคราวหน้าซ่อมแล้วจะให้ร้านทำสนิมโปะกันสนิมให้เยอะๆหนาๆ หน่อย หน้าฝนมาแล้ว แล้วเวลาล้างรถก็คอยล้างมันด้วย แต่ของเดิมไม่ทันสังเกตว่ากันสนิมมันกันได้หรือเปล่าเพราะท่อมันร้อนมาก แต่ตรงท่อพักใหญ่สนิมก็มีหลุดเหมือนกันค่ะ

ป๋าคะ แล้วอู่นี่มันมีอู่กี่ประเภท มันมีอู่ทำระบบอื่นอีกไม๊คะ มันยังงงๆ ค่ะ
1. อู่ทำแอร์
2. อู่ทำสี
3. อู่ทำเครื่องยนต์
4. อู่ท่อไอเสีย
5. ??
พิมจะหาเตรียมไว้ก่อนค่ะ อู่ 1 กับ 4 ยังไม่มี
วันที่: 28 May 13 - 22:09

 ความคิดเห็นที่: 192 / 908 : 782062
โดย: วิตต์
5.ช่วงล่างครับ
วันที่: 28 May 13 - 23:19

 ความคิดเห็นที่: 193 / 908 : 782065
โดย: ทวีรัฐ
จะบอกว่าไงดี
ปกติ ถ้าไม่ได้ลุยโคลนมา ก็ไม่ต้องล้างอะไรหรอกครับ
เอาง่ายๆที่ผ่านมา ใช้รถมาแบบที่ไม่ได้สนใจมาตั้งหลายปี เคยเจอปัญหาท่อผุแบบนี้ไหม

มันไม่ผุง่ายๆหรอกคร๊าฟฟฟฟฟ

แล้วพ่นกันสนิม เขาก็ไม่พ่นท่อไอเสียกันหรอกครับ อันตราย อธิบายแล้วว่ามันร้อน
สรุปว่า หลังจากทำท่อไอเสีย ถ้าเปลี่ยนทั้งเส้นแล้ว ก็อยู่ได้นานแสนนานละ

ข้อ 5 อู่ช่วงล่าง จะแบ่งเป็น

5.1 ซ่อมเฉพาะช่วงล่าง
5.2 ร้านยาง และมักรับทำช่วงล่างด้วย

6 อู่ครบวงจรที่ดูดีมีมาตราฐาน (แต่ฝีมืออาจไม่ดีเหมือนสถานที่) เช่น B Quick, ACE ,cockpit เป็นต้น

อู่ประเภทนี้ เหมาะสำหรับรถตลาดทั่วไป กับซ่อมเล็กๆน้อยๆ ซึ่งราคาสูงกว่าอู่ เล็กๆข้อ 1-5 แต่ต่ำกว่า 0 แน่นอน (บางอย่างก็เท่า จ เพราะเบิก0)

ที่แน่ๆ ชื่อแรก ไม่แนะนำให้เฉียดเข้าไป เพราะผมลองมาหลายที่หลายครั้ง
ฝีมือ ห่วย ราคาเว่อร์ แมบางที่ ทำของเราพัง ทำเนียนมาอ้างว่าสมควรเปลี่ยนเพราะสึกหรอ
ถ้าผมไม่มีความรู้บ้างเล็กน้อยแบบนี้ ก็คงโดนมันโกหก ปัดภาระที่มันทำพังมาให้ลูกค้าจ่ายเอง แต่ พอมีความรู้บ้างเล็กน้อย ก็เลยงัดกับ ผจก ร้าน แบบฉีกหน้าไปเลยว่า (ขอโทษนะครับ) "มึมอย่ามา...แหล กับ ตรู" เพราะผมจะสังเกตุ เวลาช่างทำอะไรกับรถเราตลอด ได้เย็นเสียงที่มันทำดรัมเบรค รถคันเก่าแตก แต่จะรอดูว่ามันจะมาว่าอย่างไร

แค่ตั้ง0 ยังตั้งไม่โอเค เลย กินยางจนโล้นด้านนอก

รายที่2 เคยเอาไปตั้ง0 พอใช้ได้ แต่จะทำรายการอื่น รอนานมากกกกกกก เลยไม่ทำ
รายที่3 ไม่เคยเข้าครับ
วันที่: 29 May 13 - 00:04

 ความคิดเห็นที่: 194 / 908 : 782261
โดย: pim
ขอบคุณพี่วิตต์ที่แจ้งให้ทราบนะคะ

หลายปีก่อนร้านเร็วๆ ร้านแรกพิมรู้เพราะเคยโทรไปถามราคายาง แพงมากค่ะ กระเป๋าแทบฉีกแน่ะ เลยไม่เคยเข้า ป๋ายังโดนซะขนาดนี้ ขืนพิมเข้าก็คงไม่เหลือ

แล้วพิมจะรู้ได้ยังไงคะว่าถ้ามีเสียงดังแล้วต้องไปเข้าอู่ทำช่วงล่างหรืออู่ทำเครื่องยนต์ เพราะดูแล้วมันใกล้กันมากเลย
เพื่อนเคยเล่าให้ฟังรถมีเสียงดังที่ห้องเครื่องเวลาตกคอสะพานหรือขึ้นลูกระนาด แล้วช่างเปลี่ยนช่วงล่างยกชุด ปรากฏว่าเสียเงินเปล่า อาการไม่หาย ผลสุดท้ายตัวปัญหาอยู่ที่ยางรองแท่นเครื่องมันพัง ไม่เข้าใจ

ป๋าพอจะมีหลักการอะไรง่ายๆ ไม๊คะว่าอาการยังไงคือปัญหาช่วงล่าง อาการยังไงคือปัญหาเครื่องยนต์ จะได้เข้าถูกอู่ กลัวจะเสียรู้ช่างอีกน่ะค่ะ
ปัญหารถพิมที่เวลาตีวงเลี้ยวเยอะๆ แล้วมีเสียงแก็กๆ ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ พิมคิดว่าน่าจะเป็นช่วงล่างเพราะเสียงมันดังแถวล้อหน้าซ้าย ยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลยค่ะ 3 เดือนได้แล้วมั๊ง ถ้าปล่อยไว้จะมีปัญหากระทบถึงชิ้นส่วนอื่นๆหรือเปล่าคะ ยังไม่มีเวลาทำเลยค่ะ

สงสัยคงต้องสูญเสียอะไรๆ ไปอีกเยอะ กว่าจะรู้เรื่อง กว่าจะเข้าใจ คิดๆแล้วก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ
ป๋ารู้อะไรดีๆ เทคนิคอะไรดีๆ อย่าลืมบอกพิมด้วยนะคะ เดี๋ยวจะพาไปเลี้ยงข้าว
วันที่: 29 May 13 - 21:54

 ความคิดเห็นที่: 195 / 908 : 782266
โดย: ทวีรัฐ
ปัญหาที่พวกเราที่นี่มาช่วยตอบส่วนใหญ่ก็มาจากประสบการณ์ และก็มีหลักการบ้างมาเสริม ซึ่ง ปัญหาเรื่องเสียงนี่ เสียงเหมือนกัน แต่รถคนละคัน ยังสาเหตุคยละอย่างเลยครับ
สำคัญที่อู่ที่เลือกเข้าล่ะ

ถึงย้ำไง ว่าถ้าอู่ที่ทำมาสด้า หรือ ช่างที่เก่งหน่อย จะ แก้ปัญหาได้ตรงจุด กว่าช่าง(เถอะ)ทั่วไป

เสียงเครื่อง มันก็จะดัง ตามรอบเครื่องที่คุณเหยียบ

เสียงช่วงล่างดังตามความเร้วที่วิ่ง
ถ้าวิ่งแล้วดัง แต่จอดนิ่งๆไม่ดัง ก็ช่วงล่าง
แต่ถ้าจอดนิ่งๆก็ดัง เร่งเครื่องยิ่งดัง ก็เครื่องยนต์
ง่ายจะตายไป logic มากๆครับ เพราะช่วงล่างต้องเคลื่อนไหว มันถึงจะส่งเสียง
แต่เครื่องยนต์มันทำงานแม้ตอนจอดนิ่ง

ง่ายๆแค่นี้เอง

ถ้าเลี้ยงแล้วดังแก๊กๆ ก็เก็บตังค์หยอดกระปุก เตรียมเปลี่ยน หัวเพลาขับได้แล้ว มันจะดังเมื่อเลี้ยว เวลาวิ่งตรงๆไม่ดัง

มันดังเพราะมันเป็นเบ้าลูกปืน ซึ่งจะมียางหุ้มเพลาห่อหุ้มไว้ ข้างในอัดเต็มไปด้วยจารบี
ปกติ ถ้ายางตัวนี้ไม่ปล่อยให้ขาด จนจารบีกระจายเต็มซุ้มล้อ แล้วยังไม่แก้ไข ปล่อยให้เศษฝุ่นทรายเข้าไป หัวเพลาขับ พังแน่ๆ ควรหมั่นตรวจดู จุดนี้ด้วย ครับ

ก้มดูในซุ้มล้อตอนเช้าๆ ควรแห้งสนิท
แต่ถ้าเจอมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำมัน(มาจากจารบี) ก็แสดงว่าขาดแล้ว รีบเปลี่ยนด่วน ราคา หลักร้อย ต่อข้าง(ยางหุ้มเพลา)

ไม่รู้คุณpim เคยปล่อยให้ขาด นานๆ บ้างรึเปล่า
(ผมเดาว่าน่าจะเคย เพราะคุณpimเล่ามาว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ 0 ตลอด)

หัวเพลา อู่ทั่วไปไม่น่าจะหาได้ง่าย เพราะถึงหาได้ก็ต้องให้ตรวจสอบให้มั่นใจ ว่า จำนวนฟันที่เซาะเป็นร่องslot เท่ากันหรือไม่

ผมไม่รู้สึกเหนื่อยกับการเรียนรู้ หรือ ถ้าทำให้รถที่เรารัก ดีขึ้นสมบูรณ์ขึ้นเลยครับ
และรู้สึกมีความสุขที่ได้ขับรถที่เราทำให้สมบูรณ์ขึ้นทุกครั้ง
วันที่: 29 May 13 - 22:16

 ความคิดเห็นที่: 196 / 908 : 782307
โดย: ทิว

ผมไม่รู้สึกเหนื่อยกับการเรียนรู้ หรือ ถ้าทำให้รถที่เรารัก ดีขึ้นสมบูรณ์ขึ้นเลยครับ
และรู้สึกมีความสุขที่ได้ขับรถที่เราทำให้สมบูรณ์ขึ้นทุกครั้ง



วันที่: 30 May 13 - 11:34

 ความคิดเห็นที่: 197 / 908 : 782333
โดย: ทวีรัฐ
แต่เหนื่อย ตอนหาตังค์มาทำมะนนั่นแหละ
วันที่: 30 May 13 - 16:34

 ความคิดเห็นที่: 198 / 908 : 782354
โดย: pim
โถ่ ! ป๋ากับพี่ทิวเรียนมาทางด้านช่าง มันก็ง่ายสิคะ แต่พิมต้องนับ 1 กับเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัด แต่จำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
ก็แค่บ่นให้ฟังค่ะ เข้าใจคำว่าอึดอัดไม๊คะ เวลาไม่เข้าใจอะไรๆหรือทำอะไรไม่สำเร็จเนี่ย คราวก่อนยางแบน ช่วยช่างถอดล้อ เอาเหล็กยาวๆ ใส่ในน็อตล้อขึ้นไปเหยียบมันด้วยน้ำหนัก 50 กก. มันยังไม่ขยับเลย หมดปัญญาเปลี่ยนล้อเองไป 1 เรื่อง


แต่ก็ดีใจทุกครั้งที่รู้อะไรใหม่ๆ นี่ถ้าไม่ใช่เจ้าเสือหมอบคันนี้ พิมขายทิ้งไปนานแล้ว

ป๋าอธิบาย พิมต้องทำการบ้านเยอะมาก ถามอากู๋หลายรอบก็ยังเข้าใจไม่หมดเลยค่ะ มีแต่รูปล้อกับยาง
สรุปว่าถ้ามีปัญหาพิมจะโทรหาช่างอู๊ดก่อนเลย ถ้าเขาทำได้ก็ให้เขาทำ

อ่อ เจ้ายางย่นๆ นี่เองยางหุ้มเพลา ไอซี มีจารบีอยู่ข้างใน เคยขาดอยู่ ช่างเอาไปซ่อมให้ครั้งนึง แต่ตอนนั้น จำไม่ได้ว่ากี่ปี แต่ก็จำได้ว่าไม่มีเสียงดังแก็กๆนี่นา รู้แค่ว่ามันขาด เอาอีกแล้ว รู้ช้าไปอีกแล้ว หรือว่าเค้าเคยบอกแต่ตัวเองไม่จำเอง นานแล้วจำไม่ได้แล้ว

ป๋ารีบบอกมาเลยค่ะ จุดไหนที่ต้องคอยดูอีก แค่ 5 รายการที่ป๋าเคยบอกมันไม่ครบ พิมจะเอาเข้าตารางบำรุงรักษารถให้หมด กำลังทำอยู่ค่ะ ยังไม่เสร็จ รายการมันเยอะมาก ทำได้ซักเกือบ 20 รายการแล้ว

ป๋าคะ ขออนุญาตโดดเรียน 2-3 วันนะคะ ไม่อยากโดดหรอกค่ะ
วันที่: 30 May 13 - 20:40

 ความคิดเห็นที่: 199 / 908 : 782357
โดย: pim
ลืมถามค่ะ
ป๋าบอกว่าไม่มีใครพ่นกันสนิมที่ท่อไอเสีย แต่คาดูแลคพ่นให้ที่ท่อพักปลายใหญ่ แสดงว่ามันสามารถทำได้ แต่ป๋าบอกว่ามันอันตราย เห็นเค้าก็พ่นให้มาเป็นสิบปีแล้วค่ะ เค้าก็พ่นให้ทั้งคันแหละพิมว่า
แต่เดี๋ยวพิมจะกลับไปดูใต้ท้องรถใหม่
วันที่: 30 May 13 - 20:51

 ความคิดเห็นที่: 200 / 908 : 782377
โดย: ทวีรัฐ
เอาน่ะ จะพยายามอธิบายให้ชัดเจนขึ้น ไล่จาก เรื่องพ่นกันสนิมก่อน
ผมยังยืนยันเช่นเดิมว่าไม่มีประโยชน์ เพราะ พักปลายส่วนใหญ่ เป็น อลูมิเนียม หรือท่อแต่งก็เป็นสเตนเลส มันไม่เป็นสนิมง่ายๆเหมือน เหล็กธรรมดาแน่นอน พ่นไปก็ไม่ได้ประโยชน์ครับ

และที่อันตราย คือถ้าพ่น ทั้งเส้น ส่วนต้นๆท่อ ที่เพิ่งออกมาจากเครื่อง มันจะมีความร้อนสูงมาก และอุณภูมิก็ค่อยๆลดลง ไปตามความยาวออกท้ายท่อ

ทีนี้ ตัวกันสนิมที่เขาพ่น มันคืออะไรล่ะครับ ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆสมัยก่อน มันจะมีส่วนผสมคล้ายๆยางมะตอย ซึ่งมันก็คือสารประกอบไฮโดรคาร์บอน และคุณสมบัติของ ไฮโดรคาร์บอน มันคืออะไร เมื่อโดนความร้อนละครับ แต่ความร้อนอาจสูงหรือไม่สูงก็แล้วแต่สภาพการใช้งาน

แต่ รถปีหลังๆ มีเทคโนโลยีในการชุบสีโดยใช้ไฟฟ้า จุ่มลงไปทั้งบอดี้ ไม่ใช่ สเปรย์พ่นสี เหมือนสมัยก่อนนู้น รถใหม่ๆ ก็เลยไม่มีการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถกันแล้ว แต่บางคนด้วยความเชื่อเก่าๆ ก็เอาไปพ่น ซึ่งก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าถูกวิธี แต่พวกหัวน๊อต ยึดต่างๆเวลาจะเปลี่ยน จะซ่อม จะถอด ก็ลองหลับตานึกภาพดูครับ สงสารช่าง เขาต้องขูดๆที่เคลือบออก เพื่อถอดน๊อต และเปลี่ยนอะไรชิ้นใหม่เข้าไป ซึ่งก็ชิ้นใหม่ไม่ได้พ่นกันสนิมอยู่ดี
แต่อาจได้ผลพลอยได้เรื่องเสียงเศษหินหรือกรวด กระเด็นใส่ใต้ท้องรถหรือซุ้มล้อ เบาลงเล็กน้อย(ไม่เงียบ แต่เสียงจะทึบๆขึ้นเท่านั้น)

ส่วนเรื่องดูแลด้วยตัวเอง ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่า ประจำวัน แค่ 5 รายการ ทำให้เป็นนิสัย ครบ 21 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่ม รายการดูแลรายสัปดาห์ และรายเดือน
วันที่: 30 May 13 - 22:18

หน้าที่: 1   2   3   4   5   6   7   8   9   [10]   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21 ... 46