Close this window

[B]ตรวจเช็คหลายอย่างแล้ว โครโนสก็ยังสตาร์ทไม่ติด ???[/B]
ตรวจเช็คหลายอย่างแล้ว โครโนสก็ยังสตาร์ทไม่ติด ???

รถผม โครโนส ปี 93 5 ป. 4 สูบ เกียร์ออโต้ ใช้น้ำมันอย่างเดียว มีอาการดังนี้ครับ

เช้าวันพฤหัสฯ ขับรถไปทำงานจอดรอไฟแดง เครื่องดับ สตาร์ทใหม่ติดทันที วิ่งได้ปกติ ถึงที่ทำงาน เดินหน้า - ถอยหลัง เข้าที่จอด เครื่องดับและสตาร์ทใหม่ติด 2 - 3 ครั้ง
เย็นขับออกจากที่ทำงานประมาณ 200 เมตร เครื่องดับ สตาร์ทใหม่ติด ขับถึงบ้าน

เช้าวันศุกร์ ขับออกจากบ้าน รอลูกปิดประตูบ้าน เครื่องดับสตาร์ทไม่ติด เดินไปส่งลูกขึ้นมอเตอร์ไซค์ปากซอย กลับมาสตาร์ทติด จึงขับรถเข้าบ้าน ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ ติดประมาณ 30 วินาที แล้วดับ สตาร์ทไม่ติดอีกเลย

การแก้ไขขั้นแรก
คิดเอาเองว่ากรองเชื้อเพลิงอาจตัน เพราะซื้อรถมา 2 ปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยเปลี่ยน
จึงไปซื้อของเทียบมาเปลี่ยน เพราะร้านแถวบ้านไม่มีของแท้ขาย
ราคา 200 บาท หน้าตาไม่หล่อเหมือนของแท้
เปลี่ยนเสร็จ สตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม

ขั้นที่สอง
โทรหาช่าง ประภาส ดอนเมือง
ช่างประภาส บอกให้ลองเช็คปั๊มติ๊กดู โดยคลายน๊อตเเบอร์ 17 ที่รางหัวฉีดออกนิดหน่อย
แล้วจั๊มสายไฟที่ปลั๊กตรวจสอบเครื่องยนต์ (ภาษาอังกฤษจำไม่ได้ครับ) ข้างกล่อง FUSE BOX ที่ขั้ว F/P กับ GND บิดสวิทช์กุญแจที่ ON ปรากฎว่ามีน้ำมันพุ่งออกมาจากรอบๆ น๊อตเบอร์ 17 ที่คลายไว้อย่างแรง แสดงว่าปั๊มติ๊กไม่เสีย

ขั้นที่สาม
ช่างประภาส บอกให้ลองเช็ค ไฟที่หัวเทียน
โดยถอดปลั๊กหัวเทียนออก นำไขปลายควงแหย่เข้าไปในปลั๊ก สวมถุงมือหนัง แตะไขควงกับฝาครอบวาวล์
สตาร์ทเครื่อง แล้วดูว่ามีประกายไฟสปาร์คที่ฝาครอบวาวล์หรือไม่
ปรากฎว่าไฟแรง และดูดจนสะดุ้ง ขนาดสวมถุงมือหนังแล้ว

ขั้นที่สี่
เช็คการยกของหัวฉีด
ถอดปลั๊กหัวฉีดสูบที่ 1 ออก
ที่ปลั๊กหัวฉีดมีสายไฟ 2 เส้น
ใช้ไขควง Test Lamp
นำปลายไขควงฯ จี้ที่สายไฟเส้นที่ 1 จั๊มดินที่เครื่อง บิดสวิทช์กุญแจที่ ON ปรากฎว่าไฟติด จึงดับสวิทช์ฯ
นำปลายไขควงฯ จี้ที่สายไฟเส้นที่ 2 จั๊มไฟที่ขั้ว + แบตฯ บิดสวิทช์กุญแจสตาร์ทยาว
ปรากฎว่าไฟกระพริบเป็นจังหวะ
แสดงว่าการยกของหัวฉีดปกติ

ไฟมา - น้ำมันมา ปวดหัว ทำไมสตาร์ทไม่ติด

ขั้นที่ห้า
นำกล่อง ECU ไปเช็คที่ ONE-TECH ปากซอยลาดพร้าว 64
คุณสุรศักดิ์ ใช้เวลาเช็ค 2 วัน
แจ้งค่าใช้จ่ายไว้ 2000 บาท ไม่พบว่าเสีย จึงไม่คิดเงิน

ขั้นที่หก
คุณสุรศักดิ์ แนะนำให้ลองมาตรวจเช็ค สายไฟ ฟิวส์ ระบบกันขโมย
ตรวจเช็คทุกอย่างแล้ว ปกติ

วันนี้ 10 มิ.ย. 52 วันที่ 7 แล้ว
นัดช่างประภาส ลองเอากล่องไปเสียบรถคันอื่นดู

ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาครับ
ที่มาโพสนี้เผื่อมีปัญหาอื่นที่มองไม่เห็น
อาจได้คำแนะนำจากเพื่อนๆ
โดย: M5   วันที่: 10 Jun 2009 - 09:11

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 25 : 465258
โดย: tuiy
คือผมเคยมีอาการวิ่งๆอยู่แล้วดับเลยอะ แล้วก็สตาร์ทใหม่ก็ติด บ้างครั้งออกตัวสะดุด
ถ้ามีอาการเหมือนผม คือพอเครื่องติดแล้วมีรูปแบตเตอรี่โชร์ที่หน้าปัดอยู่ ฟันธง ไดร์ชาร์ตเสียอะครับ ถ้าไม่เป็นเหมือนผมก็ต้องให้พี่ๆท่านอื่นมาช่วยแล้วอะครับ
หายใวๆนะครับ
วันที่: 10 Jun 09 - 09:26

 ความคิดเห็นที่: 2 / 25 : 465267
โดย: พีระพล
หัวฉีดตัน?
วันที่: 10 Jun 09 - 09:41

 ความคิดเห็นที่: 3 / 25 : 465354
โดย: pond_v
รถ Popup เคยเจอเป็นที่ Relay Start อ่ะคับ แต่โครโนสไม่แน่ใจว่าอยุ้ตรงไหน
วันที่: 10 Jun 09 - 10:48

 ความคิดเห็นที่: 4 / 25 : 465410
โดย: tiger
ของผมตอนแรกขับแล้วเครื่องจะกระตุก ๆ ให้ช่างดูช่างบอกว่า เป็นที่หัวเทียน วันต่อมาขับมาดี ๆ เครื่องดับไปเลยสตาร์ทใหม่ ขับไปแบบติด ๆ ดับ ๆ ขับไปได้ไม่ถึง 100 เมตร เครื่องดับและสตาร์ทยังไงก้อไม่ติด
ให้ช่างเช็คอีกที พบว่า จานจ่ายเสีย

รบกวนขอข้อแนะนำการใช้รถด้วยครับ มีข้อสงสัยครับว่าเป็นเพราะไปสตาร์ทเครื่องบ่อยเกินไปหรือป่าวครับ จึงทำให้จานจ่ายเสีย
วันที่: 10 Jun 09 - 12:13

 ความคิดเห็นที่: 5 / 25 : 465426
โดย: aod cronos
เปิดฝากล่องฟิว เช็ค reley start สีเหลือง ๆ ว่าเสียป่าว
วันที่: 10 Jun 09 - 12:44

 ความคิดเห็นที่: 6 / 25 : 465427
โดย: หมอหมา
"ของผมตอนแรกขับแล้วเครื่องจะกระตุก ๆ ให้ช่างดูช่างบอกว่า เป็นที่หัวเทียน วันต่อมาขับมาดี ๆ เครื่องดับไปเลยสตาร์ทใหม่ ขับไปแบบติด ๆ ดับ ๆ ขับไปได้ไม่ถึง 100 เมตร เครื่องดับและสตาร์ทยังไงก้อไม่ติด
ให้ช่างเช็คอีกที พบว่า จานจ่ายเสีย

รบกวนขอข้อแนะนำการใช้รถด้วยครับ มีข้อสงสัยครับว่าเป็นเพราะไปสตาร์ทเครื่องบ่อยเกินไปหรือป่าวครับ จึงทำให้จานจ่ายเสีย"

พี่เค้าเช็คที่ขั้นที่ 3 แล้ว ไฟมาแรงๆ คงไม่ใช่จานจ่ายครับ

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร
วันที่: 10 Jun 09 - 12:44

 ความคิดเห็นที่: 7 / 25 : 465442
โดย: M5
คุณ tuiy
เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดครับ
ไฟโชว์ทุกอย่างจึงไม่ดับ

คุณพีระพล
ผมถอดหัวเทียนออกมาดูเปียกน้ำมันจนแฉะ
เอาไฟฉายส่องดูที่หัวลูกสูบก็เห็นน้ำมันเปียกอยู่
แต่เดี๋ยวจะลองถอดหัวฉีดออกมาทั้งราง แล้วสตาร์ทดูสิว่าน้ำมันจะฉีดไหมครับ

คุณpond_V
รถยังสตาร์ทได้อยู่ครับ

คุณtiger
จานจ่ายเช็คแล้วมีไฟออกครับ
สตาร์ทเครื่องบ่อย ไม่ทำให้จานจ่ายเสียครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

การตรวจสอบขั้นที่ 7
เช็คว่าสายพานไทมิ่งข้ามร่องหรือไม่
ถอดหัวเทียนสูบ 1 และ สูบ 4 ออก เปิดฝาครอบจานจ่าย ใชไขควงแหย่ไว้ที่หัวลูกสูบ
หมุนเครื่องยนต์ให้สูบ 1 ขึ้นสูงสุด ดูที่หัวนกกระจอก อยู่ตำแหน่งจ่ายไฟของสูบ 1
หมุนเครื่องยนต์ให้สูบ 4 ขึ้นสูงสุด ดูที่หัวนกกระจอก อยู่ตำแหน่งจ่ายไฟของสูบ 4
แสดงว่าสายพานไทมิ่งไม่ข้ามร่อง

มีเพื่อนสันนิษฐานว่าแอร์โฟร์วอาจเสีย
แต่ช่างประภาส บอกว่าถ้าเสียติดได้แต่ควันจะดำ หรืออาจสตาร์ทยาว

วันนี้งานยุ่งไม่สามารถนำกล่องไปลองที่ช่างประภาสได้
ถ้าเพื่อนๆ ท่านใดใจดี
จะให้ทดลองเสียบกล่องดูให้แน่ใจว่าเสียหรือไม่
กรุณาให้เบอร์โทรฯ หรือเมล์มาด้วยครับ ขอบคุณ
วันที่: 10 Jun 09 - 13:13

 ความคิดเห็นที่: 8 / 25 : 465482
โดย: srithanon
ขอเข้ามาแจมหน่อยครับ
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ ได้ทำการตรวจสอบระบบจ่ายน้ำมันจากปั้มตื๊ก และระบบไฟที่หัวเทียน พร้อมทั้งได้นำกล่อง ECU ไปให้ช่างทำการตรวจเช็ค ช่างบอกว่าปกติ และประการสุดท้ายได้น้ำกล่อง ECU ไปทดลองใช้กับคันอื่น ยังรอผลวันนี้
เรื่องมันยาวที่จะอธิบายความ อยากรอฟังผลการนำกล่อง ECU ไปทดลองใช้กับคันอื่นเหมือนกันครับ
เพื่อที่จะได้วิเคราะห์ประเด็นอื่นๆให้ทดลองตรวจเช็คดูครับ
เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้คุณตรวจเช็คที่ระบบของแอร์โฟลว์ดูว่า มันมีขั่วหลุดหลวมหรือเปล่า หรือจะเข้าไปให้ลึกกว่านั้นก็ต้องตรวจเช็คการทำงานของมันว่าทำงานปกติหรือไม่ หากไม่ใช่ช่างมีความรู้ทางอีเลคโทรนิคส์ก็ลำบากที่จะอธิบาย เอาแบบง่ายๆ ลองขอยืมจากรถเพื่อนฝูงมาทดลอง ถอดชุดกรองอากาศ ที่มีตัวเรือนของแอร์โฟวล์ติดอยู่ มาใส่แทนที่ของรถคุณ แล้วลองสตาร์ทเครือ่งยนต์ดูครับ หากโชคดีก็จะพบสาเหตุ เพราะตัวแอร์โฟวล์เสีย รถยนต์ที่มีระบบแอร์โฟวล์ หากมันเสียก็ไม่สามารถที่จะสตาร์ทเครื่องได้เช่นกัน นี้เป็นกรณีหนึ่งที่อยากจะให้ตรวจสอบ
สำหรับการวิเคราะห์ว่าระบบไฟที่จ่ายให้กับหัวเทียนทำงานหรือไม่ ต้องทราบในหลักการทำงานของระบบเสียก่อนว่ามันทำงานอย่างไร พอจะสรุปให้ฟังเคร่าๆดังนี้ครับ ส่วนประกอบที่จะทำให้เกิดการสร้างไฟสูงที่ป้อนให้กับหัวเทียน ก็คือตัวช่วยจุดระเบิดชุดอินิชั่นคอย แต่การที่จะให้ตัวช่วยจุดระเบิดนี้ทำงานได้ ต้องอาศัยปัจจัย ในการสร้างสัญญาณพัลส์ จากมุมองศาจุดระเบิด ที่มีชุดสสร้างสัญญาณพัลส์ NE ที่อยู่ในตัวเรื่อนจานจ่าย เมื่อเครื่องยนต์เริ่มสตาร์ท และเครื่องยนต์เริ่มหมุน สัญญาณที่ได้รี้จะถูกส่งป้อนให้กับตัว ECU เพื่อที่จะให้ ECU สร้างสัญญาณพัลส์อีกชุดหนึ่ง เพื่อป้อนสัญญาณนี้ให้กับตัวชุดช่วยจุดระเบิด(สร้างไฟสูง) จึงมีไฟสูงออกที่หัวเทียนตามจังหวะองศาการจุดระเบิดแต่ละสูบ
ดังนั้นการที่จะวิเคราะห์หาสาเหตุว่าตัวจานจ่ายเสียจะต้องกระทำการตรวจเช็คสัญญาณพัลส์ NE ว่าถูกจ่ายออกมาจากจานจ่ายหรือไม่ แล้วสัญญาณนี้จ่ายไปถึง input ที่ตัวกล่อง ECU หรือไม่ หรือสายนำส่งขาดระหว่างสายไฟนำสัญญาณ และต้องตรวจเช็คสัญญาณพัลส์พัลส์ ที่ ECU จ่ายไปป้อนให้ ตัวช่วยสร้างไฟสูงสำหรับจุระเบิด แต่เราก็สามารถจะทำการวิเคราะห์ตัวช่วยสร้างไฟสูงว่าทำงานหรือเปล่า แบบตาดูหูฟัง ไม่ต้องสร้างพัลส์จากเครื่องเจนเนอเรเตอร์ ทำพัลส์แทนการจ่ายพัลส์ที่ ECU สร้างขึ้น โดยหาสายไฟที่เป็นตัวจ่ายสัญญาณเข้าอนพุทของตัวช่วยสสร้างไฟสูง มาเขี่ยกับกราวด์ ก็จะมีไฟออกที่หัวเทียน แสดงว่าชุดสร้างไฟสูงโอเค เพื่อตัดปัญหาช่างโมเมทึกทักเอาว่าชุดจานจ่ายเสีย การที่จะวิเคราะห์ว่าตัวจานจ่ายเสียจะต้องตรวจสอบการทำงานของมันด้วย ออสซิลโลสโคป ดูรูปสัญญาณ NE ที่เกิดขึ้น ว่ามีหรือไม่ รวมทั้งสัญญาณที่มาจาก ECU ด้วย
นี้เป็นหลักการตรวจเช็คของระบบการจ่ายไฟสูงให้กับหัวเทียน

แต่เนื่องจากคุณได้บอกว่า ได้ทำการวัดไฟที่หัวเทียนแล้ว ปรากฏว่ามีปกติ ก็พอสรุปได้ว่าชุดสร้างไฟสูงทำงานถูกต้อง แต่ผมจะกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนของตัว ECU ที่ทำหน้าที่สร้างสัญญาณป้อนให้กับตัวช่วยสร้างไฟสูง ว่ามันทำงานผิดพลาดอย่างไร ขอตัดบทสรุปความสั้นๆก็แล้วกัน เพราะอธิบายยาวขี้เกียจพิมพ์ ไม่ค่อยมีเวลาครับ
ปกติแล้วในส่วนของวงจรอีเลคโทรนิคส์ที่ทำหน้าที่สร้างสัญญาณที่ว่านี้จะประกอบไปด้วยวงจรสร้างสัญญาณพัลส์ และตัวบัฟเฟอร์ ขยายกระแสของ Transistor ที่วงจรนี้จะมี Capacitor แบบ อีเลคโตรไลท์ ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ไฟ DC ที่เลี้ยงวงจร เกิดการลีคภายในตัวของมัน ทำให้เสมือนมีค่าความต้านทานเกิดขึ้นในตัวของมัน ที่ตัว Capacitor นี้ขาขั่วลบของมันจะลงกราวด์ ดังนั้นหากตัวของมันเปรียบเสมือนค่าความต้านทานที่เกิดขึ้น จึงทำให้โวลเต็จของวงจรนี้ มีกระแสโวลเต็จส่วนหนึ่งไหลลงกราวด์ ทำให้โวลเต็จที่ภาควงจรนี้ลดลงมาก เกินกว่าที่จะทำให้ไฟที่ใช้เลี้ยงวงจรดังกล่าว ทำงานได้ จึงไม่มีสัญญาณพัลส์ไปจ่ายให้กับวงจร ตัวชุดช่วยจุดระเบิด
อาการที่เกิดขึ้นมีมีผลในการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด หรือบางครั้งติดเดี๋ยวเดียวก็ดับ โดยมากจะเป็นสักสองสามครั้งก็ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้อีก มีท่านเจ้าของรถคันหนึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนผม นำมาให้ทำการตรวจซ่อม ก็มีอาการคล้ายกับของคุณ เข้าไปให้อู่สองสามอู่ตรวจซ่อม แต่ละร้านที่ซ่อมลงความเห็นว่าจานจ่ายเสีย ต้องซื้อจานจ่ายมาเปลี่ยน แต่หลังจากเปลี่ยนแล้วอาการก็ไม่หาย เหมือนเดิม ผมก็จัดการเปลี่ยนเจ้าคาปาซิเตอร์ที่ว่านี้ ก็จบลงด้วยดี
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ให้ช่างไปตรวจเช็คกล่อง ECU แล้วบอกว่าปกติ ผมยังแครงใจอยู่นิดๆ เอาเป็นว่าถัไม่เป็นไปตามที่ผมเล่ามา สิ่งที่จะต้องตรวจสอบมีอีกสองสามจุด ยังไงลองตรวจเช็คแอร์โฟวล์ดูก่อนนะครับ หากไม่ได้ผลอย่างไร กรุณาบอกให้ทราบจะช่วยแนะให้ตรวจเช็คในภาคที่เกี่ยวข้องต่อไปครับ ขอให้โชคดี...srithanon
วันที่: 10 Jun 09 - 14:34

 ความคิดเห็นที่: 9 / 25 : 465563
โดย: tuiy
คุณM5 พอจะจำได้หรือป่าวละครับว่าตอนคุณขับรถมันมีรูปแบตโชร์ที่หน้าปัดไม่ยอมดับหรือป่าวอะครับ
เพราะปกติตอนหมุนกุญแจมาที่ON จะมีสัญลักษ์ต่างๆโชร์ที่หน้าปัดอะครับ แต่ถ้าสตาร์ทเครื่องจนติดแล้วไฟสัญลักษ์ต่างๆต้องดับไป อันนี้ผมจำมาจากช่างที่เคยทำรถผมนะครับ ยังไงก็ฝากไดชาร์ตด้วยนะครับ
ตอนนี้รถผมก็มีปัญหาหัวฉีดรั่วอะครับ อาการก็ติดแล้วซักพกรอบตกแล้วก็ดับอะ
หรือถ้าไม่ดับพอใส่เกียร์RหรือD ก็ดับอะ เสียตังอีกแว้ว
วันที่: 10 Jun 09 - 17:08

 ความคิดเห็นที่: 10 / 25 : 465568
โดย: tuiy
อ่อถ้าเป็นเคสของผมนะลองถอดแบตแล้วเอาแบตที่ไฟเต็มๆลองใส่แทนก็ไดครับ ถ้าติดก็ไดชาร์ตละครับลองดูครับ
วันที่: 10 Jun 09 - 17:17

 ความคิดเห็นที่: 11 / 25 : 465619
โดย: "ลุง"
เคยเป็นครับ สตาร์ทไม่ติดต้องลากกลับ

ปรากฏว่า สายพานทามมิ่งกระโดดข้ามร่องครับ

ทำให้อัตราการเปิดปิดของวาวล์เพี้ยนทั้งหมด

ต้องเปลี่ยนสายพาน+ลูกรอกทั้งเซ็ท ตอนนั้สายพานใช้มาประมาณ 80,000 โล

ลองเช็คดูครับว่าสายพานเปลี่ยนมาหลังสุดเมื่อใหร่ ปกติจะเปลี่ยนทุกๆแสนโลครับ

เอาใจช่วยให้หายไวๆครับ
วันที่: 10 Jun 09 - 18:59

 ความคิดเห็นที่: 12 / 25 : 465759
โดย: kronoz93
ของผมตอนนี้ก็กำลังประสพกับปัญหาอย่างนี้เหมือนกันเลย สต๊าร์ทจนแบตหมด สายพานหมุน ไฟมา น้ำมันมา แต่ไม่ติดครับ พรุ่งนี้ว่าจะลากเข้าอู่แล้ว
วันที่: 10 Jun 09 - 22:42

 ความคิดเห็นที่: 13 / 25 : 465859
โดย: M5
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับ

ตอนนี้คอมที่บ้านก็มาเสียอีก

ผมจะลองแก้ไขตามที่แต่ละท่านแนะนำครับ
วันที่: 11 Jun 09 - 07:07

 ความคิดเห็นที่: 14 / 25 : 465878
โดย: tuiy
ถ้าแก้หายแล้วเข้ามาแจ้งบ้างนะครับว่าเกิดจากอะไร เพื่อเป็นจะได้ซ่อมถูกจุดครับ
หายไวๆครับ
วันที่: 11 Jun 09 - 08:07

 ความคิดเห็นที่: 15 / 25 : 465981
โดย: โบค่ะ
เคยเป็นอาการคล้ายๆกันเนี่ยค่ะ
ตอนเช้าสตาทรถติด วิ่งไปได้พอเครื่องร้อนหน่อยดับ
บางทีก็ดับตอนลงไปปิดประตูบ้านซะงั้น
บางครั้งดับกลางถนนเลยก็มี (วิ่งๆไปเครื่องหยูดเลย)
เสร็จแล้วในหลายๆครั้งก็สตาทไม่ติดอีกเลย

เอาเข้าอู่เช็คมันทุกอย่าง (จริงๆแล้วไม่รู้ว่าเช็คอะไรบ้าง)
ใช้เวลาอยู่เป็นเดือน ก็ยังไม่เสร็จ (เอาเข้าสัปดาห์ละประมาณ 2 วัน)
ระบบไฟ พวกสายหัวเทียน หัวเทียน และจานจ่าย ช่างบอกว่าถ้าเสีย
เครื่องต้องเดินมีปัญหา ไม่เรียบ และอาจมีควันประกอบ
กล่อง ECU ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะงอแงนะ มีแต่เสียไปเลย
สายไฟต่างๆก็เช็คให้หมดแล้ว เซ็นเซอร์ทุกตัววัดค่าแล้วก็ยังทำงานปกติ
(เท่าที่จับความได้นะค่ะ)
ต่อมามีวันนึงช่างลองกันจน แบตหมด เลยให้ยืมแบตที่อู่มาขี่ก่อน (พอดีวันนั้นรีบ)
หน้าตาเน่าๆ แต่รู้สึกจะใหญ่กว่าเดิม ปรากฎว่าขี่ไปขี่มาวันนั้นดีไม่มีปัญหาอะไร
ก็เลย......
สุดท้ายเปลี่ยนแบตใหม่แล้วหายค่ะ
แบตลูกเดิม อายุปีกว่าเองนะค่ะ
เออ... ไม่ทราบสาเหตุและเหตุผลจริงๆค่ะ แต่มันหายแล้วอ้ะ

ตัวปัญหาข้างบน เป็น น้องโนส 5D 4สูบ Auto ค่ะ รถคุณแม่ค่ะ
(สำหรับคันนี้ถ้าเป็นอีก คราวหลังเปลี่ยนแบตมันไว้ก่อน......)
วันที่: 11 Jun 09 - 10:07

 ความคิดเห็นที่: 16 / 25 : 466381
โดย: rat626___
มาให้กำลังใจ ขอให้หายไวๆ นะครับ พี่ M5


ลองดูมูเล่ย์ หน้าเครื่องด้วยนะครับ ยางขับอาจไปแล้วก้อได้
รถผมเคยเจอยางมูเลย์หมดสภาพ และหลุดไปติดร่องสายพานไทม์มิง
ทำให้ผิดร่อง และสตาร์ทไม่ติด
วันที่: 11 Jun 09 - 18:17

 ความคิดเห็นที่: 17 / 25 : 466472
โดย: Navigator
หายไวๆนะครับพี่ M5 ขอขอบคุณที่ช่วยโพสเอาความรู้มาฝากแก่ทุกคนนะครับ
วันที่: 11 Jun 09 - 21:36

 ความคิดเห็นที่: 18 / 25 : 466941
โดย: M5
ขอขอบคุณทุกๆ ท่านครับ ที่เป็นกำลังใจ

คุณ rat 626 ครับ
มูเลย์หน้าเครื่อง ผมได้ตรวจเช็คในขั้นตอนที่ 7 ว่าสายพานไทมิ่งข้ามร่องหรือไม่
แล้วครับ สภาพยังดีอยู่

วันนี้ได้นำกล่อง ECU ไปเสียบรถคันอื่น ที่อู่ช่างประภาสแล้ว
ปรากฎว่าสตาร์ทติดทันที และเครื่องเดินนิ่งดี

ช่างประภาสบอกว่า เหลือวิธีสุดท้ายคือ
รื้อสายไฟของระบบเครื่องยนต์ทั้งหมดออกมาตรวจสอบ
ตั้งแต่หลังกล่อง ECU จนถึงปลั๊กทุกตัวในระบบเครื่องยนต์
ว่ามีหลุดหลวมที่จุดใดหรือไม่

ได้ผลประการใดจะมารายงานผลให้ทราบครับ
วันที่: 12 Jun 09 - 12:54

 ความคิดเห็นที่: 19 / 25 : 467048
โดย: srithanon
ก่อนที่คุณจะทำการลื้อตรวจเช็คสายไฟ อยากจะจะทบทวนการตรวจเช็คที่คุณได้ทำการตรวจมาดังนี้ใช่ไหม
- ทดสอบการทำงานของหัวเทียนแล้ว ว่ามีไฟออกที่หัวเทียน อยากทราบขั้นตอนที่ทดสอบ ดึงสาย หัวเทียนออกมา จี้ใกล้ๆกราวด์ แล้วสตาร์ทเครื่อง ใช่ไหม หากเป็นตามนั้น แสดงว่าระบบตัวช่วยจุดระเบิดและระบบสัญญาณพัลส์ G ที่ได้จากตัวจานจ่ายไปที่ ECU และ ECU จ่ายสัญญาณ IGT ให้ตัวช่วยจุดระเบิด ทำงานถูกต้องแล้ว จึงมีไฟสูงออกที่หัวเทียน
- คุณได้ถอดหัวเทียนออกมา ดู ปรากฎว่ามีคราบน้ำมันเบ็นซิลเปียกเต็มบริเวณ เขี้ยวหัวเทียน แสดงว่าระบบการทำงานของหัวฉีด ทำงานปกติ แต่มีมากเกินไปจนไม่สามารถที่จะทำให้มีการจุดระเบิดได้ เนื่องจากมีอัตราส่วนผสมมากเกินไป
การที่มีน้ำมันมาก เป็นเพราะมีเหตุหลายปัจจัย ประการแรกที่จะเกิดกรณีได้ ก็คือ สวิตช์หัวฉีดสตาร์ทเย็น มีการทำงานตลอดเวลา ทำให้หัวฉีดๆน้ำมันตลอด ทำให้มีส่วนผสมมาก เครื่องยนต์ไม่ติด
ประการที่สอง สัญญาณการสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่ทุกครั้งของการสตาร์ทเครื่องยนต์จะต้องมีสัญญาณนี้(แรงเคลื่อนไฟฟ้า 12 volt ) ป้อนให้กับ ECU รับรู้สภาวะการสตาร์ทเครื่อง หากไม่มีสัญญาณที่ว่านี้ ก็จะสตาร์ทเครื่องไม่ติด เนื่องจาก ECU ต้องคำนวนเพิ่มปริมาณการฉีดน้ำมัน ในขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้ทำการตรวจเช็คสายนำสัญญาณไฟนี้ ไปเข้าที่ตัวกล่อง ECU ขาดหรือไม่
ผมขอสรุปประเด็นที่จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ ให้ติดได้ จุดสำคัญอยู่ที่ตัวจานจ่ายไฟ เพราะที่นี้จะต้องสร้างไฟสูงให้กับหัวเทียน แต่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดผล ได้มาจากการสร้างสัญญาณการจุดระเบิดจาก มุมองศาของเพลาข้อเหวี่ยง และองศาการจุดระเบิดที่ตัวจานจ่ายสร้างพัลขึ้นมา
ผมไม่แน่ใจว่าตัวจานจ่ายของคุณมีปัญหากับการลีคของไฟสูงที่ตัวจานจ่ายหรือไม่ เพราะเท่าที่คุณบอกมาว่าโดนมันดูดจนตกใจ มันไม่ได้หมายความว่ามันไม่เสีย ขณะที่มันลีคมันก็มีไฟจ่ายเหมือนเดิม แต่เมื่อมือคุณเป็นสื่อน้ำไฟฟ้าที่ง่ายกว่าตัวฉนวนของโครงสร้างจานจ่าย มันก็เลยไปหามือคุณก่อนดีกว่า
ก่อนที่จะทำการลื้อสายไฟ อยากให้คุณลองขอยืมตัวเรือนจานจ่ายของเพื่อนๆ มาทดลองเปลี่ยนดูนะครับ อาจจะมองข้ามไปก็ได้ เพราะปัญหาที่จะเกิดกับระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่คอนโทรลเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ จะทำงานหลังการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดก่อนเท่านั้น ลองดูนะครับ เอาใจช่วย ได้ผลประการใดก็โพสมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
วันที่: 12 Jun 09 - 16:06

 ความคิดเห็นที่: 20 / 25 : 467890
โดย: M5
ขอบคุณ คุณ srithanon มากครับ

ตอนนี้คอมฯ ที่บ้านเสีย
เสาร์ - อาทิตย์ นี้ เลยแบกคอมขึ้นแทกซี่ ไปผจญภัยที่ร้านคอมฯ
ยังไม่มีเวลาตรวจเช็คเลยครับ
วันที่: 15 Jun 09 - 08:00

หน้าที่: [1]   2