Close this window

อาการ...น้องโนส...ผมวันนี้เกิดจาก ?
ใช้มาปกติทุกอย่าง..
แต่ วันนี้ผมเสร็จจากออกกำลังกายที่สวนรถไฟ ขับรถกลับบ้านปกติ
สตาร์ทติดปกติ..ขับกลับบ้านไม่ได้เปิดแอร์นะครับ (พึ่งออกกำลังเสร็จ + เหงื่อเยอะ)
พอมาถึงปากซอยบ้านเลยแวะ ว่าจะซื้อของซะหน่อย
ซื้อเสร็จ กดรีโมท..ขึ้นรถ สตาร์ทรถ..เอาหล่ะซิ
บิดกุญแจ..ไฟแผงหน้าปัดทุกอย่างติดปกติ พอบิดกุญแจไป กลับ...เงียบครับ
ลองแก้ไข ขยับไปทั้งเกียร์ว่าง กลับมาที่ตัวP ลองสตาร์ท หลายครั้งอาการเหมือนเดิม
ลองรอแล้ว ก็ลองสตาร์ทอีกก็เหมือนเดิม เลยต้องโทรหาช่าง(แต่รอตามช่างในอู่)
เลยเดินกลับบ้านครับ..ไม่ไกล + สักพักขี่จักรยานออกมา
เตรียมมารอช่าง + เก็บของในรถบางอย่าง
เอ้าลองสตาร์ทดู ...อ้าว...บิดทีเดียวติด ปกติ
เลยรีบโทรบอกช่างว่ายังไม่ต้องมา ไว้พรุ่งนี้จะไปให้เช็คที่อู่อีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น
...
...
อาการแบบนี้ พี่ๆ แนะนำที เกิดจากอะไร..สวิทรูกุญแจรึเปล่าว รึว่า?
(พึ่งเป็นครั้งแรกครับ)
วานบอกที...ขอบคุณนะครับ
โดย: khanthong   วันที่: 15 Feb 2013 - 23:21


 ความคิดเห็นที่: 1 / 16 : 765466
โดย: ทวีรัฐ
ผมก็เป็นนะครับ
ผู้ต้องสงสัยมีดังนี้
1 สวิทช์กุญแจเอง
2 หน้าคอนแทก ที่ตำแหน่ง P กับ N สกปรก
3 ไดสตาร์ท แปรงถ่านใกล้กลับบ้านเก่า(สึก)
4 รีเลย์ สตาร์ท

แรกๆผมก็เหวอ แต่บิดหลายๆทีมันทำงานได้
บางทีก็ใช้วิธี ถอดกุญแจออก แล้วเสียบใหม่ ก็ติด
ยังไม่ได้ทำไรจนทุกวันนี้

อารมณ์ดี มันก็สตาร์ทครั้งเดียวทำงาน
วันไหนอารมณ์ไม่ดี ก็บิด 2-3 ที กว่าจะทำงาน

แต่ของผมรู้แล้วว่าแปรงถ่านใกล้หมด มีเวลาก็จะเปลี่ยนแล้วจะสังเกตุดูว่าดีขึ้นหรือไม่
วันที่: 16 Feb 13 - 00:00

 ความคิดเห็นที่: 2 / 16 : 765485
โดย: Fujiwara Takumi
เสริมอีกข้อ ถามก่อนว่าว่าแต่แบตฯ ลูกนี้ใช้มานานรึยังครับ แล้วกลับไปได้ลองสตาร์ทดูยังอ่ะครับ

อาการที่ท่านว่ามีข้อสงสัยเพิ่มอีกนอกเหนือจากของท่าน ทวีรัฐ ว่ามา น่าจะมาจาก ตัวแบ็ตเตอรรี่ มีไฟอ่อน ไฟไม่พอจ่ายให้กับตัวมอเตอร์สตาร์ท เพราะอาการนี้ส่วนมากก็สามารถเป็นสัญาณอาการแบ็ตเตอรี่เริ่มเก็บกระแสไฟไม่อยู่แล้วอ่ะครับ ( แบ็ตมีไฟอ่อน )

เพราะที่ท่านเล่ามา หยุดสตาร์ทไปสักพัก แล้วกลับมาสตาร์ทอีกครั้งก็ติด คงเพราะในตัวแบ็ตเตอรรี่เริ่มมีการสร้างประจุไฟฟ้าในตัวของมัน ในปฎิกริยาทางเคมี ทำให้มีกระแสไฟเกิดขึ้นอีกครั้ง( ใช้เวลาสักพัก ) แต่กระแสไฟไม่มากและจะหมดไปเมื่อไม่มีการชาร์ทกระแสไฟให้กับแบ็ตเตอรี่ เพราะแบ็ตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อม ก็เหมือนเกิดค่าความต้านทานในตัวของมัน ทำให้เกิดกระแสไฟไหลผ่านค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ไม่มีกระแสไฟหลงเหลือในตัวแบ็ตเตอรี่

ดังนั้นในการสตาร์ทครั้งที่สอง จึงพอยังทำให้ตัวแม็กเนติคสวิชท์กับมอเตอร์สตาร์ท ทำงานได้อีกครั้ง ในระยะสั้น ๆ เครื่องยนต์ก็จะติด และถ้าท่านยังทิ้งไว้ไม่นานไฟยังไม่พอ แต่ไฟเพิ่มขึ้นบ้าง และลองสตาร์ท ก็จะเห็นการทำงานมอเตอร์สตาร์ท แต่สตาร์ทไม่ติด และถ้ามีการสตาร์ทซ้ำอีกครั้ง ติด ๆ กัน ก็จะเงียบเหมือนครั้งแรกที่ท่านว่าสตาร์ทไม่ติดครับผม อาการนี้แบตเสื่อมชัวร์

ว่าแต่ถ้าเป็นผม ขับกลับไปถึงบ้านผมจะลองสตาร์ทดูอีกทีอ่ะครับ ถ้าได้ปกติก็คงไม่ใช้ที่แบตเตอรี่ครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 00:51

 ความคิดเห็นที่: 3 / 16 : 765488
โดย: gabb
3 ไดสตาร์ท แปรงถ่านใกล้กลับบ้านเก่า(สึก) ขอตอบ(เดา)ครับ..........
เพราะ ข้อ 2 ลองแก้ไข ขยับไปทั้งเกียร์ว่าง กลับมาที่ตัวP ลองสตาร์ท หลายครั้งอาการเหมือนเดิม
ลองรอแล้ว ก็ลองสตาร์ทอีกก็เหมือนเดิม





ปล. เดาน่าครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 00:58

 ความคิดเห็นที่: 4 / 16 : 765492
โดย: เซนท์โซเฟียร์
ช่วยเดาว่า ได ครับ ตอนบิดกุญแจ ไฟที่หน้าปัดหรี่ไหม มีเสียง แก๊กๆ ที่ในห้องเครื่องมั่งไหมครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 01:02

 ความคิดเห็นที่: 5 / 16 : 765493
โดย: gabb
ไม่ทันเห็น คห.2 ถ้าแบตจะเสื่อมต้องมีอาการ...สตาร์เกือบได้แต่ไม่ติดใช่เปล่าคับ........
ถึงทิ้งใว้ข้ามวัน แต่เแบตเสื่อมก็คงไม่ช่วยให้ติดหรือเปล่า..........................................
ปล.ไม่รู้จริงๆนะถึงถามอ่ะคับ
วันที่: 16 Feb 13 - 01:06

 ความคิดเห็นที่: 6 / 16 : 765500
โดย: Fujiwara Takumi
แบตเตอรี่เสื่อม(หมด)ก็เงียบเลยล่ะครับท่าน gabb
และท่านได้สงสัยว่าถ้าทิ้งช่วงไว้ข้ามคืนจะช่วยได้มั้ย
ตอบ ก็คงไม่ช่วยให้ติดได้น่ะครับ แต่บางที บางท่านทิ้งไว้ กลับสตาร์ทติดได้ซะงั้น เพราะที่ว่ามาข้างบนไว้คือ(บางที)ทิ้งไว้สักพัก (สักพัก) แบตเตอรี่เริ่มมีปฎิกริยาทางเคมี แต่ยังนานไม่พอ ทำให้พอมีไฟบาง ทำให้มีเสียงไดฯ ทำงานแต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้ติด และ ทำการสตาร์ทอีกครั้ง ก็เงียบไปเลยครับ อันนี้น่าจะแบตเตอรี่ครับ เพราะ จขกท. ไม่ได้เล่ารายละเอียดว่ามีเสียงอะไรมั้ยอย่างไร ก็เลยช่วยเดามั่วด้วยอีกแรง ฮี่ๆๆๆๆๆ

และกรณ๊ที่สตาร์ทติดได้ก็คงเพราะ ในช่วงเวลาที่เราหยุดสตาร์ทไปนั้น ในตัวแบ็ตเตอรี่ เริ่มมีการสร้างประจุไฟฟ้าในตัวของมันเอง ในปฎิกริยาทางเคมี ที่แผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์ (ขั่วบวก) ที่มีประจุอีเลคตรอนหลุดไปจากแผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์ เมื่อใช้กระแสไฟในการสตาร์ทครั้งแรก เกิดเป็น Hold ช่องว่างที่แผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์(ขั่วบวก)
ทำให้อีเลคตรอนประจุลบ ของแผ่นตะกั่วขั่วลบ ไหลเข้าไปแทนที่ช่องว่าง Hold ทำให้มีกระแสไฟเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่มากและจะหมดไป เพราะแบ็ตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมลง และเกิดค่าความต้านทานในตัว ทำให้เกิดกระแสไฟไหลผ่านค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นนี้ เหมือนช๊อร์ทเซอร์กิต ทำให้ไม่มีกระแสไฟหลงเหลือในตัวแบ็ตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ

ดังนั้นในการสตาร์ทครั้งที่สอง จึงพอยังทำให้สตาร์ทได้อีกครั้ง ในระยะสั้นๆ เครื่องยนต์ก็จะติด หากไม่ติด และมีการสตาร์ทครั้งที่สาม ติด ๆ ก็จะเงียบ บางทีอาจพอให้ได้ยินเสียงไดสตาร์ททำงานอ่ะครับ
(กรณีแบตเตอรี่เสื่อมน่ะ) ส่วนแบตเตอรี่ถ้าเสื่อม ไฟที่หน้าปัทม์ไม่จำเป็นต้องหรี่ก็ได้น่ะครับ สามารถ เลื่อนกระจก(ไฟฟ้า)ขึ้นลงได้ ฟังวิทยุได้ปกติครับ แต่สตาร์ทไม่ได้ เพราะการสตาร์ทต้องใช้ไฟมากครับผม

ถ้าเป็นผมถึงอยากลองสตาร์ทดูอาการ อีกทีตอนกลับถึงบ้านไงครับจะได้ประกอบการตัดสินใจครั แหะ ๆ
วันที่: 16 Feb 13 - 01:42

 ความคิดเห็นที่: 7 / 16 : 765536
โดย: gabb
ถ้าเป็นผมถึงอยากลองสตาร์ทดูอาการ อีกทีตอนกลับถึงบ้านไงครับจะได้ประกอบการตัดสินใจครับ เหมือนกันคับ......................
ได้ความรู้เยอะขึ้นเลย ขอคุณคับ
วันที่: 16 Feb 13 - 12:36

 ความคิดเห็นที่: 8 / 16 : 765541
โดย: Yut13
ว่างล้างขั้วแบต เช็คอายุมันด้วยว่าใช้มากี่ปี
วันที่: 16 Feb 13 - 12:57

 ความคิดเห็นที่: 9 / 16 : 765563
โดย: tanu
ของผมก็เป็นครับ แบตฯใหม่ แค่ปีกว่าๆ เองครับ ยังไม่แน่ใจว่าจำเลยอยู่ตรงใหนเหมือนกัน ในใจอยากเข้าร้านไดนาโมเช็คไดร์สตาร์เหมือนกันครับ


ปล. คันที่เป็นนั้นเป็นโตโยต้าครับ ขออภัยที่ผิดเวป แต่อาการเดียวกันเลยครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 16:44

 ความคิดเห็นที่: 10 / 16 : 765564
โดย: khanthong
ขอบคุณ..พี่ๆทุกๆท่านนะครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ
..
..อาการ ต่อสำหรับวันนี้
ช่วงบ่าย ผมสตาร์ท..ติดเลยครับ + ขับรถออกเพื่อที่จะนำไปให้ช่างเช็ค
ระหว่างทาง แวะซื้อน้ำ ดับเครื่อง + กลับมาสตาร์ทติดอีกไม่มีปัญหาอะไร
ถึงอู่ เล่าอาการทั้งหมดที่เกิดให้กับช่างฟังอีกที
ช่างทำการลองตรวจ + บิดสตาร์ทหลายๆครั้ง อาการเริ่มขึ้นอีกที สตาร์ทแล้วเงียบ
(แบตพึ่งเปลี่ยนไม่กี่เดือน)
มาเจอสรุปตรงที่ ไดสตาร์ทครับ
เลยสอบถามถึงการซ่อมเปลี่ยนถ่านอย่างที่พี่ๆแนะนำด้วย
เลยทิ้งรถไว้
..ช่างโทรกลับมาบอกว่า ซ่อมไม่คุ้มครับ + น้ำเข้าด้วย (?)
ช่างแนะนำเปลี่ยนดีกว่า ชัวร์กว่า
เลยตกลงเปลี่ยน
ค่าได 2500
ค่าแรง 500
สำหรับอาการที่เกิดคราวนี้ผมโดน 3000 บาท สำหรับน้องโนส
ถูกหรือแพงก็ไม่รู้เหมือนกัน..แต่ก็ต้องทำ
สุดท้ายจริงๆ
...ขอบคุณน้ำใจ พี่ๆ ที่ช่วยกรุณา ชี้แนะนะครับ.....
วันที่: 16 Feb 13 - 16:48

 ความคิดเห็นที่: 11 / 16 : 765566
โดย: gabb
คิดว่าแพงปวดตับนะคับ
ค่าไดไม่น่าเกิน 1500-2000 คับ
( ผม 929 ค่าได 1500 ค่าแรง 300 เพิ่งเปลี่ยนมาก่อนปีใหม่ )
ถูกหรือแพงก็ไม่รู้เหมือนกัน..แต่ก็ต้องทำ.............
วันที่: 16 Feb 13 - 17:03

 ความคิดเห็นที่: 12 / 16 : 765569
โดย: พีระพล
ถูกหรือแพงก็ไม่รู้เหมือนกัน..แต่ก็ต้องทำ
ไดสตาร์ทที่เปลี่ยนเป็นของใหม่หรือเซียงกงหรือรีบิว ครับ
โครโนสผมเคยเป็นคล้ายอาการของท่าน ครั้งแรกเปลี่ยนไดสตาร์ทเซียงกง
ใช้ได้นานพอควรก็เป็นอีก จัดการให้ช่างไดฯล้างและเปลี่ยนถ่าน เช็คตัวอะไรหว่าที่ดูดเฟืองเข้ามาขบกันแล้วถึงหมุนสตาร์ท ก็ว่าแรงดีอยู่ ใช้ได้ดีมาสักพักก็เป็นอีก คราวนี้ติดรีเลย์ช่วยสตาร์ทเพิ่มเข้าไป เสียงดูด(หรือดันเฟืองหว่า)แรงกว่าเดิม อาการที่ว่าไม่มาเยือนอีกเลยครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 17:57

 ความคิดเห็นที่: 13 / 16 : 765594
โดย: pop_sirigool เจียงฮาย
@พี่ khanthong
สู้ๆๆครับ ค่อยๆๆทำไป รถสวยดีครับ
ขอหลังไมค์ ตามเมลล์ ผมได้ไหมครับ
วันที่: 16 Feb 13 - 22:57

 ความคิดเห็นที่: 14 / 16 : 765657
โดย: Deen
ของผมก็เคยเป็นครับ สตาร์ทแล้วเงียบกริบ นั่งไล่หาตั้งนาน เลยลองต่อตรงไดสตาร์ท แต่ก็ยังไม่ทำงาน เลยวิ่งไปหาของเชียงกงมา ได้มาราคา พันหนึ่งครับ ใส่ไปปกติ วิ่งมาปีหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่มีปัญหา ส่วนลูกเก่าเอาไปซ่อม
ทุ่นยังดี ถ่านไม่หมด แต่ชุดนิวเมติกมีปัญหาครับ มันไม่มีแรงดูด เวลาปิดกุจแกแล้วสะพานไฟมันไม่สัมผัสกัน ตัวไดมันก็เลยไม่ทำงาน เสียค่านิวเมติดไป 800 ตอนนี้เก็บไว้ท้ายรถ เอาไว้เป็นอะไร

ส่วนราคาคงต้องทำใจครับ ถ้าหาของเองไม่ได้ หรือซ่อมเองไม่เป็น วันก่อนผมโดนค่าป่ะหม้อน้ำไป700 บาท สองจุดเล็กๆ ราคาแพงเวอร์ ต้องทำใจครับ หมูขึ้นเขียงรอโดนเชือด หม้อน้ำทองแดงซื้อมาจากร้านอะหลั่ย 4300 ใช้ไม่ถึงสองเดือนรั่ว เซ็งอย่างแรง
วันที่: 17 Feb 13 - 14:04

 ความคิดเห็นที่: 15 / 16 : 765818
โดย: khanthong
น้องโนสกลับมาบ้านหลายวันแล้วครับ
ปกติแล้ว..แต่เสียงเวลาสตาร์ทจะดังเปลี่ยนไปกับเมื่อก่อน
เงียบดี
ไว้มีปัญหาอะไร จะมาขอคำแนะนำ พี่ๆอีกนะครับผม
ผมยังคงพึ่งพาน้องโนสต่อไป..ทุกวัน จ-ศ ไปกลับกับน้องเค้าไม่เกิน 30 กม.ต่อวัน
(ขับไปออกกำลังกาย บ้าน-สวนรถไฟ-บ้าน) 555


วันที่: 18 Feb 13 - 20:55

 ความคิดเห็นที่: 16 / 16 : 766197
โดย: เซนท์โซเฟียร์
ถ้าจำไม่ผิดผมเคยถามช่างในกรุงเทพ ไดสตาร์ท น้องโนส 1500 นะ
วันที่: 20 Feb 13 - 22:52