Close this window

เมื่อจะซื้อรถมือสอง
การเลือกซื้อรถยนต์มือสองไม่ใช่เรื่องง่าย ใครๆ ก็กลัวถูกหลอก แต่จะป้องกันได้อย่างไร ถ้ายังมีความเชื่อผิดๆ กันอยู่... บทความนี้ไม่ใช่วิธีเลือกรถยนต์มือสอง แต่จะช่วยลบล้างความเชื่อผิดๆ ได้

เต็นท์ต้องย้อมแมวเสมอ - รถบ้านต้องสภาพดีกว่า
ความเชื่อผิด : คนส่วนใหญ่ยังเชื่อกันอยู่ว่า การซื้อรถมือสองจากผู้ประกอบการ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เต็นท์รถมือสอง ต้องเสี่ยงต่อการย้อมแมว ต้องถูกหลอก มักเอารถเน่ามาหลอกขาย สารพัดจะเละทั้งตัวถังห่วย ชนยับ เครื่องยนต์ช่วงล่างซ่อมแบบขอไปที มีส่วนจริงบ้างเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทุกเต็นท์
ส่วนรถที่ประกาศขายเองตามหน้านิตยสาร หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต ตั้งกล่องจอดข้างทางประกาศขาย หรือที่เรียกกันว่า รถบ้าน หลายคนรีบมองว่า น่าจะสภาพดีกว่ารถเต็นท์ เพราะเจ้าของใช้เอง ขายโดยไม่มีคนกลางราคาถูกกว่า รถก็สภาพดีกว่า ไม่มีการย้อมแมว

ความเป็นจริง : ของมือสองจะมีสภาพดีหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับแหล่งที่ขายเท่าไรนัก ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลและการใช้งานของเจ้าของเดิม และการปรับสภาพของผู้ขาย (ซึ่งอาจเป็นหรือไม่เป็นคนเดียวกับเจ้าของเดิม) เรื่องเต็นท์ย้อมแมว มีมาตลอดและยังมีอยู่เสมอ เพราะหลายคนทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน เน้นกำไรสูงๆ ไว้ก่อน ลูกค้ารู้ภายหลังไม่สน แต่เต็นท์หลายแห่งในระยะหลังมานี้ ต้องการทำธุรกิจระยะยาว ไม่รับซื้อรถสภาพแย่ๆ รถที่ขายอยู่ก็มีสภาพดี เพื่อให้ขายง่าย และสร้างชื่อเสียง ในระยะยาว เพื่อให้ลูกค้าคนเดิมวนกลับมาซื้ออีกหรือปากต่อปากบอกเพื่อนๆ ย่อมดีกว่าย้อมแมวขายแล้วลูกค้าสาปส่ง เรื่องนี้ต้องแล้วแต่นโยบายทางธุรกิจ

ส่วนรถบ้านนั้น มีทั้งแท้และเทียม เพราะพ่อค้ารถทราบดีว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่ เชื่อมั่นว่ารถบ้านต้องสภาพดีราคาถูก ผู้ซื้อมักจะชะล่าใจ ตัดสินใจง่ายไม่ดูละเอียด จึงใช้วิธีเช่าบ้านเอารถไปจอดขายทีละคันสองคัน ซึ่งก็ไม่แพงเท่าไร ค่าเช่าเดือนละไม่กี่พันบาท แล้วอาจจะอยู่อาศัยเองด้วย หรืออาจจะใช้วิธีฝากขายกับคนที่ไว้ใจ ปลอมเป็นรถบ้าน สังเกตได้ว่าผู้ขายจะไม่ค่อยรู้รายละเอียดของรถคันนั้น อ้ำอึ้งเมื่อถูกถามลึกๆ และที่สำคัญคือ ชื่อในสมุดทะเบียน จะไม่ใช่ผู้ขายคนนั้น
ส่วนรถบ้านแท้ๆ ขายโดยเจ้าของจริง ไม่จำเป็นว่ารถจะมีสภาพดี เพราะเขาอาจจะดูแลรถมาไม่ดี จนเต็นท์ไม่รับซื้อหรือไม่รับเทิร์น เลยต้องมาขายเอง เป็นเรื่องแปลกที่รถบ้านซึ่งซ่อมแบบขอไปที ไม่ถูกเรียกว่าย้อมแมว
โดย: bee   วันที่: 13 Nov 2005 - 21:32

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 23 : 146761
โดย: bee
ความเข้าใจที่ถูกต้อง : ให้ความเป็นกลางในใจในเรื่องของแหล่งที่ขาย ให้คิดว่าไม่ว่าจะซื้อที่ไหนก็มีโอกาสถูกย้อมแมวได้พอกัน จะได้ไม่ชะล่าใจ
วันที่: 13 Nov 05 - 21:36

 ความคิดเห็นที่: 2 / 23 : 146762
โดย: bee
สีสวย คือ สภาพดี อาจเพราะทำมาใหม่
ความเชื่อผิด : ไม่แปลกที่เมื่อเห็นรถคันใดสีสวยเงางาม ไม่มีรอยเฉี่ยวชนค้างอยู่ หลายคนจะคิดไปก่อนเลยว่า รถคันนี้สภาพดี เพราะเป็นสิ่งที่มองเห็น เป็นอย่างแรก และไม่ซับซ้อนในการดู ถึงจะซ่อมสีมาหรือพ่นใหม่ทั้งคัน แต่ถ้าทำมาเรียบร้อย ไม่เป็นคลื่นเป็นลอน อย่างน้อยก็ดูดี และอาจทำให้ผู้ซื้อชะล่าใจ ดูส่วนอื่นไม่ละเอียด

ความเป็นจริง : สีสวย แต่อาจเป็นเพราะซ่อมมาแล้ว หรือทำมาใหม่ทั้งคัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุ สวยเงางามไม่พอ จำเป็นต้องดูในรายละเอียดว่า ทำไมถึงสีเนียน เป็นสีเดิมจากโรงงานจริง หรือสีพ่นใหม่ ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับอายุของรถด้วย ถ้ารถใหม่อายุไม่เกิน 7-8 ปี ซึ่งเป็นอายุเฉลี่ยของสีจากโรงงานผลิตที่พอจะทนอยู่ได้ ก็ไม่ควรจะมีการทำสีใหม่มาทั้งคัน ถ้าเคยซ่อมสีมาแผลสองแผลพอทำใจได้ หากทำสีมาทั้งคัน สันนิษฐานได้ 2 สาเหตุหลัก คือ เกิดอุบัติเหตุหนักหรือจอดตากแดดขาดการดูแล เพราะรถปีใหม่ๆ นั้นในแวดวงเขาเน้นกันว่าต้อง สีเดิม โดยผู้ขายมักจะบอกเน้นมากๆ ถ้าเป็นสีเดิมทั้งคัน เพราะจะชัดเจนว่า รถคันนั้นไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย ส่วนรถเก่าอายุเกิน 10 ปี แน่นอนว่าต้องมีการทำสีมาใหม่ แต่ควรจะใหม่แบบเรียบร้อย ไม่ใช่ใหม่แต่ภายนอก แต่ภายในหมกเม็ดเลอะเทอะ ทำแบบลวกๆ

ความเข้าใจที่ถูกต้อง : สีเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น สวยแต่เปลือกก็มีเยอะ ถ้าเป็นรถใหม่ สีเดิมจากโรงงานย่อมดีที่สุด หลีกเลี่ยงการซื้อรถปีใหม่ๆ ที่ทำสีมาใหม่ทั้งคัน เพราะยังไงก็ไม่เนี้ยบไม่ทนเท่าสีโรงงาน ส่วนรถเก่าถ้าทำสีมาใหม่ ควรสวยทั้งนอกทั้งใน ละอองสีไม่เลอะเทอะ และอย่าลืมดูส่วนอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย เพราะไม่ใช่สีสวยแล้วตัวถังต้องดีเสมอไป

เคาะ..ป๊องๆๆ บางทั้งคัน อาจบางแค่ภายนอก

ความเชื่อผิด : ความบางจากการเคาะด้วย มะเหงกนั้น หมายถึง ตัวถังบางมีแต่เหล็กกับเนื้อสี ไม่มีสีโป๊วทับเนื้อเหล็กอยู่ใต้สีชั้นนอก ถ้าเคาะแล้วบาง เสียงก้องๆ ดังป๊องๆๆๆ เสียงไม่ทึบ แสดงว่าบาง ไม่เกิดอุบัติเหตุมา ไม่มีการชน แล้วเคาะซ่อมแล้วโป๊วสีทับ ผู้ขายบางคนรีบบอกเลยว่า รถคันที่จะขายบางทั้งคัน ป๊องทั้งคัน เพื่อแสดงว่าไม่มีการชนหนักมาก่อน ผู้ซื้อจะได้สนใจ

ความเป็นจริง : การเคาะด้วยหลังมือไปทั่วคันรถ สามารถตรวจสอบความบางของตัวถังด้านนอกได้ว่า มีสีโป๊วทับหรือไม่ แต่การที่ตัวถังในส่วนที่เคาะนั้นบาง ไม่ได้หมายความว่ารถคันนั้นไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหนักๆ ทุกชิ้นที่อยู่ภายนอกอาจบาง ทั้งที่รถคันนั้นเคยชนเละมาแล้ว เพราะซ่อมแบบเปลี่ยนทั้งชิ้น เช่น เปลี่ยนประตูทั้งบาน ฝากระโปรงทั้งชิ้น หรือแม้แต่แผ่นหลังคา ถึงจะคว่ำมา ก็เปลี่ยนหลังคาทั้งแผ่นได้ ถ้าซ่อมโดยวิธี เคาะดึงโครงสร้างข้างในแล้ว ชิ้นนอกใช้วิธีเปลี่ยนเอา หลังมือเคาะ ยังไงก็ป๊องๆ ยังไงก็บางทั้งคัน

ความเข้าใจที่ถูกต้อง : การเคาะตัวถังภาย นอกบอกไม่ได้ว่า รถคันนั้นไม่เคยชน เพราะบอกได้แค่ว่า ชิ้นนั้นไม่เคยชน แต่ข้างในนั้นอาจชนมาเละ แล้วเปลี่ยนชิ้นใหม่ภายนอกมา อะไหล่ตัวถังทั้งแท้ เทียบ เทียม ใหม่ เก่า มีให้เลือกเปลี่ยนอย่างสะดวก เมื่อเคาะฟังเสียงข้างนอกแล้ว ที่สำคัญคือ ต้องดูตะเข็บ รอยเชื่อม รอยอาร์คภายในทุกจุด เท่าที่จะดูได้อย่างละเอียด ถึงจะทราบได้ว่ารถคันนั้นเคย เกิดอุบัติเหตุหนักๆ หรือไม่ การเคาะแล้วเสียงป๊องๆ เป็นส่วนประกอบย่อยเท่านั้น ยุคนี้ชิ้นไหนๆ ก็เปลี่ยนกันได้ในราคาไม่แพ
วันที่: 13 Nov 05 - 21:38

 ความคิดเห็นที่: 3 / 23 : 146763
โดย: bee
เลขระยะทางบนหน้าปัด อย่าเชื่อมาก
ความเข้าใจผิด : แม้คนส่วนใหญ่จะพอทราบกันว่า เลขกิโลเมตรบนมาตรวัดระยะทาง หรือเรียกกันแบบชาวบ้านว่า ไมล์ (ทั้งที่ไม่ใช่ระยะเป็นไมล์) สำหรับการซื้อ ขายรถมือสองนั้นเชื่อถือแทบไม่ได้ เพราะสามารถหมุนเลขกลับได้ง่าย มีช่างเก่งๆ รับทำให้ในราคาคันละ 500-1,000 บาทเท่านั้น แต่ผู้ซื้อก็อดไม่ได้ที่จะดูเลขไมล์ ประกอบการตัดสินใจด้วยเสมอ ดูเลขไมล์แล้ว ก็ไม่ค่อยเชื่อ บางคนยังไล่ไปดูร่องรอย การรื้อหน้าปัดด้วย ส่วนรถที่ใช้เลขไมล์เป็นดิจิตอล คนส่วนใหญ่คิด ว่าเปลี่ยนแปลง จากการใช้งานจริงไม่ได้ ทั้งที่บาง คันอาจทำ แต่อาจจะยากกว่าแบบอนาล็อก

ความเป็นจริง : ไม่ควรถือว่าเลขไมล์บนมาตรวัด เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ ควรดูสภาพส่วนอื่นที่สำคัญมากกว่าการเชื่อตัวเลขบน หน้าปัด เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ทั้งแบบอนาล็อก และดิจิตอล โดยในแบบหลังนั้น อาจจะใช้วิธีป้อนสัญญาณให้เลขวิ่งเดินหน้า จนกลับมาขึ้นรอบใหม่ก็เป็นได้

ความเข้าใจที่ถูกต้อง : เลขไมล์แทบไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ถ้าสภาพของอุปกรณ์อื่นไม่สอดคล้องกัน เช่น เลขไมล์น้อย แต่เบาะทรุด เปื่อย ปุ่มกดต่างๆ เลอะเลือนหรือถูกกดจนเลี่ยนมนไปหมดแล้ว

รถเต็นท์ราคาแพง - รถบ้านราคาถูก
ความเชื่อผิด : ความเชื่อนี้ไม่ผิดเท่าไรนัก เพราะรถในเต็นท์ส่วนใหญ่ มักจะมีราคาแพงกว่ารถบ้านแท้ๆ เพราะทำธุรกิจก็ต้องมีกำไร หรือต้องมีค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพ รถเต็นท์ย่อมต้องเนี้ยบ ส่วนรถบ้านนั้นอะไรพังนิดพังหน่อย เฉี่ยว นิดๆ หน่อยๆ แล้วยังไม่ซ่อม ก็ไม่มีใครว่า แต่รถ บ้านบางคันอาจจะตั้งราคาไว้แพง เพราะเจ้าของศึกษาราคาจากรถเต็นท์ ที่ประกาศไว้ หรือแพงโอเวอร์ไปเลยก็ยังมี และคิดไปเองว่าจะขายได้ราคาตามนั้น ทั้งที่ในเต็นท์นั้นเป็นแค่ราคาตั้ง พอซื้อจริงอาจจะลดได้อีกมากก็เป็นได้

ความเป็นจริง : ในเต็นท์อาจแพงกว่ารถบ้าน แต่ถ้าซื้อเป็นเงินผ่อนก็สะดวกดี เพราะมีบริการหรือติดต่อแหล่งเงินกู้ให้ได้ หรือถ้าบางเต็นท์ร้อนเงิน หรือใช้นโยบายเงินหมุนเร็ว กำไรนิดหน่อยก็ขายดีกว่าแช่นาน ราคาก็อาจไม่แพง

ความเข้าใจที่ถูกต้อง : ตั้งเงื่อนไขในการซื้อไว้ว่า ราคาไม่เกี่ยวกับแหล่งที่ขาย จะซื้อที่ไหน ขอให้สภาพดีแล้วมีราคาที่เหมาะสมกันเป็นพอ ถูกแต่สภาพไม่ดี ก็ไม่น่าสน
วันที่: 13 Nov 05 - 21:39

 ความคิดเห็นที่: 4 / 23 : 146764
โดย: bee
เต็นท์รับประกัน ซ่อมฟรี ดูแลฟรี ไม่ดีคืนเงิน ความเชื่อผิด : บริการหลังการขายตามโฆษณาซ่อมแบบค่าแรงฟรี เป็นระยะยาว คิดว่าช่างจะดี บริการเยี่ยม เสียแต่ค่าอะไหล่ หรือซื้ออะไหล่เข้าไปเองได้

ความเป็นจริง : เมื่อใช้บริการจริง กลับพบกับสารพัดปัญหา ช่างไม่เก่ง ค่าแรงฟรีจริง แต่บวกลงไปในค่าอะไหล่จนแพงเกินจริงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ จะซื้ออะไหล่ไปให้ก็อิดออด สารพัดจะบอกปัด เป็นเรื่องปกติครับ ขายรถมือสอง 1 คันได้กำไรไม่กี่บาท จะมาดูแลหรือซ่อมฟรีกัน ในระยะยาวได้อย่างไร แทบไม่เคยเห็นเต็นท์ไหนประกาศออกมาแล้วบริการจริงๆ ได้ดีเลย

ความเข้าใจที่ถูกต้อง : ไม่ต้องสนใจเงื่อนไขซ่อมแบบค่าแรงฟรี ยกเว้นเรื่องการรับประกัน ที่บางเต็นท์มีให้ในระยะสั้นเช่น 1 เดือนซ่อมฟรีแบบไม่มีข้อแม้ ก็ควรทำเอกสารรับประกันให้รัดกุมและชัดเจนที่สุด

การเลือกรถยนต์มือสอง แบบที่ผู้ซื้อดูอะไรไม่เป็นเลย นอกจากสีเงาๆ และทดลองขับดู เป็นเรื่องที่เสี่ยงอย่างมาก ถ้าสนใจจริงๆ ควรหาคนที่มีความรู้มากกว่า ถึงจะไม่เก่งมาก แต่ก็ยังดี และที่สำคัญคือ ลบความเชื่อผิดๆ ออกไปก่อน !
วันที่: 13 Nov 05 - 21:40

 ความคิดเห็นที่: 5 / 23 : 146765
โดย: O-Omega
แอบแทรก อิอิ
ขยันจังคับ
วันที่: 13 Nov 05 - 21:41

 ความคิดเห็นที่: 6 / 23 : 146767
โดย: bee
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน
copy มาครับน่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
วันที่: 13 Nov 05 - 21:44

 ความคิดเห็นที่: 7 / 23 : 146848
โดย: ManualMan
รถมือสอง - ถึงทีเราเอาคืนเต้นท์รถ ...
ผมลังเลๆ การนำบทความนี้กลับมาโพสท์ในที่นี้
แต่ ... ยุคของเงินทองหายาก
เต้นท์รถที่ซื่อสัตย์ยิ่งหายากเข้าไปอีก
หลายคน .. คงเจ็บใจกับการจ่ายเงินที่เก็บหอมรอมริบมานาน เพื่อซื้อรถหนึ่งคัน แถมปัญหาร้อยอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นรถมือสองสภาพดี แค่โดนน้ำทะเลซึนามิท่วม "เท่านั้นเอง"
หรือรถเก่า ผู้หญิงใช้มือเดียว (อีกมือ แต่งหน้า? ) แค่โดนน้ำท่วมมิดคัน จากเชียงใหม่มั่ง จากหาดใหญ่มั่ง "เท่านั้นเอง"

หรือรถวิ่งมาสองแสนห้าหมื่นกิโลเมตร แล้วไปหมุนไมล์กลับ (กรอไมล์) ให้เหลือแค่แสนสองหมื่นโล เพื่อที่จะขายในราคา รถที่ใช้มาแค่แสนสองหมื่นโล แทนที่จะขายในราคารถที่ใช้ไปแล้วร่วมสองแสนห้ากิโลตามจริง
และัยิ่งเจ็บใจหนักเข้าไปอีก
ที่ตีราคารถของเรา แทบเป็นเศษเหล็กวิ่งได้
ทั้งๆที่ถ้าซื้อจากเต้นท์นั้น คุณภาพและราคา พอซื้อโรลส์รอยซ์ได้เลย
......................................

รถคันแรกของผม เป็นรถมือสอง คันที่สองและสาม เป็นมือหนึ่ง

แต่หลังจากนั้น มือหนึ่งป้ายแดง ไม่เคยได้แอ้มเงินในกระเป๋าผม

เพราะโลกยุคนี้ ไม่ใช่สมัยที่ต้องโหนรถเมล์ ไปตามเต้นท์โน้นเต้นท์นี้กันอีกต่อไปแล้ว มือถือก็มีให้ใช้ อินเตอร์เนตก็มีให้เล่น

ขอเพียงใจเย็นๆหน่อย และท่องคาถาหัวใจรถมือสองให้แม่นๆ คุณก็จะได้รถดีๆ ราคาถูก ไม่ทำให้เสียอารมณ์ และรักมันราวกับแฟนมือหนึ่ง

หัวใจการซื้อรถมือสอง มีสามข้อ ที่ต้องท่องไว้ก็คือ
*****************************************

1. ตราบใดที่เงินอยู่ในกระเป๋าเรา เป็นเงินของเรา ออกไปอยู่ในกระเป๋าเขา ไม่ใช่เงินของเราอีกต่อไป

2. เงินของเรา เป็นสิ่งที่เขาเคารพ มากกว่าคำพูดอ้อนวอนเห็นใจของเรา

3. รถยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ ไม่ใช่รถคันเดียวของโลก
*****************************************
วันที่: 14 Nov 05 - 08:02

 ความคิดเห็นที่: 8 / 23 : 146849
โดย: ManualMan
สิ่งแรกที่คุณต้องทำ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าจะซื้อรถมือสองคือ ซื้อชั่วโมง net ให้มาก ไม่กี่ร้อยบาทหรอก ... แต่สุดคุ้ม

จากนั้นก็ตะลุยไปให้ทุกเวปบอร์ด ที่เกี่ยวกับเรื่องรถ โดยเฉพาะเวปภาษาไทย (ก็บอกแล้วนี่ ว่ายุคนี้มันยุคอะไร) อย่าไปจำกัดแต่เฉพาะบอร์ดรถที่ตัวเองสนใจ อ่าน คิด วิเคราะห์ .. วันละ 3 ชั่วโมง

ไม่เกินสี่สิบชั่วโมง (สองอาทิตย์) หรอกน่า ที่คุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับรถมือสองอย่างดี


Benz ก็ไป www.benzuser.com หรือ www.benzclassiccars.com

BMW ที่นี่เลย www.bmwsociety.com หรือ www.bmw.co.th

jeep ก็ไป www.weekendhobby.com หรือ www.gmcworkshop.com

โตโยต้าและฮอนด้า มีเยอะจนเกินกว่าจะบอกได้ ... เข้า google ค้นคำว่าโตโยต้า ฮอนด้า (รวมทั้งรุ่นรถ) ออกมาตรึม

ถ้าหาไม่เจอ web เกี่ยวกับรถมีมากมาย ทั้งที่ one2car.com, siamcar.com, taladrod.com ฯลฯ ตาม link ไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็ว ข้อมูลได้มาเพียบ

racingweb.net ก็ควรที่จะ"ตามไปดู" ให้รู้ชัด

ยี่ห้อไหน ไม่มีแม้กระทั่ง web ของคนที่ใช้มัน ... อย่าไปหลงแตะเข้าเชียว!! น้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก ... จนกว่าจะได้เป็นเศรษฐีเงินร้อยล้านกะเขามั่ง

เสียเวลาตรงนี้ 30-40 ชั่วโมง (10-14 วัน) คุณจะประหยัดเงินได้ไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ... ทำงานแทบตาย ยังหาเงินเท่านี้ไม่ได้เลย (ถ้าหาได้ง่ายๆ ไม่ซื้อมือสองมันหรอก! )

......................................
วันที่: 14 Nov 05 - 08:02

 ความคิดเห็นที่: 9 / 23 : 146850
โดย: ManualMan
จบเรื่อง web แล้ว ที่นี้เรามาลองเรื่องหนังสือบ้าง ...
อันนี้ วิชามารชัดๆเลย

ซื้อหนังสือขายรถมือสองมาสองสามเล่ม
จดยี่ห้อ และรุ่นของรถที่เราต้องการ รวมทั้งวงเงินด้วย

จากนั้นโทรไปทุกที่ ทุกเต้นท์ .. แล้วบอกว่า เราอยากจะขายรถยี่ห้อ/รุ่นนั้น (ในราคาหย่อนๆ กว่าที่เขาตั้งขายซัก 2-3 หมื่น)

แล้วคอยฟังเขาวิจารณ์กลับมาเถอะครับ

(ไม่ต้องกังวลหรอกว่า เบอร์มือถือคุณที่โชว์หราบนเครื่องเขา จะทำให้เขาโทรมาเซ้าซี้ .. ลูกค้าที่เขาต้องกังวล วันนึงๆ กี่สิบกี่ร้อยราย เขาไม่ใส่ใจจำคุณหรอก ยิ่งคุณเซ้าซี้เอาราคาที่ใกล้เคียงกับที่เขาขาย เขายิ่งลืมคุณเร็วนัก)
แต่ถ้ากังวลนัก .. หาซื้อ Sim แบบเติมเงินมาใช้ได้ก็ได้

เต้นท์สองเต้นท์แรกที่คุณโทรไป คุณอาจเงอะๆงะๆ บ้าง แต่ช่างมันเถอะ พยายามใส่ใจจดจำ สิ่งที่เขาโต้ตอบ สำนวน คำพูด ศัพท์เฉพาะ ฯลฯ ให้ดีๆ แล้วอย่าพยายามใช้คำพวกนั้นเชียว เพราะจะทำให้เขาฟังออกว่า เราเขี้ยวลากดิน ทำเสียงเด๋อๆด๋าๆ ไว้
เขาบอกว่า "ให้ได้เต็มที่ไม่เกินสามสิบ'"
เราก็ย้อนไปว่า "ให้ได้เท่าไหร่นะค้าาา... สามสิบอะไรหรือค้าาา ฯลฯ"

อย่าไปทำเป็นต่อรองว่า "สามสิบห้า(หมื่น)ไม่ได้เหรอ รถอะฮั้น มีบุค เช็คห้างตลอด ฯลฯ"

... จำคาถาที่ผมบอกได้ไหม .. รถยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ ไม่ใช่รถคันเดียวของโลก ..

ทางเต้นท์ เขาจะร่ายคาถานี้ให้คุณฟังแน่นอน ..
เพราะไม่ว่าคุณจะโปรโมทรถในฝันของคุณแค่ไหน .. เขาจะท่องคาถานี้ เพื่อเชือดราคาลงทันที

และเนื่องจากไม่ใช่รถคันเดียวของโลก ... เขาจะยก สิ่งไม่ดี ปัญหาสารพัด ข้อด้อย จุดอ่อน เรื่องเสียหายร้ายแรง ฯลฯ อันจะเป็นเหตุผลที่ทำให้รถรุ่นนี้ ราคาไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เขาจะไม่ตีราคามาหรอก มันเป็นหน้าที่ของคุณ ที่จะต้องพยายามตื้อเอาราคาให้ได้ และให้ได้ราคาสูงสุดด้วย
ตอนนี้ ... เอาความรู้ที่ได้จาก net นั่นแหละ มาบอกว่า "รถเรา" มีดีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะแม็ก 21" เครื่องเสียงชุดใหญ่ ทีวีจอสามสิบนิ้ว ยกเครื่องใหม่ เปลี่ยนเครื่องติดโบว์มาแล้ว ฯลฯ

เมื่อมาถึงตอนนี้ .. เต้นท์ส่วนใหญ่ จะตัดบทให้คุณเอารถไปให้ดู
แต่ถ้าคุณเซ้าซี้ดีๆ ก็จะได้คำตอบคร่าวๆ เยื้อให้ได้ 2-3 นาที อย่านานกว่านี้ และอย่าสั้นกว่านี้ เพราะมันจะทำให้เขาจำคุณได้ และอาจบอกต่อๆไป ในวงการ (ซึ่งหาความจริงใจกันไม่ได้)

มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะ
แต่ผมไม่เคยเห็นเต้นท์รถเต้นท์ไหน ที่ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่เชือดลูกค้า ไม่ฟันกำไรชนิดหัวแบะ ...
ตาต่อตา ฟันต่อฟันครับ

................
วันที่: 14 Nov 05 - 08:03

 ความคิดเห็นที่: 10 / 23 : 146851
โดย: ManualMan
แล้วทำไปทำไม?
เพราะนั่นเป็นความรู้ที่เราจะต้องเอาไปใช้
เวลาดูรถ เวลาต่อรองราคา (คาถาบทที่ 1)
เวลาตัดใจไม่เอา! (อย่าลืมคาถาบทที่ 3)

และต่อให้เป็นรถที่ขายผ่านเน้ต ก็ใช่ว่าจะเอาวิชามารนี้มาใช้ไม่ได้ จุดด้อย ข้อเสีย ฯลฯ ที่เขาเอามา"กด" ราคารถในฝันเรา เราก็เอาไป"กด" คนอื่นต่อได้ ..
ในโลกแห่งปลาใหญ่กินปลาเล็ก ความจริง มันก็น่ารังเกียจอย่างนี้แหละ

.........................

รถที่ขายผ่านเน้ต ในช่วงปีหลังๆ มีมากขึ้น และขายตรงจากเจ้าของเกินกว่าครึ่ง
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมโทรไปแทบทุกรายที่ผมสนใจ อยากซื้อ (ไม่ได้ซื้อหรอก) แต่ค่าโทรไม่กี่ตังค์ ยี่สิบสามสิบราย ยังถูกกว่าตั๋วหนังอีก แถมได้ความรู้ดี ...
บางทีก็สนุกดีด้วย เพราะกว่าครึ่งเป็นรถเต้นท์ แล้วบอกว่าเป็นรถบ้าน (จริยธรรมรถเต้นท์ ไม่มีหรอก .. เห็นไหม?)
ทำไมถึงรู้?
1. เสียงคนพูด คนรับสาย มันคนเดิมนี่หว่า!
2. เสียงแบคกราวด์ ที่ลอดเข้ามาให้เราได้ยิน (ต้องเงี่ยหูฟังดีๆ) มันฟ้องชัดๆว่าเต้นท์รถ (ที่มีคนกำลังมาต่อรองราคาอยู่)

ความรู้ที่ได้จากการค้นเน้ต ที่ได้จากเต้นท์รถ บวกความใจเย็น อาจทำให้คุณได้รถดีๆ ที่ราคาถูกกว่าเต้นท์ไม่ต่ำกว่าสองแสน!

ใจเย็นอย่างไร ???
ท่องคาถาข้อที่สามไว้

คุณลองไปไล่ดูรถที่ประกาศขายในเน้ต หรือซื้อหนังสือรถมือสอง ย้อนหลังสามเดือนหกเดือนดูสิ จะพบว่า มีรถดีๆ ราคาถูกๆ เพียบเลย
ถ้าคุณใช้คาถาข้อที่ 1 .. เก็บเงินในกระเป๋าไว้ แล้วค่อยๆดูไปเรื่อยๆใจเย็นๆ ไม่เกินหกเดือนหรอก รถยี่ห้อ/รุ่น ที่คุณต้องการ มันจะโผล่มาให้เห็น ในราคาที่ถูกเหลือเชื่อ
วันที่: 14 Nov 05 - 08:04

 ความคิดเห็นที่: 11 / 23 : 146852
โดย: ManualMan
สุดท้าย ... สำหรับคนที่ชอบเล่นมือสอง ปีใหม่ๆ เนื้อนิ่มพิมพ์นิยม อย่าง CRV, Camry, Vios, Jazz ฯลฯ
คุณควรหาเงินซักหมื่นนึง กะแฟนซักคนนึง (ไม่แนะนำกิ๊ก เพราะเรากำลังเครียดเรื่องรถนะ )

เอาเงินไปเช่ารถรุ่นนั้น ยี่ห้อนั้น จากบ.รถดีๆ (Avis, Budget) .. พาแฟนไปเที่ยวพัทยา ตราด หัวหิน ฯลฯ อะไรก็ได้ ...
หวด (รถ, ไม่ใช่แฟน!) ให้กระจุย

รถเช่า จะผ่านมือชาย เอ๊ย มือคนขับ มาสิบมือ ร้อยมือ

แต่ละคนใช้กันอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุ้มกับค่าเช่าที่แสนแพง .. ไม่มีใครถนอมรถที่มีสิทธิแตะแค่วันเดียวหรอก
ฉนั้น .. ถ้ามันมีจุดอ่อนอะไร มันจะฟ้องให้เห็นถนัดชัดเจน

ยังพอมีเวลาเหลือ 2-3 ชั่วโมง ก่อนเอาไปคืน
เอาไปอู่ที่รู้จัก ให้ช่วยยกขึ้นดู แล้วเช็คทุกจุด เพื่อจด +จำไว้ ...
อย่าลืมสิ ไม่ว่าเต้นท์ หรือ เจ้าของตรง เขาไม่ให้คุณเอาไปลองแบบเละเทะอย่างนั้นหรอก

เมื่อเจอปัญหา จะยอมรับได้ไหม หากเกิดกับรถที่เราซื้อมาแล้ว ตีราคาค่าซ่อมแซม บำรุง ดูแล รักษา ฯลฯไว้เท่าไหร่

ขอให้มีความสุขกับรถมือสอง

(สงวนลิขสิทธิ พรบ.ทรัพย์สินทางปัญญา ห้ามนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ ในตัวกลางทุกชนิด ที่ผู้อ่านแม้เพียง 1 คน ต้องเสียเงินเพื่อได้อ่าน โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

ผู้ที่จะนำไปเผยแพร่ต่อ เพื่อประโยชน์ต่อมหาชนโดยตรง (โดยมิได้รับอะไรที่เป็นมูลค่าทางการค้าตอบแทน) กรุณาให้เกียรติข้าพเจ้า ผู้เป็นเจ้าของกระทู้นี้ โดยการอ้างชื่อถึง)

ปล. จะโดนลบทิ้งก่อน หรือ จะได้รับโหวตให้ขึ้นบนก่อนหว่า

แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 48 08:54:09

แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 16:19:30

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:05

 ความคิดเห็นที่: 12 / 23 : 146853
โดย: ManualMan
รถมือสอง สามคันล่าสุดของผม ซื้อในราคาที่ต่ำกว่าเต้นท์ทั่วๆไป เป็นแสนๆบาท ทั้งสามคันครับ

ทุกคัน เป็นรถที่อยู่ในสภาพดี มีประกันชั้น 1, มี book service, ซ่อมอู่ศูนย์ตลอด ฯลฯ

ใช้มาเป็นปีๆ เสียค่าซ่อมค่าดูแล ไม่ต่างจากรถมือหนึ่งเลย

เพียงแต่ใช้เวลาในการหา นานหน่อยเท่านั้นเอง

อย่างคันแรก หาตาม net เกือบสามเดือน ถูกกว่าซื้อเต้นท์ 80,000 แต่สภาพออกห้าง ... คนขายขายเพราะอารมณ์เสีย ที่รถไปเฉี่ยวเสาประตูรั้วจนเป็นรอย! (เศรษฐีมีจริง )

ใช้ไปสามปี ก่อนขายไปในราคาที่สูงกว่าที่เต้นท์จะรับเข้าไป เจ็ดหมื่น
คนซื้อต่อจากผม เขายินดีที่จะซื้อในราคาที่แพงกว่าเต้นท์นิดหน่อย เพราะผมดูแลรถอย่างดี และมีประวัติ service ให้เขาดูเช่นกัน ... บวกกับเขา"ใจร้อน" อยากได้รถ ...

คันที่สอง ก็ควานหาจากใน net นี่แหละครับ หกเดือนกว่าจะได้ ..
ราคาถูกกว่าที่เต้นท์ขาย ... สองแสนสี่!
บทพิสูจน์ว่า ใจเย็นๆ ได้ัเล่นของดี ราคาถูก เท่านี้พอไหมครับ

คันที่สาม .. รถใช้มาสามปี วิ่งต่างจังหวัดตลอด แค่สี่หมื่นโล ราคาถูกกว่าเต้นท์ห้าหมื่นบาท

จายเย็ลลล์ๆๆๆๆๆๆๆ ชิลๆเข้าไว้
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 16:50:05

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:05

 ความคิดเห็นที่: 13 / 23 : 146854
โดย: ManualMan
อยากมีรถมือสองไว้ไช้สักคัน ตอนนี้มีงบอยู่ 100,000 กว่าจะเก็บได้
ไม่ทราบว่าจะพอที่จะซื้อรถอะไรได้บ้าง
และต้องเตรียมงบอีกประมาณเท่าไร ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อย

นี่คือปัญหาที่จะเจอกันมาก
เงิน 100,000 สำหรับคนมีกะตังค์ซื้อประเทศ เอ๊ย การเมืองไม่ยุ่ง
สำหรับเศรษฐี มันแค่เศษเงิน
แต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ ไม่น้อย

แต่ต้องใช้รถ .. ลำบากใจแทนเลย

เพราะรถราคาขนาดนี้ เกินบูรณะไหว

เนื่องจากต้องทำทั้งตัวถัง เครื่อง ช่วงล่าง ฯลฯ
ค่ารายเดือนมันแพง

ถ้าจะเอา ก็ต้องมองให้ทะลุว่า
รถ มีไว้ใช้งาน กันฝน กันร้อน กันหนาว ปลอดภัย
ไม่ใช่มีไว้ใช้โชว์
ฉนั้น สีจะด้าน ตัวถังจะผุ ฯลฯ ก็ต้องตัดใจ
ขอให้เครื่องดี ไม่เสีย ไม่ซดน้ำมันมาก แอร์เย็น

.. ต้องทำใจให้นิ่ง ..

แม้วิ่งได้แค่ 60 ... ก็เร็วกว่าเดิน

ต้องหัดดูผู้ที่"ใช้" รถเป็นรถ .. ไม่ว่าจะเป็นปิคอัพส่งของ อายุ 10 ปี, เก๋งเก่าๆ อายุ 30 ปี ฯลฯ

ความจริงที่ทุกคนไม่ค่อยมองคือ
อย่างแรก ... รถที่แต่งหรูหรา .. นอกจาก ตัวเรา ไม่มีใครกี่คนหรอก ที่สนใจมองซ้ำอีกหรอก ...
เขามีรถของเขา ที่เขาชอบดู มากกว่ารถของเราเยอะ
(เว้นพวกวัยสะรุ่น RCA/center point)

อย่างที่สอง ... ถ้าเป็นคนกรุงเทพ ที่ไม่ได้มีอาชีพที่ต้อง นั่ง กิน นอน พักผ่อน ในรถ .. ไม่ว่าใคร ไม่อยากนั่งในรถที่ตัวเองภาคภูมิใจหรอก
เว้นแต่พวกเพี้ยนสุดๆ ที่รักรถติดวินาศสันตะโรยิ่งกว่ากิ๊กคนที่สาม กะพวกวัยสะรุ่น RCA/center point

ถึงผมจะมีรถราคาแพงอยู่หลายคัน แต่รถที่ผมใช้บ่อยๆ ... เต้นท์รถตีราคาให้ 50,000 บาทครับ ... ใช้ได้ดี แอร์เย็นเจี๊ยบ วิทยุพอฟังได้ วิ่งโครกเครกๆหน่อย แต่ใช้เฉพาะใน กทม. ค่าซ่อม ปีนึงๆ ไม่ถึง 20,000 บาทเลย .. ค่า"แต่งเล่น" ยังแพงกว่าอีก
ใช้เป็นปี ไม่เห็นมีใครถามเลยว่า รถอะไร ..
เช้าไป สายจอด เย็นกลับ แทบหลับคารถ

ผมเอง ยังแทบจะไม่เคยเห็นรถตัวเอง คนอื่น จะเห็นได้อย่างไร?

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:06

 ความคิดเห็นที่: 14 / 23 : 146855
โดย: ManualMan
ผมกำลังจะซื้อรถมือสอง nissan nv กระบะ (หรือ isuzu หรือ toyota ฯลฯ) แต่ภาพพจน์มันต๊อกต๋อย อยากจะขอความคิดเห็นด้วยครับ

เรื่อง image ... ต้องถามว่า เป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน ที่ทุกอย่างต้องเนี้ยบสุดๆไหม? ถ้าไม่ ... สมการ
image = idiot2 * ignorancy
ใช้ได้ดีเสมอ

ยกเว้นแต่ว่า เราเคารพความเห็นของบ๋อยโรงแรม ในการตัดสินศักดิ์ศรีของเราซึ่งมองเราด้วยรถที่เราใช้ ว่า ความเห็นนั้นมีคุณค่ามากเหลือเกิน .. มีความสำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็คงไม่ควรใช้

แล้ว image ของคนใช้ปิคอัพ หรือรถโดเรมอนมือสิบสองหละ???

ก่อนที่เสียเงินอีกแสน เพื่อจะ upgrade เป็นรถแพงๆ หรูๆ ลองเจียดเงินซัก 2 หมื่น เลี้ยงเพื่อนฝูงที่รู้จักสนิทสนม ฯลฯ
รับรองว่า image ของคุณ ในสายตาพวกนั้น ดีกว่าพวกที่ใช้ S-class แต่ไม่เคยเลี้ยงโอเลี้ยงซักแก้วแน่นอน (รวมทั้งคนคอนหวันที่ขับตราดาว แต่ไม่ยอมเลี้ยงไอติมผม )

และอีก 8 หมื่น เอาไปให้พ่อ-แม่ใช้เล่น ...

image อันที่สอง ที่คุณสร้างคราวนี้ .. อยู่เป็นปีๆๆ ครับ

เจอหน้าทีไร ท่านก็ปลื้ม ก็ชมว่า คุณมีความคิดที่ดี เป็นคนดี รู้จักใช้เงิน ฯลฯ

image ที่ได้จากผู้วิจารณ์เหล่านี้ เทียบกับ image ของการซื้อ benz แต่ไม่ได้ทำอะไรซักอย่างเลยนะ

อย่างไหน น่าดูน่าชมน่าปลื้มใจกว่ากัน?

กลับมาที่ปิคอัพ
ใช้ทำมาหากินครับ ดีกว่าแมงกะไซค์พอสมควร ... ในกรุงเทพรถติดๆ ใช้คล่อง ประหยัดน้ำมัน ไม่เหม็นควันรถ .. ระวังน้ำท่วมหน่อยแล้วกัน ไม่ต้องไปสนใจเรื่องสมรรถนะหรอกครับ

เคยอ่านบทความที่คุณวรพลฯ เขียน น่าฟังทีเดียว

ตอนซื้อ ก็อ่านสมรรถนะ สนใจเรื่องสารพัด แต่ตอนใช้ .. torque 13.5 นิวตัน-เมตร มาตอนไหน ไม่สำคัญเท่าไฟเขียวหรือยัง

ขอให้มีความสุข และความเจริญ กับการตัดสินใจใช้เงินอย่างชาญฉลาด
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 17:03:13

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:06

 ความคิดเห็นที่: 15 / 23 : 146856
โดย: ManualMan
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคห.ของคนที่หนีเอาตัวรอด เอ๊ย เอาตัวไม่รอด
(ไม่ได้ล่วงเกินอะไรเลยครับ ได้เห็นความคิดดีๆจากอีกมุมด้วยซ้ำ)
(แต่อาจไม่ให้อภัย หากวุ่นวายกับกิ๊กๆ ฮอนด้า เอ๊ย ฮอนดากิ๊กๆ )

เพราะคำว่า อาชีพสุจริตของผมคือ ไม่หลอกลวง

เต้นท์รถมือสอง ที่ไม่หลอกลวง ... อาจจะมี

...............................

ตัวผม เพื่อนผม ลูกน้องผม .. หลายๆคน ไม่ใช่คนมีเงิน
พูดจริงๆคือ ฐานะค่อนข้างจนด้วยซ้ำ

แต่ทุกคน"โดน"กันมาทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย

บกพร่องโดยธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ยอมรับได้
แต่เจตนาบกพร่อง แม้จะโดยสุจริต เอ๊ย ไม่ลบๆๆ ไม่เกี่ยวการเมือง
แต่เจตนาบกพร่อง .. เอารถยำ (สองท่อนต่อกัน)มาขาย, รถตกน้ำ, รถน้ำท่วม, รถโดนซึนามิ, รถผุแต่เอาผ้าชุบฟลิ้นโค้ทแปะ ยัดเยียดขาย ฯลฯ สารพัดจะทำกัน
อะไหล่ที่มีตอนซื้อรถเข้า ถูกถอดขาย
ฯลฯ

กล่าวโดยสรุปคือ กระทู้ครั้งนี้ มีอคติมากๆๆๆๆๆ ไม่เป็นกลางอย่างรุนแรง เพราะสรุปมาจากประสบการณ์ของผมเอง กับรถมือสองเกือบสิบคัน สิบเต้นท์ + ของลูกน้องอีกสามสี่สิบราย ซึ่งสรุปได้เหมือนกันคือ
ยังไม่เจอเต้นท์รถมือสอง ที่ซื่อสัตย์สุจริต

...............................

ถ้าเป็นสังคมอาชีพพวกเรา ทำแบบเดียวกับพวกเต้นท์รถได้ ... รับรองว่า รวยเละ จนไม่รู้จะรวยอย่างไร ผลาญไปจนถึงลูกถึงหลาน ยังผลาญไม่หมด

...............................
อาจจะมีเต้นท์รถมือสอง ที่ซื่อสัตย์ จริงใจ ซื้อมาขายไป ไม่ฟันกำไรเกินเหตุ ไม่มีการย้อมแมว ไม่มีการถอดอะไหล่ รับซื้อด้วยราคาจริงใจ ไม่กดจนคนขายแทบร้องไห้ .. แต่ .. ผมไม่เคยเจอ

และถึงมี .. อยู่นอกประเด็นของกระทู้นี้ครับ

เพราะกระทู้นี้ เขียนเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของคนที่
1. ไม่ค่อยมีเงิน แต่จำเป็นต้องมีรถ
2. ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถมากนัก
3. มีความซื่อสัตย์จริงใจ มากกว่าคนขาย

เต้นท์ดีๆ เลยต้องพลอยติดร่างแห เพราะเต้นท์แย่ๆ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ไปด้วย

...............................
ใครเคยซื้อรถจากเต้นท์ แล้วไม่มีปัญหา ไม่โดนโก่งราคา อุปกรณ์ครบไม่โดนถอด ไม่มีการหมกเม็ดเครื่อง ช่วงล่าง ตัวถัง

กรุณาออกมาขัดแย้งผมด้วยครับ
Please, Please, Please.

เพราะผมอยากเชื่อเช่นกันว่า สังคมตลาดรถมือสอง ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด ...

ผมถึงลังเลๆ ที่จะเอาบทความ ที่เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้วมาลง ..
แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 48 21:00:36

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:08

 ความคิดเห็นที่: 16 / 23 : 146857
โดย: ManualMan
ผมสนใจรถรถมือสองรุ่น XXXXX มีลงในหนังสือ"รถมือสอง" งบประมาณ 2-2.5 แสน ฯลฯ ผมอยู่ต่างจังหวัดภาคอิสาน (เหนือ ใต้ ฯลฯ)

การมาซื้อรถมือสองในกรุงเทพ อย่ารีบร้อน
ถ้าดูในหนังสือรถมือสองดีๆ จะเห็นว่า เขาออกให้แม้กระทั่งค่าที่พัก ค่าเดินทาง
ถ้าไม่มีอะไรซ่อนอยู่ในกอไผ่ .. ใครจะใจดีปานนั้น?

คนต่างจังหวัด ซื้อรถกรุงเทพ เสียหายหลายต่อครับ
โดยเฉพาะการเคลมเวลารถมีปัญหา

เต้นท์รถ ไม่ใช่เลวร้ายทั้งหมด แต่ .. คนต่างจังหวัด ไม่มีรถราจะใช้ (ถึงมาซื้อ) ไม่รู้จักกรุงเทพมากพอที่จะตะลอนๆ ดูทุกเต้นท์ (ถึงรู้จัก ก็ตะลอนฝ่ารถติดไม่ไหว) .. เท่ากับกำเงินแสน มาซื้อของ โดยไม่มีโอกาสเปรียบเทียบ-ต่อรอง

ซื้อทิสชู่ ราคาไม่กี่สิบบาท ยังพลิกแล้วพลิกอีกว่า อันไหนดีกว่าอันไหน
นี่ของราคาเป็นแสนเป็นล้าน ... ไม่มีโอกาสกระดิกเลย
เสียเปรียบสารพัด

โอกาสสูงมาก ที่จะได้รถย้อมแมวชนิด ย้อมหนักมากครับ
ต่อให้เต้นท์เป็นเต้นท์ชั้นดี .. แต่รถมันมีเสียของมันได้ (ขนาดป้ายแดง ยังไฟไหม้เอาดื้อๆ สาอะไรกับของมือสอง)
การจะเคลมอุปกรณ์ที่เสียหาย ทำอย่างไร?

เวลาในการตรวจสอบรถใช่ว่าจะมีมาก ความรู้ก็ไม่มี (ซื้อรถกันวันละกี่คันเชียว?)
ฉนั้น ... ขนาดเต้นท์ดีๆที่คนกรุงเทพแนะนำกัน เจอคนจากต่างจังหวัด ฟันได้เป็นฟันครับ เพื่อนรุ่นน้องผม สามสี่คน โดนกันทั้งหมด ... คนไทยกันเอง ทำกันได้ลงคอ

ถ้าจะดูรถตามเต้นท์ ต้องมีความรู้ และตระเวนดูหลายที่ รุ่นเดียวกัน สภาพเหมือนกัน ราคาบางที ห่างกันกว่าแสนครับ ตอนผมเคยควานหา Benz W123 .. ถ.สุขาภิบาล 2 เกือบสิบเต้นท์ มีรุ่นนี้ทั้งสิบเต้นท์ ราคาตั้งแต่แสนห้า จนสามแสนแปด

คนต่างจังหวัด รู้หรือเปล่าว่า สุขาภิบาล 2 ส่วนไหน ที่เป็นแหล่งรวมเต้นท์รถ?
..........................

กำเงินสดลงมาสามแสนห้าแสน มีเวลาอยู่กรุงเทพแค่ 1-2 วัน ไม่คุ้มที่จะลงมาดูรถ-ซื้อรถ

ถ้ามีเพื่อนสนิทๆ หน่อย ฝากเงินมัดจำไว้ + ค่าใช้จ่ายด้วย ไหว้วานให้ดู ยังจะคุ้มกว่า เพราะการเดินทางมาเอง ค่าใช้จ่าย ค่าที่พัก ค่าตะลอนๆ ไม่น้อยกว่า วันละ 1,000 บาท กว่าจะหาเจอ 7-8 วัน ก็ร่วมหมื่นแล้ว ... เอาเงินตรงนี้ ซักครึ่งให้เพื่อน (สนิทๆ) คุ้มกว่าเยอะ

...................................
คลิ้กตาม URL นี้ เข้าไปเช็คคร่าวๆ ก่อนได้เลยครับ
http://www.taladrod.com
...................................

สุดท้ายคือ ถ้าอยู่ ตจว. จะเล่นรถอะไร ต้องพิืจารณาสิ่งสำคัญที่สุด คือ ในจังหวัด มีบริการรถยี่ห้อ รุ่นนั้นๆอยู่หรือเปล่า

หาตรงนี้ให้ได้ก่อนหารถ ไม่งั้น .. อ่วมครับ

ตจว. เกียร์ออโต้ ไม่ค่อยจำเป็น ราคารถจะถูกลงไปอีกไม่น้อยกว่า 20,000 บาท

ขอให้โชคดี เจอรถที่ถูกใจ ในราคาถูกตังค์

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:10

 ความคิดเห็นที่: 17 / 23 : 146864
โดย: ManualMan
ท่านที่คิดอยากได้รถมือสอง ที่ไม่เป็นที่นิยมของตลาด ท่านควรไตร่ตรองให้ดีๆ ว่า ทำไมรถดีๆ ถึงขายราคาถูกนัก

ผมไม่แนะนำให้ใคร ที่เพิ่งใช้รถมือสอง เป็นคันที่ 1-2 ใช้รถ ยี่ห้อที่ไม่เป็นที่นิยมของตลาด .. ไม่ว่าจะเป็นรถยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ... การดูแล การหาอะไหล่ การหาอู่ซ่อม ค่อนข้างมีปัญหา

ถ้าท่านเล่นจนชำนาญ หรือเป็นรถคันที่สอง ผมจะไม่ค้านเลยครับ

รถทุกยี่ห้อ มีข้อดีข้อเสีย
จุดอ่อนที่ควรต้องกังวลหลายอย่าง ขึ้นกับรุ่น และปีที่ผลิตด้วย

ผู้ที่เพิ่งจะรู้จักรถมือสอง ขอแนะนำอีกประการคือ 1. รถมีไว้ใช้ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง 2.เพื่อความสบายในชีวิตประจำวัน และ 3.ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน

สามเรื่องนี้ สำคัญกว่าความยี่ห้อ รุ่น ความสวยงาม อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ มาก

เงินทอง เรามีน้อย
อย่าให้ความสำคัญกับความเงางามของตัวถัง มากกว่าความสมบูรณ์ของช่วงล่าง
อย่าให้ความสำคัญของแรงม้า มากกว่า สภาพของเครื่องยนต์
อย่าให้อุปกรณ์ตกแต่ง สำคัญกว่ารอยผุ

...........................

เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องรถมือสองเลยและเป็นคนใจร้อนรีบซื้อ ไม่ได้ดูรายละเอียด ไม่ได้ศึกษา และไม่มีเพื่อนที่รู้เรื่องรถเลย จึงตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่มีที่ปรึกษา ... แพงกว่าที่อื่นร่วม 50,000 และหมดค่าซ่อมไปอีก 30,000 มันคุ้มหรือไม่คุ้ม?

อดีตที่ผ่านมาแล้ว ถ้าไปเอามาคิด กลุ้มใจและแค้นใจเปล่าๆ
ถ้าบอกว่า แพงเกินไป แล้วจะทำยังไงต่อ? ถ้าบอกว่าถูกดี แล้วจะทำอย่างไรต่อ??

ราคารถมือสอง ขึ้นกับว่า สภาพรถเป็นอย่างไรด้วยครับ ... บางคันเจ้าของเดิมหวงมาก .. ขัดสีฉวีวรรณ ซ่อมอู่ศูนย์ตลอด ฯลฯ ราคาก็ตกน้อย แต่บางคัน .. อื้อ ...

ค่าซ่อมปีละ 30,000 กับรถปี xx ถือว่า พอสมควร
เพราะอายุการใช้งานรถจะอยู่ที่ 100,000-120,000 กม. (โดยเฉลี่ย) และค่าซ่อมแซมดูแลรักษาหลังปีที่ 3 จะประมาณ 2%-3% ของราคารถ**ใหม่** ต่อปี

รถมือสอง ให้ระวังตอน 100,000-120,000 กม. ให้ดีๆ

เพราะหลายคนจะถอดใจขายทิ้งกันตอนนั้น ...
ซ่อมกันน้ำตาร่วง เนื่องจากอุปกรณ์พวกยาง หนัง สายพาน ฯลฯ จะทยอยเสีย ซ่อมกันไม่จบไม่สิ้น ..

ค่าของไม่เท่าไหร่ ค่าแรงช่างกินตาย
ค่าซ่อมรถ ตอนอายุ 100,000-120,000 กม. จะประมาณ 5%-7% ของราคาป้ายแดง (ไม่รวมค่าทำสี ปะผุ)

แต่ถ้าไม่ถอดใจ ยอมตัดใจ ซ่อมรวดทีเดียว ก็จะใช้ได้อีก 3-4 ปีเป็นอย่างน้อย ...

และไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือโชคร้าย สำหรับคนที่ทนซ่อมไม่ไหว ต้องขายไปในราคาถูก (กด)
เพราะรถที่ขายๆ เพราะทนค่าซ่อมไม่ไหวนั้น ส่วนใหญ่จะซ่อมหมดไปแล้วกว่า 80% (ใช้เวลาประมาณ 1 ปี)
คนใหม่ที่ซื้อไป .. ซ่อมอีกนิดหน่อย ไม่แพงมากด้วย ก็เป็นอันจบ ... ใช้ได้อีกประมาณแสนโล ก่อนค่อยซ่อมใหญ่อีกรอบ
(ประมาณๆ จากรถที่ใช้ในกรุงเทพนะ .. รถใช้ ตจว. ถึงอะไหล่ที่มีอายุ จะไปตอนแสนโล แต่หลายๆส่วน จะสภาพยังใช้ได้อีกไม่น้อยกว่าห้าหมื่นโล)

สำหรับคนขายรถมือสอง ขอให้ท่านที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา จงประสบแต่ความสุข ความเจริญรุ่้งเรืองในอาชีพการงาน ทุกๆท่าน

อย่าได้เจอคนที่เอาวิชามารข้างบน ไปใช้กับท่านเลย

สำหรับคนที่จะซื้อ ขอให้โชคดี ได้รถมือสองที่ถูกเงิน ถูกใจ ไม่มีปัญหา ทุกๆท่าน

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:21

 ความคิดเห็นที่: 18 / 23 : 146873
โดย: ManualMan
กลับมาเรื่อง"เต้นท์รถ"ของเราต่อดีกว่าครับ
เรื่องไมล์ ก็กรอหรือไม่กรอ ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ มันเป็นแค่เทคนิคการขายอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่มีลูกค้าคนไหนอยากเห็นเข็มไมล์ขึ้นไปเยอะ

ผิดหลายอย่างเชียวครับ
ทั้งกฏหมายแพ่ง ทั้งอาญา
ทั้งศีลธรรม ฯลฯ

เต๊นท์รถ ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ทุกอาชีพหวังผลกำไรด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ
เห็นด้วยครับ ว่า ทุกอาชีพ หวัีงผลกำไร
และสนับสนุน 100% ต่อการค้าที่หวังผลกำไร อันทำโดยสุจริตใจ
และประณาม การค้าที่หวังผลกำไร จนทิ้งจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม

เงินอยู่ในกระเป๋าคุณ ไม่มีใครเอาเงินคุณไปได้
เห็นด้วยครับ
เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย เห็นด้วย
เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์

ไม่มีพ่อค้าคนไหนบอกจุดด้อยของสินค้าตนเองหรอกครับ
มีครับ
เขาเรียกว่าพ่อค้าเหล่านั้นว่า ผู้ประกอบการค้า ที่ทำอย่างสุจริต

.................

คุณ tantipinya ครับ ... อ่านกระทู้ที่ผมเขียนดูดีๆสิครับ

คุณจะเห็นว่า สิ่งที่คุณพยายามชี้แจงนั้น .. ไม่ได้เกิดผลดีอันใดกับภาพพจน์ของเต้นท์รถมือสองเลยนะครับ

คุณกำลังยอมรับว่า ช่วยไม่ได้ ที่ลูกค้าโง่เอง?
(ทางที่ดีควรมีช่างไปดูรถด้วยทุกครั้ง เพื่อจะได้รู้สภาพรถที่เราจะซื้อ ... เพราะถ้าไม่มีช่าง เต้นท์ไม่ยอมบอกสภาพรถที่แท้จริงหรอก หมกเม็ดแน่นอน?)
คุณกำลังยอมรับว่า เต้นท์รถ ประกอบอาชีพอย่างทุจริตโดยเจตนา โดยอ้างว่า เป็น "เทคนิคการขาย"?
(เรื่องไมล์ ก็กรอหรือไม่กรอ ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ มันเป็นแค่เทคนิคการขายอย่างหนึ่งเท่านั้น)

คุณฟันธงว่า เต้นท์จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น?
(ผู้ขาย พอใจขาย คนซื้อ พอใจซื้อ เต๊นท์เป็นแค่คนกลางเท่านั้น)

คุณสรุปว่า หลอกได้เป็นหลอก ฟันได้เป็นฟัน?
(ไม่มีพ่อค้าคนไหนบอกจุดด้อยของสินค้าตนเองหรอกครับ])

อาจจะจริง ที่คุณไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
แต่ขอให้นี่เป็นคำ feedback จากลูกค้่าว่า
ลูกค้า มองเต้นท์รถอย่างนั้น
ไม่มีใครคนไหนหรอกครับ ที่อยากเป็นไอ้ตัวโง่ ให้เขาหลอกขายของคุณภาพต่ำ ในราคาแพง .. แม้ตัวเองจะไม่มีความรู้ ในของที่ตัวเองกำลังจะซื้อก็ตามที

และถ้าเต้นท์รถคิดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น
จะให้ลูกค้า่ส่วนใหญ่คิดอย่างไร ทำอย่างไร?

บทความนี้ มันถึงมีขึ้นมา
เพราะอยากให้ลูกค้า คนซื้อรถมือสอง ที่ไม่ค่อยมีเงิน ไม่ถูกหลอกลวง
เพราะอยากให้เต้นท์รถ ทำการค้าอย่างซื่อสัตย์ จริงใจ

ขอให้เต้นท์รถทุกเต้นท์ มั่งมีศรีสุข กับการค้าที่สุจริตครับ

จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง
วันที่: 14 Nov 05 - 08:36

 ความคิดเห็นที่: 19 / 23 : 146878
โดย: ManualMan
เอามาฝากจาก1000ทิพย์ครับ
คุณ แมวเหมียวพุงป่อง เขียนได้ดีโคตร
วันที่: 14 Nov 05 - 09:02

 ความคิดเห็นที่: 20 / 23 : 146913
โดย: ทวีรัฐ
อ่านซะเหนื่อยอ่ะ
วันที่: 14 Nov 05 - 10:04

หน้าที่: [1]   2