Close this window

สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด
323 Sedan เกียร์ Auto ปี 95 - 96 ครับ
วันนี้เกิดอาการดับกลางถนนเลย ก่อนหน้าที่จะเป็นแบบนี้วันนึง มันมีอาการแปลกๆ ครับ
คือ พอบิดกุญแจให้ไฟติด (ก่อนที่จะบิดไปตำแหน่งสตาร์ท) เข็มวัดรอบมันวิ่งไปมาอ่ะครับ
บางครั้งวิ่งไปที่เลข 8 เลย วิ่งกลับไปกลับมา แล้วซักพักก็นิ่งที่เลข 0 จากนั้นผมก็บิด
สตาร์ท ซึ่งต้องเหยียบคันเร่งลงไปมากๆ จึงจะติด

พอเช้านี้ก็เกิดอาการเดิม ผมก็สตาร์ทเหมือนเดิม แต่พอขับๆ ไป มันดันดับกลางอากาศ
แล้วก็สตาร์ทไม่ติดอีกเลย รถผมใช้ Gas ครับ ปกติตอนที่เครื่องเย็นๆ ผมจะสตาร์ทด้วย
น้ำมัน วิ่งไปซักพักพอเครื่องร้อนก็จะเปลี่ยนเป็น Gas (เป็นสวิทย์แบบ Manual ครับ)
และปกติถ้าเครื่องเย็นก็ยังสามารถสตาร์ทด้วย Gas ได้ครับ แต่วันนี้หลังจากที่มันดับไป
แล้ว ไม่สามารถสตาร์ทได้เลยทั้งน้ำมันและ Gas

คิดว่าไม่ใช่เพราะแบตแน่ๆ ตอนสตาร์ทมันมีเสียงเหมือนจะติด แต่ก็ไม่ติด และผมได้ลอง
จั๊มแบตแล้วก็ยังไม่ติด ตอนนี้ลากไปที่อู่แล้วครับ จนป่านนี้ช่างก็ยังหาสาเหตุไม่เจอ
ช่างลองทดสอบหัวเทียนแล้ว ก็เห็นมีประกายไปออกมาที่ขั้วนะครับ รบกวนสมาชิกทุกๆ
ท่านด้วยนะครับ
โดย: บางแสนแมน   วันที่: 8 Apr 2013 - 21:47


 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 774359
โดย: Yut13
หัวเทียนมีประกายไฟแสดงว่าราวลิ้นหมุนสายพานไม่ขาด

ปลดขั้วลบแล้วเสียบกลับลองใหม่
วันที่: 09 Apr 13 - 11:30

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 774401
โดย: srithanon
ติดแก็สแบบดูดหรือเปล่า อาการนี้อาจจะเป็นที่หม้อต้มแก็ส หรือมีการจ่ายแก็สมากในจังหวะรอบเดินเบา
ทำให้มีปริมาณแก็สหนาในห้องไอดี ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก ต้องเหยียบคันเร่งให้จมมิด เพื่อให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดสุด ให้มีอากาศไหลเข้าท่อไอดีมากสุด เพื่อให้มีความใกล้เคียงในเรื่องอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด เครื่องก็จะติดง่ายขึ้นแต่ยังไม่ปกติ

สาเหตุส่วนใหญ่มาจากหม้อต้มแก็สเสื่อมสภาพจากการใช้งานมานาน ทำให้เกิดขี้แก็สที่เป็นเหมือนน้ำมันเครื่องเหนียวๆ ไปจับที่แผ่นผ้าไดอะแฟรมของหม้อต้ม ทำให้ผิวแผ่นผ้าไม่ตึงหย่น เสียรูปทรงฝาชี อันเป็นผลกับแรงดูดจากแว็คคั่มท่อไอดี มากระทำต่อผิวแผ่นผ้าไดอะแฟรม ให้เกิดแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ฉิ่งฉับ ที่เปิดให้ไอแก็สผ่านไปที่ท่อมิ๊ก มีแรงกดมากกว่าแรงต้านของตัวสปริงไอเดิล ทำให้ไม่สามารถจูนปรับปริมาณแก็สได้ ก็มีแก็สมากกว่าปกติในอัตราส่วนผสมในรอบเดินเบา


แต่ก็มีบ้างกับอาการที่ว่านี้ ที่เกิดจากกรองอากาศมันตัน ทำให้มีอากาศไหลผ่านไปที่ห้องมิ๊กน้อยกว่าปกติ ทำให้มีไอแก็สมากกว่าอากาศ มันก็เข้าข่ายมีแก็สหนาเช่นกัน งั้นก่อนอื่นต้องทำความกรองอากาศให้สะอาด เพื่อให้อากาศผ่านใส้กรองได้สะดวก

หากทำความสะอาดเป่ากรองอากาศแล้ว ยังเป็นอาการเดิม แสดงว่าเป็นที่หม้อต้มแก็ส หากหม้อต้มแก็สนั้นใช้งานมามากกว่าสองปีขึ้นไป จะเป็นเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถที่เวลาตอนเช้าควรืี่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง จนกว่าจะทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์หรือระบบน้ำหล่อเย็นมีความร้อนสูง ก่อนที่จะสลับไปใช้แก็ส

ทั้งนี้เนื่องจากว่าที่หม้อต้มแก็ส จำเป็นที่จะต้องอาศัยความร้อนจากระบบน้ำหล่อเย็น ที่ร้อนป้อนเข้าไปที่ห้องต้มของหม้อต้มแก็ส เพื่อเอาความร้อนในห้องต้มทรานเฟอร์ไปยังห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็ส ให้เป็นไอแก็ส หากน้ำร้อนที่จะป้อนเข้าที่หม้อต้มแก็สยังไม่ร้อนพอ หรือยังเย็นในตอนสตาร์ทด้วยระบบแก็สทันทีในช่วงเช้าๆ

เมื่อใดก็ตามที่น้ำร้อนในหม้อต้มแก็สยังมีอุณหภุมิไม่ถึ ที่จะทำให้อุณหภูมิความร้อนในห้องเปลี่ยนสถานะมีอุณหภูมิสูงได้ การเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สก็จะเปลี่ยนเป็นไอแก็สไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดขี้แก็สขึ้นในระบบของหม้อต้มแก็ส และก่อให้เกิดการอุดตันช่องบายพาสแก็ส ที่ตัวสกรูปรับเซ้นซิทีฝ
และยังเป็นผลให้ขี้นแก็สนี้ไหลไปเข้าที่ตัวเรือนปีกผีเสื้อ ทำให้เกิดคราบเขม่ากับน้ำมันขี้แก็ส ไปอุดตันตามช่องบายพาสของอากาศ เช่นสกรุปรับรอบเดินเบา สเต็ปมอเตอร์ และระบบ ISC แบบต่างๆ รวมทั้งตามขอบลิ้นปีกผีเสื้อที่มีคราบเขม่าเหนียวๆจับ ทำให้ภายในตัวเรือนปีกผีเสื้อสกปรก

ทำให้มีผลกับรอบเดินเบาของระบบน้ำมันและแก็ส นี้คือสาเหตุที่ท่านเจ้าของรถส่วนใหญ่ไม่คำนึงถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้าๆ หรือทุกครั้งที่จอดรถแล้วน้ำในระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ยังไม่ร้อน
ก็จะเกิดอาการที่กล่าวมาข้าต้น

ดังนั้นท่านเจ้าของรถที่ใช้เชื้อเพลิงสองระบบควรใส่ใจเรื่องนี้ด้วย จะได้ไม่ทำให้หม้อต้มแก็สเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และมีปัญหาตามมามากมายครับ สำหรับกรณีนี้อยากให้ท่านเจ้าของรถนำรถไปให้ร้านติดตั้งแก็ส หรือช่าง เขาทำการเปลี่ยนชุดซ่อมของหม้อต้มแก็สเสียใหม่ หากว่ามีการใช้งานมานานแล้ว
ลองจัดไปครับ ขอให้โชคดี ......srithanon
วันที่: 09 Apr 13 - 13:03

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 774421
โดย: บางแสนแมน
ขอบคุณคุณ Yut13 และคุณ Srithanon มากครับ
รถผมใช้แก็สแบบดูด ส่วนหม้อต้มแก็สก็เปลี่ยนชุดซ่อมไปได้ซักสามปีแล้ว เป็นของ Tomasatto
และใช้ Gas เข้าปีที่แปดแล้วครับ

และก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนชุดซ่อมนั้น มันมีอาการกินแก็สไปมากกว่าปกติ คือถังนึงจะวิ่งได้ประมาณ 530 โล
มันลดลงมาเหลือ 400 นิดๆ อ่ะครับ หรือหายไปประมาณ 100 โลต่อถัง ผมก็เลยเอาไปเปลี่ยนชุดซ่อม แต่เปลี่ยนแล้วการบริโภคแก็สก็ยังไม่ดีขึ้น ก็เลยปล่อยเลยตามเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ครับ

คุณ Srithanon ครับ เคสนี้เข้าใจว่านอกจากจะเปลี่ยนหม้อต้มแล้ว (ผมตั้งใจจะเปลี่ยนเลย ไม่ซ่อม)
คงต้องถอด ISC ออกมาล้างด้วยใช่มั้ยครับ
วันที่: 09 Apr 13 - 14:14

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 774434
โดย: ทวีรัฐ
ถ้ามีงบพอ ลงอัพเป็นหัวฉีด จบปัญหาเรื่องแก๊ส ไปิีกนานครับ(ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องอื่นมาเป็นตัวแปร)

เมื่อก่อนใช้แบบดูด รถผมไม่เคยทำได้ดีกว่า 6-7 โลลิตรเลย

แต่พอเปลี่ยนมาเป็นหัวฉีด ได้9 ปลายๆเกือบ 10 ดลลิตร (วิ่งกลางวันแดดเปรี้ยง ถ้าวิ่งกลางคืนน่าจะทำได้ดีกว่านี้)
กลายเป็นอัตราบริโภค ดีกว่าน้ำมันเสียอีกครับ มีแต่คนบอกว่ามันอาจแย่กว่าน้ำมัน 15-30%
แต่นี้ของผมน้ำมันเก่งสุด 8 โลลิตร นิดๆ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
วันที่: 09 Apr 13 - 14:24

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 774460
โดย: บางแสนแมน
ขอบคุณครับคุณทวีรัฐ แล้วจะลองพิจารณาแบบหัวฉีดดูครับ
เมื่อตอนก่อนที่จะเปลี่ยนชุดซ่อม คือช่วงสี่ปีแรกนั้น รถผมวิ่งได้ประมาณ 10 - 11 โลลิตรอ่ะครับ
วิ่งไปกลับที่บ้านกะที่ทำงาน วันละประมาณร้อยโล จากบางแสนไปแถวๆ กม 36 บางนา - ตราด
และถ้าวิ่งยาวๆ เช่นกลับบ้านต่างจังหวัด ก็จะได้เกือบๆ 12 - 13 โลลิตร (เกือบๆ 600 โลต่อถัง)
ถังขนาด 58 ลิตร เติมเต็มที่ได้ประมาณ 50 ลิตรครับ
วันที่: 09 Apr 13 - 15:30

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 774470
โดย: srithanon
การจะตรวจสอบว่าภายในหม้อต้มแก็สน่าจะมีสภาพเสื่อม ก่อนอื่นขันน๊อตถ่ายขี้แก็สที่ตัวหม้อต้ม ว่ามันมีขี้แก็สมากขนาดไหน แต่จากการทดลองวิเคราะห์หาข้อมูลสำหรับหม้อต้มแก็โทมาเซ้ทโต้ พบว่าโดยทั่วไปแล้ว รถที่ใช้งานจะเริ่มมีสภาพหม้อต้มแก็สเสื่อมที่เห็นได้เด่นชัด ก็ปรมาณปีที่สองขึ้นไป หากตรวจพบขี้แก็สในหม้อต้ม ก็ขอให้นึกว่างานเข้าแล้ว ในกรณีที่ผ่านสองปีขึ้นไป


ปกติแล้วขี้แก็สไม่น่าจะมีมากอะไร หากการเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สให้เป็นไอแก็สสมบูรณ์ ขี้แก็สก็จะไม่ค่อยปรากฏ และก็ส่วนใหญ่ที่มีปัญหาในเรื่องรอบเดินเบาในการใช้แก็สแบบดูด จะมาจากหม้อต้มส่วนใหญ่ และลองลงมาก็คือ เทคนิคการจ่ายปริมาณแก็สจากหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ ไปยังท่อไอดี ที่มีอุปสรรค์และมีปัจจัยร่วมในการทำงานของระบบ ที่เมื่อเครื่องยนต์อยุ่ในรอบเดินเบาแล้วทำให้ลิ้นปีกผีเสื้อปิด ขนาดลิ้นปีกผีเสื้อยังไม่ปิดก็มีปัญหากับการจ่านปริมาณแก็ส เมื่อปิดก็ไปกันใหญ่ มีอย่างที่ไหนการจ่ายปริมาณเชื้อเพลิงเข้าห้องสูบ กลับไปจ่ายที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ มันต้องจ่ายเข้าท่อไอดีหรือตรงเหนือกระบอกสูบ แบบหัวฉีด และมีอากาศที่ผ่านลิ้นปีกผีเสื้อไปผสมกันในห้องสูบ

แต่ที่ระบบดูดกลับทำตรงกันข้าม มันก็เกิดปัญหามากมาย ปรับให้แก็สแยกอิสระไม่ได้ ต้องเอามาผสมกับอากาศที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ เมื่อมันมาอยู่รอบเดินเบาลิ้นปีกผีเสื้อปิด ก็มีแก็สน้อยกว่าอากาศ หรือปรับให่้มีมากกว่าอากาศ ก็หนาเพราะอากาศผ่านช่องบายพาสของระบบอากากาศช่วยรอบเดินเบา พวกสเต็ปมอเตอร์ และ ISC แบบต่างๆ มันจึงเป็นปัญหาเรื่องรอบเดินเบา แถมยังเอาเรื่องแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดีมาเป็นตัวกำหนดให้ วาวล์ฉิ่งฉับในหม้อต้มแก็ส จ่ายแก็ส

หากเมื่อใดเครื่องยนต์มีกำลังอัดตกลง เพราะบ่าวาวล์ปิดไม่สนิทหรือวาวล์ยัน ก็ทำให้กำฃังอัดตกและไม่สเตเบิล ผลก็คือแรงดูดแว็คคั่มก็ไม่คงที่ ก็มีผลกับรอบเดินเบาในการใช้แก็ส


ก็ตอบคำถามว่าหากเปลี่ยนหม้อต้มใหม่ ควจทำความสะอาดพวก ISC หรือตัวเรือนปีกผีเสื้อหรือไม่

ตอบว่าควรอย่างยิ่งครับ เพราะจะได้ทำความสะอาดพวกคราบเขม่าที่อุดตันตามช่องหรือรูของอากาศที่ผ่าน ให้โล่งไหลผ่านได้สะดวก รวมทั้งเรื่องกรองอากาศเปลี่ยนใหม่เลยครับ....srithanon
วันที่: 09 Apr 13 - 16:05

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 774498
โดย: pharam3
ผมเคยเจอ ตอนอยู่ที่ศูนย์ โตต้าเวลาร้อน อาการเหมือน คอยล์ ร้าว หรือแตก ผิด ถูกยังไง ลองดูก่อนนะครับ
วันที่: 09 Apr 13 - 20:15

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 774567
โดย: บางแสนแมน
วันนี้ช่างบอกคงจะเสร็จ ผมถามว่ามันเป็นอะไรก็ยังตอบไม่ได้ บอกแค่ว่าเสร็จวันนี้

ยังไงถ้าทราบสาเหตุแน่ชัดก็จะมาแจ้งให้ทราบกันนะครับ
วันที่: 10 Apr 13 - 08:56

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 774682
โดย: บางแสนแมน
ตะกี้ช่างโทรมาบอกแล้วครับว่า ECU ไหม้ เค้าเอาไปซ่อมมาแล้ว รถก็สตาร์ทติดใช้งานได้ตามปกติ
ติดอยู่ที่ค่าซ่อมนี่ล่ะครับ เค้าบอก 2500 ค่าแรงอีก 500 ผมล่ะมึนเลย ตอนเข้าอู่ก็ย้ำแล้วว่าถ้าเจอสาเหตุ
ให้โทรบอกก่อน พี่แกทำเสร็จแล้วค่อยมาบอกผม เซ็งจริงๆ

ก็เลยอยากถามท่านสมาชิกว่าค่าซ่อม 2500 นี่มันสมเหตุสมผลมั้ยครับ
วันที่: 10 Apr 13 - 15:15

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 774706
โดย: srithanon
ราคาค่าซ่อมที่รับซ่อมกล่องก้ประมาณนั้นแหละครับ หากนำไปให้ที่ร้านรับซ่อม หากซ่อมเองอาจจะตั้งแต่
10-50 บาทแล้วแต่อาการ หรืออาจจะหลักร้อย

ตามที่บอกอาการครั้งแรกว่า ช่างทดสอบไฟที่หัวเทียนมีประกาย แต่ไม่ติด แต่พอบอกว่าเอากล่องไปซ่อมใช้งานได้ปกติ เลยสงสัย ประเภทหมูลอยมา เข้าจานข้าว หมายความว่าอาจจะไม่เสียที่กล่องก็ได้

แต่อาจจะมีบางจุดที่เสียหรือหลุดหลวม ที่ไม่ได้มาจากกล่อง ก็มี หรืออาจจะเสียจริงก้ได้ พิสูจน์ซิครับ

เปิดฝากล่อง ECU ออกมาทั้งสองด้าน หากซ่อมจริง จะมีรอยซ่อมบัดกรีพวกคอมเพอเน้นท์ ทำยังไงก็จับได้ว่ามีการซ่อม หากดูแล้วไม่มีอะไรเป็นที่ผิดสังเกตุ คือเดิมๆ ก็แสดงว่าหมูลอยมาเข้าจานข้าว แล้วบอกว่าเสียที่กล่อง ค่าซ่อมเยอะดี หรือซ่อมจริง ตอบหน่อยได้ไหม ว่าซ่อมจุดเสียของอะไร ในวงจร ขออภัยหากซ่อมจริง

แต่บางครั้งอาจจะดูไม่ออก เพราะร้านรับซ่อม ที่มีชื่อเสียง เขาเล่นเปลี่ยนแผ่นเมนบอร์ด ECU ทั้งยวง ก็ราคา 2500 บาท เพราะเขาสั่งมือสองมาจากหยุ่นปี้ ถอดเอาแต่แผงในตัวกล่องมา เก็บตุนไว้หลายร้อยชุด หากซ่อมเบื้องต้นพวกอุปกรณืไหม้ แล้วใช้งานไม่ได้ หรือเห็นว่าเสียมากก็เปลี่ยนทั้งชุดก็ราคานี้เหมือนกัน เอาเป็นว่าเขาจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน จะซ่อมหรือไม่ซ่อม หากทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ปกติ ก็ถือว่าๅOK ก็แล้วกัน ............srithanon
วันที่: 10 Apr 13 - 17:37

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 774723
โดย: บางแสนแมน
ครับ คุณSrithanon สุดท้ายก็ต้องคิดว่าสตาร์ทติดก็ OK. แล้ว เนื่องจากว่ามันไปตายกลางทาง จำเป็นต้องลากไปที่อู่ ถ้ามันอยู่ที่บ้าน คงจะมีโอกาสได้ลองทำตามที่หลายๆท่านแนะนำหรือให้ความเห็นมา
และจะทำให้ได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย

ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอบคุณจริงๆ ที่นี่อบอุ่นมาก เต็มไปด้วยมิตรภาพ ตลอดเกือบสิบปีที่ใช้มาสด้า ก็ได้ที่นี่ล่ะครับที่ช่วยให้ผมได้รู้อะไรๆ เกี่ยวกับรถมากมาย ทำให้รถที่ใช้อยู่ ไม่เคยเกิดปัญหาหนักๆ หรือตายกลางทางเลยตลอดระยะเวลาที่ใช้มานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มันตายกลางทางแล้วสตาร์ทต่อไม่ได้ เลยทำให้ต้องลากเข้าอู่...ขอบคุณอีกครั้งครับทุกท่าน
วันที่: 10 Apr 13 - 20:09