เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน บนถนนแห่งหนึ่งใน กทม. มีรถยี่ห้อโตโยต้าสีดำคันหนึ่ง ได้ขับไปบนถนนเส้นนั้นโดยในรถคันดังกล่าว มีเพียงชายผู้หนึ่งที่กำลังขับรถอยู่เพียงคนเดียวและในระหว่างทางที่ขับไปนั้นชายดังกล่าว ได้จอดรถแวะข้างทางเพื่อซื้อกาแฟ 1 ถุง และได้ออกรถไปจนกระทั่งขับมาถึงสี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง ชายดังกล่าวก็ได้จอดติดไฟแดงอยู่ จนมีรถตำรวจคันหนึ่ง ซึ่งขับนำรถเบนซ์มา ได้บีบแตรไล่รถที่ชาย ผู้นั้นจอดติดไฟแดงอยู่นั้นให้ถอยไป และรถตำรวจยังได้พูดผ่านไซเรนว่า
"เป็นรถนำขบวนรัฐมนตรี ให้รถของชายดังกล่าวหลบไป"
แต่รถของชายผู้นั้นก็ไม่หลบให้ จนกระทั่งตำรวจได้ลงจากรถมาที่รถของชายดังกล่าวและเรียก ให้ชายผู้นั้นลงจากรถ พอชายผู้นั้นได้ลงมาจากรถตำรวจได้เห็นชายคนนั้นถึงกลับเป็นลมล้มทั้งยืน สร้าง
ความตกใจให้แก่ตำรวจอีกคนที่นั่งอยู่ในรถ จนต้องวิ่งลงมาดูพร้อมกับรัฐมนตรี พอตำรวจและรัฐมนตรีมาถึง ทั้งคู่ ได้เห็นชายดังกล่าว ทั้งตำรวจ และรัฐมนตรีได้นั่งลงไปกับพื้นทันทีเสมือนกับว่าขาทั้ง 2 ข้าง ได้อ่อนแรงลงไปทันใด และ ได้เงยหน้ามองดูชาย ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าตนด้วยอาการตัวสั่น ชายคนนั้นที่ทั้งคู่ได้เห็น เป็นชายที่มีรูปอยู่ บนธนบัตร ซึ่งก็คือ " ในหลวงองค์ปัจจุบัน "
ในหลวงได้ทรงตรัสถามรัฐมนตรี และตำรวจติดตามว่า "พวกท่าน จะรีบไปไหนหรือถึงกลับจะต้องฝ่าไฟแดง ข้าพเจ้ายังรอติดไฟแดงได้เลย" รัฐมนตรีไม่ตอบได้แต่นั่ง ตัวสั่นและกราบลงบนพระบาทและ
ในหลวงก็ได้ทรงขึ้นรถ ตำรวจที่นำขบวนรัฐมนตรีมานั้นก็ได้ทูลว่า
"ให้ข้าพระพุทธเจ้าขับรถนำรถพระที่นั่งของพระองค์ไปมั๊ยพุทธเจ้าข้า"
ในหลวงทรงตรัสว่า "เราไม่ต้อง ให้ท่านมานำขบวนรถเราหรอกเราขับไปเองคนเดียวได้ท่านไปนำรถของท่านรัฐมนตรีเถอะ"
และในหลวงก็ได้ทรงขับรถออกไปจากสี่แยกนั้น โดยไม่ได้มีรถตำรวจนำไปแต่อย่างใดเลย
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
Cr. คำคมให้คิด ได้ชีวิตเป็นสุข
ในโลกนี้ไม่มีใครเทียบพระองค์ได้จริง ๆ