ไม่มีอะไรครับ แค่เข้ามาแชร์การทดลองให้อ่านกันดู
เครื่อง kl ผมมันดังเหมือนเครื่องรถกระบะมาเป็นปีแล้ว แม้จะเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาสดๆ ใหม่ๆ (แต่เมื่อก่อนมันไม่ดังนะ) ต้องขับไปไกลเป็น 20 - 30 กิโลเมตร เสียงมันถึงจะเงียบเหมือนตอนได้มันมาใหม่ๆ เดาว่ารูส่งน้ำมันเครื่องไปถ้วยไฮดรอลิค ถ้วยวาล์ว หรือซอกหลีบต่างๆ มันตีบตัน ผมใช้กรองเปลือยด้วยฝุ่นน่าจะเข้าไปรวมอยู่ในน้ำมันเครื่องเยอะ
ผมได้เข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง วาล์วไฮดรอลิกดัง ในเว็บบอร์ดนี้ ไล่อ่านไปหลายกระทู้ไปปิ๊งอยู่กระทู้หนึ่ง พี่น้องเราคุยกันไว้ในกระทู้นั้นว่า ถ้าไม่ถอดถ้วยวาล์วออกมาล้างก็ยังมีวิธีง่ายๆ และประหยัดกว่า คือใช้น้ำยาฟลัชชิ่ง แต่ก็เสี่ยงต่อความเสียหายต่อพวกปะเก็น ซีลยางต่างๆ แต่ถ้าทำตามคู่มือที่แนะนำก็ไม่มีปัญหาอะไร
ผมเลยไปหาซื้อน้ำยาที่ว่านี้มาจากโลตัส ราคาขวดละ 220 บาท (น้ำยาฟลัชชิ่งนะครับ ไม่ใช่หัวเชื้อน้ำมันเครื่องหรือทรีทเม้นอะไรพวกนั้น) ได้ฤกษ์เปลี่ยนน้ำมันเครื่องพอดี เลยเทลงไปติดเครื่องเดินเบาไว้ คู่มือบอกให้เดินเบาไว้ 10 - 20 นาที ผมฉลาดเกินเดินเบาไว้ 40 นาทีเลย 5555 ในขณะผสมสารตัวนี้ลงไปเขาบอกให้เดินเบาเท่านั้นนะครับ อย่าใช้รถหรือเร่งเครื่องแรง
เสร็จแล้วถ่ายน้ำมันเครื่องออก เห็นผลพอประมาณครับ ในน้ำมันเครื่องมีฝุ่นดินผสมอยู่เหมือนโอวัลตินดำๆ (ปกติผมถ่ายน้ำมันเครื่องออกมันแค่เป็นน้ำมันสีดำ) ผมเอาเศษน้ำมันเครื่องที่เหลือใช้เทล้างลงไปอีกที รอจนมันไหลออกหมดแล้วเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง เติมน้ำมันเครื่องจนเต็ม ทิ้งไว้หนึ่งคืน (ผมทำตอนกลางคืนนะครับ กลางวันไม่ค่อยมีเวลา)
เช้ามาสตาร์ทรถลองของ เสียงวาล์วดังแค่ สองแต็ก เองครับ เครื่องเงียบบบบบ แล้วรู้สึกว่ามันเดินเรียบกว่าเดิมนิดหน่อย ตอนนี้ก็กำลังเฝ้าดูอาการไปเรื่อยๆ ก่อนครับว่าจะมีหยดมีรั่วมีซึมตรงไหนรึเปล่า แต่พอทำอย่างที่ว่าแล้วผมอัดรถไปเที่ยว อ.ด่านซ้าย อ.น่าแห้ว อ.ภูเรือ ขึ้นเขาลงเข้าเป็นระยะทางกว่า 400 กม. มา จนถึงทุกวันนี้ผลก็ยังเป็นที่น่าพอใจอยู่ สตาร์ทปุ๊ปเครื่องก็เงียบปั๊บเลยและยังไม่มีรั่วซึม...
ใครอยากลองก็ จัดกันไปครับ ผมลองให้แล้วหนึ่งเคส 555