Close this window

ถามผู้รู้ เรื่องกรองเปลือยกับเฮด FS ZE AT + - ครับ
เฮดเดิม 4 2 1 เกีย auto พอดีไปเจอกรองเปลือยมา 2 ตัวครับ และก็เฮดเดอร์ 4 1 แต่ไม่มีแคท
1 ถามเรื่องเฮดก่อนนะครับ
ถ้าเปลี่ยนเฮด 4 1 ตามในรูปจะวิ่งไหม ถ้าไม่มีแคท หรือต้องแปลง แคทเดิมใส่ หรือมีตัวไหนแทนได้ครับ กรณี รถไม่วิ่ง
2 เรื่อง กรองเปลือยครับ
ตัวแรกเป็นงาน K&N อีกตัวเป็นของ WEPORN-R ถ้าใส่แล้ว จะมีผล ดีหรือเสียครับ สำหรับกรองเปลือย
3 ถ้าจะให้เหมาะสม ต้องใส่แบบไหนมั่งครับ

พอดีไม่ค่อยมีความรู้ กลัวโดนช่างหลอกขาย รถเดิม ๆ อยากแรงครับ เกีย auto 2000
ตออนนี้ แค่เดินท่อเลส 2" พักลาง ปลาย auto exe ขอบคุณครับ
โดย: หลังคาแดง   วันที่: 20 Jan 2014 - 20:12

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 30 : 805663
โดย: หลังคาแดง
ลืมรูปครับ
วันที่: 20 Jan 14 - 20:13

 ความคิดเห็นที่: 2 / 30 : 805664
โดย: หลังคาแดง
กรองครับ
วันที่: 20 Jan 14 - 20:13

 ความคิดเห็นที่: 3 / 30 : 805665
โดย: หลังคาแดง
กรอง K&N
วันที่: 20 Jan 14 - 20:13

 ความคิดเห็นที่: 4 / 30 : 805696
โดย: Hard
เท่าที่ผมเคยศึกษาดู Header 421 กับ 41 มันนิสัยต่างกันครับ 421 จะมีช่วงใช้งานในรอบที่กว้างกว่า ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีกว่า 41 เพราะ 41 จะมีช่วงใช้งานที่แคบและเน้นกับรถที่ต้องการความแรงในรอบสูงครับ..

ถ้าเปลี่ยน head อย่างเดียวไม่เหน็บกล่องจูนอากาศ/น้ำมันใหม่ ผมไม่คิดว่าจะได้อะไรเพิ่มนะครับ แต่ถ้าคิดจะติดกล่องจูนใหม่ ก็ลองเลือกดูว่าชอบใช้งานแบบไหน ถ้าเล่นอยู่แถว ๆ รอบกลางจนถึงค่อนข้างสูง ก็ 421 แต่ถ้าคิดว่าจะปั่นรอบสูงอยู่ตลอดก็ 41 ครับ

กรองเปลือยเป็นอีกทางที่จะเอามวลอากาศเข้าห้องเผาไหม้ให้มากกว่ากรองเดิม ซึ่งมันก็ต้องสอดคล้องกับน้ำมันที่จะจ่าย นั่นหมายความว่าถ้ากล่องเดิม+กรองเปลือย ก็ไม่ได้อะไรเช่นกันครับ..

FS/ZE +/- เดิม ๆ ผมวิ่ง 180 ใช้แค่สามเกียร์เอง แล้วก็ไม่ได้รอรอบอะไรมากด้วย แต่เปลี่ยนเฮด/กรองเปลือย แล้วแรงขึ้นก็ไปตัดที่ 180 อยู่ดี ถ้านิยามความแรงของคุณหลังคาแดงบอกว่าต้องวิ่ง 200+ ก็ลองปลด 180 แล้ววิ่งซัก 200 ดูก่อน แต่ถ้านิยามความแรงหมายถึงการวิ่ง 0-100 ได้เร็วขึ้น ก็ติดเฮด/กรอง แล้วก็ติดกล่อง จูนใหม่ครับ...

ขอให้แรงเร็ว ๆ นะครับ
วันที่: 21 Jan 14 - 11:20

 ความคิดเห็นที่: 5 / 30 : 805710
โดย: หลังคาแดง
อยากได้ความเร็ว 0-120 ที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่เกิน 180 นั่นหละครับ ที่ต้องการ
แต่เปลี่ยนแล้ว ต้องติดกล่องเพิ่มและจูนใช่ไหมครับ ถ้าไม่เช่นนั้น อาจจะแย่กว่าเดิม ถ้าไม่ใส่กล่อง
วันที่: 21 Jan 14 - 16:00

 ความคิดเห็นที่: 6 / 30 : 805714
โดย: Hard
ใช่ครับ ไอเสียออกเร็ว อากาศเข้าเพิ่ม แต่กล่องไม่สั่งจ่ายน้ำมันเพิ่ม มันก็บ่มีแฮงครับ..

มีเพื่อน ๆ หลายคนเปลี่ยนเฮดเดอร์มาแล้วแย่กว่าเดิม เพราะเฮดซิ่งมันโตกว่าเฮดเดิม แต่ไอเสียจากเครื่องเดิมกล่องเดิมมันมีเท่าเดิม เลยกลายเป็นการไหลออกของไอเสียไม่ดีพอ ทำให้รถแรงน้อยลงไปกว่าเดิมอีกครับ...ดังนั้นของซิ่งต้องใส่รถที่ทำซิ่งครับ รถเดิมใส่ของซิ่งแรงยาก...
วันที่: 21 Jan 14 - 16:31

 ความคิดเห็นที่: 7 / 30 : 805729
โดย: หลังคาแดง
กระจ่างละครับ งั้น เปลี่ยน หัวเทียน สาย คอย น่าจะพอ
วันที่: 21 Jan 14 - 20:41

 ความคิดเห็นที่: 8 / 30 : 805743
โดย: Fujiwara Takumi
จริง ๆ เครื่องยนต์แก่นของมันหลัก ๆ ไม่มีอะไรมากเลย
เครื่องเบนซินถ้าอยากจะแรง ต้องหาทางทำให้อากาศที่เข้าเครื่องเพิ่มมากขึ้นแล้วค่อยจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นตาม เพราะเครื่องเบนซินมันจะคุมกำลังเครื่องโดยการคุมปริมาณอากาศที่จะเข้าเครื่องแล้วถึงจ่ายน้ำมันให้ได้สัดส่วนกับอากาศตามที่ต้องการ

อันนี้เพิ่มบางท่านอาจสงสัยว่าทำไมกระบะแถวบ้านมันโมฯง่ายไม่เหมือนกัน
เครื่องดีเซลถ้าจะแรง ก็แค่จ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นก่อน แล้วค่อยเพิ่มอากาศตามไป เจ้าเครื่องดีเซลมันจะปล่อยให้อากาศเข้าเกือบ ๆ จะอิสระเลยก็ว่าได้ แล้วมันจะคุมกำลังเครื่องโดยการเพิ่มปริมาณน้ำมันที่จ่ายเข้าไป มันเลยโมฯให้แรงได้ง่าย แค่ใส่กล่องดันราง กล่องยกหัวฉีด ก็แรงควันดำโขมงเลยนิยมหันมาเล่นกันเยอะ

ที่ต่างก็คือ เครื่องเบนซินจ่ายน้ำมันให้มันมากขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้แรงขึ้นแถมถ้ามากไปไกล ก็จะทำให้แรงตก
ส่วนเครื่องดีเซล ถ้าจ่ายน้ำมันมากขึ้น เครื่องมันก็จะแรงขึ้นแต่มันจะแรงขึ้นไปจนถึงจุดๆนึง ที่น้ำมันเริ่มจะเยอะเกินจนเผาไหม้แล้วได้กำลังลดลง
วันที่: 22 Jan 14 - 00:41

 ความคิดเห็นที่: 9 / 30 : 805744
โดย: B4LL
ผมลองเอากรองเปลือยของพี่มาใส่ลองดู จากกระทู้เก่าที่ถามผมเลยค่องใจ
โดยใช้ท่อเดิมแค่ถอดกรองออกแล้วเอามายัดใส่ไปเลย

อัตราเร่งดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย รอบช่วง 4000-6000 กวาดได้เร็วกว่าเดิม
วัดระยะทาง(ไม่รู้กี่เมตร)จากเดิม 110km/h เป็น 130km/h

ก็เลยสรุปได้ว่า ถ้าเปลี่ยนกรองแล้วจะทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย
จากเมื่อก่อนไม่คิดจะเปลี่ยนเพราะเคยได้ยินมาว่า เกียร์ออโต้ ใส่กรองเปลือย
แล้วจะวิ่งไม่ออก ก็เลยได้ลองกับตัวเองถึงรู้

ส่วนเฮดก็อย่างที่คุณ Hart บอกไว้เลยครับ 4-1 จะเน้นปลาย 4-2-1 จะตอบโจทย์ใน
ชีวิตประจำวันได้มากกว่า แต่ทว่าทำไมเฮดแต่งของรถมาสด้า 90% จะเป็น 4-1 อันนี่ไม่รู้จริงๆ

ยังไงก็ขอให้สนุกกับการแต่งรถครับ
วันที่: 22 Jan 14 - 02:18

 ความคิดเห็นที่: 10 / 30 : 805745
โดย: B4LL
ผลเทส อันนี้กรองเดิม
วันที่: 22 Jan 14 - 02:23

 ความคิดเห็นที่: 11 / 30 : 805746
โดย: B4LL
อันนี้หลังจากใส่กรองเปลือย
วันที่: 22 Jan 14 - 02:25

 ความคิดเห็นที่: 12 / 30 : 805748
โดย: Fujiwara Takumi
อืม คือมันไม่เห็นจะบอกว่ามันต่างกันยังไงเลยอ่ะครับท่าน B4LL เหมือนอารามแค่กดน้อยกดมากเท่านั้นเอง ไม่มีกราฟเหรอครับจะได้ดูพวกรอบเครื่อง แรงบิด แรงม้า อุณหภูมิ อะไรพวกนี้มาเทียบกันอ่ะครับ

เครื่องเบนซินคิดว่า ถ้าจะให้แรงขึ้นมีอยู่สามอย่างที่จะต้องสมดุลย์กัน น้ำมัน+ไฟ+อากาศ ที่ต้องเป็นสัดเป็นส่วนกรองเปลือยเมื่อความร้อนในห้องเครื่องสูง กรองเปลือยก็ยิ่งจะดูด อากาศร้อนๆ + ฝุ่น ในห้องเครื่องเข้าไปแทน ยิ่งทำให้กำลังตก นอกจากจะไม่ช่วยให้แรงขึ้นแล้ว อันนี้กรองเปลือยคงจะช่วยให้เครื่องพังง่ายขึ้นเท่านั้น
ถ้าจขกท.จะใส่กรองเปลือยต้องติดกล่องป้องกันฝุ่นและท่อนำอากาศด้วยและเจ้ากรองเปลือยมันน่าจะเหมาะสมกับรถที่โมฯไว้ใช้วิ่งในสนามแข่งอย่างเดียวมากกว่ารถที่จะไปใช้วิ่งบนถนนธรรมดาทั่วไปครับสภาพแวดล้อมมันต่างกัน
วันที่: 22 Jan 14 - 08:52

 ความคิดเห็นที่: 13 / 30 : 805750
โดย: หลังคาแดง
งั้นก็คือ ถ้าผมจะใส่กรองเปลือย กับเฮดเดอร์ ต้องใส่กล่องเพิ่มเพื่อจูนไฟ และ น้ำมัน จึงจะเหมาะสม แต่ถ้าไม่ใส่กล่องเพิ่ม ก็ไมควรติด เพราะไฟ น้ำมัน ปกติ จะให้แย่ลงกว่าเดิมถูกไหมครับ ขอบคุนครับ
วันที่: 22 Jan 14 - 09:19

 ความคิดเห็นที่: 14 / 30 : 805783
โดย: B4LL
ถ้าไม่ใส่กล่องก็ไม่ถึงแย่หรอกครับ. จากเวลาที่ผมให้ดู 0-100 เร็วกว่าเดิมถึง 1 วินาที
ความเร็วเข้าเส้นก็เร็วขึ้น

อย่างที่คุณ Hard บอกว่านิยามความแรงของคุณ หลังคาแดง
อยู่ตรงไหน เพราะกล่องเสริมปัจจัยหลักที่ใส่กันเพระปลดล็อคความเร็วมากกว่า
แรงม้ามันจะเพิ่มมา 5-10 ตัว (อันนี้ตัวแทนติดตั้งกล่องเค้าบอกมา)

แต่ผมไม่รู้ลิมิตของกล่องเดิมด้วยว่ามันสั่งได้แค่ไหน
ลองใส่กรองกับเฮดเดอร์ดูก่อนก็ได้ครับว่าพอใจหรือยัง
วันที่: 22 Jan 14 - 14:42

 ความคิดเห็นที่: 15 / 30 : 805789
โดย: Hard
อาจจะลองดูแบบนี้ก่อนก็ได้ครับ เป็นแนวทางเดียวกับที่ผมจะทำ....

คือผมมีแผนจะเอารถไปทำ light Tuning โดยไม่อยากเปลี่ยนไส้ใน ซึ่งมีคุยกับร้านจูนกล่องไว้บ้างแล้ว เค้ายืนยันว่าหลังจากใส่กล่องเข้าไป แล้วจูนใหม่ สามารถเพิ่มได้ประมาณ 10-20 แรงม้า ซึ่งอะไหล่เดิมจากโรงงานทนได้สบาย ค่าใช้จ่ายสำหรับกล่องพร้อมจูนไม่เกินหมื่นห้า เป็นกล่อง KKT ครับ

ปล.เป็นข้อมูลเบื้องต้นนะครับ ผมกำลัวศึกษาอยู่...
วันที่: 22 Jan 14 - 15:57

 ความคิดเห็นที่: 16 / 30 : 805793
โดย: หลังคาแดง
ทำ light tunung เปลี่ยนกรองอากาศ เฮดเดอร์+พักปลาย หัวเทียน สายหัวเทียน ถูกไหมครับในความหมาย แล้ว บวกกล่องจูนไปอีกใบ
วันที่: 22 Jan 14 - 17:06

 ความคิดเห็นที่: 17 / 30 : 805795
โดย: B4LL
ตามนั้นเลยครับท่าน แต่ระวังเรื่องท่อต่างๆนิดนึงนะครับ
หากใหญ่เกินไปจะทำให้ม้าหดได้แต่เครื่อง FS-ZE ผมว่า
คงไม่ยากเท่าไรถ้าจะให้ถึง 200 ม้า ( ที่เครื่อง )

หรือให้ทะลุ 200 ม้าก็ไปเซ็ตโบไปเลย แต่ก็ต้องมานั่ง
กังวลเรื่องเกียร์ AT อีกว่าจะอยู่กับเราไปได้นานแค่ไหน

ขอให้มันส์กับการแต่งครับ
วันที่: 22 Jan 14 - 17:51

 ความคิดเห็นที่: 18 / 30 : 805799
โดย: หลังคาแดง
ถ้าแรงขนาดนี้ เรื่องระบบ เบรคกับโชค นี่ อัพเป็นตัวไหนครับนิ
วันที่: 22 Jan 14 - 19:51

 ความคิดเห็นที่: 19 / 30 : 805835
โดย: B4LL
ระดับ 200 ม้าเบรคเดิมๆเอาอยู่ครับ (ในกรณีที่ระบบเบรคเป็นรุ่น 2.0 อยู่แล้ว)
เพระ 200 ม้าในเกียร์ออโต้มันไม่ได้น่ากลัวขนาดต้องอัพเกรดคาลิปเปอร์ครับ

ส่วนโช้คอัพต้องถามคุณ Hard ละครับว่า K Sport ใส่แล้วรู้สึกยังไงบ้าง
วันที่: 23 Jan 14 - 15:44

 ความคิดเห็นที่: 20 / 30 : 805841
โดย: Hard
โช๊คผมไม่เคยใช้ยี่ห้ออื่นอ่ะครับ เลยไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบ ที่ใส่อยู่พอใจมากครับ สามารถปรับความหนืดได้ 36 ระดับ แต่อาจจะเป็นเพราะผมขับรถที่โช๊คเดิมเป็นโช๊คโมเอง เลยลืมเรื่องความนุ่นนวลไปนาน พอมาเจอโช๊คนิ่ม ๆ ก็เลยรู้สึกว่านิ่มสบายกว่าของเก่า ถ้าปรับหนืดน้อย วิ่งเร็ว ๆ ก็ย้วย ๆ แต่ถ้าปรับหนืดมากก็จะแข็งหน่อย ๆ แต่ก็หนึบกว่าครับ
วันที่: 23 Jan 14 - 17:09

หน้าที่: [1]   2