Close this window

สอบถามไอเดียหน่อยครับ ไม่เกี่ยวกะรถเลย
เรื่องที่จะถามไม่เกี่ยวกับรถ แต่ เป็นการเอาไอเดียการปั่นไฟมาใช้ของระบบไฟรถยนต์มาประยุกต์แบบง่ายๆครับ

ตามหลักการคือ ไดชาร์จ รับการหมุนผ่านสายพาน มาทำให้แม่เหล็กกับขดลวด หมุนตัดกันตามหลักการจนเกิดกระแสไฟขึ้น แล้วผ่านชุดควบคุมที่มีทั้ง ไดโอด และ รีเลย์ ให้ไฟออกมาเป็น กระแสตรง 12 โวล์ท

จากหลักการนี้ ในโรงงานผม ต้องใช้แสงสว่างอยู่จำนวนมโหฬารหลายจุด ทั้ง กลางวันและกลางคืน
ถ้าเราเอาหลักการนี้ โดยใช้ต้นกำลังจาก มอเตอร์ของพัดลม ที่มีอยู่จำนวนมากในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ มาเป็นจุดต้นกำลัง
เพราะยังไงก็ต้องเปิดพัดลมตลอดเวลาทำงานอยู่แล้ว
แล้วต่อหน้าแปลนโดยติดมูเล่ย์เข้าไป ให้ขับสายพานมาหมุนตัวไดชาร์จ แล้วจากไดชาร์จ ก็ต่อผ่าน ฟิวส์และเข้า แบตเตอรี่ เหมือนในรถยนต์ทุกประการ
ส่วนสายขั้วลบ ก็ลงกราวน์ที่โครง รางไฟ (ดูรูปประกอบ) และต่อเข้าขั้วลบ แบตฯ โดยติด สวิท์ช ไว้ 1 ตัว
ส่วนสายบวก เมนก็มีสวิท์ชอีกตัวไว้กรณีฉุกเฉิน แล้วเดินสายเฉพาะสาย + เข้าไปตาม จุดที่ติดตั้งโคมต่างๆ
ซึ่งโคมนี้ น่าจะใช้แบบที่เป็นหลอด ฟลูออเรสเซ่น ซึ่งเดี๋ยวนี้มีแบบใช้ ไฟ 12 V ตามร้านประดับยนต์ทั่วไปมาจำหน่าย ซึ่งผมคาดว่า
น่าจะเพียงพอสำหรับสงสว่างทางเดินทั่วไป ไม่ใช่แสงส่องสว่างที่จุดทำงาน แต่หากติดตั้งไว้สูงเราก็ใช้โคมไฟหรี่รถยนต์ กับหลอดใส้ธรรมดาก็ได้ (แต่คงจะร้อนพอดู)

ซึ่งในชุดปั่นไฟ 1 ชุด ต้องสามารถใช้งานได้ หลายจุด ถึงน่าจะคุ้ม แต่ยังไม่ได้คำนวน จริงๆจังๆว่า ใช้เวลาเท่าไหร่ จริงจะคุ้มค่ากับต้นทุนที่ไม่เกิน 5000 บาท / 1 ชุด

ข้อดี คือ ในย่านนี้ ไฟฟ้า มักมีปัญหาบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเริ่มเข้าหน้าฝนใหม่ๆ ไฟดับบ่อยมาก บางที ฝนยังไม่ทันตก แค่ฟ้าร้องก็ใจเสาะ ดับ(แม่ม)ไปครึ่งโซนแล้ว
เมื่อไฟฟ้าดับ ปกติ เราก็มีไฟฉุกเฉินอยู่ตามจุดสำคัญๆหลายจุด แต่มันก็ไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร แต่หากใช้ชุดปั่นไฟนี้ ถึงไฟจะดับ พัดลมจะหยุด แต่ แบตเตอรี่จะจ่ายไฟเข้าระบบแทน เช่นเดียวกับในรถยนต์ได้อีกนานพอควร ซึ่งกรณีที่เป็นเวลากลางคืนน่าจะเป็นผลดี

ใครพอมีความรู้เรื่องนี้บ้างครับขอความเห็นหน่อย ว่า มันจะเวิร์คไหมเนี่ย เพราะ ที่แน่ๆ รางไฟที่จะติดตั้งโคมเหล่านั้น จะต่อยึดกับรางไฟทั่วไปที่มีจุดต้อไฟ 220 หรือ 380 โวลท์ ทั่วไปไม่ดีแน่ ไฟรั่วขึ้นมาก็เจ๊งแน่นอนครับ
ต้นทุนอย่างหยาบๆ
- ไดชาร์จ ของเก่า ตัวละไม่เกิน 2500 บาท
- แบตเตอรี่ ใหม่ 75 แอมป์ (ของพานาฯ) 1100 บาท
- สายไฟสำหรับเดินไฟ+ เอาขนาด 2 mm2 เลยระยะ 10 เมตร คงไม่กี่ตังค์
- โคม+หลอด + สวิท์ช ไฟปิด-เปิด ธรรมดา คงไม่กี่ร้อย
เหมารวมว่า ในงบ 5000 บาท ต่อไฟส่องสว่าง 3-4 จุด

..ถามความเห็นว่า.....คุ้มไหมครับ...กับ Project ."Energy Saving" ที่จะช่วยประหยัดพลังงาน
เพราะถ้าเวิร์ค คาดว่ามีจำนวนชุดที่ต้องทำ ถึงเกือบ 30 จุด(เป็นอย่างน้อย)
โดย: ทวีรัฐ   วันที่: 2 May 2006 - 16:20

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 36 : 192367
โดย: ทวีรัฐ
...
วันที่: 02 May 06 - 16:24

 ความคิดเห็นที่: 2 / 36 : 192385
โดย: มะดัน
แหม่...สร้างสรรมากเลยครับ...ผมว่าไอ้พวกพลังงานเหลือทิ้งพวกนี้ น่าจะมาใช้ประโยชน์ได้อีกมาก ไอเดียดีมากๆ แต่เรื่องที่ถามเนี้ยไม่มีความรุ้เลย...เคยเห็นในทีวี มีคนเอาหม้อหุงข้าวไปติดกะมอไซด์ ขับไปทำงานข้าวสุกพอดี โดยอาศัยความร้อนจากเครื่องยนต์..อืมมม มานอาจจะดูผิดรูปผิดร่าง ไหนจะมลพิษอีก...แต่ผมว่ามันก็เป็นจุดเริ่มในการคิดอะไรที่ดีๆ เพื่อจะได้พัฒนาต่อไปนะครับ
วันที่: 02 May 06 - 17:18

 ความคิดเห็นที่: 3 / 36 : 192410
โดย: เรียกข้าว่าอดีต
ไม่เวิร์ค PM และ CM จะสูงมาก
วันที่: 02 May 06 - 19:29

 ความคิดเห็นที่: 4 / 36 : 192424
โดย: กุ้ง01
loadที่เพิ่มขึ้นจาก ความฝืดของสายพานอาจทำให้กินกำลังไฟมากขึ้นครับ(ไม่อาจล่ะกินเพิ่มแน่ๆ)
ตาม ideal ไม่น่าคุ้มครับ
ลองโซล่าร์เซลดีกว่าครับน่าจะเวิคร์
วันที่: 02 May 06 - 20:19

 ความคิดเห็นที่: 5 / 36 : 192429
โดย: เข้ามา Up ข้อมูลจ้า
คิดว่าไม่คุ้มนะครับ
มอเตอร์พัดลมจะทำงานหนักขึ้น เพราะต้องไปหมุนไดชาร์ตอีก
พาลจะทำให้มอเตอร์เสียเร็วเข้าไปอีก

ถ้าต้องการแสงสว่างให้ทั่วพื้นที่ตอนไฟดับ
เอางี้ดีมั้ย
เห็นบอกว่ามีไฟฉุกเฉินใช้อยู่ เราก็ต่อพ่วงเอามาใช้เลยไม่ดีเหรอครับ
เพียงแต่เพิ่มแบตเตอรี่ลูกใหญ่ๆเข้าไป
วันที่: 02 May 06 - 20:24

 ความคิดเห็นที่: 6 / 36 : 192464
โดย: จอมแก่น
ตอบไม่ได้คะ ขอโทษด้วยนะคะป๋าวี

คิดว่า ผ่าน มาทักทายหละกันคะ @^_^@
วันที่: 02 May 06 - 22:37

 ความคิดเห็นที่: 7 / 36 : 192466
โดย: Fuel98
แบต ผมว่าเอาของเก่า ลูกละ ร้อย สองร้อย ซื้อต่อจากร้านขายแบตที่รับเทร์นมา ก็พอครับ เพราะไม่มีความต้องมีการกระชากไฟจากแบต เหมือนตอนสตาร์ทรถ เราเอาแค่ให้มันจ่ายไฟได้แบบเรื่อยๆ ผมว่าเพียงพอต่อความต้องการของหลอดไฟครับ จะได้ลดต้นทุน
วันที่: 02 May 06 - 23:05

 ความคิดเห็นที่: 8 / 36 : 192473
โดย: ไฟแนนซ์ขี้เมา
ตามหลักเหตุผล +ด้วยความรู้อันน้อยนิดสมัยเรียนวิทย์-คณิตนั้น ผมคิดว่าอาจจะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ได้นะครับขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงานต้นกำเนิดซึ่งเป็นพลังงานกลนั่นก็คือมอเตอร์พัดลม ความเป็นไปได้คือมอเตอร์กินกำลังไฟฟ้าเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล พลังงานกลที่ได้นี้จะมีสองส่วนคือส่วนที่ใช้งานจริงคือนำไปหมุ่นใบพัด(เปลี่ยนหลังงานกลชนิดหนึ่งให้เป็นพลังงานกลอีกชนิดหนึ่ง) อีกส่วนหนึ่งคือพลังานส่วนเกินที่เหลือจากการใช้งาน

พลังงานส่วนเกิน = พลังงานทั้งหมดที่ได้จากการเปลี่ยนหลังงานไฟฟ้าเป็นพลังานกล - พลังงานที่ใช้หม่นใบพัด

พลังงานส่วนเกินที่ว่านี้ หากเหลื่อมากพอ ผมคิดว่าน่าจะเอาไปปั่นไดชาร์จได้โดยไม่เป็นภาระแก่มอเตอร์มาก เพราะไม่ว่าจะอย่างไรมอเตอร์จะต้องผลิตพลังงานกลเท่ากันตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่ในขระเดียวกันถ้านำไดชาร์จไปต่อพ่วง ไดชาร์จก็จำเป็นต้องแชร์เอาพลังไปใช้ด้วย หากมอเตอร์นั้นเหลือพลังงานส่วนเกินน้อยกว่าการใช้พลังงานน้อยที่สุดของไดชาร์จ จะเกิดการขาดแคลนพลังงาน พลังงานทั้งหมดก็จะถูกเฉลี่ยกันไปในแต่ละโหลด เป็นอัตราส่วนว่าใครใช้พลังงานมากหรือพลังงานน้อย พลังงานที่ขาดหายไปนี้จะกลายเป็นภาระของต้นกำเนิดหลังงาน หรือมอเตอร์นั่นเอง


ยกตัวอย่างเช่นเครื่องยนต์แก๊สโซลีน พลังงานกลที่เครื่องยนต์ผลิตได้มีการสูญเสียในระบบเป็นจะนวนมาก เนื่องจากต้องใช้พลังงานไปหมุนข้อเหวี่ยงให้ลูกสูบเคลื่อนที่ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย และยังต้องสูญเสียให้กับแรงเสียดทานต่างๆในเครื่องยนต์
แต่เครื่องยนต์ก็ยังคงทำงานอยู่ได้เพราะพลังงานที่ได้กับพลังงานที่ใช้/สูญเสียไปใกล้เคียงกัน เหลือพลังงานส่วนเกินไม่มาก แต่เมื่อใดที่เราเปิดแอร์ไปพร้อมกันโดยไม่มีการชดเชยรอบจาก ECU+ISC คอมแอร์ก็จะไปดึงพลังงานจากเครื่องยนต์ทำให้รอบตก ความเร็วรอบลดลง เพราะคอมแอร์ใช้พลังงานมากกว่าพลังงานส่วนที่เหลือ เกิดการแชร์พลังงานกัน ต่อเมื่อ ECUสั่งISC ชดเชยรอบด้วยการให้น้ำมันและอากาศ มากขึ้น พลังงานส่สวนที่ขาดก็จะพอเพียง

กลับมาที่มอเตอร์พัดลมอีกครั้ง
เนื่องจากมอเตอร์พัดลมไม่สามารถชดเชยพลังงานที่ขาดหายไปได้คือให้กำเนิดพลังงานคงที่ โจทย์ที่เราจะแก้คือเราจะทำอย่าไรให้การใช้พลังงานนั้นพอเพียงทั้งระบบ ซึ่งเราต้องคำนวนการใช้พลังงานในแต่ละโหลดเท่าไหร่ ความสูญเสียพลังงานอันเกิดจากปัจจัยต่างๆได้แก่ความีเสียดทานอากาศ ความเสียดทานที่พื้นผิวระหว่างสายพานกับมู่เลย์ การสูญเสียพลังงานจากการเหนี่ยวนำแม่เหล็ก 9ล9 ซึ่งเราต้องคิดคำนวนให้ดีเพื่อให้เกิดจุดคุ้มทุนมากที่สุด

หากว่าคิดคำนวนดูแล้วมอเตอร์ที่ใช้ๆอยู๋มีพลังงานเหลื่อมากก็น่าลอง แต่ถ้าเพลือน้อยมันก็ไม่คุ้มพาลจะเสียประโยชน์อีก

ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ ผมขอสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ด้วยคนนะคับ
วันที่: 02 May 06 - 23:45

 ความคิดเห็นที่: 9 / 36 : 192477
โดย: เรียกข้าว่าอดีต
โปรเจ็คเรื่อง Energy Saving กำลังมาแรงในยุคน้ำมันแพง

แต่ควรเริ่มต้นจาก Energy Conservative Improvement ก่อนในอุปกรณ์ที่มีอยู่ก่อนเสมอ

บางที่เลยเถิดไปถึงโน่น Minimize Manpower (ทั้งๆที่ไอ้ที่มีคนทำอยู่ก็จะตายหยังเขียดกันอยู่แล้ว)

โปรเจ็คนี้ดูดี...แต่มันต้องเริ่มต้นด้วยการหา Total Efficiancy ออกมาเป็นเปอร์เซนต์ให้ได้ก่อน

แล้วมาดูว่ามันอยู่ในขีดของความพอใจหรือไม่ (คิดไว้แล้วถึงเรื่อง Investment ไว้แล้วล่ะซิ)

ผมไม่ได้คิดตามหรอกครับแต่เท่าที่ดูผ่านๆนี่ PM กับ CM สูงแน่ๆ

โดยทั่วไปนี่ถ้าได้ 50 % นี่ถือว่าดีมากๆ 52% นี่

Very Perfect...!!
วันที่: 03 May 06 - 00:02

 ความคิดเห็นที่: 10 / 36 : 192494
โดย: *~B3S~*
พอดีโง่ครับ

PM กะ CM ที่ว่านี่ คืออะไรครับ ย่อมาจากอะไรอ่ะ

แต่สำหรับป๋า ครับ ผมว่าได้ไม่คุ้มเสียครับ คิดอย่างง่าย ๆ ตามสไตล์โง่ ของผมอ่ะ
- มันกินแรงมอเตอร์เพิ่มขึ้นแน่ ๆ ส่วนกินมากกินน้อย นั้นต้องลองทำดูสักตัวครับ ถึงจะทราบผล
- ในเมื่อมันกินแรงแล้ว ย่อมทำให้ มอเตอร์พัดลมเจ้งเร็วขึ้น ไม่ก่อนเกินเป็นพลังงานความร้อนแทน
- แค่หลอดไฟ 12V ผมว่า ลงทุนจุดละ 5000 ระยะคืนทุนนานแน่ ๆ ครับ ลองคำนวนดุว่า ถ้าป๋าเปิดไอ้หลอดที่ว่าเนีย 12 ชั่วโมง ตลอดคืน ใช้ไฟกี่หน่อย เงินกี่บาท แล้วเอาไปหาร 5000 ก็จะได้ เป็นวันออกมาช่ายม่ะ แล้วก็ลองดูว่า ไฟมันดับกี่วัน ก็จะได้ระยะคืนทุนจริง ๆ (ถ้ามันดับทุกวันก็คงเร็วอยู่หรอก)

ผมว่าไอ้โครงการเนีย... เอาไปทำโครงงานจักรยานไฟฟ้าดีกว่า แบบว่า ถ้าขี้เกียจ ก็ให้มอเตอร์มันขับโซ่แทน ไม่ต้องปั่น พอไฟหมด ก็ใช้ขาปั่น ๆ ไป ชาร์ทไปกลับเข้าระบบไปด้วย ดูแล้วน่าจะประหยัดพลังได้ดีกว่านะ
วันที่: 03 May 06 - 03:34

 ความคิดเห็นที่: 11 / 36 : 192517
โดย: ทวีรัฐ
คห.3 กะ คห 9...

นังตูฯ.เอ็งจะเปลี่ยน ชื่อทำไม(ว๊ะ) แค่คำศัพท์ที่ใช้ ใครๆก็รู้ว่าเป็นเจ้าพ่อโรงไฟฟ้า เข้ามาตอบน่ะ

ว่าแต่ เล่นย่อศัพท์เฉพาะทางแบบนี้ งง ด้วยคนอ่ะ
PM กะ CM ในความหมายที่ระบุ มันย่อมาจากอะไรเนี่ย

ส่วน ECI เนี่ย ทางฝ่าย facility ได้ดำเนินการไปหลายส่วนแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั้ง ใช้ บัลลาส อิเลคโทรนิค และติดอุปกรณ์เพิ่มเติม เป็นพวก benext หรืออะไรต่อมิอะไรก็ช่างหัวมันเหอะ

แต่พอดีไอ้วิธีเนี๊ยะ มันปิ๊งขึ้นมาเพราะ ค่าไฟ ในโรงงาน ที่ดูแลอยู่ 1 ใน 4 โรง มันกระโดด พรวดขึ้นมา จาก 3 แสน กว่าๆ เป็น 7 แสนกว่าๆ และโดน ที่ประชุมรุมยำมาหลายเดือนแล้ว

ซึ่งหลังวิเคราะห์ก็พบว่า ไอ้ตัวดูดพลังงานคือ โปรเจค แอร์ชีลเลอร์ นั่นแหละ คือเมื่อก่อนใช้แอร์ปรับอากาศธรรมดา ขนาด 50000 BTU 6 ตัว แต่ค่าซ่อมบำรุงสูงมากตามสภาพที่เก่าลงเรื่อยๆ กับ การ Preventive mainternace ที่ห่วยแตก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง สูงมาก รวมข้อมูลย้อนหลัง 4-5 ปี( แม่ม)ซื้อใหม่ได้ทั้งชุด

แล้วก็มีพวก Process Engineer เสนอมาว่าต้องใช้แอร์ระบบชิลเล่อร์ ถึงจะคุ้ม ประหยัดสุดๆ ตอนทำโปรเจคนี้ จากข้อมูลที่พวกนัน้เสนอมา ประหยัดได้จากเดิม 1.76 ล้านบาท ..."ต่อปี" !!

เป็นใครก็ต้องตาลุกกับ ต้นทุนการผลิตที่ลดลง

แต่เดือนที่ผ่านมา เจอแล้ว ..ไอ้เจ้าตัวนี้แหละ(แม่ม)ตอนแรกยังกะ โปรเจคเทวดา แต่ตอนนี้เรื่องแดงขึ้นมา ซาตาน ดีๆนี่เอง

ก็เลยหาหนทางsave ค่าไฟในส่วนอื่นๆทดแทน แบบค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อยน่ะ แต่ปริมาณเยอะ

ภู .. จุด ที่ผมว่าเนี่ย ไม่ใช่ชุดปั่นไฟ 1 จุด ต่อ ความต้องการ 1 ที่นะ แต่หมายถึง ความต้องการใช้ไฟ 4-5 ที่ ต่อ ชุดปั่นไฟ 1 จุดน่ะ



ถามต่อ...จากที่หลายท่าน คอมเมนท์มาเรื่อง กำลังมอร์เตอร์พัดลม

กรณีนี้ ถ้าผมใช้มอร์เตอร์ที่ มีแรงม้าเพิ่มขึ้น หรือ ใช้วิธีทดรอบ โดยคำนวนให้ มูเลย์ขับที่ติดกับพัดลม เล็กกว่า มูเลย์ตามหน้า ไดชาร์จ ล่ะ จะช่วยทุ่นกำลังได้ใช่ใหม
เช่นถ้ามูเลย์หน้า ไดชาร์จ ผมตีปลอกสวมให้โตขึ้นเป็น 150 มม แล้วมูเลย์ขับ แค่ 75 มม โดยต้องหาค่ารอบหมุนต่ำสุดของ ไดชาร์จที่สามารถจ่ายไฟได้คงที่ก่อน เช่น ที่ 600 รอบต่อนาที

ดังนั้นผมหาพัดลมที่ความเร็วมากกว่า 1300 รอบต่อนาทีขึ้นไป มาเป็นตัวขับ ซึ่งอัตราทดที่ 2:1 จะทำให้ความเร็วรอบของ ไดชาร์จ อยู่ที่ 650 ต่อนาทีขึ้นไป

ได้ป่ะ?

ปล. คห 5 ครับ ระบบไฟฉุกเฉินปกติจะสำรองไฟได้ประมาณ 15-20 นาที เท่านั้นครับ ต่อพ่วงมากไม่ได้ ชื่อมันบอกอยู่แล้วว่า ใช้สำหรับ ฉุกเฉิน ชั่วคราว....แต่ที่ผมจะทำนี่มันชั่วโค-ตร อ่ะคับ
วันที่: 03 May 06 - 08:51

 ความคิดเห็นที่: 12 / 36 : 192519
โดย: ทวีรัฐ
คุณ กิ๊บ ครับ
ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่แวะมาก็ดีใจตายแล้ว.....









แหวะ....+~+ เลี่ยนตัวเองจัง...









ปล. เดี๋ยวคอยดูนะ จะต้องมีเข้ามาเผากันเป็นแถว.......

ไม่ต้องเลยนะ.. แหวะ เองแล้ว ไม่ต้องมาช่วยแหวะ...
วันที่: 03 May 06 - 08:58

 ความคิดเห็นที่: 13 / 36 : 192531
โดย: บาส
ผมว่าป๋าทดลองเองดีกว่าครับ
ลองตั้งชุดทดลองเล็กๆ ง่ายขึ้นมาลองใช้งานดูดีมั้ยครับ
วันที่: 03 May 06 - 09:29

 ความคิดเห็นที่: 14 / 36 : 192539
โดย: ทวีรัฐ
กำลังสั่งของอยู่ครับ ว่าจะลองดู อาทิตย์หน้า สัก 1 ชุด
วันที่: 03 May 06 - 10:09

 ความคิดเห็นที่: 15 / 36 : 192540
โดย: Blue
คิดว่าไม่น่าจะคุ้มครับ
1 พัดลมที่ว่านั้น ไม่มีพลังงานส่วนเกิน ที่เราจะนำไปแปลงเก็บไว้ใช้ คือที่จะนำไปชาร์ตเก็บใน Batt
2 ถ้าทำเช่นนั้น พัดลมจะต้องใช้ไฟมากขึ้น ในการต้านแรงฝืดต่างๆ และสูญเสียไปเป็นความร้อน เสียง จากพูเล่ ไดชาร์ต กว่าจะได้พลังงานไปเก็บใน Batt ทำให้เปลืองไฟที่จะจ่ายให้พัดลม มากกว่าไฟที่ชาร์ตได้ใน Batt เสียอีก
ขออนุญาตแนะนำว่า
1 ถ้าคิดว่าพัดลมนั้นแรงเกินความต้องการ หาทางประหยัดโดยหาชุดจำกัดไฟให้พัดลม(Speed) ซึ่งมีอยู่มากมาย ราคาถูก
2 หากต้องการพลังงานสำรองไว้ใช้ในกรณีไฟดับ อาจใช้ Solar cell ซึ่งไม่เปลืองค่าไฟ แต่ราคาแพง
หรือชาร์ตแบตจาก ไฟฟ้าโดยตรง จะเปลืองไฟน้อยกว่าชาร์ตจากพัดลม

ก็มีฟามรู้เท่านี้หละครับ
วันที่: 03 May 06 - 10:10

 ความคิดเห็นที่: 16 / 36 : 192544
โดย: nawatkong
ไม่มีความรู้เลยครับ แต่มาเอาใจช่วยป๋า ถ้าทำได้จริงๆ บริษัทเค้าต้องเพิ่มงบ entertain ให้ป๋าแน่ๆเลย ฮี่ๆๆ
วันที่: 03 May 06 - 10:29

 ความคิดเห็นที่: 17 / 36 : 192555
โดย: มิตรป้อมพระจุลฯ
-ของฟรีไม่มีในโลก แรงปฏิกริยามาจากแรงกริยาที่ต้องกระทำให้มันเสมอ พลังงานก็เช่นกันครับ
สำหรับโจทย์ข้อนี้ ถ้าจะทำจริง ใช้เครื่องประจุไฟให้แบตฯตรงๆเลย ประหยัดกว่าครับ
วันที่: 03 May 06 - 11:15

 ความคิดเห็นที่: 18 / 36 : 192570
โดย: Jan.Cronos
ผมว่าไม่คุ้มครับ ถ้าออกแบบติดตั้งไม่ดีเนี่ย อาจจะเสียโรงงานไปทั้งโรงงานเลยนะป๋า
ดูจาก % ความเสี่ยงแล้วมันสูงพอที่จะเลิกคิดไปต่อเลยอ่ะ
วันที่: 03 May 06 - 12:56

 ความคิดเห็นที่: 19 / 36 : 192576
โดย: ทวีรัฐ
ง่ะ.....0o0'

ขนาดนั้นเลยเหรอ

เก็บก็ได้ หาโปรเจค เพี้ยนๆ อื่นน่าจะดีกว่านะ

ขอบคุณทุกท่านคร๊าฟฟฟฟฟฟฟ...(ธุ..งามๆ)(_/\_)
วันที่: 03 May 06 - 13:09

 ความคิดเห็นที่: 20 / 36 : 192605
โดย: THANA
ป๋ามอเตอร์พัดลมจะไหวเหรอ ระวังไหม้นะป๋า ถ้าจะทำจิงๆ อย่าลืมสอบถามประกันด้วยนะป๋าเดี๋ยวบึ้มมาเครมไม่ได้เนี่ยะ ซวยยาวเลยนะคร้าบบบบบบบบ
วันที่: 03 May 06 - 15:35

หน้าที่: [1]   2