ขอคำชี้แนะด้วยครับ เวลาเดินทาง จะมีแรงดัน จากหม้อน้ำ ไปยังถังพักน้ำ จนทำให้น้ำในถังพักไหลออกที่รอระบาย จนแห้ง ต้องเติมน้ำที่ถังพักประจำ เกือบทุกวัน โดยเดินทาง
ไปทำงาน ๗๐ กม. และกลับระยะทางเท่ากัน ประมาณวันสองวันน้ำก็หมดถังพักแล้ว ส่วน
หม้อน้ำเมืื่อเปิดฝาหมอน้ำดูยังมีน้ำอยู่ แต่บางครั้งก็ต้องเติม อย่างนี้สาเหตุน่าจะมาจาก
อะไรครับ มีโอกาสกินข้าวลิงระหว่างเดินทางรึเปล่า ขอบคุณกูรูที่กรุณาให้ความกระจ่างครับ

โดย: เขียว   วันที่: 10 Jul 2012 - 11:11

 ความคิดเห็นที่: 1 / 36 : 724089

โดย: วิตต์

น้ำแห้งมี2อย่างนะครับ
1.รั่วในระบบ ต้องเติมน้ำบ่อยๆ
2.ดันออก
การแก้ก็ตามอาการ ถ้ารั่วก็เปลี่ยนตัวที่รั่ว
ถ้าดัน ตามที่จขกท.บอกมาก็ต้องดูว่าเกิดจากอะไร หม้อน้ำตัน ปะเก็นเสื่อม หรือฝาโก่ง
ถ้าหม้อน้ำตัน มักจะเกิดอาการเมื่อวิ่งเร็วๆใช้รอบสูงๆ เช็คเบื้องต้นคือดูว่าความร้อนขึ้นเวลาเหยียบเยอะๆถ้าลดความเร็วความร้อนจะลดลง
ปะเก็นเสื่อมหรือฝาโก่งเช็คโดยเติมน้ำให้เต็ม เปิดฝาหม้อน้ำ สตาร์ทเครื่อง แล้วดูว่ามีฟองอากาศผุดขึ้นมาในหม้อน้ำรึปล่าว หรือลองเร่งเครื่องดูถ้าน้ำกระฉูดขึ้นมาก็แสดงว่าใช่ตามนั้นเลย
แต่เอ แล้วV6มันมีปะเก็นกะฝาสูบ2อัน จะรู้ได้ไงหว่า ว่าข้างไหนที่เจ๊ง

 ความคิดเห็นที่: 2 / 36 : 724159

โดย: cronosgray

ผมไม่รู้ จขกท.อยู่กับ 626 v6 มานานแค่ไหน ขอตอบเดาสุ่มตามที่เข้าใจ(ซึ่งอาจจะผิด)นะครับ

ปกติน้ำในถังหม้อพักไม่ต้องเติมให้เต็ม จนเห็นด้วยตานะครับ เพราะจะเว้นที่ว่างในหม้อไว้รับน้ำกลับจากระบบเวลาน้ำในหม้อน้ำร้อนจะขยายตัวและไหลกลับเข้าสู่หม้อพัก หากเติมน้ำไว้เต็มน้ำก็จะล้นออกทางรูระบาย
พอจอดรถทิ้งจนเครื่องเย็น น้ำในระบบจะหดคัว น้ำในหม้อพักก็จะลดลง จนมองไม่เห็นด้วยตา จึงต้องมีก้านวัดระดับน้ำหม้อพักอยู่ด้วยงัยครับ

ทั้งนี้รอผู้เชี่ยวชาญมาตอบอีกที

 ความคิดเห็นที่: 3 / 36 : 724166

โดย: บอมบ์

ผมเดาว่า ฝาหม้อน้ำเสียครับ อันละ 80 ลองเปลี่ยนใหม่ดู

 ความคิดเห็นที่: 4 / 36 : 724171

โดย: พีระพล

ผมก็เดาว่าฝาหม้อน้ำเสีย เปลี่ยนฝาหม้อน้ำครับ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 36 : 724183

โดย: เขียว

ขอบคุณในคำแนะนำครับ จะไปหาซื้อฝาหม้อน้ำเปลี่ยนดูก่อนครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 36 : 724198

โดย: Yut13

เตืม Coolant ด้วยนะหลายคนหลายช่างคิดว่าไม่เป็นไร ไม่คืดบ้างว่าทำไมผู้ผลิตให้ใช้ มันมีแต่ข้อดีกว่าน้ำธรรมดาอยู่แล้ว อย่างน้อยน้ำในถังพักที่ผสม Coolant หรือใส่ 100% จะระเหยช้ามากเป็นเดือนน่ะถึงพร่อง และอย่าเติมให้เลยขีดเพราะถ้าล้นมันจะดึงน้ำออกเกินไปด้วย

 ความคิดเห็นที่: 7 / 36 : 724209

โดย: srithanon

ตามที่น้องๆได้ตอบแนะนำมานั้นก็ถูกครับ แต่อาการนี้ต้องมีขันตอนในการตรวจสอบว่ามันเกิดที่ส่วนใด การที่มีน้ำดันออกจากหม้อน้ำมาที่หม้อพักน้ำ มันก็บอกสาเหตุให้ทราบว่ามาจากอะไรบ้าง ปกติแล้วการที่น้ำในระบบน้ำหล่อเย็น เมื่อมีความร้อนที่เกิดขึ้นภายในระบบ จนกระทั้งน้ำเกิดขยายตัวทางปริมาตร และเมื่ออุณหภูมิความร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก จนถึง ณ จุดที่สภาวะน้ำเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอน้ำ เกิดแรงดันขึ้นในระบบ มันก็จะดันเอาน้ำและไอน้ำออกจากหม้อน้ำรถไปที่หม้อพักน้ำ และหากยังไม่สามารถทำให้น้ำในระบบหล่อเย็นระบายความร้อนออกไปได้ปกติ มันก็จะมีแรงดัน ดันน้ำออกไปจนล้นออกจากหม้อพักน้ำ

สาเหตุเนื่องจากการระบายความร้อนของหม้อน้ำ ที่มีพัดลมและสภาพของหม้อน้ำเป็นเงื่อนไข ที่จะก่อให้เกิดแรงดันน้ำ ที่มาจากการระบายความร้อนของหม้อน้ำ ระบายไม่ทันในสภาวะปกติ เช่นพัดลมมีรอบลดลงเพราะความชราภาพใช้มานาน หม้อน้ำอาจตันหรือ วัสดุโลหะชิ้นส่วนที่เป็นครีบระบายความร้อน เกิดสภาพผิวโลหะที่ผสมทองแดงหรือ โลหะผสม มีตระกรันอ๊อกไซด์จับ ทำให้การระบายเอาความร้อนแฝงจากน้ำที่ร้อนในหม้อน้ำออกไม่สะดวก สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยให้เกิดอาการดังที่กล่าวมาข้างบน นอกจากนั้น ตัวที่เข้ามาร่วมสังฆกรรมในเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ก็มาจากสาเหตุฝาสูบโก่ง ปะเก็นรั่ว รัยเทือกนั้นแหละ

ที่นี้เราจะมาตรวจสอบกันทั้งระบบเลยดีกว่า มันมาจากอะไรบ้าง ที่เกิดขึ้นในระบบน้ำหล่อเย็น ไม่ว่าจะมีน้ำรั่วในระบบตามข้อต่อ ท่อยางต่างๆ หรือมีแรงดันจากห้องสูบออกมาเข้าในระบบน้ำหล่อเย็น และจาก ปะเก็น รั่ว หรือเป็นเพราะฝาหม้อน้ำ มีแรงกดของสปริงไม่เหมาะสมกับแรงดันที่เกิดขึ้นในหม้อน้ำ เราจำเป็นต้องมีเครื่องมือตรวจสอบ ตามภาพข้างล่างนี้ ซึ่งผมจะมาสาธิตการใช้เครื่องมือตรวจสอบระบบน้ำหล่อเย็น ที่สามารถตรวจสอบอาการที่เกิดขึ้นได้ดีพอสมควร ไม่วาจะเป็นฝาสูบโก่ง ปะเก็นรั่ว น้ำรั่วตามจุดต่างๆ รวมทั้งเช็คแรงดันของสปริงฝาหม้อน้ำ ว่าถูกต้องตามสป็คหรือไม่
นอกจากนี้ก็มีเกจวัดกำลังอัด ในกรณีที่คิดว่าฝาสูบโก่ง เพราะการที่ฝาสูบโก่ง ไม่ได้ทำให้กำลังอัดของทุกสูบตกหรือลดลงไปทั้งหมด ก็จะมีบางสูบที่อยู่ตรงส่วนที่โก่ง มันก็จะมีกำลังอัดต่ำกว่ากระบอกสูบข้างเคียง ลองดูภาพเครื่องมือที่จะมาทดสอบให้ดูในคราวต่อไปครับ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 36 : 724213

โดย: srithanon

เครื่องมือเกจวัดกำลังอัดของกระบอกสูบ หากมีเวลาว่างจะเข้ามาต่อกระทู้ การตรวจสอบระบบน้ำหล่อเย็น, มีภาพประกอบการทดสอบให้ครับ ......srithano

 ความคิดเห็นที่: 9 / 36 : 724218

โดย: srithanon

ภาพตัวอย่าง

 ความคิดเห็นที่: 10 / 36 : 724260

โดย: เซนท์โซเฟียร์

ผมก็ว่าฝาหม้อน้ำน๊ะ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 36 : 724264

โดย: เขียว

กำลังน่าติดตาม มีเวลาว่างต่อยอดกระทู้ด้วยครับ

 ความคิดเห็นที่: 12 / 36 : 724272

โดย: วิตต์

ฝาหม้อน้ำก็น่าสงสัย
แต่ที่ผมคิดว่าหม้อน้ำตันเพราะเคยเจอว่าถ้าฝาหม้อน้ำเสีย น้ำในหม้อพักจะไม่หายแถมยังจะเพิ่มขึ้น แต่น้ำในหม้อน้ำจะลดลง เพราะมันเปิดให้น้ำในหม้อน้ำออกไปแต่ไม่ยอมดูดน้ำกลับเข้ามา

แต่ จขกท.ไม่ได้บอกว่าความร้อนขึ้นสูงรึปล่าว

 ความคิดเห็นที่: 13 / 36 : 724305

โดย: Jack_Chantaburi

ลองเช็คพวกท่อยางดูด้วยครับ

ผมน้ำถังพักหล่อเย็นลดลงตลอด (ต้องคอยเต็มแทบทุกวัน) ไปร้านหม้อน้ำเค้าเอากระบอกสูบมาอัดลมลงไปในหม้อน้ำ ถึงเห็นว่าท่อยางรั่วน่ะครับ

(รั่วเล็กมาก ๆ มองด้วยตาไม่เห็น เอาไปซ่อมร้านที่ไม่มีตัวอัดแรงดันหม้อน้ำเค้าก็มองไม่เห็น)

 ความคิดเห็นที่: 14 / 36 : 724345

โดย: srithanon

ก็เข้ามาตอบกระทู้ต่อ จะเริ่มด้วยการตรวจสอบการรั่ของระบบน้ำหล่อเย็น ว่าภายในหม้อน้ำ ในท่อยางต่างๆ ขั่วต่อของท่อ หรือในห้องเสื้อสูบ ......
ขั้นตอนของการใช้เครื่องมือ Radiator pressure tester kit. ก็คือในขั้นตอนแรก ก็ถ่ายน้ำในหม้อน้ำออก ประมาณพอมองเห็นช่องน้ำของรังผึ้ง จากนั้นก็เอาฝาหม้อน้ำจากชุดตรวจสอบ ที่ต่อเข้ากัยสายท่อยางของกระบอกสูบ ที่มีเกจวัดแรงดัน ใส่แทนฝาหม้อน้ำที่เอาออก จากนั้นให้ทำการสูบลมอัดเข้าไปในหม้อน้ำ ให้มีแรงดันที่เกจวัดแรงดัน เริ่มต้นที่ 15 PSI เมื่อได้แรงดันตามที่กล่าว แล้วไห้หยุดสูบปั้มกระบอกสูบ จากนั้นให้สังเกตุที่เกจมิเตอร์ ว่าจะมีแรงดันลดลงหรือไม่ ปล่อยทิ้งไว้สักสองสามนาที
หากสังเกตุเห็นว่า แรงดันที่เกจมิเตอร์เริ่มมีแรงดันลดลง จาก 15 PSI ลงมาน้อยหรือมาก ตามการรั่วภายในระบบ บางครั้งพบว่าพอสูบลมอัดเข้าไปตามที่กำหนด พอหยุดสูบอัดลม เข็มวัดแรงดันที่เกจมิเตอร์ ก็เริ่มทยอยลดลง หากรั่วมากก็ลดลงเร็ว หากรั่วน้อย ที่เกจมิเตอร์ก็ลดลงช้า

หากทิ้งไว้ปนะมาณสองสามนาที่แล้ว เกจวัดแรงดันยังอยู่เท่าเดิม แสดงว่าในระบบน้ำหล่อเย็นปกติ
แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุป ต้องทำการตรวจสอบขั้นตอนที่สอง โดยการเพิ่มแรงดันให้กับระบบน้ำหล่อเย็นอีก ก็สูบลมจากกระบอกสูบเพิ่มแรงดัน ให้อ่านที่ 20 PSI แล้วให้สังเกตุที่เกจวัดแรงดัน เข็มวัดแรงดันยังคงที่อยู่หรือไม่ หากคงที่ถือว่าผ่านการตรวจสอบการรั่าในระบบน้ำหล่อเย็น

สมมุติว่าในขั้นตอนที่สองหรือที่แรก เกิดเข็มวัดแรงดันลดลง เพราะแรงดันนั้นเริ่มรั่วออกตามรอยรั่วต่างๆของหม้อน้ำ ท่อน้ำ ข้อต่อ....... ก็ให้เราเอาน้ำสบู่ลาดลงไปตามข้อต่อต่างๆ ที่มีในระบบ แล้วให้สังเกตุฟองน้ำที่ปูดออกมา หากทดสอบตามข้อต่อต่างๆแล้วไม่พบรอยรั่ว ก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบที่รังผึ้งของหม้อน้ำ

การตรวจสอบรอยรั่วตามรังผึ้งของหม้อน้ำ อาจจะใช้น้ำสบู่ลาดลงไปไม่ได้ผล ต้องถอดหม้อน่ำออกมาทำการอัดลม ตามแรงดันขั้นที่สอง แบบที่ร้านหม้อนน้ำเขาเทสการรั่วของหม้อน้ำ โดยใช้ลมจากปั้มลมอัดลงไป แต่การอัดลมจากปั้ม ช่างหม้อน้ำอัดโดยพอสังเกตุว่ามีลมรั่วหรือไม่รั่ว ความจริงแล้วต้องกำหนดค่าแรงดันของลมที่อัดเข้าไป เพราะหากแรงดันต่ำๆ อาจจะไม่เกิดรอยรั่ว แต่หากเพิ่มแรงดันเข้าไป ตามตำราที่เขากำหนดมาจากการทดลอง อาจจะพบรอยรั่วในหม้อน้ำ การที่จะถอดเอาหม้อน้ำออกมา ทำการตรวจแรงดันหารอยรั่วข้างนอก ควรตรวจสอบการรั่ว ที่มาจากปะเก็นฝาสูบแตกรั่ว หรือเกิดจากฝาสูบโก่ง ทำให้มีอากาศจากแรงอัดของกระบอกสูบ รั่วเข้าไปที่ระบบน้ำหล่อเย็น

ขั้นตอนนี้ก็คือให้สูบลมอัดเข้าไปที่หม้อน้ำตามขั้นตอนแรก ให้มีแรงดันในระบบ ที่ 20 PSI (ตามตำรา) จากนั้นให้สตาร์ทเครื่องยนต์ให้มีรอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบ ให้สังเกตุที่เกจวัดแรงดันว่า ยังคงนิ่ง หรือสวิงไปมาตามการเร่งรอบของเครื่องยนต์ สมมุติว่าเข็มของเกจวัดแรงดัน สวิงไปมาอย่างนี้แล้ว แสดงว่าฝาสูบของเครื่องยนต์ อาจจะโก่งหรือมีประเก็นฝาสูบรั่ว หากเข็มวัดแรงดันไม่สวิง ถือว่าจุดรั่วที่ฝาสูบ ไม่มี

หากฝาสูบรั่วจากการคาดคะเนว่าน่าจะมาจาก ฝาสูบโก่ง ให้ทำการตรวจสอบกำลังอัดภายในกระบอกสูบแต่ละสูบ ในกรณีที่ฝาสูบโก่ง มันจะมีบางสูบเท่านั้นที่กำลังอัดรั่ม ตรงแนวที่ฝาสูบโก่ง กระบอกสูบอื่นคงปกติ เมื่อเป็นดังนี้ก็ต้องเอาเกจวัดกำลังอัดของกระบอกสูบ มาทำการวัดทีละสูบ ว่ากระบอกสูบไหนมีแรงอัดลดลงเมื่อเทียบกับกระบอกสูบข้างเคียง การที่สูบหนึ่งสูบใดมีกำลังอัดรั่ว จะต้องแยกแยะออกมาด้วย เพราะว่ากำลังอัดในกระบอดสูบรั่ว อาจจะมาจากสาเหตุบ่าวาวล์ปิดไม่สนิท แหวนลูกสูบหลวม สิ่งเหล่านี้ทำให้กำลังอัดตกลงก็จริง แต่จะไม่มาก แต่หากรั่วเพราะฝาสูบโก่งจะมีกำลังอัดลดลงมากกว่าการรั่งเพราะวาวล์ปิดไม่สนิท ก็ต้องมาวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจ

ในขั้นตอนที่จะตรวจว่าฝาสูบโก่งหรือปะเก็นฝาสูบรั่ว ที่สามารถตรวจสอบแบบตาดูหูฟัง ที่นิยมใช้หรือแม้แต่ในตำราก็แนะนำให้ทดสอบ กล่าวคือ ให้นำสายยางจากตรงขอบฝาปิดหม้อน้ำ ที่ต่อไปเข้าหม้อพักน้ำ หาท่อยางที่ยาวกว่าสวมแทน แล้วเอามาจุ่มใส่ถังน้ำที่มีน้ำอยู่ หรือจะเอาใส่ในขวดน้ำที่เปิดฝาเอามาวางที่พื้น หรือบริเวณที่ใกล้ๆหม้อน้ำ ให้สตาร์ทเครื่องยนต์เริ่มจากรอบเดินเบาในช่วงแรก ว่ามีฟองน้ำผุดลอยขึ้นผิวน้ำหรือไม่ หากมีแสดงว่ามีการรั่วจากปะเก็นฝาสูบหรือ ในกระบอกสูบ สูบใดสูบหนึ่ง ตามที่ผมบอกไว้เรื่องวัดกำลังอัดในกระบอกสูบแต่ละสูบ

เมื่อสังเกตุเห็นน้ำผุดขึ้นมาผิวน้ำในถังหรือขวดน้ำ แสดงว่ามันนรั่ตามที่กล่าว แต่ควรจะเร่งรองเครื่องยนต์ให้มีรอบเครื่องที่ 2000-3000 รอบ ดูว่ามีผุดของฟองน้ำเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ โดยมากจะเพิ่มขึ้นให้เห็นชัด
ทั้งหมดนี้เป็นการเทสว่ามีการรั่วในระบบน้ำหล่อเย็นอย่างไร เนื่องจากว่าในระบบน้ำหล่อเย็นไม่ได้หมายถึงปัจจัยเหตัชุที่กล่าวมาทั้งหมด ปัจจัยโรคแทรกซ้อนยังมีอีก เรื่องฝาหม้อน้ำ ก่อนที่จะกล่างเรื่องตรวจสอบฝาหม้อน้ำ ว่ามันทำงานปกติได้ค่าแรงดันที่กระทำต่อวาวล์สปริงฝาหม้อน้ำตามสเป็คหรือไม่ หรือมีวาวล์ปิดไม่สนิท ทำให้แรงดันในหม้อน้ำรั่วไปที่หม้อนน้ำ เมื่อยังมีแรงดันไม่ได้ตามค่าที่กำหนด ทำใให้เกิดปัญหาน้ำในหม้อน้ำแห้งและลดลง มาดูภาพประกอบในเรื่องที่กล่าวก่อนก้แล้วกัน



ภาพนี้เป็นชุด Kit สำหรับเทส(เหมือนข้างบนที่โพสมา)

 ความคิดเห็นที่: 15 / 36 : 724347

โดย: srithanon

ในภาพเป็นการเปิดฝาหม้อน้ำ และถ่ายน้ำส่วนหนึ่งออกตามที่กล่าวไว้ในขั้นตอนแรกในการตรวจสอบ

 ความคิดเห็นที่: 16 / 36 : 724348

โดย: srithanon

ขั้นตอนที่สอง เอาฝาหม้อน้ำสำหรับเทสใส่แทนฝาหม้อน้ำเดิม

 ความคิดเห็นที่: 17 / 36 : 724349

โดย: srithanon

เอาสายท่อกระบอกสูบสวมเข้ากับฝาหม้อน้ำสำหรับเทส

 ความคิดเห็นที่: 18 / 36 : 724350

โดย: srithanon

เป็นการปั้มสูบลมอัดที่ความดัน 15 PSI

 ความคิดเห็นที่: 19 / 36 : 724354

โดย: srithanon

หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้สังเกตุการรั่วถายในระบบ เมื่อผ่านไป สองสามนาที ก็ยังปกติ เข็มวัดความดันไม่ลดลง ถือว่าปกติในขั้นตอนแรก

 ความคิดเห็นที่: 20 / 36 : 724355

โดย: srithanon

เป็นการทดสอบระบบน้ำหล่อเย็นของรถ HONDA