Close this window

ขอปรึกษาเรื่องเข็มความร้อน
เวลาขับตอนกลางคืนเวลารถวิ่งเข็มมันตกลงมาเกือบขีดล่างเลยอ่ะคับ

แต่พอจอดติดไฟแดงก็เด้งขึ้นมาปกติ เป็นเฉพาะกลางคืน ตอนกลางวันปกติ

โดย: pancho   วันที่: 21 Aug 2012 - 15:28

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 22 : 734621
โดย: pancho
ตอนติดไฟแดง มันก็ค่อยๆขึ้นมาปกติ
วันที่: 21 Aug 12 - 15:29

 ความคิดเห็นที่: 2 / 22 : 734622
โดย: pancho
ขับกลางวันก็ปกติ
วันที่: 21 Aug 12 - 15:30

 ความคิดเห็นที่: 3 / 22 : 734635
โดย: โจ้_ชม@นิวซีดาน
สงสัยวาล์วน้ำเปิดค้าง
วันที่: 21 Aug 12 - 16:28

 ความคิดเห็นที่: 4 / 22 : 734642
โดย: Yut13
ไม่มีวาวล์น้ำมากกว่า
วันที่: 21 Aug 12 - 17:13

 ความคิดเห็นที่: 5 / 22 : 734651
โดย: pancho
อาการมันเป็นๆหายๆอ่ะครับ บางวันก็เป็นบางวันก็ไม่เป็น
วันที่: 21 Aug 12 - 17:29

 ความคิดเห็นที่: 6 / 22 : 734659
โดย: ทวีรัฐ
ติดแก๊ส มารึเปล่าครับ
เจอหลายราย ผมเองก็เจอ แรกๆ เขาอาจดึงกราวด์ร่วม ไม่เหมาะครับ
วันที่: 21 Aug 12 - 18:05

 ความคิดเห็นที่: 7 / 22 : 734660
โดย: pancho
ไม่ได้ติดแก๊สครับ
วันที่: 21 Aug 12 - 18:10

 ความคิดเห็นที่: 8 / 22 : 734661
โดย: เก
ลองเปิดไฟขับตอนกลางวันดูยังครับ
ผมเดาว่าอาจจะเป็นที่ระบบไฟ ถ้าเป็นที่วาล์วน้ำค้างหรือไม่มี มันน่าจะอาการเดียวกันทั้งกลางวันและกลางคืน (หรือเพราะกลางวันมันร้อนกว่าหว่า)
วันที่: 21 Aug 12 - 18:14

 ความคิดเห็นที่: 9 / 22 : 734688
โดย: BIG DDT
วาล์วน้ำ อ่ะ ไปหามาใส่ ซะ



รึไม่ก็ เช็ค ลมยาง คร๊าบบบบบบบ
วันที่: 21 Aug 12 - 20:19

 ความคิดเห็นที่: 10 / 22 : 734736
โดย: Fujiwara Takumi
น่าสงสัยสุดก็วาล์วน้ำอะครับ น่าจะไม่ได้ใส่มา แต่สงสัยตรงที่ท่าน pancho ว่าอาการมันเป็น ๆ หาย ๆ อ่ะครับ บางวันก็เป็นบางวันก็ไม่เป็น

เอามาฝากครับ
ข้อเสียของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
ส่วนใหญ่จะมีอาการกำลังตกบ่งบอกล่วงหน้า คือเหยียบไม่ขึ้น(แต่บางคันก็ไม่มีอาการนี้)บางท่านที่ฮีท เข็มความร้อนก็ปกติ แต่อยู่ดี ๆ ก็ตายคาถนน เครื่องยนต์ร้อนจนล๊อกไปเลยก็มีครับ
1. ไม่มีระบบป้องกัน หรือเตือนภัย เมื่อพบว่าน้ำหล่อเย็นรั่ว น้ำในหม้อน้ำพร่อง ไฟแดงสำหรับเตือนภัยที่มีในรถหลายๆรุ่น ไม่สามารถเตือนภัยได้จริง เพราะร้อนจนเครื่องพังไปแล้ว ไฟจึงติด
2. เข็มความร้อน แสดงค่าหยาบเกินไป บางครั้งสังเกตได้ยากว่าเครื่องร้อนเกินค่าปกติไปหรือยัง
3. อุปกรณ์ระบบระบายความร้อนชำรุดเสียหาย ก็ไม่มีระบบตรวจวัดใดๆ ให้มา ยังสามารถใช้รถคันนั้นไปได้เป็นปกติ จนกว่ารถจะพังไปเลย
4. เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5-6 ปี ย่อมมีอุปกรณ์เสื่อมชำรุด เช่น หม้อน้ำ ควรล้างหรือเปลี่ยนใหม่ ปั๊มน้ำ ควรเปลี่ยนใหม่เพราะอาจเกิดการรั่วซึม ตรงนี้ท่านผู้ใช้ต้องเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาเอง เว้นแต่ใช้บริการที่ศูนย์ฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพง
5. เมื่อใช้ไปแล้ว เกิดมีการรั่วในระบบ เช่นรั่วที่รอยต่อท่อน้ำ ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้ตรวจพบได้ยาก เพราะไม่ใช่ช่าง รอยรั่วเป็นรอยเล็กๆ น้ำที่รั่วออกมาได้จะรั่วในขณะที่เครื่องร้อนและมีแรงดันสูงดันให้น้ำรั่วออกมา และเป็นน้ำเดือด เมื่อออกมาก็กลายเป็นไอไปในอากาศ อาจเหลือเป็นคราบน้ำนิดหน่อย พวกตาเซียนจะมองเห็น น้ำในระบบก็จะค่อยๆหายไปเรื่อยๆ แต่น้ำในหม้อพักน้ำยังคงมีในระดับปกติ เนื่องจากเวลาหม้อน้ำเย็นลง ก็จะดูดเอาอากาศเข้าไปแทนที่น้ำ ตามทางรอยรั่วนั้น น้ำในหม้อพักจึงไม่ถูกดูดกลับไป น้ำในหม้อน้ำก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ โดยผู้ใช้ก็จะหลงเข้าใจผิดว่า น้ำยังเต็มหม้อน้ำอยู่ ทำให้เผลอ และใช้งานต่อไป ไม่ทำการซ่อม จนเครื่องพังได้ในที่สุด
วันที่: 22 Aug 12 - 00:54

 ความคิดเห็นที่: 11 / 22 : 734737
โดย: Fujiwara Takumi
จาก www.gasthai.com ครับ
ปัญหาที่พบกันบ่อยและข้อสันนิษฐานหาที่เสีย
1. เข็มความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ไม่ว่าวิ่งเร็ววิ่งช้า หรือติดไฟแดงนานๆ
1.1 ระดับน้ำในหม้อน้ำ ปกติ
1.2 ระดับน้ำในหม้อพักน้ำ ปกติ
1.3 พัดลมหม้อน้ำ เดินและหยุดเดิน ปกติ
1.4 เห็นการไหลของน้ำในหม้อน้ำ (จากการเปิดฝาดู) ปกติ
1.5 สีของน้ำ มีสนิมปน ที่ฝาหม้อน้ำ มีคราบสนิมเกาะ นิดหน่อยไม่มากนัก
ข้อสันนิษฐาน อาการเสีย
1.1 วาล์วน้ำเสื่อม เปิดให้น้ำผ่านในอุณหภูมิที่สูงกว่าเดิม เพราะกลไกเริ่มฝืดตัว
1.2 หน้าปัดเรือนไมล์เสื่อม วัดความร้อนได้ผิดจากเดิม
1.3 ตัววัดอุณหภูมิเสื่อม หรือมีคราบตะกรันน้ำ หรือหินปูนเกาะมาก วัดได้ค่าผิดพลาด คือวัดได้น้อยกว่าความเป็นจริง
1.4 แบตเตอรี่เสื่อม เก็บไฟไม่ค่อยอยู่ และมีแรงดันสูงเกินไปเวลาวิ่งเร็ว ทำให้อ่านค่าผิด
2. เข็มความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ เฉพาะตอนติดไฟแดงนานๆ เวลาวิ่งไม่มีปัญหา
2.1 ระดับน้ำในหม้อน้ำ ปกติ
2.2 ระดับน้ำในหม้อพักน้ำ ปกติ
2.3 พัดลมหม้อน้ำ เดินและหยุดเดิน ปกติ
2.4 เห็นการไหลของน้ำในหม้อน้ำ (จากการเปิดฝาดู) ปกติ
2.5 สีของน้ำ มีสนิมปน ที่ฝาหม้อน้ำ มีคราบสนิมเกาะ นิดหน่อยไม่มากนัก
ข้อสันนิษฐาน อาการเสีย
2.1 วาล์วน้ำเสื่อม ค้างอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ปิดและไม่เปิดสุด เวลาวิ่งเร็วๆ สามารถระบายความร้อนได้ทัน แต่ติดไฟแดงนานๆ ระบายไม่ทัน ในกรณีนี้พัดลมเมื่อเดิน จะเดินนานกว่าปกติ
2.2 ใบพัดลมหม้อน้ำเสีย ไม่ตักลม คือหมุนเป็นปกติ แต่ได้ลมน้อย ต้องอาศัยการวิ่งของรถด้วยจึงจะเอาชนะความร้อนได้ หรือความเร็วพัดลมลดลง หรือฝืด
3. เข็มความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ทั้งตอนรถติดและรถวิ่ง
3.1 ระดับน้ำในหม้อน้ำ ลดลงเล็กน้อย เช่น ต้องเติมสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละครึ่งลิตร
3.2 ระดับน้ำในหม้อพักน้ำ ปกติ
3.3 พัดลมหม้อน้ำ เดินและหยุดเดิน ปกติ
3.4 เห็นการไหลของน้ำในหม้อน้ำ (จากการเปิดฝาดู) ปกติ
3.5 สีของน้ำ มีสนิมปน ที่ฝาหม้อน้ำ มีคราบสนิมเกาะ นิดหน่อยไม่มากนัก
ข้อสันนิษฐาน อาการเสีย
มีการรั่วซึมในระบบระบายความร้อนแน่นอน ต้องหาที่รั่วซึมนี้ให้พบโดยเร็ว เพราะท่านอาจเผลอไม่ได้ตรวจและเติมน้ำในบางครั้ง เครื่องอาจจะร้อนจะเกิดความเสียหายได้ ที่เสีย สามารถเกิดได้จาก
3.1 ปั๊มน้ำ ซีลปั๊มน้ำรั่ว สังเกตได้จากการที่เห็นคราบน้ำในตัวเครื่องยนต์บริเวณปั๊มน้ำ
3.2 ขั้วต่อสายยางเข้ากับเครื่องยนต์ ตามจุดต่างๆ รวมทั้งที่ต่อพ่วงไปหม้อต้มแก๊สด้วย ถ้าเป็นที่สายยาง อาจมองไม่เห็นรอยรั่วด้วยตาเปล่า เพราะรั่วออกด้วยแรงดัน และเวลารั่วออกก็ไม่ปรากฏคราบน้ำให้เห็นเพราะกลายเป็นไอไปเลย
3.3 หม้อน้ำผุ รั่ว จะเห็นคราบสนิมหรือคราบน้ำที่รั่วได้
3.4 ตาน้ำรั่ว แผ่นตาน้ำที่ทำมาจากโรงงานเป็นโลหะขึ้นรูปอัดอยู่ที่ตัวเครื่องยนต์ ทำหน้าที่ปิดไว้กันน้ำรั่วตรงจุดที่เจาะไว้เพื่อสร้างทางเดินน้ำ นานๆเข้าเกิดการผุกร่อนและรั่ว จะเห็นคราบน้ำได้ชัดเจน
3.5 ปะเกนฝาสูบรั่ว ตรงส่วนที่เป็นรูน้ำ เกิดการรั่วซึมกับอากาศด้านนอก หรือรั่วซึมเข้าห้องเผาไหม้ได้ ทำให้น้ำถูกดูดเข้าไปห้องเผาไหม้ และพ่นออกทางท่อไอเสีย ในลักษณะของไอน้ำ น้ำในระบบจะลดลงเรื่อยๆ
*** เนื่องจากแต่ละข้อ การจะเข้าไปทำการตรวจวัด ต้องถอดอุปกรณ์หลายๆอย่าง เช่นหม้อน้ำ ปั๊มน้ำ สายยาง ดังนั้นบางอย่างอาจจะไม่คุ้มค่าที่จะใส่กลับเข้าไปอย่างเดิม จึงแนะนำให้ทำดังนี้
- สายยาง ถ้าอายุ 3 ปีแล้ว เปลี่ยนเลย เว้นแต่เส้นที่อยู่ใกล้ๆและอยู่ข้างนอกสามารถเปลี่ยนได้ง่ายภายหลัง เส้นที่อยู่ลึกๆ เปลี่ยนยากควรจะถือโอกาสเปลี่ยนใหม่ให้หมด
- ถือโอกาสล้างหม้อน้ำไปเลย เช็ครั่วใหม่ เปลี่ยนฝาหม้อน้ำและวาล์วน้ำใหม่
- ล้างระบบระบายความร้อนทั้งระบบ 1 ครั้ง ด้วยน้ำยาล้างระบบ จะทำให้ต่อไปจะเป็นสนิมน้ำได้ยากขึ้น
4. มีฟองอากาศพุ่ง ในหม้อพักน้ำ
4.1 น้ำในหม้อน้ำ ลดลง ต้องคอยเติม เช่นสัปดาห์ละครั้ง
4.2 น้ำในหม้อพักน้ำ ไม่ลด
สงสัยว่า ปะเกนฝาสูบจะรั่ว ลักษณะจังหวะระเบิด มีแรงอัดในห้องเผาไหม้สูงมาก ทะลุปะเกนมาในระบบระบายความร้อนได้ ทำให้เป็นฟองอากาศในหม้อน้ำ และดันออกไปถึงหม้อพักน้ำได้ แต่ยังเป็นการรั่วน้อยๆ ทำให้จังหวะดูดน้ำกลับหม้อน้ำ ไม่ได้ดูดน้ำไปมาก เนื่องจากดูดเอาไอดีจะง่ายกว่า
5. น้ำในหม้อพักน้ำลดลง
5.1 น้ำในหม้อน้ำไม่ลด เต็มอยู่ตลอดเวลา
5.2 เข็มความร้อนปกติ การใช้งานปกติ
ถือเป็นปกติ แต่อาจมีการระเหยเร็วเกินไป เช่นลืมปิดฝาหม้อพักน้ำไว้
6. น้ำล้นหม้อพัก
6.1 น้ำในหม้อน้ำไม่ลดลง เต็มอยู่ตลอดเวลา
6.2 เข็มความร้อนปกติ
6.3 เป็นที่ความเร็วสูง เช่นวิ่งทางไกลประมาณ 100 กม. ขึ้นไป
อาการนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างไปของระบบ ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดขึ้น โดยปกติแล้ว เมื่อเติมน้ำที่ขีดสูงสุดในหม้อพักน้ำ (Max) ปริมาตรที่เหลือในหม้อพักน้ำก็ยังคงมีมากพอที่จะรับปริมาณน้ำที่เกิดจากการขยายตัวของน้ำทั้งระบบได้ เว้นแต่
- ไปเปลี่ยนขนาดหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น รองรับปริมาณน้ำได้มากขึ้น เมื่อเกิดการขยายตัว ก็จะขยายตัวได้มากขึ้น จำนวนน้ำที่ไหลมาเก็บกักไว้ที่หม้อพักน้ำก็จะมีปริมาณมากขึ้น จนขนาดของหม้อพักน้ำไม่พอ วิธีแก้คือเปลี่ยนหม้อพักน้ำให้มีขนาดความจุมากขึ้น
- เปลี่ยนขนาดหม้อพักน้ำใบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำที่ขยายตัวตอนเครื่องร้อนไว้ได้
- เครื่องร้อนมากกว่าเดิม เช่นแต่งเครื่องยนต์มา ปาดฝาสูบ ติดเทอร์โบ การขยายตัวของน้ำจึงมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เข็มความร้อนก็ควรจะแสดงค่าสูงขึ้นด้วย
7. เข็มความร้อนขึ้นสูง กำลังรถตก เร่งไม่ขึ้น
อันตรายกำลังบังเกิด ให้ค่อยๆเบาเครื่องเข้าข้างทาง ถ้าขับมาไกลมาก ยังไม่ต้องดับเครื่อง เปิดฝากระโปรงรถ ใจเย็นๆ ตั้งสติดีๆ แล้วทำดังนี้ ( ยังไม่ฮีทน่ะครับ )
7.1 มองดูว่าน้ำในหม้อพักน้ำปกติดีหรือไม่ ถ้าลดลงมาก สามารถเติมได้ทันทีจนล้นเลยก็ได้
7.2 ดูว่าพัดลมหม้อน้ำทำงานหรือไม่ ถ้าไม่ทำ ลองเปิดเครื่องปรับอากาศดู ถ้าทำงานพร้อมเครื่องปรับอากาศ ให้เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ ไม่ต้องกลัวว่าจะยิ่งไปเป็นภาระแก่เครื่องยนต์ การที่พัดลมไม่ทำงาน จะเป็นอันตรายกว่า ถ้ารู้ว่าสายคอมฯแอร์เป็นเส้นไหน จะถอดปลั๊กคอมฯ ก็ดีแต่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ยังไงๆ ก็ให้พัดลมทำงานไว้ก่อนก็แล้วกัน
7.3 หาแหล่งน้ำ เช่นก๊อกน้ำ ตักน้ำมาค่อยๆราดตัวหม้อน้ำแถวๆฝาหม้อน้ำบน ระวังน้ำที่ราดหม้อน้ำอาจจะเดือดเป็นไออย่างรุนแรงได้ ให้ค่อยๆราด ไล่จากข้างบนลงข้างล่าง ไปจนทั่วรังผึ้ง อาจใช้น้ำดื่มราดก็ได้ ถ้าจำเป็น
7.4 หาผ้าขี้ริ้วปิดที่ฝาหม้อน้ำ ค่อยๆบิดเปิดฝาหม้อน้ำ ระวังโดนไอน้ำเดือดลวกผิว ให้ทำด้วยความระมัดระวัง ถ้าจะให้ดีต้องราดตัวหม้อน้ำให้มากที่สุด จนแรงดันในหม้อน้ำหดตัวลงมากพอที่จะเปิดได้โดยไม่เกิดอันตราย
7.5 ค่อยๆเทน้ำลงในหม้อน้ำ ถ้ามีน้ำร้อนให้ใช้น้ำร้อน (สมมุติว่าเสียที่หน้าร้านขายกาแฟพอดี ให้ซื้อน้ำร้อนจากร้านกาแฟมา 1-2 หม้อ มาเทใส่ในหม้อน้ำ) ถ้าเทน้ำเย็นต้องค่อยๆเทลงไป เพราะเครื่องยนต์ขณะนี้ร้อนมาก โดนน้ำเย็นทันที น้ำจะระเบิดพลุ่งพล่าน
7.6 เครื่องจะค่อยๆเย็นลง จนถึงอุณหภูมิปกติ ราดน้ำที่หม้อน้ำไปเรื่อยๆ ให้เย็นลงอีกก่อนที่จะขับรถต่อไปยังอู่หรือบ้าน เพื่อทำการซ่อมต่อไป
**** ถ้าคิดว่าทำอะไรไม่ถูก ก็ดับเครื่องแล้วเปิดฝากระโปรงรถไว้ รอประมาณ 1 ชั่วโมงค่อยทำข้อ 7.4 – 7.6 ก็ได้
วันที่: 22 Aug 12 - 00:56

 ความคิดเห็นที่: 12 / 22 : 734742
โดย: ทวีรัฐ
ของ...ท่าน ทากุมิ ยาววววว แน่เลย
วันที่: 22 Aug 12 - 01:36

 ความคิดเห็นที่: 13 / 22 : 734743
โดย: ทวีรัฐ
โชคดี ผมเปิดฝากระโปรง
ดู แมว
เปิดฝาหม้อ....เอานิ้วแหย่ๆดูว่ามีตะกอนสนิมมากแค่ไหน ก็ทำให้ได้เช็คระดับน้ำทุกวัน
วันที่: 22 Aug 12 - 01:39

 ความคิดเห็นที่: 14 / 22 : 734748
โดย: pancho
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคุณ Fujiwara Takumi ครับ

คงต้องไปหาที่เช็คลมยาง เอ๊ย!! เช็ควาวล์น้ำก่อนซะแล้วครับ

ไม่ทราบว่าอู่ทั่วๆไปก็สามารถดูให้ได้ใช่มั๊ยครับ

วันที่: 22 Aug 12 - 02:09

 ความคิดเห็นที่: 15 / 22 : 734749
โดย: pancho
ขอบคุณทุกๆข้อความของทุกไท่านด้วยครับ
วันที่: 22 Aug 12 - 02:10

 ความคิดเห็นที่: 16 / 22 : 734810
โดย: หนุ่ย แหลมฟ้าผ่า
ได้ความรู้ด้วยคน ขอบคุณครับ
วันที่: 22 Aug 12 - 11:25

 ความคิดเห็นที่: 17 / 22 : 734880
โดย: Yut13
ข้อ 7 ทั้งหมดนะ เคยทำมาแล้วหลายครั้งกับรถหลายคันแต่ไม่อยากจะให้ทำเพราะอาจจะพลาดบาดเจ็บถึงตาบอดได้พูดง่ายๆถ้าไม่มีทักษะช่าง อย่างผ้าขีริ้วนั่นต้องหนาแบบผ้าเช็ดตัวและชุปน้ำให้เปียกอย่างน้อยไอน้ำร้อนๆมาปะทะก็จะกลั่นตัวเย็นลงทันที และท่าทางการเปิดฝาก็ต้องอยู่ในท่าที่เซพมากที่สุด ฝาหม้อน้ำเป็นอย่างไรคิดให้ออก เพราะเราจะเปิดแค่ให้ความดันลดลง ไปก่อนแล้วถึงดึงออกมาเพื่อเติมน้ำแบบต่อเนื่องจนเครื่องเย็นลงจนสามารถดับได้โดยปลอดภัย ซึ่งควรจะเติมจากน้ำก๊อกนั่นแหละ

ดีที่สุดจอดรถไว้สักสองชั่วโมงแล้วค่อยกลัยเช็ค
วันที่: 22 Aug 12 - 15:17

 ความคิดเห็นที่: 18 / 22 : 734922
โดย: pharam3
ลองเอาสายไฟมาเส้นนึงครับ ต่อกับขั้วลบแบต เสร็จแล้ว ปลายสายอีกด้าน หายึด กับเหล็กตัวถังหรือน๊อตฝาครอบวาล์ว

ตาตี่เพือนผม และตาตี่ผมก็เคยเป็นครับ แก้ไงก็ไม่หายเปลี่ยนทุกอย่างแล้ว สุดท้ายเป็นที่กราด์ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

ขอให้เช็คทุกอย่างให้ แน่ใจก่อน ขอไว้เป็นข้อสุดท้ายที่ควรทำครับ
วันที่: 22 Aug 12 - 20:00

 ความคิดเห็นที่: 19 / 22 : 734930
โดย: ชมพู น้ำเงิน lantis
ถ้าวาล์วตายหรือเสีย น่าจะร้อนจนฮีทเลย เนื่องจากระบบระบายไม่ครบวงจร จนทำให้น้ำดันออกทางหม้อน้ำสำรอง จนน้ำหายหมดจนเครื่องเกิดความร้อนจนฮีท รึเปล่าครับ ส่วนกรณีของ จขกท เข็มตกลองทำตามคุณพระราม 3 ก่อนง่ายสุดครับผมว่านะ
สุดท้ายเป็นเพราะอะไรต้องมาชี้แจงด้วยนะครับ เพื่อเป็นความรู้ให้กับเพื่อนสมาชิกท่านอื่น ๆ ครับ
วันที่: 22 Aug 12 - 20:49

 ความคิดเห็นที่: 20 / 22 : 735032
โดย: Pe323
หม้อน้ำเดิมๆหรือปรับแต่งใหม่ครับผม เช่น ใหญ่กว่าเดิม ครับ

เคยถามบางท่านเหมือนกันครับ
วันที่: 23 Aug 12 - 10:09

หน้าที่: [1]   2