โดยหลักการของ TV จะมีการ SCAN ไม่เหมือนกับฟิล์มภาพยนต์ การ SCAN คือการกวาดภาพทีละจุด แต่ทำด้วยความรวดเร็วมากจนทำให้เรามองเห็นเป็นภาพเต็มๆจอ
การ SCAN จะมีหลายแบบ ถ้าจะอธิบายกันทั้งหมด จะกลายเป็นวิชา Television Technology ไป เอาเป็นว่าที่เราคุ้นๆกันคือ Interlace Scan กับที่คุณถามมา Progressive Scan
ผมขอยกเอาคำอธิบายของคุณ AstroBoy จาก dvddiary.com แล้วอธิบายเพิ่มเติมในวงเล็บนะครับ
"ในระบบปกติ interlace Scan มันจะแบ่งภาพหนึ่งเฟรมเป็นสองฟิลด์ คือมีการสแกนย้อนหลัง หรือสแกนทีละครั้ง ครั้งแรกเส้นคู่ครั้งที่สองเส้นคี่.
(ใน TV เราจะแบ่งเป็นเส้นๆครับ 525 เส้น การกวาดภาพจะกวาดเป็นเส้นๆ ลองไปดูที่จอทีวีใกล้ๆจะเห็นเป็นเส้นๆครับ)
ทีนี้ปัญหาที่เกิดคือ ระบบนี้มันเหมือนจะคล้าย ๆ กับแบ่งภาพเป็นสองส่วนต่างกันในเฟรมเดียว ถ้าภาพนิ่ง ๆ ไม่เคลื่อนไหว จะไม่แปลกเท่าไร แต่ถ้ามีการเคลื่อนที่โดยเฉพาะในแนวนอน เราจะเห็นฟิลด์สองฟิล์ดในภาพแยกออกจากกัน ภาษาแบบชาวบ้านเรียกว่าฟันหวี แต่สายตาเราจะเห็นเหมือนภาพนั้นสูญเสียรายละเอียดตามแนวตั้งไปครึ่งหนึ่ง.
จริง ๆ ไม่ตั้งใจจับผิดกันจริง ๆ ก็ไม่เห็นน่ะครับ เส้นที่เป็นขั้นบันไดชัด ๆ นี่ก็ประเภทเส้นในแนวเฉียงแล้วเกิดการแพนกล้อง เวลาที่เราดูถ่ายทอดเทนนิสลองสังเกตนะครับ ถ้ากล้องแพนเนี่ย เส้นคอร์ทเทนนิสที่เฉียง ๆ หน่อยมันแยกออกเป็นขั้นบันไดเลย.
หนังพวกตั้งกล้องนิ่ง ๆ ส่วนใหญ่เราแยกไม่ค่อยออกครับว่าภาพเสียรายละเอียด แต่ถ้ามีการเคลื่อนกล้องเยอะ ๆ เช่นหนังแอคชั่น ถ้าคุณดูหนังโปรเกรสซีฟประจำแล้วกลับมาดูในระบบ interlace อีกที น่าจะเห็นความแตกต่างได้ แต่ไม่เยอะขนาดที่เคยเห็นโฆษณาบอกว่าโปรเกรสซีฟสแกนทำให้ภาพชัดขึ้นเท่าตัวนึง.
เอาเป็นว่า ถ้าเป็นหนังที่สแกนมาจากฟิล์มภาพยนตร์ การดูด้วยโปรเกรสซีฟสแกนจะได้คุณภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด จำเป็นหรือไม่อยู่ที่กระเป๋าด้วย เพราะทีวีแบบโปรเกรสซีฟแสกนแท้ ๆ นั้นแพงเหลือเกิน "
ที่เหลือผมอธิบายเพิ่มเติมให้ครับ (กลัวไม่ละเอียดพอ อิอิ
)
(Progressive Scan มีแบบ Progressive แท้ กับ Progressive เทียมด้วยนะครับ การ scan ภาพของทีวีทั่วไปที่เราดูนั้น (50hz หรือ 100hz) จะมีการส่งแบบสลับ field คี่กับคู่สลับกันไปครับ (ส่ง 1,3,5,7...... ก่อนแล้วค่อยส่ง 2,4,6,8.... ครับ)
progressive scan จะต่างกันคือจะส่งเรียงเป็น 1,2,3,4,5,6... ครับ
ทีนี้ความหมายที่เรียกทั่วไปของนักเล่น home theatre คือแบ่งการเรียก progressive scan ออกเป็น 2 ลักษณะครับ
1. progressive scan ที่ตัวทีวีทำขึ้นได้ด้วยตัวเอง (แต่ไม่สามารถรับสัญญาณจากภายนอกได้ ก็คือไม่สามารถรับจากเครื่องเล่น dvd ที่เป็นแบบ progressive scan ได้นั่นเอง) ก็จะเรียกกันเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็น progressive scan เทียม (Samsung เกือบทุกรุ่นเป็น Progressive เทียม โดยเพิ่มเส้นสแกนเข้าไปใน Interlace Scan)
2. progressive scan ที่ตัวทีวีนั้นสามารถรับสัญญาณได้โดยตรงจากเครื่องเล่น dvd ที่เป็นแบบ progressive scan เหมือนกันได้ ก็จะเรียกว่าเป็น progressive scan แท้ ครับ
การใช้สาย Component ต่อจาก DVD ไป TV นั้นหลายท่านเข้าใจผิดว่าเป็น Progressive Scan ที่จริงแล้วคนละเรื่องครับ ช่องต่อ Component ใช้สำหรับแยกสัญญาณภาพและสัญญาณสีส่งตรงไปยัง TV โดยไม่ต้องรวมสัญญาณกันไปเหมือนช่อง AV (ภาษาช่างเรียก Composite Video) ทำให้ภาพคมชัดขึ้น
ที่ตัว DVD เองก็ดู Spec ด้วยนะครับว่าเล่น Progressive Scan ได้หรือเปล่า ถ้า DVD เป็น Progressive Scan แล้วเอาไปใช้กับ TV ที่ไม่ Progressive ถึงแม้จะต่อช่อง Component ก็เล่นไม่ได้ครับ ต้องเปลี่ยนเป็น Interlace Scan) เพราะฉะนั้นถ้าจะเล่น Progressive Scan ก็ควรเลือกให้ Match กันทั้ง DVD และ TV ครับ ไม่งั้นจะเสียเงินเพิ่มไปกับ Function ที่ไม่ได้ใช้งาน
เท่านี้คงละเอียดพอนะครับ