ความคิดเห็นที่: 21 / 75 : 038703

โดย: boyle

ผมว่าถ้าไม่มีพวกข้อความว่าจะขึ้นราคา และมูลค่าของรถจะเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม มีแค่ชี้แจงว่าได้ช้าเพราะอะไร ขอบคุณที่รอ ผมว่าจะดูดีกว่า คนเราโดยนิสัยแล้ว ไม่ชอบให้ใครมาขู่ หรือ อ้างบุญคุณ(ว่ารถมูลค่าเพิ่ม)อยุ่แล้ว มันจะรุ้สึกต่อต้านน่ะ แล้วก็คิดว่าเงินเราทำไมต้องเอาไปให้คนพวกนี้ด้วย ผมอยากแนะนำmazda ว่าไม่ควรส่งจดหมายลักษณะนี้อีก เอาแค่ทางบริษัทรับทราบ เห็นใจ และกำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่ ก็เพียงพอแล้ว ส่วนถ้าจะขึ้นราคาด้วยเหตุผลเรื่องต้นทุนก็อ้างไปมันเป็นคนละประเด็นกัน อย่างนี้มันขู่กัน

 ความคิดเห็นที่: 22 / 75 : 038716

โดย: bond 2.0 reccing blue

ผมก็ยังรออยู่เหมือนกัน zzzzzzzzzz

นึกว่าคุณบอยได้รถตั้งนานแล้วครับ เห็นหายเงียบไป ยังไงก็ขอให้ได้รถไวไวนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 23 / 75 : 038718

โดย: PBL

ถึงคุณบอย,
ผมขอสนันสนุนความเห็น และความรู้สึกของคุณอีกคน ผมใช้ มาสด้า มา 12 ปี ( โครโนส ) โดยรวมก็เป็นรถที่ดี เหมาะสำหรับการใช้ยาวๆ และจะต้องดูแลให้ดีตั้งแต่แรก เพื่อที่จะใช้ได้นานและคุ้มค่าที่สุด ผมก็มี Plan ที่จะซื้อ มาสด้า ในคันต่อไปในไม่ช้านี้
ถ้า มาสด้า ประกาศขึ้นราคาตามข่าวนี้จริง
ผมจะแอนตี้ เลิกใช้ มาสด้า และรถคันต่อไปจะใช้รถกระบะที่ไม่ใช่ มาสดา
ความเห็นของผม """ การตั้งราคา เขาได้พิจารณา ครอบคุมส่วนกระทบทั้งหมดไว้แล้วในระยะเวลาอันใกล้ เป็นไปไม่ได้ ว่าต้นทุน จะมาเพิ่มจนกระทบกับราคาขาย จนไม่สามารถอยู่ได้ในเวลาอันใกล้นี้ (จาก พ.ย.46 ถึงปัจจุบัน ก.พ. 48 เพียงแค่ 3-4 เดือน ) """

ท้ายนี้ บอกตรงๆ เมื่อทราบว่า มาสด้า จะขึ้นราคา มันมีความรู้สึกผิดหวังกับ แบรนด์ นี้ทันที ทั้งๆที่ใช้ และเชียร์มาตลอด 12ปี ว่าเป็นรถดีคุ้มค่า ??????

 ความคิดเห็นที่: 24 / 75 : 038720

โดย: obbydj

ในมุมมองของผมครับ

คิดเล่นๆ แบบไม่ใช่นักการตลาด แน่นอนว่าการที่อยู่ดีๆ มาขึ้นราคาสินค้าเนี่ย มันกระทบกระเทือนจิตใจผู้บริโภคแค่ไหน ในฐานะมนุษย์ปุถุชน แม้กระทั่งในความรู้สึกของฝ่ายการตลาดของมาสด้า ก็ย่อมรู้ดีว่ามันจะส่งผลเสีย

แล้วเขาจะทำไปทำไมล่ะครับทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องโดนด่า ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นนะ

ถ้าเทียบออปชั่นที่เจ้า 3 ให้ กับยี่ห้ออื่นเนี่ย ผมว่ามาสด้าตั้งใจจะให้เจ้า 3 เป็นรถที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคมากที่สุด แต่ผมได้อ่านความคิดเห็นที่คุณ JIMMY โพสไว้ ผมว่ามันก็มีเหตุผลพอสมควรอยู่ที่อาจจะมีการปรับราคาขึ้นเพื่อให้บริษัทอยู่รอด

แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับข้อความในจดหมาย ที่อาจจะดูโผงผางเกินไปหน่อย

เราเป็นคนธรรมดามีกิเลส มีความอยาก ก็ย่อมต้องนึกถึงผลประโยชน์ส่วนตนไว้ก่อน งานนี้คงมีคนจำนวนน้อยมากๆ ที่คิดเข้าข้างมาสด้าหละครับ

ขอโทษที่ผมอาจจะพูดตรงไปหน่อยครับ

 ความคิดเห็นที่: 25 / 75 : 038724

โดย: บอย

ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณ Jimmy ครับ
**ผมทราบดีว่าวัสดุสำคัญในการผลิตรถคือ เหล็ก พลาสติก และยางครับ และราคาก็ขึ้นอยู่กับกลไกของตลาดโลก ที่แปรผันไปตามความต้องการของตลาด (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเกงกำไรของพ่อค้าคนกลาง) มีขึ้นมีลงเป็นช่วงๆ
**และผมบอกว่าทุนนิยมกำลังจะครอบงำโลกนะครับ มิใช่จะครองโลก ซึ่งเป็นนัยที่แตกต่าง ผมเห็นด้วยกับคุณจิมมี่ที่บอกว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปหลังจากการปฏิบัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ เป็นประเทศแรกของโลก (การใช้แรงงานเครื่องจักเป็นหลักในการผลิตแทนแรงงานทาศ) แต่อิทธิพลของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะแรกนั้นมีอยู่เฉพาะในยุโรปเป็นหลัก และเป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอขนาดเล็ก ซึ่งดินแดนในพื้นที่อื่นของโลกได้รับผลกระทบโดยการตกเป็นเมืองขึ้นทางอาณานิคมของประเทศเจ้าเมืองขึ้นเหล่านี้ทั้งในช่วงก่อนและหลังจากนี้แล้ว (ตั้งแต่โคลัมบัสค้นพบอเมริกาถือเป็นการเปิดโลกของชาวตะวันตกในการค้นพบดินแดนใหม่) การควบคุม การปกครองเป็นไปโดยใช้กำลังเป็นหลัก นั่นทำให้ในเวลาต่อมาเกิดการต่อต้านขัดขืนของประเทศเมืองขึ้นเหล่านั้น พร้อมทั้งเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศเจ้าอาณานิคมด้วยกันเอง ในเรื่องผลประโยชน์เหนือดินแดนอาณานิคมต่างๆ จนนำมาสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 พร้อมทั้งความชัดเจนของการต่อสู่ทางอุดมการณ์ระหว่างเสรีประชาธิปไตย (ทุนนิยม) นำโดยสหรัฐ กับ สังคมนิยมที่นำโดยสหภาพโซเวียต
***ผมคิดว่าตั้งแต่ช่วงของการออกเดินเรือของยุโรป พบดินแดนใหม่ หรือโลกใหม่ (ซึ่งเป็นศัพท์ที่เราเรียกตามฝรั่ง ทั้งที่ดินแดน ผู้คนเหล่านั้นก็อยู่ของมันดีๆ แต่เพื่อให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางและมองคนอื่นเป็นชายขอบจึงต้องกำหนดให้ตนเองเป็นผู้ค้นพบ) จนดินแดนทั่วโลกตกอยู่ภายใต้การควบคุม บงการโดยประเทศเจ้าอาณานิคมผิวขาว จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมเรียกสภาพเช่นนี้ว่าเป็นการครองโลก(ในความหมายของผม)
***ส่วนการครอบงำโลกนั้นผมคิดว่ามันเริ่มจากหลังจากมีการปฏิวัติเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารเมื่อประมาณ 30 ปีมานี้เอง และมีผลต่อวิถีชีวิตของคนทุกคนในทุกสังคมเมื่อไม่นานมานี้ (แต่ก็มีบางดินแดนที่ต่อต้านอำนาจของตะวันตก เช่น อาหรับ จึงถูกทำสงครามสั่งสอนเช่นในปัจจุบัน) หลังการพ่ายแพ้ของอุดมการณ์สังคมนิยม อันเป็นการสิ้นสุดของสงครามเย็น และชัยชนะตกเป็นของฝ่ายทุนนิยม ในปี 1990 ซึ่งหลังจากนั้นอเมริกาก็ถือเป็นมหาอำนาจเดี่ยวในโลก พร้อมกับสร้างระเบียบโลกใหม่ คือ 1) ระบบเศรษฐกิจแบบ เสรีนิยม 2)การปกครองแบบประชาธิปไตย 3) สิทธิมนุษยชน 4)รักษาสิ่งแวดล้อม ขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ ซึ่งสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศสหรัฐ รวมทั้งประเทศในฝ่ายทุนนิยมเสรีอย่างยิ่ง โดยมีเครื่องมือที่สำคัญที่ใช้ในการครอบงำโลกที่แนบเนียน แยบยนกว่าการใช้อำนาจจาการปายปืนเพียงอย่างเดียวดังเช่นในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 มากมายนัก นั่นคือ "วัฒนธรรมบริโภคนิยม"
***เดิมเราใช้สินค้าในฐานะที่มันเป็นสิ่งที่ใช้ในการจับจ่ายใช้สอย การดำรงชีพ เช่น เราผลิตรถขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน แต่เมื่อมีผลิตหลายราย และเกิดการแข่งขันกันมากขึ้น หากแต่ละยี้ห้อยังขายรถในฐานะที่เป็นเครื่องใช้ในการเดินทางแล้ว หนึ่งครอบครัวอาจมีรถเยงแค่คันเดียว หรืออย่างมากหนึ่งคนต่อหนึ่งคัน ซึ่งทำให้สามารถขายรถได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่หากสร้างให้แต่ละคนมีวัฒนธรรมบริโภคนิยม กล่าวคือ สร้างให้คนมีความสุขในการเสพสินค้า (รถ)ในฐานะที่มันเป็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในตัวของรถนั่นแล้ว ย่อมทำให้แต่ละคนสามารถมีรถได้หลายคัน เช่น รถเบนส์ใช้ในการออกงานหรู รถออฟโรดใช้ในการเที่ยวป่าเขา รถเก่งใช้ในการทำงานปกติ รถกะบะใช้ในการขนของ ซึ่งทำให้คนมีคำอธิบายต่อตนเองและต่อผู้อื่นต่อการใช้รถเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแบ่งแยกย่อยลงไปอีกในรถแต่ละประเภท เช่น รถเก่ง ก็มีแบ่งแยกย่อยเป็น รถเล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อให้แต่ละคนไดเลือกให้เข้ากับไลต์สไตร์ของแต่ละคน มีรถผู้หญิงรถผู้ชาย รถคนแก่รถวัยรุ่น เป็นต้น เหล่านี้เป็นสัญญะที่สร้างขึ้นของแต่ละยี้ห้อทั้งสิ้น วึ่งเราจะพบเห็นว่ามีการใช้ลักษณะของการจัดแบ่ง จำแนก แยกแยะกับสิ้นเกือบทุกประเภทในโลกของระบบทุน
***สิ่งเหล่านี้เมื่อถูกสร้างและผลิตซ้ำๆ บ่อยๆ ก็เเข้มาแนบสนิทในชีวิตของเราจนแยกไม่ออก และสามารถครอบงำเราได้ทั้งร่ายกายและจิตใจของเราให้อยู่ภายใต้การบงการของมันได้ นี่จึงเป็นการครอบงำในความหมายของผมที่มากกว่าการครองโลกจากปลายปืน
***ผมยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนทุกคนนะครับ และยินดีมากหากมีการแสดงความคิดเห็นที่หลายหลาย ขัดแย้งกันบนพื้นฐานของเหตุและผล ผมเชื่อว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากความหวังดีนั่นมีค่ามากกว่าความสามัคคีโดยไม่ลืมหูลืมตามากมายนัก

****ถึงสิ่งที่ผมรับไม่ได้กับการกระทำของมาสด้าก็คือ
1) มาสด้า 3 เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน และในราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับยี้ห้ออื่นๆ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมดุล ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉียว ด้วยนิยามที่ว่า "สปอร์ตซีดาน" จึงได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่กลุ่มหนึ่ง (พวกเราในที่นี่เป็นส่วนใหญ่) จึงสามารถสร้างยอดขายได้เกินการคาดหมายของมาสด้า จนนำมาสู่ความคิดที่จะขึ้นราคาเพราะนึกคิดว่ารถตนเองมีมาตรฐานที่สูงกว่าในราคาที่ควรจะเป็น ( มิได้ให้เหตุผลว่าเกิดจากต้นทุนในการผลิตที่มากขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งหากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงจากราคาของวัสดุในการผลิต รถยี้ห้ออื่นต้องได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน)
2) การบริหารงานที่ผิดพลาดของมาสด้าที่มีการคาดการตลาดผิดพลาด และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในเกือบทุกประเทศที่เข้าไปทำตลาด นั่นแสดงว่ามาสด้ามิได้นำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในตลาดหนึ่งมาปรับปรุงแก้ไขในตลาดที่กำลังจะเข้าไปขายเลยแต่อย่างใด แล้วยังมีหน้ามากล่าวเสมือนว่า อยากได้ของดีก็ต้องรอนานเป็นธรรมดา
3)ศูนย์บริการ มิเคยติดต่อมาก่อนเลยว่าสถานการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ผมจองตั้งแต่วันที่ 18/11/04 ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รถมีแต่เลื่อนกับเลื่อน จากกำหนดรับรถครั้งแรก 14/01/05 มา 15/02/05 และมาล่าสุด 15/03/05 มิรู้ว่าจะมีการเลือนอีกหรือไม่ และทุกครั้งเป็นผมที่โทรหรือเดินทางไปที่ศูนย์เพื่อสอบถามรายละเอียดเองทุกครั้ง
4) ที่ผมนำข้อมูลมานำเสนอในที่นี้ก็เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ เพื่อแลกเปลี่ยนกับทุกท่าน ทั้งที่ผมมิได้รับผลกระทบจากราคาแต่อย่างใดหากจะมีการขึ้นราคา แต่ต้องการที่จะให้ทุกท่านได้รับทราบถึงสิ่งที่มาสด้ากำลังคิดจะดำเนินการอยู่ในอนาคตอันใกล้นี้เท่านั้นครับ

*** ศุนย์บอกผมว่า ราคารถมาสด้า 3 จะมีการปรับขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะรุ่นวี จะปรับขึ้นประมาณ 40000 บาท เพราะคิดว่ากำหนดราคาไว้ต่ำเกินไป ซึ่งนั่นก็คงดูจากยอดจองเช่นกัน
***หากจะบอกว่าเมื่อรอนาน และรอไม่ไหวก็ไปซื้อรถยี้ห้ออื่นสิ รถนะครับไม่ใช่เสื้อผ้า หรือสิ่งของราคาบาทสองบาท ที่จะสามารถซื้อใหม่ใช้ได้ทุกวัน แต่ละราคาเกือบล้าน กว่าจะตัดสินใจว่าจะซื้อมาสด้า 3 นี้ก็มีการศึกษาหาข้อมูลมานาน และคิดว่าเป็นการตัดสินใจเหมาะสมแล้วนะครับ การพูดเช่นนี้ก็เท่ากับท่านได้ดูถูกการตัดสินใจของคนอื่น และโยนภาระการรับผิดชอบไปที่คนซื้อนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 26 / 75 : 038742

โดย: เจ้าสัว

จะขึ้นอีกเหรอ แค่นี้ผมว่ามันก็ได้แล้วนะสังเกตว่ารุ่น เอส ล้อหลังยังดรัมเบรกอยู่เลย ตอนแรกรายคนเห็นราคาก็คงนึกว่าเป็นดิสแน่ ๆ แต่ไงมาดูไม่ใช่นี้ว้า ก็เลยทำให้คนไปจองจองกันแต่รุ่น วี อย่างเดียวและก็ส่งมอบรถไม่ทัน หนึ่งอย่างแล้วที่หน้าจะคาดการผิด จริง ๆ รุ่น เอสหน้าจะตัดอ๊อฟชั่นบางอย่างออกไปอีกจะได้เห็นความต่างของ เอส กับ วีอย่างชัดเจนลูกค้าจะได้ไม่ลังเล
พอไปรุ่นอาร์ก็เล่นแต่มีเกียร์อ้อโต้ บวกซันรูฟด้วย แทนที่จะทำให้เลือกได้ว่าคุณจะเอาไหมซันรูฟ ถ้าไม่มีซันรูฟราคาจะได้ลดลงมาอีกไม่ถึงล้าน พวกสาวกโตต้าที่ตาบอดมันจะได้ดูออกว่าที่แท้ อัลติส 1.8 ท๊อปของมันนะแพง ส่วนของเราสิดีกว่า เครื่องก็ 2.0 อ๊อฟชั่นเยอะกว่า
สุดท้ายที่สำคัญก็บริการหลังการขายที่ต้องปรับอย่างมากกกกกกกกกก แล้วจะขึ้นราคาอีกทำไหมนี้ วัสดุข้างในห้องโดยสารก็พลาสติกทั้งนั้น

 ความคิดเห็นที่: 27 / 75 : 038746

โดย: ตาม

1) มาสด้า 3 เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน และในราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับยี้ห้ออื่นๆ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมดุล ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉียว ด้วยนิยามที่ว่า "สปอร์ตซีดาน" จึงได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่กลุ่มหนึ่ง (พวกเราในที่นี่เป็นส่วนใหญ่) จึงสามารถสร้างยอดขายได้เกินการคาดหมายของมาสด้า จนนำมาสู่ความคิดที่จะขึ้นราคาเพราะนึกคิดว่ารถตนเองมีมาตรฐานที่สูงกว่าในราคาที่ควรจะเป็น ( มิได้ให้เหตุผลว่าเกิดจากต้นทุนในการผลิตที่มากขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งหากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงจากราคาของวัสดุในการผลิต รถยี้ห้ออื่นต้องได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน)


--------------------------------------


ยี่ห้ออื่นที่ขายได้เยอะกว่า อาจจะไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาก็ได้นะครับ คนที่ผลิตได้มากกว่า ก้ต้องมีอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์มากกว่า มี Economy of scale ที่ทำให้ควบคุมต้นทุนง่ายกว่า และอย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกบริษัทรถจะใช้วัสดุเกรดเดียวกัน มาสด้าเองเลือกใช้เหล็กที่ดีกว่าจ้าวอื่นมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว การที่สั่งของที่เกรดสูงกว่าในจำนวนที่น้อยกว่า แน่ล่ะ มันก็ควรจะแพงกว่า และที่สำคัญ ยี่ห้ออื่นอยู่ในตลาดมานานแล้ว การขึ้นราคาตอนนี้ไม่ได้มีผลดีเลย สู้ไปขยับทีเดียวตอนเปิดโมเดลใหม่ดีกว่า

ผมเองงงครับว่า ทำไมถึงคิดว่าจะขึ้นราคากันไม่ได้ ในเมื่อเราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าต้นทุนมันไหลขึ้นกันขนาดไหน ราคาน้ำมันก็ขึ้นเอา ๆ ส่วนยี่ห้ออื่นที่ว่าไม่ปรับ ๆ น่ะ ลองดูโมเดลใหม่ของเค้าสิครับ ผมว่ากระฉูดแน่


---------------------------------------------


เรียนคุณ เจ้าสัว

ที่นี่มีกฏห้ามพาดพิงหรือกระทบยี่ห้ออื่นอย่างชัดเจนนะครับ เดี๋ยวคงต้องลบความเห็นของคุณเจ้าสัว ที่พาดพิงคนใช้โตโยต้านะครับ

 ความคิดเห็นที่: 28 / 75 : 038748

โดย: ต้น

เห็นด้วยกับตาม

----------------

"2) การบริหารงานที่ผิดพลาดของมาสด้าที่มีการคาดการตลาดผิดพลาด และเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในเกือบทุกประเทศที่เข้าไปทำตลาด นั่นแสดงว่ามาสด้ามิได้นำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในตลาดหนึ่งมาปรับปรุงแก้ไขในตลาดที่กำลังจะเข้าไปขายเลยแต่อย่างใด แล้วยังมีหน้ามากล่าวเสมือนว่า อยากได้ของดีก็ต้องรอนานเป็นธรรมดา"

ไม่เกี่ยว ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี อำนาจผลิดมีอยู่แค่นั้น ไม่สามารถสร้างโรงงานเพิ่มได้ อีกทั้ง supplier ก็มีอำนาจการผลิตจำกัดด้วย

 ความคิดเห็นที่: 29 / 75 : 038749

โดย: ก๊าก ก๊าก ก๊าก = สามก๊าก

ผมว่า Mazda Thailand เห็นลูกค้าเป็นหมู อะอะ เห็นว่าลูกค้าจองรถนานก็ใช้เทคนิค น่าน บอกว่าคนที่จองไปก่อนแล้วยังได้ราคาเดิมอยู่ ป้าดโธ่ ถ้าจองแล้วรอไม่นานได้รถเลย ก็ได้ขับสบายแฮแล้ว ไม่ต้องมารอ รอ รอ แล้วคอยฟังลิเกมูลค่าเพิ่ม ฯลฯ รถมีมูลค่าเพิ่มเห็นไม้ เพราะเค้ามีแผนจะขึ้นราคารถ คนจองก่อนยังได้ราคาเดิม........

คิดจริงๆ วัสดุอุปกรณ์ รถทั้งคันมั้นก็เหมือนเดิม ใช่ว่าจะเพิ่ม auto จาก 4 เป็น 5 จังหวะก้อหาไม่ หรือจะเพิ่มวิทยุให้ฟัง mp3 ได้ด้วยก็หาไม่ ฯลฯ เรื่องของเรื่องก็จะบอกว่า เค้า manage expectations (ความรู้สึกนึกคิด ความคาดหวัง) ของเรา ในขณะที่ intrinsic value (อรรถประโยชน์ใช้สอย ฟังก์ชั่น ลูกเล่น) ของรถมันก็เท่าเดิม รถไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นหรอกคับ แต่เค้าต้องการให้เราคิดว่ามันเพิ่ม เป็นลีลาการตลาดเอาไว้เผด็จศึกหมูสนาม

กลยุทธ์นี้ขอตั้งชื่อว่า สามก๊าก ตอนกลลิโปใช้อุบายเตียวเสี้ยนเชือดตั๋งโต๊ะ

 ความคิดเห็นที่: 30 / 75 : 038752

โดย: ตาม

ออปชั่นเพิ่ม กับ ต้นทุนเพิ่ม มันคนะละเรื่องกันนี่ครับ

สมมติ วันนี้ซื้อ ข้าวผัดจานละ 20 แต่ถ้าหมู ไข่ ข้าว ราคาแพงขึ้น คนขายก็อาจจะต้องขึ้นราคาขายมากที่ขนาดเท่าเดิมขึ้น เป็น 25 ..... นี่คือ ราคาขายเพิ่มจากต้นทุนเพิ่ม

แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง แม่ค้าดันให้หมู เพิ่มจากสี่ชิ้นเป็นหกชิ้น เพิ่มข้าวให้มากขึ้น จานใหญ่ขึ้น ที่ต้นทุนเท่าเดิม แล้วมาขายราคา 25 อันนีคือราคาขายเพิ่มจากการที่ออปชั่นเพิ่มครับ

มันคนละเรื่องกัน.................... ต้นทุนขยับ ของเดิม ๆ มันก็ต้องแพงขึ้นตามกลไกอยู่แล้ว ลองดูดีเซลละกัน ขยับเมื่อไร จะขึ้นราคากันทุกหย่อมหญ้าเลยล่ะ ไม่เว้นแม่แต่หาบขายไข่ปิ้งเลย


แล้วที่อย่างพี่ต้นพูดก็ถูก มันผลิตได้แค่นั้น ยังไงเครื่องจักรมันก็ทำงานได้แค่นั้น แล้วที่ว่าเค้าว่าคาดการณ์ผิด ทำไมไม่เตรียมการผลิตไว้มากกว่านี้ หึ หึ หึ ถ้าลงทุนเตรียมไว้ เช่น ซื้อเครื่องจักร สร้างโรงงาน แล้วดันขายไม่ดีแบบนี้ล่ะครับ คราวนี้ หนักกว่าเดิมแน่ และอาจจะมากระทบกับคนใช้มาสด้ารุ่นเก่า ๆ เพิ่มด้วย คนเคยเกือบเจ๊งมาแล้วนะครับ ขยับตัวที ต้องคิดแล้วคิดอีก

แต่เรื่องจดหมายนั่น อ่านดูแล้วก็เนื้อความไม่ค่อยดีเท่าไรจริง ๆ น่าจะอธิบายเหตุผลเรื่องของต้นทุนหรือเศรษฐกิจมากกว่า

 ความคิดเห็นที่: 31 / 75 : 038753

โดย: ต้น

ทำไมต้องใช้ Auto 5 จังหวะ ในเมื่อเกียร์ Auto 5 จังหวะนะต่อไปจะมีผู้ผลิตรถยนต์ใช้น้อยกว่า 6 จังหวะ และจะเหลือเกียร์ Auto ที่เป็น step (ไม่ใช่พวก stepless อย่าง cvt) เพียง 4 และ 6 จังหวะ เท่านั้น

 ความคิดเห็นที่: 32 / 75 : 038760

โดย: เสือใหญ่

เอ้าสำหรับเพื่อนๆที่เบื่อการขึ้นราคาและการรอคอย ขอเสนอ promotion........

ถึงคุณปลาทองแท้ครับ ตอนผมซื้อ 2.0 ได้ส่วนลด 48000 กับ ดอก 0% 5 ปี นะครับ ถ้าคุณซื้อเงินสดควรได้ส่วนลดไม่ต่ำกว่าแสนสองนะครับ 2.0 ขับในเมืองได้ 8-9 กม./ล ใช้ 91

มาจาก Fordclub.net ความเห็นที่ 03656 เรื่อง "อยากทราบอัตราสิ้นเปลือง Tierra 1.6 และ 1.8 ครับ" ความเห็นที่ 7/8

Mazda จะขึ้นราคา คู่แฟดเค้า Ford ลดราคา Promotion แจกแถม อย่าพลาด เด้อ!

 ความคิดเห็นที่: 33 / 75 : 038768

โดย: !@$^^

บ้านเราใช้รถแพงกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว

 ความคิดเห็นที่: 34 / 75 : 038771

โดย: petitel

คุณบอยน่าจะได้รับรถก่อน 15มีนาคมนี้นะครับ เพราะมีบางศูนย์แจ้งว่าตอนนี้รถที่เข้ามาเป็นตัว 1.6ซะส่วนใหญ่

หวังว่าคงจะได้รถก่อนวันดีเดย์ของคุณบอยนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 35 / 75 : 038784

โดย: Family

" ยี่ห้ออื่นที่ขายได้เยอะกว่า อาจจะไม่จำเป็นต้องขึ้นราคาก็ได้นะครับ คนที่ผลิตได้มากกว่า ก้ต้องมีอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์มากกว่า มี Economy of scale ที่ทำให้ควบคุมต้นทุนง่ายกว่า และอย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกบริษัทรถจะใช้วัสดุเกรดเดียวกัน มาสด้าเองเลือกใช้เหล็กที่ดีกว่าจ้าวอื่นมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว การที่สั่งของที่เกรดสูงกว่าในจำนวนที่น้อยกว่า แน่ล่ะ มันก็ควรจะแพงกว่า และที่สำคัญ ยี่ห้ออื่นอยู่ในตลาดมานานแล้ว การขึ้นราคาตอนนี้ไม่ได้มีผลดีเลย สู้ไปขยับทีเดียวตอนเปิดโมเดลใหม่ดีกว่า "

.......แต่ว่ามาสด้า3ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลใหม่มาไม่นานนี่ครับ...เปิดตัวในไทยประมาณ 3 - 4 เดือนเอง...ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่การคาดการณ์ต้นทุนจะผิดพลาดถึงขนาดต้องขยับราคาขึ้นโดยฉับพลัน...ผมคิดว่าบริษัทที่มีการลงทุนมากๆ จะต้องมีการคาดการณ์ปัจจัยที่มีผลต่อต้นทุนการผลิตและผลกำไรที่ได้รับไว้ล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นราคานำมัน...ราคาเหล็ก..ซึ่งผมก็สังเกตุและก็พอรู้มาว่ามีการคาดการณ์อยู่แล้วว่าในปี 2005 ราคาเหล็กจะมีราคาพุ่งสูงมากขึ้น....และจะสูงมากกว่าการคาดการณ์ก็ต่อเมื่อเกิดสงคราม (ในประเทศที่อาจส่งผลกระทบถึง..) ....
.....ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ......... จะยังไงก็แล้วแต่ก็ยังอยากได้ยินทางมาสด้าเซลล์ประเทศไทยออกมาชี้แจงอยู่ดีล่ะครับ....เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชียร์และชื่นชอบมาสด้า3 อยู่ครับ

 ความคิดเห็นที่: 36 / 75 : 038787

โดย: ตาม

ต้นทุนมันก็ได้แค่คาดการณ์ล่ะครับ วันดีคืนดี ผู้ผลิตวัตถุดิบหลักจะขึ้นราคาขึ้นมาดื้อ ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งถ้าเค้าเป็นผู้ผลิตผูกขาดจ้าวเดียวหรือมีน้อยจ้าว อำนาจของเค้ายิ่งเยอะครับ

มาสด้าสามเปิดตัวในไทยมาสามสี่เดือนจริง แต่เปิดตัวในตลาดโลกมานานแล้ว วัตถุดิบที่ผลิตมาสด้าสามส่วนใหญ่ก็เป็นวัตถุดิบที่ผลิตมาจากต่างประเทศซึ่งมีการสั่งสเปคไว้นานแล้ว การผลิตที่ฟิลิปินส์ เป็นการเพิ่มไลน์ แค่นั้นเอง

 ความคิดเห็นที่: 37 / 75 : 038807

โดย: อุทัย

ก็ไม่รู้จะตอบอะไรให้ท่านทั้งหลายกระจ่างได้ดี
เพราะสิ่งที่หลายๆท่านคิด ก็มีส่วนที่เกี่ยวโยงกันเป็นลูกโซ่

สำหรับรถมาสด้า3 ที่มีจำหน่ายในบ้านเรา
ชิ้นส่วน 70 % ผลิตจากโรงงานที่ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
และอีก 30% เป็น local part คือจากประเทศไทยบ้าง จากอาเซียนบ้าง

ทีนี้เหตุผลหลักที่ท่านทั้งหลายจองรถแล้วยังไม่ได้รับรถก็เนื่องมาจาก
การผลิตชุดคิดที่จะนำมาประกอบ 70% จากญี่ปุ่น ซึ่งโรงงานที่นั่นได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 3 กะ คือ 24 ชั่วโมง เพื่อผลิต part ต่างๆให้ทันกับความต้องการของลูกค้า

สำหรับเดือนมีนา และเมษา จะมีรถเข้ามาจำนวนมาก เพียงพอที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าที่จองเกิน 2 เดือน และรถที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นที่ลูกค้าจองมากที่สุด

สำหรับการปรับราคามาสด้า3 ก็สืบเนื่องจากว่า
มาสด้า3 เป็นรถที่ผลิต และออกแบบ ภายใต้โครงการ MDI ของมาสด้า
และนับว่ามีความทันสมัย มีความสมบูรณ์แบบ และเพียบพร้อมที่สุด
(โครงการเดียวกับ Mazda6 Mazda RX-8 Mazda MX-5)
เพื่อให้รถมาสด้า3 เป็นรถญี่ปุ่นที่ดีที่สุด สามารถเทียบได้กับรถยุโรปชั้นดีเลนทีเดียว
ซึ้งสิ่งต่างที่นำมาผลิตทุกชิ้นส่วนได้รับการรับรองมาตรฐานในขั้นสูงสุด
เพราะฉะนั้นอาจทำให้รถมาสด้า3 ราคาอาจจะสูงกว่ารถญี่ปุ่นในตลาดที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
แต่เมื่อเทียบ option ต่างเทียบกับรุ่นที่ใกล้เคียงกันจะเห็นว่ารถมาสด้า3 ราคาไม่ต่างจากคู่แข่งเลย
กับเป็นรถที่มีราคาสมเหตุสมผลและคุ้มค่ามากที่สุด

ซึ่งในช่วงเปิดตัวต้องยอมรับว่ามาสด้า เป็นรถที่ยังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายมากนัก
และมาสด้า3 เองจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ของรถในระดับ C Car ในบ้านเรา
ซึ่งมาสด้า3 นับเป็นการเปลี่ยนแปลง และการกลับมาครั้งสำคัญของมาสด้า ในประเทศไทย รวมทั้งมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วย

ซึ่งแน่นอนว่ารถที่ดี ถ้าราคาสูงเกินไป ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จในตลาดได้ ทางมาสด้าต้องตั้งราคามาสด้า3 เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ และมาสด้าต้องกลับมาให้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งหมดก็ตกไปยังผู้บริโภคทั้งหมด

สำหรับการปรับราคาของมาสด้า3 แน่นอนว่าคงไม่สูงมากนัก

 ความคิดเห็นที่: 38 / 75 : 038839

โดย: chompu

I agree with K.Boy ka.
-----------------------------------------------------------------------------------------
****ถึงสิ่งที่ผมรับไม่ได้กับการกระทำของมาสด้าก็คือ
1) มาสด้า 3 เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน และในราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับยี้ห้ออื่นๆ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมดุล ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉียว ด้วยนิยามที่ว่า "สปอร์ตซีดาน" จึงได้ตรงใจกลุ่มลูกค้าที่กลุ่มหนึ่ง (พวกเราในที่นี่เป็นส่วนใหญ่) จึงสามารถสร้างยอดขายได้เกินการคาดหมายของมาสด้า จนนำมาสู่ความคิดที่จะขึ้นราคาเพราะนึกคิดว่ารถตนเองมีมาตรฐานที่สูงกว่าในราคาที่ควรจะเป็น ( มิได้ให้เหตุผลว่าเกิดจากต้นทุนในการผลิตที่มากขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งหากมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงจากราคาของวัสดุในการผลิต รถยี้ห้ออื่นต้องได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน)
-------------------------------------------------------------------------------------------

and as K. ตาม said, another brand can go cheaper becoz of the economy of scale.---> This is totally true!!!!!! I agree ka.

But i dont think Mazda Thailand know that sale volume for the first 4 months will be high like this (If they know, we dont have to wait this long, huh?). So the price is set at the beginning based on the forecast sale volume (plus some risk.) As I read the letter from Mazda, I dont feel that Mazda increase the sale price acoording to the higher material cost. I dont even feel that they are sincere to Mazda-lover like us. We all know since last year (which is before they launcing Mazda 3 in Thailand) that the trend of steel as well as petroleum will be higher and higher for the year of 2005. How come Mazda doesnt beware of this trend before?

What Mazda Thailand doing now is so disgusting!!!
I already paid for booking Mazda 3 .
However, if this is TRUE , I m thinking about changing my mind and go for another brand. Anyway, hope this is not true. Well, I beg leave to Mazda Thailand to say something about this.
---------------------------------------------------
***Sorry i cannot type Thai here.

 ความคิดเห็นที่: 39 / 75 : 038841

โดย: chompu

K.Family ka..
I think exactly same as you and just post it ka.
I post it after reading K.Taam `s opinion at Page 3.
and just click page 4 now.

We wrote the same thing....think the same way...Vowwwwww!!!
Are you married???? :) hi hi ---just kidding ka :)

 ความคิดเห็นที่: 40 / 75 : 038842

โดย: chompu

Your name seem to be married!! ha ha