Close this window

มาดัดแปลง Flasher ไฟเลี้ยว ให้ใช้หลอดไฟแบบ LED
การดัดแปลงแก้ไข Flasher ไฟเลี้ยว ของหลอดไฟแบบกลม ที่มีใส้หลอด มาเป็นหลอดไฟแบบ LED ( Light Emitting diode) ซึ่งจะเห็นความแตกกันทั้งรูปแบบการทำงานและโครงสร้างของวัสดุที่ใช้ จึงเป็นปัญหาที่ทำให้วงจรไฟเลี้ยว ที่ใช้ Flasher เป็นระบบอีเลคโทรนิคส์ ทำงานร่วมกับระบบรีเรย์ ไม่สารถทำงานได้ในลักษณะของหลอดแบบกลมที่มีใส้หลอด ที่ทำให้กระแสไฟไหลผ่านลงกราวด์หรือครบ Loop circuit ของการใช้กระแสไฟของโหลด

เพราะการทำงานของวงจรในตัว Flasher ที่ใช้วงจรพวกวงจร Flip Flop IC/ Timer IC แบบต่างๆ ที่อาศัยการไหลของกระแสไฟของโหลด ผ่านค่า ความต้านทาน ที่มีค่า R และ C ในการสร้างสัญญาณพัลส์โวลเต็จ กำหนดช่วงเวลาของการเกิดพัลส์ และขับกระแสไฟให้ตัวรีเรย์ทำงาน ให้หลอดไฟกระพริบ

เนื่องจากหลอด LED ไม่มีใส้หลอด เหมือนกับหลอดไฟกลม จึงทำให้กระแสไฟไม่สามารถไหลผ่านได้โดยตรงลงกราวด์ เพราะคุณสมบัติของ LED ที่มันสามารถเปร่งแสงออกมาได้เพราะ ตัวมันเป็นสารกึ่งตัวนำ ที่อาศัยการเคลื่อนที่ของอีเล็คตรอนอิสระ ในวงจรของนิวเคลียสวงนอกสุดข้ามไปยังจรในสุดของวงนิวเคลียส มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสงที่มีความถี่ต่ำ ที่สายตามองเห็นได้ จึงทำให้ไม่มีกระแสไฟไหลผ่านหลอด LED จะมีก็เพียงเปลี่ยนกระแสไฟให้เป้นพลังงานแสง ตามที่กล่าว ทำให้ไม่มีกะแสไฟไหลผ่านโหลดที่เป็นแบบหลอดไฟ LED

เมื่อเป็นดังนี้การที่จะเอาหลอด LED มาต่อแทนหลอดไฟกลมที่เป็นไส้หลอด ก็จะเอามาแทนกันไม่ได้ หากนำมาติดตั้งแทนทันที่ จะทำให้กระแสไฟที่วงจร Flip Flop IC ไม่มีกระแสไหลผ่าน หรือ Open (หรือมีน้อยมาก) ทำให้วงจร ที่ค่า R
มีกระแสไฟไหลผ่านน้อย เป็นผลให้ไฟติดค้าางหรือมีความถี่ปิดเปิดเร็วมาก ดังจะเห็นได้จากวงจรไฟเลี้ยวที่มีหลอดไฟแบบมีไส้ ข้างหนึ่งข้างใดของรถขาด เช่นหลอดไฟเลี้ยวดวงหน้าขาด ก็จะทำให้ไฟเลี้ยวด้านนั้น อาจจะติดตลอดไม่กระพริบหรือ กระพริบเร็วมากๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ากระแสไฟที่ไหลผ่านหลอดน้อยลงเพราะเหลือหลอดเดียว ทำให้วงจร Flip Flop สร้างสัญญาณพัลส์เร็วขึ้น

หรือจะพิสูจน์ง่ายๆในเรื่องนี้ก็ไม่ยาก ลองเปลี่ยนหลอดไฟเลี้ยวกลม จาก 5 w เป็น 10 w เปลี่ยนทั้งสองหลอดหน้าหลัง ของด้านไฟเลี้ยวซ้ายหรือขวา ด้านใดด้านหนึ่ง แล้วลองเปิดไฟเลี้ยวด้านที่เปลี่ยนหลอดดู จะพบว่าหลอดไฟกระพริบช้าลง ในทางตรงกันข้ามหาก เปลี่ยนหลอดไฟให้มีค่าวัตต์น้อยลง มันก็จะกระพริบเร็วขึ้น ก็ลองดู การกระพริบน้อยหรือมากโดยการเปลี่ยนค่าวัตต์ของหลอดไฟ นอกจากนี้แล้วการที่จะกำหนดให้การกระพริบของหลอดไฟ ได้ตามต้องการ ยังจะต้องเปลี่ยนแปลงค่า R หรือ C ในวงจร Flip Flop ด้วย ที่กล่าวมานี้เป็นไฟในรูปแบบของการใช้หลอดไฟกลมที่มีไส้หลอด

ต่อไปจะกล่าวถึงการใช้หลอด LED มาใช้แทนหลอดแบบใช้ไส้หลอด ว่าจะมีวิธีการอย่างไรว่าให้ใช้แทนกันได้ จะต้องสร้างอะไรมาหรอกวงจร Flip Flop ให้มันทำงานเช่นเดียวกับหลอดไฟกลม ก็เนื้อหายาวสักนิด เพราะมีการสร้างค่าโหลดของการใช้กระแสไฟให้สามารถไหลผ่านลงกราวด์ได้ เช่นเดียวกับหลอดกลม ก็มีการคำนวณหาค่าโหลดที่จะนำมาใช้แทนหลอดกลม

มาต่อเนื้อหาเรื่องการดัดแปลงระบบไฟเลี้ยวแบบใช้หลอดกลมให้เป็นหลอด LED

ในตอนแรกที่ผ่านมาผมได้กล่าวไว้ว่า การทำงานของระบบตัว Flasher ที่เป็นแบบอีเลคโทรนิคส์ ที่มีพวกวงจร Flip Flop เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือวงจรอื่นๆที่ทำงานคล้ายกัน แล้วแต่ผู้ผลิตเขาจะใช้ แต่ตัวที่ผมทำการทดสอบการทำงาน เป็นของ
TOYOTA 12-01 / DENSO 79007 DOT การทำงานของมันขึ้นอยู่กับการใช้กระแสของหลอดไฟที่เป็นโหลดของวงจร

ดังนั้นววิธีการที่จะให้วงจรมันทำงานแบบการใช้กระแสของหลอดที่มีใส้หลอด ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างโหลด Resistance หรือค่าความต้านทาน มาทำการใช้กระแสไฟแทนหลอดแบบมีใส้ เพราะหลอด LED และเปร่งพลังงานแสงออกมาในรูปของการเคลื่อนที่ของอีเลคตรอนอิสระ และประการสำคัญ หลอด LED มันกินกระแสไฟน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องทำตามวิธีที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้

ประการแรกเราต้องทำการวัดกระแสไฟของหลอดกลม ในขณะที่ใช้งานคือเปิดไฟเลี้ยว จะซ้ายหรือขวาก็ได้ ให้มา VOM มิเตอร์ ต่ออันดับกับสายไฟที่มาจาก SW ของสวิชไฟเลี้ยว มาเข้าที่ขา L (แอล) ที่ด้านล่างของตัวแฟรชเชอร์ ตรงที่มีขั่วเสียบสามขาเสียบเข้ากับขาของตัวแฟขชเชอร์ เขาจะเขียนตำแหน่งของสายออกว่า ตัว L
โดยให้ตั้ง Range วัดกระแสที่ 10 Amp (ในมิเตอร์ทั่วๆไปมีให้วัดได้ 10 A ) หากไม่เข้าใจดูภาพที่ผมแนบมาประกอบ รูปที่ 2A
โดย: srithanon   วันที่: 8 Apr 2013 - 11:26


 ความคิดเห็นที่: 1 / 18 : 774214
โดย: ทวีรัฐ
เข้ามานั่งรอดู แถวหน้าสุดเลยครับ
วันที่: 08 Apr 13 - 11:30

 ความคิดเห็นที่: 2 / 18 : 774215
โดย: srithanon
ปกติไฟเลี้ยวไม่ว่าจะซ้ายหรือขวา จะมีการต่อหลอดไฟแบบขนานกันสองหลอด คือหลอดไฟเลี้ยวหน้าและหลอดไฟเลี้ยวข้างหลัง และโดยทั่วไปหลอดไฟเลี้ยวมักจะใช้ขนาด 5 Watt หรือไม่ก็ 10 Watt สมมุติว่าวัดกระแสไฟเลี้ยวด้านหนึ่งด้านใด กินกระแสไฟประมาณ 1.5 Amp หรือมากกว่า หากใช้หลอดแบบ 10 Watt เอาเป็นว่าสัก 1.5 Amp(1500ma)

ให้เราจดเอาไว้ว่า หลอดไฟกินกระแส 1500 ma(1.5A) แล้วทำให้มีการกระพริบของหลอดไฟ ที่ 60 ครั้งต่อนาที ขั้นตอนต่อไป ให้เรามาทำการวัดกระแสไฟของหลอด LED ไม่ว่าจะเป็นแบบหลอดที่สำเร็จรูป หรือเป็นแบบ LED หลอดเล็กหลายๆสิบดวง ที่นำมาประกอบ แบบที่เขาทำขายตามท้องตลาดบ้านหม้อ แบบเส้นยาวๆ หรือทำเอง จะทำเองหรือซื้อก็ไม่สำคัญ สำคัญตรงว่าต้องนำมาใช้กับไฟ 12V ในรถยนต์ได้ทันที หากทำเองก็ต้องหาค่า resistor มาต่ออันดับกับหลอด LED เพื่อดร๊อปโวลเต็จจาก 12 V ให้เหลือ 3 V ใช้กับหลอด LED

การตรวจงัดกระแสไฟของหลอด LED ก็ดูตามภาพที่ผมส่งมา เป็นรูปที่ 3A จากการวัดกระแสไฟที่หลอดLED จะพบว่ามันกินกระแสไฟไม่มาก อย่างหลอดที่ผมซื้อมาสีเหลืองๆในภาพแรกๆที่ส่งมา จะกินกระแสเพียง 250 ma เท่านั้นต่อหลอด หากใช้สองหลอดหน้าหลัง ก็ประมาณ 500 ma
วันที่: 08 Apr 13 - 11:32

 ความคิดเห็นที่: 3 / 18 : 774216
โดย: srithanon
สมมุติว่าวัดค่ากระแสไฟของหลอด LED เท่ากับ 250 ma ต่อดวง เท่กับว่าไฟเลี้ยวหน้าหลังใช้กระแสไฟเท่ากับ 500 ma
เราทราบการวัดการใช้ของกระแสไฟในหลอดกลมในตอนแรกแล้วว่า เราใช้ 1500 ma(1.5A) เมื่อมาเทียบกันกับหลอดไฟ LED จะมีผลต่างกัน 1000 ma( 1 A) เมื่อเราทราบว่ามีผลต่างอยู่ที่ 1000 ma ที่จะทำให้วงจร Flasher ทำงาน ให้ไฟกระพริบที่ 60 ครั้งต่อนาที ดังนั้เราก็จำเป็นที่จะต้องหาค่าโหลด Resistor ที่ทำให้ใช้กระแสไฟที่ 1000 ma

ถึงตอนนี้ก็จะเป็นที่จะต้องมีการคำนวณเล็กๆน้อยๆ สำหรับสูตรคำนวณเรื่องการหาค่ากระแสไฟ โวลเต็จ ค่าความต้านทาน เพาเวอร์พลังงานที่ใช้ไปของวงจรไฟฟ้า เป็นสูตรพื้นฐานมีมาตั้งแต่ระดับนักเรียนม.ต้น เขาเรียนกัน
การหาค่า Load resistor โดยใช้สูตร R = E/I , I = E/R, E = IR, P = EI P = power( วัตต์ )
ในที่นี้เราทราบว่า เราต้องการกระแสไฟของโหลดเท่ากับ 1000 ma( 1A )
จากสูตร R = E/I
ค่า R คือค่าที่ต้องการทราบ = ?
ค่า E = 12 V
ค่า I = 1000 ma (ในสูตรการคำนวณ จะต้องทำให้เป็นหน่วยหลักของสูตรคำนวณ คือ กระแส
( I ) มีหน่วยวัดเป็น Amp E = โวลเต็จ มีหน่วยวัดเป็น Volt และ R = ค่า
ความต้านทาน มีหน่วยวัดเป็น Ohm
ดังนั้นในที่นี้เราก็จะแปลง 1000 ma ให้เป็น Amp ได้เท่า 1 A
แทนค่าในสูตร จะได้ R = 12/1 = 12 Ohm
ก็ทำให้เราทราบว่า การที่ให้โหลดค่าความต้านทานกินกระแสไฟ ที่ 1 A จะใช้ค่าความต้านทานเท่ากับ 12 Ohm จริงอยู่ แต่เรายังไม่รู้เลยว่า ค่าความต้านทานที่ใช้ สามารถทนกระแสไฟได้กี่วัตต์ เพราะเวลาเราซื้อค่าความต้านทาน เราจะต้องบอกทั้งค่าความต้านทานและค่าวัตต์ เช่น ค่า R 10 Ohm 5 watt
ดังนั้นเราก็มาคำนวณหาค่าทนกระแสไฟค่าวัตต์ ว่ามันควจจะใช้ที่เท่าไหร่ จากสูตร
P = EI
P = คือวัตต์ที่ต้องการ ทราบ
E = ทราบแล้วคือ 12 V ( ค่า E คือค่าโวลเต็จที่ตกคร่อมค่า R ความต้านทาน ในที่นี้เราใช่ค้า R โหลดต่อคร่อมกับแหล่งจ่ายไฟ 12 V คือบวกกับกราวด์ จึงเท่ากับว่า มีโวลตกคร่อมค่าความต้านทาน = 12V หากวงจรไหน มีค่าความต้านทานหลายๆค่าต่ออันดับกัน ก็จะต้องเอาค่าโวลเต็จดร๊อปที่ค่าความต้านทานแต่ละตัว มาคำควนหาค่าวัตต์เพาเวอร์แต่ละต้ว
I = ทราบแล้วคือ 1 A แทนค่าในสูตร P = 12X1 = 12 Watt
แต่การใช้งานจริงเขาจะเพิ่มจากค่าที่คำนวณได้ อีก 10-15% งั้น 12 watt ก็จะเป็น 13.8 watt แต่ในท้องตลาด ค่า 13.8 watt ไม่มี มีก็ 15 watt
ดังนั้นเราก็จะใช้ค่าความต้านทาน R = 12 Ohm 15 watt
จากค่าความต้านทานที่เราได้ 12 Ohm 15 watt จะพบว่าค่า ความต้านทานมีตัวใหญ่เกินไป ดังนั้นเวลาเรานำไปใช้งานจริง เราจะทำดังนี้ ให้หาค่าความต้านทาน ที่มีค่าเท่ากับ 24 Ohm 8 watt มาสองตัว ตัวต่อคร่อมกับหลอดไฟ LED ด้านหน้า และที่เหลืออีกตัวต่อคร่อมกับหลอด LED ที่ด้านท้ายรถ ค่าความต้านทานสองตัว 24 Ohmต่อขนานกัน ค่าความต้านทานจะเหลือเท่ากับ 12 Ohm แต่เราได้ตัวเล็กกว่า ไม่เกะกะเนื้อที่ในการติดตั้ง แถมแบ่งกระแสกันอีก ทำให้ใช้งานได้ทนกว่าแบบตัวเดียว

ดังนั้นเมื่อเราได้ค่าความต้านทานที่ต้องการแล้ว คือ 24 Ohm 8 watt เราจะใช้ต่อคร่อมกับหลอด LED ทั้งสี่ดวง คือไฟเลี้ยวซ้าย สองดวง ไฟเลี้ยวขวาสองดวง คราวนี้ก็จะใช้งานกับหลอดไฟ LED ให้กระพริบเท่ากับหลอดไฟแบบมีใส้
การการวัดค่ากระแสไฟที่ผมยกตัวอย่างมาคำนวณนี้ ท่านที่นำไปใช้จรองจะต้องวัดกระแสไฟของหลอดกลมเดิมว่าใช้เท่าไหร่ และวัดการใช้กระแสไฟของหลอด LED ว่าใช้เท่าไหร่ แล้วเอากระแสไฟของหลอด LED ไปลบออก ที่เหลือก็นำไปใช้ในการคำนวณหาค่าความต้านและค่าวัตต์ตามที่แนะนำมา ก็ใช้งานได้แล้ว

สำหรับบางท่านที่ต้องการความเร็วในการพริบที่แตกต่างจากนี้ เช่นให้เร็ว ให้ช้าตามต้องการ ก็ไปเปลี่ยนค่า capacitor ในแผงวงจร แฟรชเชอร์ ที่มีค่า 3.3 Mfd 50V เป็น 10 Mfd การกระพริบก็จะช้า หากเปลี่ยนให้น้อยลงกว่า 3.3Mfd ก็จะเร็ว ลองดูครับอย่าปล่อยให้มือมันคัน ตามสโลแกนของเพื่อนๆสมาชิก ฮุนได ขอให้มีความสนุกและความสุขกับการดัดแปลงใช้งานนะครับ ……srithanoon
วันที่: 08 Apr 13 - 11:33

 ความคิดเห็นที่: 4 / 18 : 774219
โดย: srithanon
ต้องขออภัยเพื่อนๆสมาชิกที่นี้ด้วย ที่ตอนท้ายของเรื่อง เป็นการตอบกระทู้ให้ชมรมเว็ปฮุนได เห็นว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกที่นี้ด้วยก็เลย เอาเนื้อเรื่องที่พิมพ์มาโพสต่อ บังเอิญกำลังทำเรื่องเดินทางท่องเที่ยวจอแดนอยู่เลยรีบๆส่ง ไม่ได้ตัดข้อความนั้นออก ขออภัยพื่อนๆสมาชิกทุกท่านด้วย .....srithanon
วันที่: 08 Apr 13 - 11:43

 ความคิดเห็นที่: 5 / 18 : 774220
โดย: Golf Protege 1.8
ไม่ได้เรียนทางช่างมา อ่านแล้ว งง
วันที่: 08 Apr 13 - 11:59

 ความคิดเห็นที่: 6 / 18 : 774234
โดย: Yut13
ไม่งง แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเป็น LED ผมทำ Flasher ใหม่เลยจะได้ประหยัดกระแส
วันที่: 08 Apr 13 - 14:02

 ความคิดเห็นที่: 7 / 18 : 774237
โดย: srithanon
ก็ตามที่คุณ Yut กล่าวก็ถูกครับ หากไม่ต้องการให้มันกินกระแสมากแบบหลอดมีไส้ ก็ทำแบบ Flasher ที่ใช้เฉพาะกับหลอด LED โดยตรงก็ได้ หรือประกอบขึ้นมาเองก็ง่ายๆมีให้เล่นหลายแบบ แล้วแต่ความชอบของเจ้าของรถ

แต่สำหรับที่แนะนำมานี้ก็ใช้แฟรชเชอร์ตัวเก่า หากยังต้องการใช้ตัวเก่า ก็แปลงตามที่กล่าวมา หรือบางท่านที่มีพื้นฐานทางอีเลคโทรนิคส์ จะทำแบบไหนก็ได้ เพราะเป้นระบบอีเลคโทรนิคส์แบบเบสิคทั่วไป

ผมได้มี คลิปวิดีโอ ที่ทดลองแปลงระบบให้ใช้กับหลอด LED แบบ Super Bright หลอดสำเร็จที่ทำขายตามตลาดอาหลั่ยบ้านหม้อ มาให้ดูว่า สามารถให้มันกระพริบได้ตามต้องการ จะให้ช้าหรือเร็วตามที่ต้องการ

http://youtu.be/CTdphpRn0DA

http://youtu.be/CMaHjxzOjjM
วันที่: 08 Apr 13 - 14:41

 ความคิดเห็นที่: 8 / 18 : 774238
โดย: srithanon
-ของที่ซื้อมาทดลอง
หลอด Super Bright LED สีเหลือง 220 บาท
Flasher ของ TOYOTA ราคา 100 บาท
หลอดไฟกลมแบบมีไส้หลอด 12V 5W และ 10 W สองหลอด 50 บาท
ก็เอาแฟรชเชอร์ มาถอดออกมาดูระบบวงจรภายใน เพื่อดัดแปลง
วันที่: 08 Apr 13 - 14:52

 ความคิดเห็นที่: 9 / 18 : 774239
โดย: srithanon
ตัว TOYOTA Flasher
วันที่: 08 Apr 13 - 14:54

 ความคิดเห็นที่: 10 / 18 : 774240
โดย: srithanon
ภายในตัว Flasher
วันที่: 08 Apr 13 - 14:55

 ความคิดเห็นที่: 11 / 18 : 774241
โดย: srithanon
ทดสอบกับหลอดแบบนี้
วันที่: 08 Apr 13 - 14:57

 ความคิดเห็นที่: 12 / 18 : 774301
โดย: บอมบ์
น่าสนๆ ลดกระแสโหลดไดร์ชาร์จด้วย
วันที่: 09 Apr 13 - 00:55

 ความคิดเห็นที่: 13 / 18 : 774302
โดย: บอมบ์
ขอบคุณครับ
วันที่: 09 Apr 13 - 00:55

 ความคิดเห็นที่: 14 / 18 : 774379
โดย: srithanon
หากใช้วิธีง่ายๆ ก็ใช้แบบนี้ครับ ไม่ต้องไปคำนวนหาค่าความต้านทานให้ยุ่งยากวุ่นวาย เอาบทสรุปดังนี้เลย ในกรณีที่ใชเหลอดไฟ LED ที่มีขั่วเสียบหลอดแบบเขี้ยว เหมือนกับหลอดกลมมีไส้หลอด ก็ให้ไปซื้อค่าความต้านทาน ( R ) ที่ตลาดขายอะไหล่อีเลคโทรนิคส์ ( บ้านหม้อ )
ซื้อตามนี้ 10 Ohm5W = 4 ตัว
15 Ohm5W = 4 ตัว
ดยไม่สนใจจะใช้หลอด LED
หลังจากที่ซื้อมาแล้ว ก็ให้ใช้ค่าความต้านทาน 10 Ohm5W ก่อน บัดกรีต่อคร่อมกับหลิดไฟ LED ที่ใส่แทนหลอดไฟกลมทั้งสี่หลอด โดยไม่สนใจหลอด LED กินกระแสเท่าำไหร่ แต่ต้องใช้กับไฟ 12V ได้ โดยมากเขาจะทำการต่อค่า R ความต้านทานอันดับกับหลอด LED ให้มีไฟดร๊อปโวลเต็จให้เหลือ 3 V สำหรับใช้กับหลอด LED

เมื่อบัดกรีคร่อมกับหลอด LED ทั้งสี่หลอดแล้ว หากเปิดไฟกกระพรริบแล้ว ไฟกระพริบช้าลงกว่าของเดิม ( ปกติอยู่ที่ 60 ครั้งต่อนาที ) ก็ให้เปลี่ยนค่าความต้านทานจาก 10 Ohm5W มาเป็น
15 Ohm5W แทน หากเปลี่ยนไปแล้วไฟกลับกระพริบเร็วไปอีก ก็ให้ไปซื้อค่าความต้านทานที่มีค่าลดลงมาอีกเหลือ ค่าความต้านทาน 12 Ohm5W มาเปลี่ยนแทนก็อาจจะกริบพอดีกัน

คือสรุปง่ายๆว่าหากคร่อมความต้านทานที่หลอด LED แล้ว ทำให้ไฟกริบช้าลง ก็ให้เพิ่มค่าความต้านทาน ครั้งละสองโอมห์ หรือกระพริบเร็วไป ก็ให้ลดค่าความต้านลง ครั้งละสองโอมห์ จนกว่าจะได้ไฟกระพริบที่เหมาะสม หรือที่ 60 ครั้งต่อนาที ก็ง่ายๆดี ลองจัดไปครับหากอยากเปลี่ยนเล่น
....srithanon
วันที่: 09 Apr 13 - 12:18

 ความคิดเห็นที่: 15 / 18 : 774531
โดย: Imagination@LANTiS
สวด....ยอดเลยคร้าบ.....

อยากทำบ้าง...ครับผม
วันที่: 09 Apr 13 - 22:55

 ความคิดเห็นที่: 16 / 18 : 774539
โดย: srithanon
เมื่อทราบหลักการแบบนี้ ก็สามารถนำไปใช้กับหลอดไฟ LED super bright ที่มีหลายๆสิบดวง เอามาทำเป็นรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบหัวลูกศร แบบวงกลมสลับสี และแบบตามใจคิด ให้ทำงานในจังหวะเปิดไฟเลี้ยว แล้วให้กระพริบหรือวิ่งตามสีที่ใช้ ต่อแบบง่ายๆแบบชาวเราชาวเขาก็ทำเองได้ ก็ลองซื้อมาทำเล่นดูครับ ดีกว่าอยู่ว่างๆครับ ..............srithanon
วันที่: 10 Apr 13 - 00:03

 ความคิดเห็นที่: 17 / 18 : 774609
โดย: Yut13
สลับสีระวังดาบ เรียกเอานะ
วันที่: 10 Apr 13 - 11:11

 ความคิดเห็นที่: 18 / 18 : 774707
โดย: srithanon
คุณ Yut 13 ครับ หากนายดาบเรียก เราก็ส่งนายหอก ไปพบ คงช่วยได้บ้างล่ะ
วันที่: 10 Apr 13 - 17:45