Close this window

lantis v6 MT สตาร์ทไม่ติด สับแบตรถอื่นมาลองแล้วก็ไม่ติด
lantis V6 MT ครับ

สับแบตรถคันอื่นไฟแรงๆมาลองแล้วก็เงียบ

คือ แต่ก่อนบิดกุญแจ บ้างทีบิด 1 ไม่ติดดังแชะ บิดใหม่ 2-3 ครั้งติด ใช้มาหลายปี

ตอนนี้ บิคกุญแจ ข้างในห้องโดยสาร ดังติ๊ก ข้างดังเหมือนจะแชะ แต่เหมือนไม่มีแรงไปหมุนมัน เลยเข้าค้นหาใน ช่องค้นหาเพื่อนสามาชิกให้แนะนำ เคาะใดสตาร์ทดู ลองเคาะแล้ว

บิดกุญแจ ในห้องโดยสาร ดัง ติ๊ก แต่ในห้องเครื่องไม่มีเสียงไรเลยหลังจากเคาะใดร์

จะลองเข็นสตาร์ก็ไม่ได้ รถจอดในหลุมโรงรถแล้ว

เบื้องต้นให้ลองเช็คตรงใหนเพิ่มดีครับ แล้วเจ้ารีเรย์สตาร์ท lantis อยู่ตรงใหนครับ

ขอบคุณครับ
โดย: หนุ่ยv6   วันที่: 24 Nov 2014 - 18:07


 ความคิดเห็นที่: 1 / 3 : 823863
โดย: Pong Lantis
http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=101762

เผื่อเป็นอาการเดียวกันครับ
วันที่: 25 Nov 14 - 13:02

 ความคิดเห็นที่: 2 / 3 : 823897
โดย: nos v6
สวิตกุญแจเสียรึปาวคับ ลองเช็คดูคับ
วันที่: 26 Nov 14 - 09:34

 ความคิดเห็นที่: 3 / 3 : 824416
โดย: srithanon
อาการที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนใหญ่แล้วมาจากตัวมอเตอร์สตาร์ท ที่มีตัวแม็คเนติคสวัชท์ และที่แปลงถ่านคอมมิวเตเตอร์ หมันจะหมดเหลือเพียงจุดสัมผัวเล็กน้อย

การที่แปลงถ่านหมดใกล้จะหมด จะทำให้แรงกดของสปริงที่กดแท่งถ่านไม่ค่อยมีแรงกด ทำให้หน้าสัมผัสระหว่างแปลงถ่านกับช่องสล๊อตคอมมิวเตเตอร์ สัมผัสไม่สนิท ประกอบกับสล๊อตทองแดงคอมมิว มีตระกรันการอาร์คของกระแสไฟ และรอยสึกมาก กระแสไฟจะนวนมากที่จะผ่านไปยังขดฟีลคอยน์ จึงมีน้อย ทำให้การเกิดสนามแม่เหล็กที่จะพลักดันทุ่นอเมเจอร์มีน้อย ทำให้มอเตอร์ไม่สามารถขับเฟืองายวิลของเึครื่องยนต์ได้

เมื่อบิดสวิชท์กุญแขไปต่ำหน่องสตาร์ ก็จะได้ยินเสียงดังแช๊ะๆ ถ้าบิดกุญแจแล้วได้ยินเสียงนี้ ให้เข้าใจว่าระบบสัมผัสคอนแท็คในตัวสวิชกุญแจยังคงทำงานปกติ สิ่งที่น่าจะตรวจสอบอรกก้คือ สะพานไฟที่ให้กระแสไฟสูงจากแบ็ตเตอรี่ไปจ่ายให้กับตัวมอเตอร์สตาร์ท มีหน้าสัมผัสของแท่งแผ่นทองแดง ที่เป็นเหมือนสวิชท์สะพานไฟ เกิดมีหน้าสัมผัสมีตระกรันเกิดจากการอาร์คของกระแสไฟสูง ทำให้หน้าสัมผัสสะพานไฟ มีกระแสไฟผ่านไม่สะดวก เวลาบิดกุญแจสตาร์ท ก็จะได้ยินเสียแม็คเนติคสวิชท์ทำงานดังแต็กๆ เช่นกัน

ในกรณีที่คิดว่าเป็นที่ตัวสะพานไฟของแม็คเนติคสวิชท์ชำรุดตามที่กล่าว ก็ให้ใช้วิธีในการสตาร์ทเครื่องยนต์ดังนี้ ให้บิดสวิช?กุญแจไปตำแหน่าง ST แล้วให้ใช้ไขควงที่มีด้ามเป็นพลาสติค เอาส่วนที่เป็นโลหะ ไปจี้แตะขั่วสายไฟเส้นใหญ่ที่ต่อมาจากขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ มาเข้าที่น๊อตยึดเป็นหางปลาที่ตัวแม็คเนติค กับสายไฟที่มีเส้นลวดทองแดงถักเกลียว ที่มาจากภายในตัวมอเตอร์ ซึ่งมีหัวน็อตยึดสายอยู่ใกล่กัน ให้เอาปลายไขควงแตะช๊อตถึงกัน จะพบว่า มอเตอร์สตาร์ททำงานทันที เครื่องยนต์ติด เมื่อเครื่องยนต์ติดให้รียเอาออกทันที พร้อมๆกับปล่อยสวิช์กุญแจมาที่ตำพแหน่ง ON

ที่ให้บิดสวิชท์กุญแจไว้ในตำแหน่งสตร์ท ให้ทำงานพร้อมกันกับการใช้ไขขวงช๊อตที่ขัวต่อสายไฟที่ตัวแม็คเนติคตามที่กล่าว ก็เพราะว่าการทำงานของตัวแม็คเนติคสวิชท์ ในจังหวะสตาร์ท ทำหน้าที่สองอย่างด้วยกัน อย่างแรกตัวพลังเยอร์จะดันสะพานไฟให้สัมผัสกัน ประการที่สองก็คือ ตัวแกนพลังเยอร์จะต่อเข้ากับก้ามปู ที่เขี่ยเฟืองขับในแกรเพลาขับของมอเตอร์สตาร์ท เข้าไปขบกับเฟืองฟลายวิลของเครื่องยนต์ จึงจำเป็นต้องทำพร้อมกัน

สรุบปัญหานี้ก็คือ ถอดมอเตอร์สตาร์ทมาทำความสะอาดช่องสล๊อตคอมมิว ตรวจดูแปลงถ่าน
หมดหรือไม่ หากเกือยหมดเหลือนิดเดียวก็เปลี่ยนแปลงถ่าน สมมุติว่าแปลงถ่านสึกเกือบหมด แล้วเปลี่ยนแล้วยังไม่ทำานก็อาจจะเป็นที่ตัวฟีลคอยของตัวมอเตอร์สตาร์ทชอร์ทเทิน

จริงแล้วเมื่อมีการถอดตัวมอเตอร์สตาร์ทออกมาข้างนอก สามารถทดลองเช็คการทำงานของมันได้เลยว่า มันทำงานอยู่หรือไม่ โดยการต่อสายไฟขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ มาเข้าจุดต่อขั่วยึดสายไฟที่มาจากภายในตัวมอเตอร์สตาร์ท กับสายไฟอีกเส้น ( ใช้สายไฟพ่วงแบ็ต) ต่อขากขั่วลบของแบ็ตเข้ากับโครงเสื้อของมอเตอร์สตาร์ท หากต่อแล้วมอเตอร์ทำงาน ก็อย่าเพิ่งมั่นใจ เพราะมันไม่มีโหลด ลองหาอะไรไปขัดเฟืองให้เกิดความหนืด แล้วลองต่อไฟให้มันทำงาน หากยังหมุนได้ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าปกติ หากเป็นดังนี้ใให้ทดลองการทำงานของตัวแม็คเนติคสวิชท์ โดยยังตคงให้มีสายไฟลบที่ต่อมมาจาขั่วลบของแบ็ตหนีบเข้ากับตัวเฟรมของมอเตอร์สตาร์ท และขยับสายไฟที่มาจากขั่วบวกของแบ็ต มาหนีบเข้าที่หัวน้อตแม็คเนติคที่ต่อมาจากแบ็ตเดิม จากนั้นหาสายไฟเส้นเล็กต่อไฟเข้าขั่วสายที่ต่อมาจากสวิชท์กุญแจ แล้วดูว่า มอเตอร์สตาร์ททำงานหรือไม่ หากไม่ทำงานก็แปลว่า สะพานไฟในตัวแม็คเนติดสวิชท์ชำรุด เคร่าๆแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน.......srithannon
วันที่: 08 Dec 14 - 11:54