Close this window

Mazda Protege 2.0 กับปัญหาไฟแบตโชว์...รบกวนพี่ๆหน่อยครับ
รถ Mazda Protege 2.0 คันนี้ซื้อมือสองมาประมาณ ปีกว่าๆแล้ว

รถได้ทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นรหัส FP39.......1800 CC
คนขายบอกว่าเมื่อก่อนติดแก็สแล้วเครื่องพังก็เลยวางเครื่องใหม่แล้วก็เอาแก็สออก

เรื่องมีอยู่ว่า....ระบบไฟรถใช้การตามปกติไม่ได้ คือ เวลาที่เปิดไฟหน้า ไฟตัดหมอกก็จะติดด้วย
ปิดไม่ได้ เมื่อวานเลยลองไล่สายใหม่ดูก็พบ ดีเลย์ตัว 1....TCS SCB 1240F
เข้าใจว่าช่างที่ทำการเปลี่ยนเครื่องได้ทำการต่อสายไฟตัดหมอกเข้ากับไฟหน้า
ให้เปิดอัตโนมัติ
ดีเลยตัวนี้ต่อดังนี้
1 สายกาวด์
2 สายไฟเข้าแบต
3 สายไฟตัดหมอก
4 สายไฟสูง
5 สายไฟต่ำ
ผมก็เลยทำการถอดเจ้าดีเลย์ตัวนี้ออกซะ แล้วทำการต่อสายไฟทุกสายเข้าเป็นแบบ ปกติ
ผลที่ได้ ไฟตัดหมอกสามารถปิดเปิดไดเป็นปกติ ไฟต่ำปกติ ไฟสูง (น่าจะ) ปกติไม่ได้ลองเพราะยังไม่มีหลอดก็เลยคิดว่าจบทำการเก็บเครื่องมือเข้าที่
อีกประมาณ 20 นาทีจะไปกินข้าวสตาร์ทรถเปิดไฟเปิดแอร์คาดเบล
ปรากฏว่า ไฟแบตโชว์ ก็เลยลองดับเครื่องสตาร์ทใหม่ก็ยังโชว์
ก็ขับไปกินข้าวก่อนกลับมาก็ยังไม่หาย ก็เลยลองโทรถามพี่คนหนึ่งดู
เป็นคนที่มาซื้อยางกับผม พอดีวันนั้นเห็นแกคุยเรื่องไดร์ชาร์จพอดี

พี่เค้าก็บอกมาว่า วันนั้นที่เห็นรถผมไม่ได้ต่อสายกาวด์ พี่เค้าเลยบอกว่า
ให้ลองต่อดูก่อน ถ้าจะให้ดีถ้ามีเครื่องมือเช็คไฟให้ลองเช็คดูด้วย

ผมก็ลองเอาสายกาวด์ของไดร์ชาร์จมาจิ้มที่ตัวรถดู ก็ยังไม่หาย
เลยไม่รู้ว่าเกิดมาจากอะไรกันแน่
เล่าซะยาว แค่จะถามว่า เป็นที่อะไร ??

1.เจ้าตัวดีเลย์ที่ถอดออกหรือเปล่่า
2.หน้าคอนแท็คต่างๆอาจสกปรก
3.ลองเดินสายกาวด์ดูใหม่ (เพราะเมื่อคืนรู้สึกว่าขี้ดินที่ติดตัวถังรถเยอะโคตรๆ)
4.ไดร์ชาร์จอาจกลับบ้านเก่า
5.ไดร์ชาร์จนี่เราสามารถเปลี่ยนเฉพาะถ่านได้หรือเปล่า
6.เราสามารถเช็คได้อย่างไรว่าไดร์ชาร์จเสีย
7.ถ้าถอดไดร์ชาร์จออกจะยกออกทางไหนครับ ออกบน หรือ ลงล่าง เพราะดูแล้วมันแน่นไปหมด
ทั้งบนทั้งล่าง

ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับ
โดย: B4LL   วันที่: 23 Feb 2013 - 09:33

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 22 : 766545
โดย: B4LL
รูปเจ้าดีเลย์ที่ถอดออกครับ
วันที่: 23 Feb 13 - 09:36

 ความคิดเห็นที่: 2 / 22 : 766548
โดย: บอมบ์
ฟังดูแล้ววุ่นวายพอควร กับอดีตที่ผ่านมา

ผมว่าเอาไปให้อู่ไล่สายไฟเบื้องต้นก่อนดีกว่าครับ ชัวร์สุด

ถ้าไฟแบตโชว์ แสดงว่าระบบชาร์จไฟมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ
ไดชาร์จเช็คโดย สตาร์ทรถ เดินเบาแล้ววัดไฟตรงขั้วแบตต้องได้ 13-14 volt ขึ้นอ่ะ

แต่เคสนี้ผมว่าเข้าอู่เถอะครับ เด๋วได้กินข้าวลิง ก่อนรู้สาเหต
วันที่: 23 Feb 13 - 10:07

 ความคิดเห็นที่: 3 / 22 : 766561
โดย: B4LL
เมื่อสักครู่ทดสอบอล้วครับ วัดได้ 13.9 volt มาแบบนิ่งๆเลยครับ
สรุปปกติหรือเปล่าเนี่ย !!
วันที่: 23 Feb 13 - 11:02

 ความคิดเห็นที่: 4 / 22 : 766562
โดย: ทวีรัฐ
เมื่อกี้ที่วัด ติดเครื่องวัดรึเปล่าครับ

แล้วถ้าดับเครื่องวัดเฉพาะไฟแบตละครับ ได้เหลือกี่โวลท์

ถ้าไฟยังมาปกติแต่ไฟชาร์จโชว์ ลองรีเซท กล่อง ECU สักรอบนะครับว่าหายไหม
(ไม่ได้เสียตังค์อะไรลองดูได้ครับ)
วันที่: 23 Feb 13 - 11:05

 ความคิดเห็นที่: 5 / 22 : 766565
โดย: B4LL
เมื่อรีไปรอบนึงแล้วครับป๋า

เมื่อสักครู่ วัดไฟ ไม่ติดเครื่อง 12.7
ติดเครื่อง 13.8-13.9
กลับมาดูในรถ...ไฟไม่โชว์แล้วเหอะๆ งง ค๊อดๆ
วันที่: 23 Feb 13 - 11:16

 ความคิดเห็นที่: 6 / 22 : 766570
โดย: Yut13
ดูพูลเลย์หน้าเครื่องนิดนึงยางเชื่อมวางล้อมันรูดหรือเปล่า ตอนเครื่องดับลองดึงสายพานดู
แรงดันขาดไปนิดนึงควรจะได้ 14.xx
วันที่: 23 Feb 13 - 11:36

 ความคิดเห็นที่: 7 / 22 : 766574
โดย: B4LL
ขอบคุณครับ ป๋ายุทธ์ เดี๋ยวลองไปเช็คอีกที
สรุปไอ้ตัวดีเลย์ที่ผมถอดออกมันไม่เกี่ยวแล้วใช่ไหมครับ
เพราะตอนนี้รถทำงานปกติทุกอย่าง...
ไม่ปกติอยู่อย่างคือน้ำมันในถังไม่ค่อยจะมี
วันที่: 23 Feb 13 - 11:47

 ความคิดเห็นที่: 8 / 22 : 766588
โดย: บอมบ์
อืม จริงอย่างป๋ายุทธว่า ดูพูลเล่ย์หน้าเครื่องด้วยครับ
แล้วก็ขั้วแบตแน่น สะอาดดีหรือเปล่า

เอิ่ม นิดนึงนะครับ
เจ้าตัวนั้นเรียกว่า รีเลย์ (Relay) ครับ
ถ้า ดีเลย์ (Delay) มันจะเข้าใจกันผิดว่า มันทำงานช้า ดีเลย์ออกไป
วันที่: 23 Feb 13 - 12:43

 ความคิดเห็นที่: 9 / 22 : 766608
โดย: B4LL
อ่อ รีเลย์ โอเคครับ....เดี๋ยวจะลองตรวจสอบสายพานดูครับ
วันที่: 23 Feb 13 - 14:06

 ความคิดเห็นที่: 10 / 22 : 766697
โดย: ทิว
แค่ลองจิ้มวัดไฟดู ก็หายแล้ว
ท่าน B4LL ท่านเป็นเทพชัดๆ
นอกนั้นตามป๋ายุทธครับ
วันที่: 23 Feb 13 - 22:56

 ความคิดเห็นที่: 11 / 22 : 766720
โดย: B4LL
ไฟแบตฯ....มันกลับมาหลอกหลอนอีกแล้วครับ

ป๋าวีครับรบกวนช่วยบอกรายละเอียดการ รีเซ็ต ECU แบบละเอียดยิบๆหน่อยได้ไหมครับ
ว่าจะลองรีเซ็ตใหม่อีกซักรอบเผื่อครั้งที่แล้วผมอาจทำไม่ถูกวิธี

ลองค้นหาแล้วไม่เจอ
วันที่: 24 Feb 13 - 09:04

 ความคิดเห็นที่: 12 / 22 : 766727
โดย: ทวีรัฐ
เดี๋ยวนะถ้ามัหายไปแล้วๆมันกลับมาใหม่ ไล่เช็คสายกราวด์ดีกว่าครับ เซ็ทก็ไม่น่าหายนะ
แต่ถ้าจะลองก็ไม่เสียหาย
วันที่: 24 Feb 13 - 10:32

 ความคิดเห็นที่: 13 / 22 : 766732
โดย: note_protege
รถเก่าแล้ว กราวด์มันจะเสื่อมสภาพ
ถ้าไม่เปลี่ยนสายเดิมก็เพิ่มกราวด์ไวด์ครับ
ของผมก็เป็น แต่ไฟแบตไม่โชว์นะครับ
แต่เครื่องเดินไม่เรียบ เลยลองเพิ่มไป ลื่นขึ้นเยอะ
ยังกะรถคนล่ะคัน ไฟสว่างมากขึ้น ระบบไฟฟ้าโดยรวมด๊ขึ้น

ลองดูครับ แก้จากต้นเหตุที่แก้ได้ในราคาไม่แพงก่อน
ทำเองได้ไม่ยาก
วันที่: 24 Feb 13 - 13:35

 ความคิดเห็นที่: 14 / 22 : 766738
โดย: B4LL
รับทราบครับเดี๋ยวเย็นนี้จะลองไปไล่สายดูใหม่ !!
วันที่: 24 Feb 13 - 14:32

 ความคิดเห็นที่: 15 / 22 : 766740
โดย: Yut13
ระดับแรงดันมันปริ่มๆเหลือเกินรุ่นนี้ตัว Gen เป้นแบบ PD ควบคุมจากกล่อง
วันที่: 24 Feb 13 - 14:42

 ความคิดเห็นที่: 16 / 22 : 766804
โดย: B4LL
เมื่อวานลองไล่เช็คสายกาวด์ดู....ขันไปขับมา แฟ๊บ ฟิวส์เมนขาดเลย 555+.....ร้านอะไหล่ก็ปิดหมด
วันที่: 25 Feb 13 - 08:49

 ความคิดเห็นที่: 17 / 22 : 766821
โดย: Yut13
หาให้เจอก่อนชอร์ทที่ไหน อันตราย
วันที่: 25 Feb 13 - 13:00

 ความคิดเห็นที่: 18 / 22 : 766822
โดย: B4LL
ป๋ายุทธ์....ประแจที่ใช้ขันสายกาว์ดมันดันไปโดนกับตัวไดร์ครับ...ก็เลยเกิดการสปาร์คนิดนึง
วันที่: 25 Feb 13 - 13:06

 ความคิดเห็นที่: 19 / 22 : 766825
โดย: p_protege
ป๋า Yut ครับ gen ที่คุมแบบ PD

P = ?
D = ?

รถผมมีปัญหาอยู่เหมือนกัน คือเวลาผมไม่ส่งสัญญาน CKP กับ CMP ให้กล่อง ECU (ใช้กล่อง standalone) ไดชาร์ทมันก็จะไม่ทำงานไปด้วย ดูจากวงจรแล้ว เห็นว่าไดชาร์ทควบคุมการทำงานด้วยขั้ว P และ D เลยอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร?

ผมเดาว่าถ้าต่อไฟบวกตรงจากแบตให้ขั้ว P หรือ D ก็จะสามารทบังคับให้ไดชาร์ททำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งสัญญานจากกล่อง ECU ใช่ใหมครับ?
วันที่: 25 Feb 13 - 13:25

 ความคิดเห็นที่: 20 / 22 : 767044
โดย: Yut13
นี่ต่อไฟ 12 V เข้าไปหรือยังนี่
สองขั้วนี่เป้นสัญญาณควบการจ่ายกระแสที่ขดลวดแม่เหล็กตามความต้องการของโหลดนะ
ขั้ว P เมื่อเดินเบา แรงดันที่ได้ 3 - 8V ส่วน ที่ D แรงดันจะแปรตามจาก switch on 0 ไปเรื่อยๆตามโหลด เคยมีช่างต่อ แบบ LS พังครับ สรุปว่า กล่องควบคุม อ้อ แรงดันที่วัดได้ปกตินะมาตรฐานของ Protege 13 - 15 V อีกอย่างหนึ่ง เช็คแปรงถ่านหรือทำความสะอาด commutator ข้างในหรือยัง
วันที่: 26 Feb 13 - 16:28

หน้าที่: [1]   2