มันอยู่ที่ทัศนคติ แต่ละคนครับ
คนเราคิดไม่เหมือนกัน การป้องกันและแก้ไขปัญหา ก็แตกต่างกัน
มันมีวิธีคิด จะซ่อมก่อนเสีย หรือจะรอให้เสีย จนน้ำมันรั่วกลางทางหรือท่อตันเครื่องดับแล้วค่อยซ่อมละครับ?
ใครที่พอทำเองเป็นก็คงไม่เป็นไร ขอให้มีเครื่องมือมีอะไหล่ใส่หลังรถ พอเห็นรั่วก็เปลี่ยนเดี๋ยวนั้นเลย ก็แค่เสียเวลานิดหน่อย มือไม้เปรอะเปื้อน แล้วแต่ความรู้และฝีมือแต่ละท่าน
แต่เจ้าของกระทู้ เป็นผู้หญิง คุณคิดว่าเขาจะทำเป็นไหมละครับ
หลักการบริหารที่เขาเรียกว่า Preventive maintenance ถึงเกิดขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพสุงสุดสำหรับการใช้งานเครื่องจักร หรือรถยนต์ อย่างคุ้มค่า และขจัดความเสี่ยงออกไป
ไม่ใช่ผิด หรือถูกนะครับ แต่ละคนที่มีทัศนคติแตกต่างกันไป ดี หรือไม่ อันนี้ ผลลัพท์เป็นตัวตัดสิน
แต่จะให้ทุกคนคิดเหมือนตัวเราเอง คงไม่ใช่
ท่อน้ำมันราคาเส้นละไม่กี่สตางค์เทียบกับ ค่าลากรถไปอู่ หรือ ค่าเสียหายหาก ไฟไหม้ หรือ ค่าเสียหายหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันอื่นๆตามมา
ไม่งั้นเขาจะรณรงค์กันปาวๆคอจะแตกว่า "อุบัติเหตุป้องกันไว้ก่อน" ทำไมละครับ