Close this window

บ า ป ก ร ร ม ใครกำหนด ตอนที่ 2....จดหมายจากพญายม
บ า ป ก ร ร ม
ใครกำหนดชุด
ตอนที่ 2....จดหมายจากพญายม
--------------------------------------------------------------------------------

วันหนึ่ง ท่านพญายมเสด็จขึ้นว่าบนบัลลังก์ใน บรรยากาศที่น่าเกรงขาม ยมทูตได้ลากตัวชายสูงอายุ

ผมขาวบางหรอมแหรมคนหนึ่ง และชายหนุ่มอีกคนหนึ่งขึ้นมาคุกเข่าลงเบื้องหนร้าของพระองค์

ยังมิทันที่พญายมจะเอ่ยความว่าอย่างไร ชายสูงอายุ ผู้นั้นก็รีบตีโพยตีพายโวยวายขึ้นมาทันทีว่า "ข้าแต่ผู้เป็นใหญ่ กระผมถูกจับตัวมาโดยไม่บอกกล่าวกัน อย่างนี้มันไม่ยุติธรรมเลย

สมบัติพัสถานของกระผมตั้งมากมายยังไม่ได้แบ่งสรร บัญชีเงินทองของกระผม…" "หยุดเดี๋ยวนี้นะ"

ท่านพญายมตบโต๊ะผาง "เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่เป็นสถานที่แห่งใด เราเป็นใครเจ้าจึงกล้าส่งเสียงโวยวาย

เช่นนี้" "กระผม…กระผม…" ชายสูงอายุอึกอักทำหน้าเลิ่กลั่กเขาเพิ่งสังเกตเห็นบรรยากาศอันน่าสะพรึง

กลัวรอบ ๆ "ฮึ่ม" ท่านพญายมสำทับซ้ำด้วยเสียงในลำคอ แล้วเอ่ยด้วยเสียงก้องกังวานว่า "เจ้าทำบาป

ทำกรรมไว้มากเมื่อมีชีวิตอยู่ เจ้าจะต้องได้รับโทษสถานหนัก เอาละเราจะถาม เจ้าจงตอบด้วยความเป็น

จริง" "อา…กระผม…ถ้ากระผมตอบแล้ว ท่านต้องโปรดกรุณากระผมด้วยนะขอรับ…" ชายสูงอายุละล่ำ

ละลัก "เอาละเราถามเจ้า" พญายมตัดบท "เงินสงเคราะห์วัยชราของแม่เฒ่าหวังข้างบ้าน เจ้าหลอกลวง

เอาไปใช้แต่งสวนดอกไม้บ้านของเจ้าใช่ไหม" "เอ้อ…อ้า…ใช่ขอรับ…" ชายสูงอายุก้มหน้าตอบ "ยังมี

อีก…" พญายมเอ่ยสำทับต่อ "เจ้าร่วมมือกับพรรคพวกขายผงขาว อีกทั้งเข้าหุ้นกับนายกอเจ้าของโรง

งานผลิตยาทำยาปลอมหากำไร ใช่หรือไม่ใช่" "ชะ…ใช่…ใช่ขอรับ" ชายสูงอายุก้มหน้าต่ำลงไปอีก "ยก

ขึ้นมาแค่สองเรื่องเท่านี้เอง เจ้ายังจะโวยวายว่าไม่ยุติธรรมอีกหรือไม่" ท่านพญายมจ้องหน้าชายสูงอายุ

เขม็ง "ให้เจ้าอยู่มาได้จนอายุ 76 ก็กรุณาเจ้ามากไปแล้ว" นัยน์ตาของพญายมแดงก่ำ "เอ้า มาลากตัวไป

ลงกระทะน้ำมัน" พญายมหันไปสั่ง "ขอได้โปรดเถิด…" ชายสูงอายุได้ยินคำพิพากษาโทษให้นำไปทอด

ในกระทะน้ำมันเท่านั้นก็หน้าซีด รีบโขกหัวกราบนับครั้งไม่ถ้วน พลางพูดว่า "ตอนมีชีวิตอยู่ แม้กระผม

จะทำความชั่วร้ายไว้มากแต่กระผมทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำไมไม่มีใครเตือนกระผมเลยว่าให้

รีบกลับตัว" "เหลวไหล" ท่านพญายมตบโต๊ะอีก "เรามีจดหมายเตือนเจ้าไปแล้วตั้งสามครั้ง เจ้ายังบอก

ได้อีกว่าไม่มีใครเตือน" "ไม่มีจริง ๆ ขอรับ…" ชายสูงอายุยืนยัน "เอาละเจ้าอาจจะเลอะเลือนไป" ท่าน

พญายมทำเสียงอ่อนลง "เจ้าจงสงบใจสักครู่แล้วลองทบทวนดู" ท่านพญายมทิ้งช่วงพัก แล้วเอ่ยขึ้น

ใหม่ว่า "เจ้าสวมแว่นตาคนแก่นี้เมื่อไหร่" "เอ้อ…" ชายสูงอายุยกมือขึ้นเกาศรีษะเล็กน้อย เป็นการช่วย

ทบทวนความจำ "เอ้อ จำได้แล้ว เมื่อตอนกระผมอายุได้ 50 ขอรับ วันนั้นเป็นวันในฤดูหนาว กระผมนั่ง

อยู่บนเก้าอี้โยก ดูหนังสือพิมพ์ รู้สึกนัยน์ตาพร่ามัว หลังจากนั้นกระผมก็ไปตรวจสายตาประกอบ

แว่น" "นั่นแหล่ะจดหมายเตือนฉบับที่หนึ่ง ที่เราส่งไปถึงเจ้า เพื่อให้รู้ว่าวันเวลาของเจ้าใกล้เข้ามา

แล้ว" "โอ๊ะ" ชายสูงอายุอุทาน "นั่นนะหรือขอรับจดหมายเตือน" "ใช่แล้ว" ท่านพญายมตอบหนัก

แน่น "แล้วฉบับที่สองล่ะขอรับ" ชายสูงอายุยังไม่หายข้องใจ "จำได้ไหม วันนั้นเป็นวันเกิดอายุครบ 60

ปีของเจ้า ลูกสาวของเจ้าเดินทางไกลมาจัดงานวันเกิดให้ เจ้าตะกรามแทะน่องไก่ชิ้นใหญ่จนฟันหน้า

หัก จากนั้นเป็นต้นมาฟันของเจ้าก็หลุดร่วงไปทีละซี่สองซี่จนบัดนี้เหลืออยู่ไม่กี่ซั่แล้ว นั่นแหล่ะจดหมาย

เตือนครั้งที่สอง" พญายมหยุดชั่วขณะ แล้วเอ่ยต่อไปว่า "หลังจากนั้นอีกปีหนึ่ง ผมของเจ้าที่เคยดกดำ

เป็นเงางามก็เปลี่ยนสีและเริ่มร่วง จนกลายเป็นผมขาวและบางหรอมแหรมอย่างนี้ นี่เป็นจดหมายเตือน

ฉบับที่สาม แล้วเจ้ายังจะกล้าปฏิเสธ ว่าไม่ได้รับคำเตือนอีกหรือ" ว่าแล้วท่านพญายมก็หันไปสั่ง

การ "เอาตัวชายผู้นี้ลงไปรับโทษ" ชายสูงอายุไม่มีข้อต่อรองใด ๆ อีกเลย เขาได้แต่สะอื้นไห้เดินดุปัด

ตุเป๋ตามแรงลากจูงไปสู่แดนทรมาน คนต่อไปที่มารับพิพากษาโทษพร้อมกับชายสูงอายุ คือ ชายหนุ่ม

ท่านพญายมเปิดดูบัญชีแล้วส่ายหน้า บอกว่า "เจ้ายังหนุ่มยังแน่น น่าจะทำสัมมาอาชีพให้ชีวิตเจริญ

รุ่งเรืองต่อไป เหตุใดจึงต้องตกลงมาที่นี่" "ใช่แล้วขอรับ กระผมก็รู้สึกว่าไม่เป็นการยุติธรรมเลย" ชาย

หนุ่มได้ช่องก็เริ่มตีโพยตีพายต่อจากชายสูงอายุบ้าง "ท่านผู้เป็นใหญ่เห็นไหมขอรับ นัยน์ตาของกระผม

ก็ยังไม่ได้ฝ้าฟาง ผมก็ยังไม่ขาว ฟันก็ยังไม่หลุดร่วง แล้วกระผมก็ไม่ได้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรนักหนา อีก

อย่างหนึ่งก็คือ กระผมไม่ได้รับจดหมายเตือนจากท่านเลยเป็นความสัตย์จริง" "โธ่ ไอ้หนูหน้าโง่" ท่าน

พญายมลากเสียงอย่างเหนื่อยหน่าย "จดหมายเตือนน่ะไม่ได้เหมือนกันทุกรายไปหรอก" "ถ้าเช่นนั้น

จดหมายเตือนของท่านที่ให้แก่กระผม เป็นอย่างไรล่ะขอรับ" ชายหนุ่มถาม "เจ้าจำชายหนุ่มเพื่อนบ้าน

ที่เกิดปีเดียวกับเจ้าได้ไหม" พญายมทบทวนให้อย่างใจเย็น "อ๋อลูกชายแม่หม้ายจางน่ะหรือขอรับ เขา

เป็นเพื่อนเล่นกับผมมาตั้งแต่เด็ก" ชายหนุ่มตอบ "แล้วบัดนี้เพื่อนคนนั้นของเจ้าไปไหนเสีย" ท่านพญา

ยมถาม "เขาตายด้วยโรคปอดตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้วขอรับ" ชายหนุ่มตอบ "ใช่ นั่นแหละคือจดหมาย

เตือนครั้งที่หนึ่ง ที่เราส่งให้แก่เจ้า" "เอ๊ะ ไม่เหมือนกันนะขอรับ ไอ้เพื่อนของกระผมคนนั้นมันเป็น

วัณโรคผอมกระหร่อง ส่วนกระผมยังล่ำสันแข็งแรง" ชายหนุ่มขึ้นเสียงค้าน "เราเรียกเจ้าว่าไอ้หน้าโง่

น่ะไม่ผิดเลย" ท่านพญายมยังคงอารมณ์ดีกล่าวต่อไป "ไม่มีใครรับรองได้ว่าตัวเองจะไม่เจ็บป่วย เรา

ตอบเจ้าแล้วเรื่องของความไม่เที่ยงของสังขาร แม้เจ้าจะไม่เป็นวัณโรค เจ้าก็อาจต้องทิ้งสังขารด้วยเหตุ

อื่น หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้จดหมายเตือนเจ้าไปอีก…" "ครั้งที่สองกระผมไม่ได้รับ…" ชายหนุ่มบอก

ปัด "เลวมาก" ท่านพญายมตวาดเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มชักจะเหลวไหลแล้ว "เจ้าจกลูกพี่ลูกน้องที่อยู่กับเจ้า

มาสามปีไม่ได้หรือ เขาตายไปปุบปับโดยหาสาเหตุอะไรไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังหนุ่มยังแน่นใช่ไหม นั่นแหละ

จดหมายเตือนครั้งที่สอง" ให้เจ้ารู้ว่าจะต้องเร่งสร้างกุศลคุณงามความดี คนเราถึงความตายได้ ไม่ว่า

เด็กหนุ่มสาว หรือคนเฒ่าคนชรา เตือนครั้งที่สองก็แล้ว เจ้าก็ยังใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาอยู่เราจึงส่ง

จดหมายเตือนเจ้าไปอีกครั้งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเส้นตายครั้งสุดท้าย "เป็นเส้นตายครั้งสุดท้าย" ชาย

หนุ่มทบทวน "ท่านได้โปรดอย่าล้อกระผมเล่นเลย กระผมไม่ได้รับจริง ๆ " "เจ้าหน้าโง่" ท่านพญายม

ชักปวดศรีษะกับมนุษย์ที่มีแต่ความหลงไว้เต็มตัวอย่างนี้ "เมื่อเดือนที่แล้วเกิดเหตุร้ายแรงอะไรขึ้นที่

ตำบลบ้านของเจ้า จำไม่ได้แล้วหรือ เด็กสี่ห้าคนที่ไปเก็บระเบิดมือมาเล่น แล้วระเบิดตูมตายทันทีสอง

คน บาดเจ็บสาหัสสามคนใช่ไหม นั่นแหละเป็นจดหมายเตือนให้ทุกคนรู้ว่า ความตายไม่เลือกวัย ถ้าใคร

ยังมัวหลงอยู่ ไม่สร้างบุญสร้างกุศล ตายแล้วก็ต้องลงมาหาเราที่นี่ทุกรายไป" "โอ้ ท่านผู้เป็นใหญ่

กระผมเพิ่งเข้าใจความหมายของท่านเดี๋ยวนี้เอง ชาติหน้ากระผมจะทำอย่างที่ท่านบอก…" ชายหนุ่ม

น้ำตาไหลพรากด้วยความสำนึกอย่างจริงใจ "เมื่อเจ้าเกิดความสำนึกอย่างจริงจังเช่นนี้ เราจะให้เจ้าไป

เกิดใหม่เป็นกรณีพิเศษ ดูรึว่าเจ้าจะสร้างบุญสร้างกุศลใหม่เพื่อชดใช้หนี้กรรมในชานี้ได้สักแค่ไหน"

เมื่อท่านพญายมมีบัญชาให้ชายหนุ่มไปเกิดใหม่แล้ว ก็ได้เสด็จลงจากบัลลังก์ไป



โปรดติดตามตอนที่ 3 ต่อไป เร็วๆนี้
โดย: ตดเหม็น !!!   วันที่: 20 Dec 2006 - 14:19


 ความคิดเห็นที่: 1 / 1 : 241052
โดย: koko69
อ้าว..ไหงจบแค่นี้ล่ะครับ งง เลย
วันที่: 21 Dec 06 - 08:48