(VAD) Variable Air Duct กับ (VLIM) Variable Length Intake Manifold คือการเล่นกับท่อไอดีเหมือนระบบ VICS ที่กล่าวถึงไปแล้ว นั่นคือการรีดท่อให้เล็กลงและยาวขี้นในรอบต่ำให้อากาศมีแรงมากขี้น หาเรื่องทำการตลาดแท้ๆ mazda เอ้ย
(VVT) Variable Intake valve Timing (cam-phasing, intake cam only) นี่คือสิ่งเดียวกับที่เราผ่านตาคือ S-VT หรือ sequential valve timing และมันคือเทคโนโลยีที่ใช้หลักการเดียวกับ VVT-i ของ โตโยต้าครับ ผมขอเริ่มต้นอย่างนี้แล้วกัน
หลายๆคนคงต้องเอารถไปเปลี่ยนสายพานไทมิ่งกันตอนแสน กม มันจะมีชิ้นส่วนที่ต้องเจออยู่ตัวหนึ่ง คือ เฟืองแคมชาร์ฟ ดูที่รูปนี้นะครับ ตัวนี้เป็นของมาสด้า miata หรือ mx-5 ที่ใช้เครื่อง BP อยู่
http://www.rocketindustries.com.au/images/brands/fidanza/FI940184.jpg
ทีนี้มันก็มีเรื่องของทฤษฎีจุดระเบิดของรถมาเกียว (สัญญาว่าจะเขียนให้เข้าใจง่ายๆนะ) เวลาเปลี่ยนสายพานไทมิ่งกับรถเกือบทุกรุ่นก็จะสวมเข้ากับเฟืองตัวนี้ ซื่งรถสมัยเก่า by default จะเป็นแบบ static หรือ fixed คือทำอะไรไม่ได้ การใส่สายพานก็ต้องให้ให้ตรงกับมาร์คที่กำหนดไว้ มิฉะนั้นเครื่องยนต์ก็จะเดินไม่เรียบ สะดุด หรือสตาร์ทไม่ติด ทั้งนี้เนื่องจากแคมชาร์ฟอาจจะทำงานไม่สัมพันธ์กับลูกสูบ และการจุดระเบิดของหัวเทียน แต่แคมตัวที่ให้ดูรูปเนี้ย ง่ายที่สุดคือตรงกลางคือการตั้งมาร์คตรงตาม spec การปรับตามเข็มคือการ retard คือปรับให้วาล์วเปิดช้าลง และการปรับ ทวนเข็มก็คือการ advance คือการเปิดวาล์วเร็วขี้น เราจะเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า M-VVT (ผมตั้งเองนะ) มาจาก Manually Variable Valve Timing ในบอร์ดเนี้ยเราจะเห็นว่ามีกระทู้เกี่ยวกับ ไฟแก่ ไฟอ่อน ถามกันเข้ามาเยอะ นั่นคือ การตั้งไฟจุดระเบิดให้สปาร์คไฟที่หัวเทียน ก่อนที่ลูกสูบจะขี้นมาสูงสุดแค่ไหน แต่กรณีของ MVVT คือการเล่นกับการเปิดวาล์วให้เร็วขี้น หรือช้าลงเมื่อเทียบกับการขี้นลงของลูกสูบแค่ไหนเท่านั้นเองครับ
ดูรูปที่แนบมาประกอบนะครับ
ขอต่ออย่างนี้ เวลาที่คุณใส่สายพานไทมิ่ง กับเฟือง static ง่ายที่สุด เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย มาร์ค E และ I บนเฟืองไอดี ไอเสีย จะต้องตรงกับมาร์ค E และ I บนแผ่นสีดำข้างหลัง ที่จังหวะที่สูบ 1 ถึงจุดสูงสุดของจังหวะอัดในกระบอกสูบ หรือที่หลายคนเรียกว่า TDC (Top Dead Center) นั่นเอง (ดูจากเฟืองเพลาข้อเหวี่ยงข้างล่างครับ) แต่ถ้าไม่ตรงล่ะ มาร์คบนเฟืองไอดีอาจจะเดินหน้าหรือ advance ไปหนึ่งฟัน หรือ retard หรือถอยหลังไปฟันนึง นี่หมายถึงไอเสียด้วย ผลรถอาจจะสตาร์ทติดครับ แต่อาจจะเดินไม่เรียบ หรืออาจจะเดินเรียบ แต่ไม่เป็นไปตาม spec ที่แจ้งไว้ เช่น แรงบิด 160 Nm @ 4000 รอบ หรือ แรงม้า 125 HP ที่ 6000 รอบ อาจจะกดไม่มาในรอบต่ำ หรือรอรอบเป็นต้น หรือ แรงบิดอาจมาเร็วมาก เรงดี แต่ปลายตี้อ เร่งไม่ออก
ผลจริงๆของมันคือถ้าเฟือง Advance อย่างเหมาะสม คือมาร์คไปข้างหน้าเมื่อเทียบกับที่แผ่นสีดำ แรงบิดจะมาเร็วในรอบต่ำ ไม่รอรอบ คือเร่งดี แต่รอบสูงจะหายครับ เมื่อเปรียบกับการ retard หรือมาร์คย้อนไปข้างหลัง รถจะรอรอบกว่า คือต้องกดคันเร่งหนักเท้ากว่า แต่รอบสูงรถจะแรงกว่าครับ มีได้มีเสียนะครับ นั่นคือทำไมคนอ่านกระทู้เก่าๆจะเห็นว่า ตั้งไฟแก่ให้จุดระเบิดก่อนลูกสูบถึงจุดสูงสุด แล้วรถวิ่งดี นี่ก็คือตั้งการปิดเปิดวาล์วให้เร็วขี้นเมื่อเทียบกับการขี้นสุดของลูกสูบครับ ดูกราฟที่คุณ pop link ให้ก็ได้ครับ เส้นแดงกับน้ำเงินน่ะ ดังนั้น สำหรับรถที่ขับขี่ในเมืองไม่ได้ต้องการความเร็วสูงมากมาย และต้องการอัตราเร่งในรอบต่ำที่ดี เราถึงตั้งเฟืองไอดีให้ advance สัก 1 ฟัน + ไฟแก่อีกนิด รถถึงวิ่งดีครับ
เข้าจุด climax แล้วนะครับ ด้วยกลไกการทำงานแบบนี้นี่เอง คนที่ชอบโมรถจึงทำเฟืองแบบที่ผม link รูปให้ดูมาเพื่อไม่ต้องถอดใส่ๆๆๆสายพาน แต่ก็แค่หมุนน๊อตและหมุนแกนกลาง ให้ advance หรือ retard สักเฟืองเดียว เวลาที่ต้องการจูนเครื่อง สังเกตว่าเฟืองเดียวก็ล่อไป 9-10 องศาแล้ว 2 เฟือง สตาร์ทไม่ติดแน่ครับ และด้วยกลไกตัวนี้เอง มาสด้า โตโยต้า จีงได้ทำระบบ SVT หรือ VVT มา คือใช้แรงดันน้ำมัน ผลักเฟืองให้ Advance ไปข้างหน้าในรอบต่ำ และ Retard ในรอบสูงนั่นเอง ดู Clip Utube อันนี้นะครับ ที่ประมาณวินาทีที่ 40 จะเห็นชัดเลย
http://www.youtube.com/watch?v=jzWw_F47jas
ส่วนถ้าใครอยากรู้ เรื่อง VTEC, MIVEC, VVT และ SVT ก็ search หาใน tube ได้เลยมีให้หาความรู้ครับ
ผมจะไม่กลับมา post ที่กระทู้นี้แล้วนะครับ ถ้าใครอยากจะเพิ่มเติมอะไร ยินดีครับ ยืนยัน มาสด้า ไม่มีเทคโนโลยีที่เล่นกับตัววาล์ว หรือกระเดื่องกดวาล์วโดยตรงครับ
คุณ pop ไม่อย่าโกรธอย่างเคืองอะไรกันนะครับ ผ่านแล้ว ผ่านเลย คราวนี้ก็จะได้รู้มากขี้น ส่วนของคุณ rin ผมว่านะจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของ ECU กับ MAP เซ็นเซอร์ครับ รอบต่ำอาจจะมีการฉีดน้ำมันหนา และนานไปทำให้หัวเทียนมีเขม่าดำมาติด คงต้องเลือกแล้วครับ ถ้าจะใช้ lpg ก็จูนให้ดีๆ น้ำมันเอาไว้สตาร์ท และ burn เครื่องตามความเหมาะสมครับ