โดย: โป้ง@หาดใหญ่   วันที่: 5 Apr 2014 - 10:04

 ความคิดเห็นที่: 1 / 3 : 810428

โดย: โป้ง@หาดใหญ่

http://www.rc-plus.net/board/index.php/topic,9883.0.html


ข้างบนนี้คือสูตรที่มีอยู่ในเวปต่างๆนะคับ
ที่นี้ผมจะมาเพิ่มเติมในแบบของผมกันบ้างนะคับ
การอโนไดซ์ การเตรียมผิวจะสำคัญที่สุดคับเพราะการชุบอโนไดซ์มันไม่ได้ไปเครือบปกปิดผิวเหมือน
การชุบโครเมียม ถ้าผิวงานเปนรอยยังงัยไดซ์ออกมาก็จะเปนรอยอยู่เหมือนเดิมนะคับ ควรจะขัดตกแต่ง
ผิวงานให้สวยก่อนไดซ์นะคับ เพราะเราๆคงนำของใช้แล้วมาชุบ ปัดเงาไปเลยก็ได้คับสวยดี
เมื่อเราปัดเงาชิ้นงานแล้วก็ให้ข้ามข้อ4ไปเลย(กัดเงาด้วยสารเคมี )เพราะขั้นตอนนี้มันเหม็นและอันตราย ข้อจำกัดก็เยอะ
จะไดซ์ล้อวงหนึ่งจะใส่ในอะไรต้มยังงัยอีก...555
อ้อลืม..ถ้าชิ้นงานไดซ์มาอยู่แล้ว ทำข้อ1,2,3ก่อนนำมาปัดเงานะคับ

เพิ่มเติมกัดผิวด้วยโซดาไฟ โซดาไฟหาซื้อได้ตามร้านวัสดุก้อสร้างขายเป็นกิโลคับ เวลาผสมต้องกวนตลอด
จนกว่าละลายหมด จะมีความร้อนพออุ่นๆ
เมื่อเตรียมน้ำยาเสร็จแล้วการใช้งาน เวลาจุ่มชิ้นงานพยายามเขย่าๆ คอยเช็คตลอดอย่าแช่ทิ้งใว้นานเพราะโซดาไฟเป็นด่างเข็มข้น
มิเนียมจะทนกรดแต่แพ้ด่างคับ
เทคนิคเล็กๆน้อยๆ ถ้าชิ้นงานที่มี่เกลียวในการกัดผิวเกลียวจะบางลงตามระยะเวลาที่แช่คับ แก้โดยการขโมยคับ
ไปขโมยยาเคลือบเล็บเมียมาทาตรงเกลียว ที่นี้เกลียวก็ไม่บางแล้ว555 (อย่าลืมเอาไปคืนที่เดิมด้วยละ)
ต่อ..
หลังจากกัดผิวด้วยโซดาไฟเสร็จผิงงานจะมีคราบเขม่าดำๆ ก็นำไปล้างด้วยกรดไนตริก(ตามข้อ3)แปปเดียวขาวจั่ว
ต่อๆ..
ข้อ4.กัดเงาด้วยสารเคมี (ผมข้อสนับสนุนให้ปัดเงาแทน)

ทั้งหมดข้างบนคือการเตรียมชิ้นงานนะคับ....

ต่อมา...มาไดซ์กันเลย

กรดกำมะถัน 100 cc. + น้ำ 900 cc. + กรดออกซาลิก 50 กรัม
ผสมกรดซันฟูลิกกับน้ำก่อน วิธีกวนน้ำให้หมุนวนแล้วเทกรดลงไปช้าๆ จะมีเสียงฟู่ๆน่ากัวๆ..555
ขั้นตอนนี้จะเกิดความร้อนด้วยนะคับ ลองจับภาชนะดูด้วยถ้าร้อนมากๆก็หยุดใว้ก่อนค่อยเติมกรดใหม่
เสร็จแล้วค่อยเติมกรดออกซาลิก อันนี้ไม่น่ากัว...555

สำหรับท่านที่กลัวการผสมหรือหาซื้อกรดซันฟูลิกยาก..
ให้ท่านหาร้านแบตเตอรี่รถยนต์แล้วไปขอซื้อน้ำกรดแบตเตอรี่ มีแบบแบ่งขวดขายถ้าใช้เยอะซื้อแบบถัง
25โล ราคาประมาณ350บ. แล้วค่อยมาผสมน้ำเพิ่มก็ได้คับง่ายดี แต่ต้องมีตัวอ่านค่าความถ่วงจำเพาะ(ไฮโดรมิเตอร์)
ก็ซื้อที่ร้านแบตนั้นแหละคับ ลักษณะจะเปนหลอดแก้วเวลาใช้ก็ดูดน้ำยาเข้าไปแล้วก็อ่านค่าเอา

ตามสูตรนี้กรดกำมะถัน 100 cc. + น้ำ 900 cc. เท่ากับ10%

0% = 1.00
10% = 1.066
20% = 1.14
30% = 1.22
40% = 1.325
50% = 1.395
60% = 1.498
70% = 1.613
80% = 1.728
90% = 1.814

.....................ที่โรงงานผมใช้20%


ในส่วนของแผ่นล่อที่ใช้ในอ่างน้ำยาอโนไดซ์ผมแนะนำให้ใช้แผ่นอลูมิเนียม(หาซื้อได้ที่ร้านวัสดุก่อสร้าง..อีกแล้ว555)

ขายเปนม้วนใหญ่ๆ2-300มั้ง อลูมิเนียมนะคับไม่ใช่สังกะสีถามคนขายให้ดีๆ ถ้าใช้น้อยเอาพวกซิงค์ระบายความร้อน

ของซีพียูคอมมาใช้ก็ดีคับ พองออกมาเยอะดีสะใจ...555

ในส่วนของเส้นลวดที่ใว้ใช้จับชิ้นงาน ให้ไปซื้อที่ร้านขายไฟฟ้าบอกเค้าว่าเอาลวดมิเนี่ยมมัดสายไฟ ขายเปนกิโล/300บ. จบ

เหลือเอาใว้มัดอารัยที่อยู่นอกบ้านที่ต้องโดนฝนดีมากไม่เปนสนิม(เอาไว้อ้างเมียเวลามันถาม)

ส่วนแหล่งจ่ายไฟก็แล้วแต่จะหาได้ เครื่องชาจแบตก็ได้หรือเอาแบตมาใช้ก็ได้

ในส่วนของการลดอุณหภูมิน้ำยาตอนไดซ์ ให้ใช้ขวดน้ำที่ไม่ใช้แล้วเอาไปแช่ในตู้เย็นให้เป็นน้ำแข็ง เวลาจะใช้ก็เอาไปใส่ในถังน้ำยา

ส่วนการต่อลมในถังน้ำยาก็ต่อหัวทรายที่ใช้กับตู้ปลาด้วยก็ดี


ไดซ์เสร็จก็มาย้อมสีกัน

ผมแนะนำให้ใช้สีผสมอาหาร(แบบผง) แต่จะใช้ได้แต่เฉดสีอ่อนๆนะคับ เช่นสีทอง(ที่ซองจะเขียนว่าสีเหลืองไข่ไก่) สีเหลืองมะนาว

ก็ออกมาสวยดี แต่ไม่แนะนำให้ใช้กับงานที่โดนแดดเพราะมันจะซีด แต่ดีและถูกกว่าสี ink jet

ส่วนสีอโนไดซ์โดยเฉพาะจะมีทุกเฉด และสีจะเข้มและหนากว่ามาก ราคาแพงเพราะเค้าขายเปนกิโลไม่แบ่งขาย555

ส่วนของการซีลปิดผนึกอโนไดซ์

การต้มต้องระวังเรื่องPHของน้ำ ควรเปนน้ำกลั่น

หรือเราไปขโมย(อีกแล้ว555)เตารีดไอน้ำแบบพ่นของเมียมาใช้ก็ได้

แต่ทั้งสองวิธีนี้จะทำให้สีซีดลงไปนิดหน่อย

จะมีอีกวิธีหนึงที่จะง่ายกว่ามากคือจุ่มในน้ำยาเฉพาะ(โรงงานผมใช้วิธีนี้555) แค่จุ่มไป1นาทีเสร็จสบายสีไม่ตกไม่ต้องต้ม


จบ จบ...แล้วโว้ย555 เหนื่อย


ปล.

ทั้งหมดที่กล่าวไปนี้แค่หวังให้เพื่อนๆสนุกในการDIYมากขึ้น ไม่ได้ว่าวิธีของคัยนะคับ แต่ถ้ามีคำใดที่ล่วงเกิน

ก็ขอโทษมานะที่นี้ด้วยนะคับ...รักนะ 555

ส่วนเพื่อนคนไหนสงสัยอารัยก็ถามได้นะคับ

ถ้าตอบได้ก็จะตอบ ถ้าตอบไม่ได้ก็จะไม่ตอบ เพราะตอบไม่ได้..งงอ่ะดิ

หรือคัยสนใจแบ่งๆเคมีตัวไหนไปลองเล่นก็ลองโทมาคุยกันนะคับ 083-6581176

 ความคิดเห็นที่: 2 / 3 : 810602

โดย: LIVE_ASTINA

 ความคิดเห็นที่: 3 / 3 : 810896

โดย: diNk Un LoCk

สุดเลย อย่างงี้จะ Do It Yourself ไหวไหมนี่