รบกวนเพื่อนสมาชิกช่วยดูวงจรใน ecu ให้หน่อยครับ คือผมสงสัยว่ามันเสียจากสาเหตอะไร เพราะเมื่อสามปีที่แล้วก็เคยเสียในลักษณะสตาร์ทไม่ติดครับ ตอนไปซ่อมเค้าก็บอกเปลี่ยนวงจรที่จะเสื่อมเสียให้หมด ของผมเป็นรถวางเครื่องนะครับ ตัวรถ 626 glx ติดแก๊สระบบดูด อาการที่เป็นตอนนี้คือ พอเดินรอบเกียร์ 1 ประมาณ 1300 รอบจะกระตุกอันนี้เป็นเฉพาะน้ำมัน และที่เป็นทั้งน้ำมันทั้งแก๊ส คือ เวลาเปิดแอร์ หรือเปิดไฟหน้ารถรอบจะตกนะครับ ก็เลยสงสัยว่าพวกปีกผีเสื้อตัวชดเชยรอบพวกนี้ถ้ามันไม่ค่อยดีมันทำให้วงจรเสียมั้ย หรือเพราะวงจรเสียจึงทำให้รอบไม่ค่อยชดเชยตอนเปิดแอร์ เปิดพัดลม และเปิดไฟหน้านะครับ รูปแรกตัวที่ไหม้คือตัวขาวๆ r873

โดย: pinitp   วันที่: 6 Oct 2015 - 22:14

 ความคิดเห็นที่: 1 / 15 : 830932

โดย: pinitp

รูปไม่ชึ้นเอาใหม่ครับ รูปแรกตัวที่ไหม้คือตัวขาวๆ r873

 ความคิดเห็นที่: 2 / 15 : 830933

โดย: pinitp

รูปไม่ชึ้นเอาใหม่ครับ รูปแรกตัวที่ไหม้คือตัวขาวๆ r873

 ความคิดเห็นที่: 3 / 15 : 830934

โดย: pinitp

เอาใหม่ครับ r873

 ความคิดเห็นที่: 4 / 15 : 830935

โดย: pinitp

ลองใหม่ครับรูปไม่ขึ้นลองเปลี่ยนไฟล์ครับ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 15 : 830936

โดย: pinitp

อีกที

 ความคิดเห็นที่: 6 / 15 : 830937

โดย: pinitp

กว่าจะขึ้นรูปแรก รูปต่อไปครับตรงซีตัวดำนะครับข้างๆที่เขียน r352 ช่างบอกตรงโคนมันบวมนะครับ ปกติจะเห็นด้านตัวกับหัวบวม อันนี้ลองซูมดูครับ พวกรูปที่ผมตัดไว้แล้วอัปขึ้นไม่ได้นะครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 15 : 830938

โดย: pinitp

และยังไงก็ขอคำแนะนำร้านซ่อม กล่อง อีซียู ให้ด้วยนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 15 : 830952

โดย: srithanon

เห็นในห้องนี้ไม่ค่อยมีผู้เข้ามาตอบ ก็เลยเข้ามาแนะนำให้ครับ

อาการที่ว่าเวลาออกตัวรถที่ความเร็วต่ำ เกียร์ 1 รอบ1300 แล้วรถมีอาการกระตุกเฉพาะน้ำมัน
ระบบแกสไม่เป็น ก็ให้ทราบว่าในระบบน้ำมันมีความผิดปกติ เดี๋ยวจะร่ายยาวให้ฟัง มาจากสาเหตุอะไร กับที่รอบเครืองยนต์ตกเครื่องสั่น เมื่อเปิดไฟหน้า เปิดแอร์ หรือว่าเมื่อมีโหลดให้กับเครื่องยนต์ แน่นอนเป็นที่ระบบการควบุมรอบเดินเบาผิดปกติ และส่วนที่ทำให้มีอาการแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพราะวงจรที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานรอบเดินเบาจะเสียเสมอไป มีเหตุปัจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง อยากอธิบายความตามนี้นะครับ

เนื่องจากปัญหาดังกล่าว เป็นปัญหาที่เกิดเป็นแกติวัสัยของเครื่องยนต์ ที่มีสถาพผิดปกติ ในส่วนหลักๆมาก่อนทั้งนั้น ก่อนที่จะตรวจพบมาจากระบบการควบคุมรอบเดินเบา จากวงจรอีเลคโทรนิคส์ในกล่อง ECU เพราะว่าเมื่อใดที่เครื่องยนต์มีสถาพการใช้งานมานาน ย่อมทำให้เกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ และในส่วนที่สึกหรอของเครื่องยนต์ที่เป็นหัวใจหลัก ก็คือแรงอัดภายในกระบอกสูบ มีสภาพแรงอัดลดลง อันมาจาก แหวนลูกสูบหลวม กระบอกสูบสึก หรือเกิดมีวาวล์ปิดไม่สนิท วาวล์ยัน ซึ่งผลเหล่านี้เป็นบ่อเกิดทำให้แรงอัดภายในกระบอกสูบลดลง ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง ที่ที่สำคัญเป็นแัญหาในเรื่องรอบเดินเบา ของเครื่องยนต์

เครื่องยนต์ที่มีแรงอัดในกระบอกสูบลดลง มีผลต่อแรงดูดแว็คคั่มในท่อไอดี ที่มีตัวแว็คคั่มเซ็นเซอร์ หรือแม็ปเซ็นเซอร ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับค่าแรงดูดในท่อไอดี แล้วเปลี่ยนเป็นโวลเต็จส่งไปให้กล่องECU แก้ไขในเรื่องการจ่ายน้ำมันให้กับหัวฉีด โดยเฉพาะรอบเดินเบา
เพราะว่าเมื่อใดที่เครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา ECU จะเอาโปรแกรมพื้นฐานที่ถูกโปรแกรมข้อมูลมาจากสสภาวะของเครื่องยนต์ที่มีแรงอัดในกระบอกสูบที่สมบูรณ์ ในการกำหนดค่ามาตรฐาน เป็นค่าพารามิเตอร์ ให้ ECU มาใช้คอนโทรลในรอบเดินเบามาใช้งาน แทน close loop ที่อยู่ในรอบอัตราเร่ง

เมื่อแรงอัดในกระบอกสูบลดลงย่อมมีผลต่อแรงดูดในท่อไอดีและตัวแว็คคั่มเซ็นเซอร์ จึงทำให้ค่าที่ถูกโปรแกรมเอาไว้แต่ดังเดิม ผิดไปจากที่ตั้งไว้ เป็นผลให้ส่วนผสมในการจุดระเบิด มีน้ำมันหนา การจุดระเบิดที่เกิดขึ้นก็ไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง เมื่อเครื่องยนต์ไม่มีกำลังหรือกำลังลดลง ย่อมมีผลกับโหลดของเครื่องยนต์ เช่นเปิดไฟหน้ารถ เข้าเกียร์ เปิดแอร์ รอบเครื่องยนต์จะตก หากระบบคอนโทรลรอบเดินเบาผิดปกติเข้าร่วมด้วย ก็จะมีอาการเครื่องสั่นรอบตกลงมามาก บางครั้งเครื่องดับ เมื่อขับรถมาจอติดไปแดงหรืออยู่ในจังหวะรอบเดิน ปกติเมื่อถอนคันเร่งทุกครั้ง ในระบบการจ่ายน้ำมันของหัวฉีดจะถูกตัดให้มาจ่ายในรอบเดินเบาทันที

ดังนั้นการที่จะวิเคราะห์ปัญหาเรื่องนี้ จะต้องตรวจเช็คองประกอบหลักของเครื่องยนต์ให้ถูกต้องเสียก่อน องค์ประกอบหลักก็คือ ระบบน้ำมัน ระบบไฟที่จ่ายให้กับหัวเทียน และแรงอัดที่เกิดจากกระบอกสูบ ว่าทั้งสามทำงานได้ถูกต้องอยู่ในเกณที่กำหนดหรือไม่ ระบบน้ำมันก็ต้องตรวจสอบตั้งแต่ปั้มติกมีแรงดันส่งน้ำมันปกติหรือไม่ แรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีด และหัวฉีดนำมัน ตีบตันและรั่วหรือเปล่า ระบบไฟ มีไฟโวลเต็จสูงที่หัวเทียนสูงตามที่กำหนดหรือไม่ บางครั้งมีปัญหาจากสายหัวเทียนเกิดค่าตวามต้านทานเพิ่มขึ้นขึ้นภายในสาย ทำให้เกิดโวลเต็จดร๊อปภายในสายหัวเทียน เป็นผลทำให้ไหไฟโวลเต็จวูงลดลง มีผลต่อการจุดระเบิดลดลง หรือบางครั้งหัวเทียนหมดสภาพการใช้งาน (เกิดค่าความต้านทานเช่นเดียวกับสายไฟหัวเทียนลองวัดดู หัวเทียนที่เสื่อมจะวัดค่าความต้านทานได้สูงกว่าปกติ) ของใหม่มีค่าความต้านทานต่ำ ก็ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์

ส่วนเรื่องกำลังอัดใในกรบอกสูบ เริ่มแรกให้วัดกกำลังอัดในกระบอกสูบว่าลดลงจากค่าที่กำหนดหรือไม่หากลดลงมามากค่อยมาตรวจสอบหาส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว เมื่อทั้งสามอย่างนี้สมบูรณ์ ก็สามารถแก้ปัญหาเรื่องรอบเดินเบาได้ แปดสิบเปอร์เซ็นแล้ว บางครั้งเมื่อเกิดปัญหาเรื่องรอบเดินเบาเพียงนำรถรถไปตั้งวาวล์ใหม่ หรือทำบ่าวาวล์ อาจจะมาจากวาวล์ยันเปิดไม่สนิท เมื่อแก้ไขแล้ว อาการรอบเดินเบาก็ปกติ

แต่บางครั้งรอบเดินเบาก็มาจากสาเหตุจากวงจรควบคุมรอบเดิยเบา ก็มาจากตัวควบคุม พวกสเต็ปมอเตอร์ IACV หรือระบบช่วยอาการอบเดินเบาแบบต่างๆมีความปิดปกติ ก็ต้งถอดออกมาทำความสะอาดล้างส่วนคราบสกปรกและส่วนที่ทำให้ขัดขว่างการทำงานของตัวอุปกรณ์

การตรวจสอบตามที่กล่าวมาทั้งหมด ก่อนอื่นให้ตั้งองศาไฟจุดระบิดให้๔กต้องก่อนเป็นอับดับแรก บางครั้งพบว่าสายพานราวลิ้นข้าล่อง ทำให้จังหวะการจุดระเบิดผิดทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง ทำให้เข้าดงเข้าป่าไป ในการแก้ไขวงจรควบคุมรอบเดินเบา ซึ่งผมก็เป็นมาแล้ว ตรวจสอบด้วยเครื่องทือีเลคโทรนิคส์ แต่ก็พลาดไม่ได้ตรวจสอบเรื่องมุมองศาการจุดระเบิด ซ่อมจนหมดแรงข้าวต้มข้าวสวย บะหมี มาม่่า ก็แก้ไม่ตก

สำหรับอาการกระตุกเวลาออกรถมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบก็มาจากระบบน้ำมัน อาจจมีกรองน้ำมันอุดตันหรือมาจากสาเหตุหลักที่ผมกล่าวมาแล้ว ลองตรวจสอบตามที่กล่าวดู เนื่องจากปัญหารอบเดินเบามาจากหลายสาเหต แต่ก่อนจะเข้าลึงลงไปในตัวกล่องECU ก็ต้องทำตามที่กล่าวมาก่อน

สำหับเรื่องตัว capacitor ที่ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ไฟโวลเต็จในวงจ ต่างๆบนแผงบอร์ด ECU ก็พบได้เสมอที่ตัวมันเกิดอาการบวมและมีคราบของตะกัวกรดตรงขาเสียบ แสดงให้ทราบว่า ในตัวมันเกิดมีกระแสไฟรั่วลงกราวด์ อันเสมือนเกิดค่าความต้านทานขึ้นในตัวมัน ทำให้กะแสไฟส่วนมากไหลค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นนี้ลงกราวด์ ทำให้วงจรนั้นๆไม่มีไปเลี้ยงวงจรให้ทำงาน โดยเฉพาะวงจรที่สร้างสัญญาณพัลส์ IGT ที่ ECU สร้างขึ้นมาและส่งไปให้วงจรช่วยจุดระเบิดสร้างไฟสูงให้กับหัวเทียน ไม่ทำงาน จึงสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด

หากสงสัยว่าเกิดอาการบวมก็ให้บัดกรีถอดเอาออกมาทำการวัดการชาร์จและดิชชาร์จ ว่ามันยังทำงานปกติหรือเปล่า บางครั้งพบว่ามีการชอร์ทเกิดขึ้นในตัวของมันตามที่กล่าว บางคร้งกำลังจะเสียดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางทาง เมื่อเครื่องยนต์เย็นก็สตาร์ทเครื่องยนต์ติด อาการคล้ายกับตัวแคร้งชาร์ป และแคมชาร์ปเสียเช่นกัน สุดท้ายก็ตายสนิทสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ ไหนๆถอดออกมาแล้วก็เปลี่ยใหม่ไป ใช้ตัวที่ดีแทนลงไปจะดีหรือเสียก็ตาม........srithanon

 ความคิดเห็นที่: 9 / 15 : 830955

โดย: srithanon

ร้านซ่อมกล่อง ECU ชื่อร้านอรัญอีเลคโทรนิคส์ อยู่ซอยจินดาถวิล ถนนสี่พระยา โทร
081-6161940

 ความคิดเห็นที่: 10 / 15 : 830956

โดย: pinitp

ขอบคุณมากครับคุณsrithanon ตัวที่ผมคิดว่าไม่น่าใช่คือ สายหัวเทียน กับ หัวเทียน (ไฟจานจ่ายก็เคยลองตั้งอ่อนแก่) เพราะผมเคยซ่อมกล่อง ecu มาก่อนครั้งนึง จากนั้นก็เปลี่ยนพวกไส้คอล์ยกะลา เพราะของเก่ามันร้าวตอนนั้นมีอาการสะดุด เปลี่ยนสายหัวเทียนของใหม่แท้ของตรงร่น และเปลี่ยนหัวเทียนไป ปั้มติ้กก็เปลี่ยนและวัดแรงดันก็ปกติดี เรกกูเลเตอร์ ก็ใช้งานได้ปกติ ซึ่งจากตรงนั้นอาการรอบเดินเบาก็นิ่งดีสตาร์ทติดง่ายแต่เรื่องรอบตกตอนเปิดแอร์เปิดไฟเปิดพัดลมก็ไม่หาย ตกประมาณ 100 แต่เรื่องกระบอกสูบ เรื่องเกี่ยวกับวาลว์ก็ไม่เคยทำ เพราะเห็นว่า bp1800 นี้เป็นวาวไฮโดรลิกมันตั้งเองช่างก็ว่าแบบนั้น แต่ก็คงเป็นไปได้ว่ามันอาจเสื่อม ผมก็ไปซ่อมอู่ช่างประภาสประจำ แต่ก็เหมือนว่าเรื่องแนวนี้เค้าก็ฟันธงไม่ค่อยได้ ช่างบางคนก็บอกตัวชดเชยรอบมันทำงานไม่เต็ม100 บอกไม่เป็นไร ผมก็เลยปล่อยไปเรื่อยๆ จนมาเจอเรื่อง วงจรในกล่อง ไหม้ 1 บวม 1 จึงสงสัยว่ามาจากระบบมันไม่สมบูรณ์มั้ยนะครับ เดี๋ยวก็คงหาทางซ่อมกล่องก่อนแล้วก็คงหาทางเช็คเรื่องกระบอกสูบกับเรื่องวาวกันต่อครับ ยังไงก็ขอขอบคุณมากที่ช่วยให้คำแนะนำพอเห็นแนวทางไปต่อกันได้บ้างครับ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 15 : 830968

โดย: srithanon

ก็ให้ช่างทดลองวัดกำลังอัดในแต่ละกระบอกสูบ ว่ามันยังใกล้เคียงกับสเป็คของมันหรือเปล่าหากลดลงมาบ้างก็ไม่มีปัญหา หากมากเกิน 10% ก็ห้ตรวจดูบ่าวาวล์ ว่าปิดสนิทหรือเปล่า ถึงแม้ว่าจะเป็นวาวล?แบบไฮโดรลิควาวล์ก็ตาม ส่วนเรืองไฟไฮโวลเต็จสูงเราจะดูประกายไฟจากการมองและตวามรู้สึกไม่ได้ หมื่นกว่าโวลท์ก็มีประกายไฟจากหัวเทียนให้เห็น สองหมื่นห้าพันโวลถึงสามหมื่นกว่า ก็เห็นประกายจากการอาร์คใกล้เคียงกัน แต่ความเข้มต่างกัน ต้องวัดด้วยเครื่องมือวัดไฟสูง แบบใช้การอินดิ้วของเส้นแรงแม่เหล็กที่ผิวของตัวนำ แบบมีหัวรับสัญญาณสนามแม่เหล็กแบบปากกา นำไปชี้ใกล้ๆกับสายไฟหัวเทียน ส่วนไหนก็ได้ มันก็จะอ่านค่าโวลเต็จเป็นตัวเลขให้เห็นบนหน้าจอแบบเดียวกับออสซิลโลสโคป ว่ามีไฟสูงณ ที่จุดวัดนั้นกี่หมื่นโวลท์ เริ่มมีเข้ามาขายในท้องตลาดแล้ว

สำหรับตัวคอยในจานจ่ายในมาสด้า บางครั้งก็ให้ไฟไม่สูงพอเมื่อใช้งานมานาน ไฟที่หัวเทียนเมื่อใดหากลดลงมามากกว่าห้าพันโวลท์ จะส่งผลกับการจุดระเบิดในห้องสูบ ไม่สมบูรณ์ ทำให้กำลังเครื่องยนต์ตกได้เช่นกัน สำหรับค่า R / C ที่บอกมานั้นหากเปลี่ยนแล้วน่าจะเหมือนเดิม เพราะว่าค่า R ที่มองดูคลายไหม้ความจริงแล้วR ตัวใหญ๋ จะมีกระแสไฟผ่านมาก จะเกิดความร้อนทำให้ผิวมันเป็นเหมือนไหม้ แต่หากถอดออกมาวัดจะมีค่าใกล้เคียงกับแถบสีที่ระบุค่าค่าต้านทานขอมัน สำหรับค่า C ที่เป็นแบบอีเคโตรไลท์ หากตัวมันเสีย จะทำให้วงจรทีมันทำหน้าที่ฟีลเตอร์กระแสไฟอยู่ไม่ทำงานเลย จะไม่มีการแสดงว่าทำงานไม่เต็มระบบอะไร ลองเปลี่ยนดูเลยครับ

ขณะนี้การทำงานของเครื่องยนต์รถคุณทำงานตามการควบคุมของ ECU เพราะหลักใหญ๋ๆ ECU จะทำงานการคอนโทรลเรื่อง A/ F ratio และเอาข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆมาเป็นข้อมูลในการแก้ไขเรื่องกำหนดการฉีดน้ำมัน การลำดับการจุดระบิด การกำหนดการฉีดน้ำมันแต่ละสูบ เครื่องยนต์รถคุณก็ทำงานได้แล้ว ยกเว้นเรื่องตัวช่วยตางๆของระบบเซ็นเซอร์ จะทำงานไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไขไปตามลำดับ ของส่วนที่เกี่ยข้อง ในเรื่องระบบการคอนโทรลรอบเดินเบา........sriithanon

 ความคิดเห็นที่: 12 / 15 : 830976

โดย: pinitp

ครับ คงต้องค่อยๆทำไปพร้อมทำใจไปครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแนวทาง และร้านซ่อมกล่องที่แนะนำมาครับ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 15 : 830981

โดย: srithanon

ขับรถไปที่ร้านอรุญอีเลคโทรนิคส์ แล้วทดลองเอากล่องที่ร้านมาใส่ แล้วติดเครื่องยนต์ดูว่าอาการที่เป็นหายไปหรือเปล่า หากใช่ก็ค่อยซ่อม หากไม่ใช่ก็ไม่ต้องซ่อม ทางร้านอรุญเข้าให้ใส่ทดลองwfh จะได้ไม่เสียเงินและ.odki แก้ปัญหาไม่ตรงประเด็นครับ.....srithanon

 ความคิดเห็นที่: 14 / 15 : 830995

โดย: pinitp

เช็คร้านอรัญมาเรียบร้อยครับไม่มีกล่องลองเพราะรุ่นนี้หายากแล้ว เค้าก็ลองวัดมิเตอร์ตัวที่พี้นไหม้ให้ดูตรงที่เห็นพื้นเป็นรอยไหม้มันคือรอยเก่าที่เคยไหม้แล้วเค้าเปลี่ยนตัวให้ใหม่แล้ว c ก็ไม่บวม แล้วเค้าบอกให้ลองไปเช็คร้านเก่าที่เคยทำ คือ ร้านอรุณอยู่ใกล้ๆกัน พูดเหมือนกันเลยครับ แสดงว่าคุณ srithanon ตาแหลมมองขาด เมื่อซ่อมครั้งเก่าผมก็ไม่เคยไปดูเลยว่ามันเป็นยังไงเลยไม่รู้ว่าพื้นตรงลายปริ้นมันไหม้จาก r ตัวเดิมคงเช็ดไม่ออก เฮ้องานนี้ช่างที่เปิดกล่องที่ผมไปเช็คเรื่องน้ำมันกระตุกกับดูไม่ขาด แล้วผมยังเอารูปให้ช่างอีกร้านดูก็ว่าเหมือนกันเป็นระดับผู้จัดการช่างด้วย ก็ว่า c บวม r ไหม้กันทั้งคู่ ก็เล่นเอาผมร้อนรนเลยคราวนี้ พอถามหามือสองโกดังพี่สุดก็บอกไม่มีหายาก โชคดีไม่เป็นไรถ้าซ่อมขึ้นมาอย่างน้อยก็สองพันกว่า แต่ก็ถือเป็นบทเรียนที่ดีเหมือนกัน สรุป คือ ร้านอรัญกับร้านอรุณก็ว่าแนวเดียวกับคุณ srithanon คืออาการที่เป็นไม่เกี่ยวกับกล่อง ต้องไปไล่เช็คอย่างที่คุณ srithanon ว่า ขอบคุณสำหรับแนวทางคำแนะนำอีกครั้งครับ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 15 : 831156

โดย: Pong Lantis

ได้เรื่องยังไง มาลง update ให้ฟังด้วยนะครับ
เพราะปัญหาแนวนี้เป็นกันเยอะขึ้นทุกวัน สำหรับรถเก่าๆ

ซึ่งรถผมก็เป็นหนุ่งในนั้นด้วยครับ