Baby boomer คือกลุ่มประชากรที่เกิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากมีคนตายในแต่ละประเทศจากสงครามสูงมาก ทำใฟห้แต่ละประเทศออกกฎหมายภาษีเกี่ยวกับกระตุ้นการเพิ่มจำนวนประชากร ประกอบกับปัญหาการว่างงานทำให้ประชากรส่วนใหญ่หันมาเพิ่มประชากรและส่งผลให้เกิดประชากรในยุคนั้นถึง 2,000,000,000 คน(สองพันล้านคน)ในช่วงปี คศ1946-1964(พ.ศ. 2489 2507)ซึ่งปัจจุบัน(2009) จะมีอายุ 44 62 ปี เราจะมาเช็คดูว่าเกิดอะไรขึ้นในแต่ละยุค
1964-1969 baby boomer ส่วนใหญ่จะยังเป็นเด็กทารก จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทารก 2,000,000,000 คนต้องการในสิ่งที่เหมือนกันนั่นคือช่วงที่บริษัททำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าอ้อมและอาหารเด็กขึ้นสู่จุดสูงสุดของธุรกิจ นั่นคือบริษัทเพมเพอร์ส(ผ้าอ้อม)และบริษัทเกอร์เบอร์(อาหารเด็ก) ไม่มีใครสนใจว่าอาหารเด็กรสชาติเป็นอย่างไร แต่เรารู้อย่างเดียวว่าเด็กทารก 2,000,000,000 คนต้องการจะกิน ดังนั้นยอดขายจึงถล่มทลาย
1970-1979 เมื่อเด็กทารกเหล่านั้นโตขึ้นมาเป็นเด็กน้อย 7-8 ขวบ ล้วนต้องการที่จะเล่นของเล่น ดังนั้นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับของเล่นจึงถือกำเนิดอย่างเต็มตัวในยุคนี้ครับ อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก lego , hula hoop
1980-1985 เราเรียกกันว่าวัยรุ่นตอนต้น 14-18 ปี สำหรับคนในวัยนี้สิ่งที่วัยรุ่น 2,000,000,000 ล้านคนต้องการเหมือนกันการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศหรือจะมีศัพท์ที่เรียกว่าการ hank up และจากการ hank up นั้นก็ต้องมีสถานที่ และเนื่องจากความต้องการสถานที่ในการ hank up นี้จึงทำให้เกิด Mcdonal,berker king และอื่นๆล้วนถือกำเนิดในยุคนี้ทั้งสิ้น
1986-1989 หรือที่เราเรียกว่ายุคปี 80 วัยที่มีอิสระทางความคิดเต็มที่ เกิดแนวคิดเกี่ยวกับอิสระเสรี ความต้องการอิสระภาพ เอลวิสเ เพลสรี่ หรือ สุรชัยสมบัติเจริญ ล้วนเกิดในยุคนี้ทั้งสิ้น วงการ holly wood ขึ้นสูงสุดในยุคนี้ และยังรวมถึงรถมาสแตงซ์ ที่วัยหนุ่มสาวใช้เพื่อออกมาเข้าสังคมกัน
1990-1999 คน 2,000,000,000 คนเข้าสู่วัย 30 up และต้องการ
.. สร้างครอบครัว การสร้างครอบครัวนั่นหมายถึงการการมีบ้าน ดังนั้นในยุคนี้จึงเกิดการซื้อบ้าน ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหา บูมถึงจุดสูงสุด (นายกชาติชาย) และที่น่าเศร้า ก็คือ สภาวะฟองสบู่แตกอันเนื่องมาจากการปั่นราคาของบางกลุ่ม
2000-2006 baby boomer ทุกคนเข้าสู่วัย 40 ต้นๆ ล้วนต้องการความสุขสบายในการดำเนินชีวิต จึงเกิดการปฏิวัติด้านเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของคน 2,000,000,000 ล้านคน internet,network,msm เป็นต้น
2006-2016 คน 2,000,000,000 ล้านคนอยู่ในวัย 45-65 ปี อยู่ในสภาวะที่พร้อมด้านการเงินและอาชีพ บ้างก็เกษียน เริ่มที่จะใช้เงินบำเหน็จ บำนาญ เริ่มให้รางวัลกับชีวิต เริ่มดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น กล่าวคือ เริ่มกลัวแก่ กลัวตาย พวกเขาจะเริ่มเอาใจใส่กับตัวเอง เราเรียกตลาดตรงนี้ว่า Anti Ageing ( healthy and beauty) จะกล่าวง่ายๆว่าในวันนี้ หน้าต่าง ของธุรกิจของยุคนี้ ได้เปิดเกี่ยวกับ สุขภาพและความงาม
ถ้าวันนี้คุณเปิดบริษัทเกี่ยวกับ ผ้าอ้อมเด็กในช่วงนี้ นั่นคือหน้าต่างธุรกิจนี้ได้ปิดไปเมื่อ 45 ปีที่แล้วต่อให้คุณ promotion ขนาดไหน เงินลงทุนเยอะแค่ไหน คุณก็จะไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น แล้วคงไม่มีใครคิดจะมีลูกครอบครัวละ 8-9 คน เหมือนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเราแล้วเป็นแน่
สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้คือ ตลาดต้องการอะไร ไม่ใช่คุณต้องการจะขายอะไร ผู้ชายทุกคนชอบรถยนต์ ฝันไว้ว่าจะเปิด car care ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบทานกาแฟหวังไว้ว่าจะเกิดร้านขายกาแฟ เมื่อผู้ชายผู้หญิงแต่งงานกันจะลงทุนเปิดร้านคาร์แคร์ที่มีร้านขายกาแฟอยู่ภายใน คุณทราบไม๊แต่ละปีมีธุรกิจเหล่านี้เปิดตัวและปิดตัวลงในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก นั่นเพราะคุณขายในสิ่งที่คุณต้องการ แต่คุณไม่ได้ขายในสิ่งที่ตลาดที่ต้องการ คำถามคือ วันนี้ ตลาดของคน 2,000,000,000 ล้านคนซึ่งเป็นจำนวนคน 1 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมดกำลังต้องการตลาด Anti-Ageing ซึ่งเป็น demand ที่ใหญ่ที่สุด และมีกำลังซื้อสูงสุดในทศวรรตนี้ หน้าต่างธุรกิจกำลังเปิด ณ.วันนี้ คุณกำลังทำอะไรอยู่
Remark. คุณรู้ไม๊ bill gate ที่วางมือจากบริษัท Microsoft ไปแล้ว ได้นำเงินบางส่วนของตัวเขาเอง มาซื้อหุ้นในบริษัทยาเอาไว้ เมื่อคนที่เก่งที่สุดของโลกมองเห็นโอกาส ทำไมคุณจะไม่สร้างโอกาสด้วยตัวคุณเอง
ในบรรยายครั้งต่อไป ผมจะแนะว่าตลาด anti-ageing ใดที่น่าสนใจทีสุด และเพราะอะไรทำไมคุณจะต้องลงทุนกับบริษัทนี้
อุดมศักดิ์ จีรวิวัฒนาชัย 087-823-1666
TNG_
[email protected]