ตั้งแต่เริ่มจำได้ว่า ราคาน้ำมันทะยานๆๆพรวดๆ
จากหลักสิบบาทกว่าๆ พุ่งทะยานเข้าสู่หลักยี่สิบ
และเฉียด 30 บาทในตอนนี้
ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย ราคาถูกกว่า 95
ลิตรละบาทห้าสิบ คือ แก๊สโซฮอล์ 95 ที่พวกเราเริ่มจะรู้จักกันดีแล้ว
หลายๆคนถามมาว่า .... ใช้แล้ว มันจะมีผลเสียอะไรกับเครื่องมั๊ย
ซึ่งผมเองเคยยืนยันไว้ว่า ตั้งกะเริ่มใช้มา มันยังไม่มีผลอะไร
แต่ตอนนี้ อาการมันปรากฏให้เห็นแล้วครับ
ผมเริ่มใช้ แก็สโซฮอล์ 95 มาตั้งกะเค้าเริ่มออกขายเลยก็ว่าได้
เป็น Innovators ของตลาดเลยที่เดียว
จำได้เลยว่าเจ้าแรกที่ทำออกมาจำหน่ายก็คือ ปตท.
และเจ้าอื่นๆก็ตามออกมา ....
ผมใช้แก๊สโซฮอล์ 95 กับรถมาสด้าสามคัน
ตาตี่ปี 97 เดิมๆ1คัน .... เพิ่งซื้อและใช้มาได้แป๊บเดียว
ยังไม่เห็นอาการผิดปกติแต่อย่างไร .... อันนี้ข้ามไปก่อน
โครโนสวี 6 ปี 95 สี่ประตูเครื่องวีหกเดิมๆจากโรงงาน
และโครโนสวี 6 ปี 93 วางมาใหม่ จากเจ้าของเดิม
ก่อนที่จะมาสิงสถิตย์ในโรงรถบ้านผม
เป็นหญิงซิ่ง เท้าหนัก ซัดซะเครื่องเดิมระเบิด
เนื่องจากน้ำแห้งผากกกกกก
จากเครื่องเดิม 4 สูบ มาเป็น
KF เครื่องสเป็คญี่ปุ่น แต่วางมาใหม่โดยช่างไทย
อย่างที่พอจะทราบกันมาบ้าง จากส่วนผสมของแก๊สโซฮอล์
ที่มีส่วนผสมของเอทานอล ซึ่งเป็นสารประกอบ
ประเภทแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ซึ่งจากคุณสมบัติของแอลกอฮอล์
จะทำปฏิกิริยากับส่วนที่เป็นยาง เช่นพวกท่อแวคคั่ม
หรือท่อยางที่เป็นทางเดินน้ำมันต่างๆ
อาการเริ่มออกที่โครโนสปี 95 ก่อน
คันนี้นานๆขับที เนื่องจากตอนนี้จอดอยู่บ้านป้า
ระยะทางการใช้แก๊สโซฮอล์ประมาณหมื่นกว่าโล
จากอาการเร่งแล้วรู้สึกรถอืดผิดปกติ หาสาเหตุกันซักพัก
ก็ยังกุมขมับกันอยู่ .... จนเช้าวันหนึ่ง
สตาร์ทติดยากมาก เหมือนไม่มีแรงดันน้ำมัน
จึงลองเปิดฝากระโปรงออกดู
ปรากฏว่าท่อยางที่รัดกับหัวฉีดสองฝั่ง แตกขาดออกจากกัน
น้ำมันเบนซินฉีดล้นพุ่งออกมาจากท่อนั้น อ่ะปิ๊ดๆๆๆ
โอ้ววว โชคดีมากๆ ที่มันไม่ไปพบเจอประกายไฟอะไรเข้าในห้องเครื่องเข้า
มิฉะนั้น มีไฟลุกโชว์แน่ๆๆๆ ......
อาทิตย์ก่อนนี้ ..... เจ้าโครโนส 5 ประตู Efini สุดที่รัก
ใช้แก๊สโซฮอล์มาตลอด สลับกับ 95 บ้างเป็นครั้งคราว
ระยะทางที่ใช้อยู่ประมาณ 7 - 8 หมื่นโล
เกิดอาการสะดุดขึ้นมาซะอย่างงั้นเวลาถอนคันเร่ง
อาการเริ่มออกขณะกำลังห้ออย่างเมามันบนโทลล์เวย์
กลับมาบ้าน ลองรื้อจานจ่ายดู ฝาครอบ สังเกตคอล์ยจุดระเบิด
ก็ไม่มีอะไรนี่นา ..... และจากการลองถามพ่อแม่พี่น้องชาวมาสด้าหลายท่าน
เลยมุ่งประเด็นสาเหตุน่าจะมาจากน้ำมันแน่ๆ
และจากการลองเปิดห้องเครื่องดู พบว่ามีคราบน้ำมันซึมๆบริเวณ
ปะเก็บฝาวาล์ว แต่การสตาร์ทยังปกติ มีเพียงอาการสะดุดเท่านั้น
..... วันรุ่งขึ้น ไปเดินวรจักรแต่เช้า
ซื้อปะเก็นฝาวาล์วไปเปลี่ยนสองฝั่ง แล้วไปซื้อปั๊มติ๊กเชียงกงหนึ่งตัว
มุ่งสู่อู่ที่คุ้นเคย .... เย็นวันนั้นเอง ช่างจึงโทรมาแจ้งให้ทราบว่า
รถเสร็จพรุ่งนี้เช้า มารับได้เลย ...... แต่ว่ามีอาการอื่นเพิ่มนะครับ
ด้วยความงุนงงซักพัก ..... อะไรมันจะพังอีกว้า จะหมดตรูดดมั๊ยเนี่ยกรู .....
ช่างบอกว่า พวกท่อยาง แวคคั่มทางเดินน้ำมัน แล้วก็พวกท่อยางที่รัดเชื่อมหัวฉีด
มันกรอบหมดเลย แถมยางโอริงหัวฉีดรั่วอีก 2 หัว ..... สตาร์ทออกมา
ควันขาวตุ่ยเลย ... แถมมีน้ำมันเบนซินรั่วจากท่อยาง
ฉีดเลอะในห้องเครื่องด้วย
จากอาการที่ว่ามานี้ ผมเลยพอสรุปได้ว่า นอกจากการเสื่อมไปตามสภาพ
ของพวกท่อยางต่างๆแล้ว แก๊สโซฮอล์เป็นอีกตัวเร่งหนึ่ง ที่ทำให้ท่อยางเหล่านี้
เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ..... จากอาการที่คล้ายๆกันทั้งสองคัน
ผมจึงอยากให้เพื่อนๆผู้ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ลองหมั่นตรวจสอบ
ท่อยางต่างๆ ที่เป็นทางผ่าน หรือทางเดินของน้ำมัน
ว่ามีการรั่ว หรือแตกร้าวหรือไม่ จะเป็นอันตรายมากๆ
ถ้าละอองน้ำมันเหล่านั้น เจอกับสะเก็ดไฟ หรือประกายไฟจากภายในห้องเครื่อง
หรือจากภายนอก เช่นก้นบุหรี่ ...... ถ้าพบเจออาการแตกร้าว
เริ่มมีน้ำมันซึม หรือท่อยางเริ่มแข็งแล้ว .... เปลี่ยนเลยดีกว่าครับ
ช่วยป้องกันอันตรายได้ และช่วยให้ขับรถได้
อย่างสนุก + สบายใจเหมือนเดิม
ส่วนอาการผิดปกติอื่นๆของเครื่องยนต์นั้น ยังไม่มีครับ
คงมีเพียงแต่อาการที่ว่านี้เท่านั้น
และถ้าถามผมว่าจะใช้แก๊สโซฮอล์ต่อไปหรือไม่
ใช้ครับ แต่จะใช้น้อยลง และเมื่อจำเป็นเท่านั้นครับ
คงใช้ 95 เป็นหลักเหมือนเดิมครับ