เรื่องของแก็สระบบดูด หรือ Fix mixer มีปัญหาหลายอย่าง เพราะความไม่สมบูรณ์ของระบบ และมีปัญหาเรื่องการจ่ายปริมาณแก็สเข้าห้องไอดี ไม่เป็นไปตามความต้องการของรอบเครื่องยนต์ และหลายๆที่ที่ติดตั้งก็ไม่มีสูตรสำเร็จ ที่จะให้ยึดถือเป็นต้นแบบ ที่มีประสิทธิภาพ สูตรใครสูตรมัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละช่าง ผมคงไม่กล่าวในหลักการก็แล้วกัน เพราะผมก็ไม่เหมือนใคร และใครก็ไม่เหมือนผม
เข้าประเด็นดีกว่าครับ อาการที่คุณเล่ามา ต้องถามข้อมูลเพิ่มเติมว่า ใช้แก็สมากี่ปี่แล้วตั้งแต่ติดตั้งมา เพราะระยะเวลาในการใช้ สามารถที่จะบอกว่ามันเสื่อมและผิดปกติที่ส่วนไหน เป็นว่าผมร่ายาวๆเลยก็แล้วกัน ก่อนที่จะวกเข้ามาปัญหาของรถคุณ
รถที่ทำการติดตั้งแก็สระบบดูดมาและใช้งานมากกว่าปีครึ่งถึงสองปี อาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติก็คือ ประการแรกรถเริ่มบริโภคแก็สมากกว่าปกติ จากที่เคย 9-10 กม/ลิตร ก็เหลือประมาณ 6-7 กิโล/ลิตร อาการของเครื่องยนต์ วิ่งไม่ออก รอบเดินเบาคอนโทรลไม่ได้ วิ่งๆไปบางครับมันขออนุญาตพัก ดับกลางทางแบบไม่เกรงใจกัน บางครั้งจอดติดไฟแดง รอบตกเครื่องสั่นและก็ดับ ดับแล้วยังไม่พอใจสตาร์ทติดอยากแถมให้อีกต่างหาก สร้างความสนุกสนานให้กับเจ้าของรถ จนเหงื่อไหลใครย้อย เพราะอะไร
เนื่องจากว่าอุปกรณ์ภายในหม้อต้มแก็สเสื่อม ปกติแผ่นผ้าไดอะแฟรมของหม้อต้ม แผ่นยางหน้าสัมผัสของวาวล์ฉิ่งฉับ
วาวล์ที่ปล่อยน้ำแก็สจากกรองแกสมายังห้องเปลี่ยนสถานะของน้ำแก็สให้เป็นไอ และรวมถึงแผ่นยางของห้องต้ม ที่ทำหน้าที่กันน้ำไม่ให้ออกจากห้องต้ม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ย่อมมีสภาพผิดรูปไปจากเดิม พวกยางที่ปิดเปิดให้น้ำแก็ส และไอแก็สผ่าน กลับปิดไม่สนิท แผ่นไดอะแฟรมที่มีสภาพตึง กลับย่นไม่คงรูป แผ่นไดอะแฟรมรรูปร่างคล้ายฝาชี เมื่อถูกใช้งานไปนานๆ ทำให้ขี้แก็สที่คล้ายน้ำมันเครื่อง จับที่ผิวแผ่นไดอะแฟรม ทำให้ผิวของแผ่นย่น การที่ผิวของแผ่นไดอะแฟรมย่น ทำให้แรงดูดที่มาจากท่อไอดี ผ่านลิ้นปิกผีเสื้อ เข้าท่อยางมาเข้าหม้อต้มแก็ส ไม่สามารถสร้างแรงกดก้านวาวล์ ของวาวล์ฉิ่งฉับ ให้สัมพันธ์กับ แรงต้านของสปริงตัวปรับไอเดิลของหม้อต้มแก็ส
ปกติแล้วในรอบเดินเบาการทำงานของแผ่นไดอะแฟรม จะถูกแรงดูดจากท่อไอดีให้มีแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ให้ก้านวาวล์เปิด แต่จะถูกแรงดันต้านการกดของแผ่นไดอะแฟรม เพื่อให้เกิดการเปิดของวาวล์จ่ายแกสไปยังห้องมิ๊กเซอร์ ให้มีปริมาณแก็สในอัตราส่วนผสมในรอบเดินเบาที่พอเหมาะ เพื่อให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ เมื่อจุดระเบิดสมบูรณ์ เครื่องยนต์ก็มีกำลัง ทำให้รอบเดินเบาไม่ตกเมื่อมีโหลด
แต่เมื่อใดที่แผ่นไดอะแฟรมมีผิวย่น น้ำมันขี้แก็สจับ แรงดูดที่มาจากท่อไอดีไม่สามารถดูดแผ่นผ้าไดอะแฟรมให้มีแรงกดเหมือนสภาวะแรกๆที่สมบูรณ์ ทำให้แรงดันของสปริงตัวไอเดิลเอาชนะแรงกดของแผ่นไดอะแฟรม ผลก็คือทำให้ไม่สามารถบังคับวาวล์ให้เปิดแก็สแต่น้อยๆพอดีกับจังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ แต่กลับไปในทางตรงกันข้าม คือเปิดสุด แก็สก็ไหลจ่ายไปที่ห้องมิ๊กเต็มที่ เมื่อแก็สไหลไปที่ห้องมิ๊กมาก ทำให้มีปริมาณแก็สมากในอัตราส่วนผสม หรือมีส่วนผสมหนา การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง รอบเครื่องยนต์ตกและสวิง
ผลที่ตามมาก็คือ การกินแก็สมากผิดปกติ แต่จะไม่มีผลกับรอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์ เพราะแก็สยังต้องไหลผ่านด่านอรหัน เพาเวอร์วาวล์ ที่ถูกปรับจำกัดปริมาณแก็สไว้ ณ จุดความเร็วของรถ เช่นไม่เกิน 120 กม/ชม หมายความว่าตั้งแต่รอบเดินเบาถึงประมาณ สามพันรอบหรือ 120 กม/ชม แก็สจะไหลผ่านเพาเวอร์วาวล์ที่พอเหมาะกับอัตราส่วนผม แต่ไม่เกิน 120 กม/ชม หากเกินแก็สจะไหลไม่พอ มีส่วนผสมบาง หากต่ำกว่า 120 ลงมา จะเริ่มมีส่วนผสมหนา จนถึงรอบเดินเบา แต่รอบเดินเบาเราปรับให้สมดุลไว้แล้ว
การที่วาวล์ฉิ่งฉับไม่สามารถคอนโทรลการจ่ายแก็สในรอบเดินเบาได้ ตามที่กล่าวมา จะทำให้แก็สมากไหลเข้าท่อไอดี เวลาเราดับเครื่องยนต์ จะทำให้แก้สตกค้างในท่อไอดี ดังนั้นเวลาที่เรากลับมาสตาร์ทเครื่องอีกครังจะสตาร์ทติดยาก เพราะมีแก็สมากในอัตราส่วนผสม
จะเห็นว่าที่ผมกล่าวมาข้างบนนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถวิ่งไม่ออก แต่ตัวที่เป็นปัจจัยในเรื่องหม้อต้มที่มีผลต่ออัตราเร่งหรือการจ่ายปริมาณแก็สได้ทันตามความต้องการของเครื่องยนต์ ที่มีรอบแปรผันทั้งต่ำและสูง ก็คือในห้องต้มของหม้อต้มแก็ส ที่มีแผ่นยางกันน้ำมีสภาพย่นหดตัว เพราะโดนความร้อนตลอดการใช้งาน แผ่นยางนี้ปกติจะแนบสนิทกับผนัง
ของโลหะที่กันระหว่างห้องต้มกับห้องเปลี่ยนสถานะ เพื่อเอาความร้อนของน้ำในหม้อต้มทรานเฟอร์อุณหภูมิความร้อนผ่านผนังโลหะให้กับห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สให้เป็นไอแก็ส เมื่อใดก็ตามที่แผ่นยางที่ย่นหดตัวไม่แนบผนัง นั้นหมายความว่า ความร้อนที่จะไปสร้างอุณหภูมิความร้อนในห้องเปลี่ยนสถานะ ย่อมมีน้อย เป็นผลให้การเปลี่ยนสถานะของน้ำแก็สให้กลายเป็นไอแก็ส ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดขี้แก็ส ที่คล้ายน้ำมันเครื่อง ขี้แก็สนี้ก็จะไปจับชิ้นส่วนต่างภายในหม้อต้ม ที่แผ่นไดอะแฟรม เลยออกไปในท่อไอดี เข้าไปจับตามลิ้นปีกผีเสื้อ ช่องสกรูปรับช่วยรอยเดินเบา และส่วนต่างๆในตัวเรือนปีกผีเสื้อ ทำให้อากาศช่วยรอบเดินเบาตีบตัน โดยเฉพาะเมื่อมีการกลับไปใช้ระบบน้ำมัน รอบเดินเบาจะตกเพราะมีเขม่าจากขี้แก็สอุดตัน
ที่กล่าวมาพอจะนึกออกหรือยังว่า ขี้แก็สเกิดขึ้นได้อย่างไร มีผลเสียอย่างไร สำหรับท่านที่ติดตั้งแก็สระบบดูด พึงจำไว้ว่าทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ควรสตาร์ทด้วยระบบน้ำมันก่อนจึงจะถูกต้อง เพราะการสตาร์ทรถในครั้งแรกด้วยระบบน้ำมัน เพื่อต้องการให้น้ำในหม้อน้ำรถ มีอุณหภูมิความร้อนของเครื่องยนต์ เมื่อน้ำในหม้อน้ำรถมีความร้อนแล้ว เท่ากับว่ามีน้ำร้อนให้กับหม้อต้มแก็ส เพื่อให้ห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สเป็นไอแก็สได้สมบูรณ์ จะได้ไม่เกิดขี้แก็ส ตัวที่เป็นปัญหา ทั้งรอบเดินเบาและอัตราเร่ง
ความจริงในเรื่องของท่านเจ้าของกระทู้ที่ว่ารถวิ่งอืด มันมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบการจ่ายแก็สและกาศ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการติดตั้งวางระบบแก็สแบบมิ๊กเซอร์ ว่ามีส่วนไม่ถูกต้องตรงไหนอย่างไร จำเป็นด้วยหรือที่จะจ่ายแก็สหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ แถมยังมีเรื่องท่อมิ๊กเข้ามาเกี่ยวข้อง ว่าต้องมีขนาดเท่านี้เท่านั้น หลงประเด็นหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะก็ทราบอยู่แล้วว่า การที่ทำให้อากาศผ่านเข้าลิ้นปีกผีเสื้อมีอุปสรรค์ ถูกจำกันการไหลของอากาศ ตามที่วิศวกรเขาออกแบบไว้ มันเป็นผลเสียเพราะอากาศจะต้องไหลผ่านสะดวก และมีปริมาตรพอดีกับอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด ทั้งรอบเดินบาและอัตราเร่ง เมื่อเอาท่อมิ๊กไปจำกัดขนาดช่องอากาศผ่านลิ้นปีกผีเสื้อไปท่อไอดี แน่นอนกำลังเครื่องยนต์จึงตก ก็มาเกริ่นกันเล่นๆ
วกกลับเข้ามาเรื่องของเจ้าของกระทู้ อยากจะสรุปในเบื้องต้นก่อนว่า ปัจจัยแรกก็เรื่องของหม้อต้ม ไม่ทราบว่าใช้มานานหรือยัง ประการที่สอง ต้องทำการปรับจูนแก็สใหม่ ประการที่สาม เรื่องขององศาไฟจุดระเบิด และไฟที่จ่ายให่กับหัวเทียน ประการที่สี่ หากใช้มานาน เอารถไปตั้งวาวล์ใหม่ ในกรณีที่ไม่ใช่วาวล์แบบไฮโดรลิคส์ ลองตามนี้ก่อนครับ
หากมีเวลาจะเข้ามาแนะนำให้ในรายละเอียด
..srithanon
|