Close this window

พี่ๆใครเคยใช้บัางครับ
ตามนี้เลยครับ http://www.jspeedk.com/
โดย: at โปเต้ช็อก   วันที่: 11 Feb 2013 - 09:19

หน้าที่: [1]   2   3

 ความคิดเห็นที่: 1 / 59 : 764544
โดย: ทวีรัฐ
เรียนเจ้าของกระทู้
ครั้งหน้า ถ้าอยากทราบ คงไม่เสียแรงเสียเวลามากนักใช่ไหมครับหากจะพิมพ์ถามเป็นคำถามคุณเองว่าต้องการอะไร
ไม่ใช่แค่แปะลิงค์แบบนี้ หัวข้อกระทึ้ถามว่าใครเคยใช้
สทติ มีคนเคยใช้จริง แล้วไงต่อครับ

ถ้าแบบนี้เปลืองพื้นที่เปล่าๆ

และ จะถูกมองว่าคุณเอาเป็นโฆษณาแฝง
แน่นอนครับผิดกฏ อย่างแรง

อยากได้คำตอบก็มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกัน เหมือนปถุชนทั่วไปเถอะครับ
อยากได้คำตอบแต่ ขี้เกียจ แม้กระทั่งพิมพ์คำถาม มันดูไม่ดี ไม่แฟร์กับคนที่เขายังสละเวลามาอ่านมาตอบเลยครับ
พิจารณาดูนะครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 09:40

 ความคิดเห็นที่: 2 / 59 : 764557
โดย: ทิว
คุณลองคิดง่ายๆครับว่า ของที่เทพขนาดที่โฆษณาไว้ มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงบนโลกใบนี้รึป่าว
ถ้าได้จริงนาซ่าคงขอซื้อไปใส่ยานอวกาศแล้ว เหมือนพวกยาลูกกลอน ยาผีบอกอะครับ รักษาได้ทุกโรค ไม่ต้องมีหมอ ไม่ต้องมีวิศวกร ไม่ต้องมีนักวิทยาศาสตร์
อ่าผมกวนเกินไปรึป่าวเนี่ย
วันที่: 11 Feb 13 - 10:52

 ความคิดเห็นที่: 3 / 59 : 764558
โดย: at โปเต้ช็อก
ขอโทษทีครับ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมาก่อกวนหรือมาโฆษณาขายของ
เพราะผมเห็นผลิตภัณฑ์เป็นของคนไทยและมีการรับประกันความเสียหาย
ของเครื่องยนต์ ผมได้ทดลองซื้อมาใช้ดูแล้ว และยอมรับว่ารถผมวิ่งดีขึ้น
ประหยัดแก๊สมากขึ้น ผมใช้โปเต้1.8 ปี 2000 ผมเห็นพี่ๆในนี้ทุกคนเราใช้รถ
รุ่นเก่าๆกัน(หรือป่าวหว่า)ก็เลยอยากมาถามพวกพี่ๆว่ามีใครเคยใช้หรือเปล่า
ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆทั้งสิ้นครับ ผมแค่อยากแนะนำเฉยๆครับ
ขอโทษอีกครั้งครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 11:16

 ความคิดเห็นที่: 4 / 59 : 764562
โดย: Yut13
ยาผีบอกมาอีกแระ ใช้ความรู้สึกล้วนๆ
ใช้รถรุ่นเก่าปี 96 อยู่ไม่ใส่อะไรพิสดารทั้งนั้น วิ่งได้แค่ 180 เอง
วันที่: 11 Feb 13 - 11:30

 ความคิดเห็นที่: 5 / 59 : 764565
โดย: at โปเต้ช็อก
ตอบพี่ ทิวและป๋าYut13ครับ
คือว่าที่ผมกล้าทดลองใช้เพราะว่าผมเห็นว่าเขามีการจดเลขที่สิทธิบัตรและมีใบรับรองของสถาบันยานยนต์แห่งประเทศไทยและเหตุผลอีกอย่างคือเขาบอกว่าถ้าไม่พอใจเขายินดีคืนเงินให้นี่สิครับ ผมถึงกล้าลองซื้อมาใช้
วันที่: 11 Feb 13 - 11:47

 ความคิดเห็นที่: 6 / 59 : 764573
โดย: ทวีรัฐ
เอางี้สิครับ เดี๋ยวพอหมด น้ำมันเครื่องเที่ยวนี้ เปลี่ยจ้ำมันเครื่องครั้งตอไป ใช้ แบบกึ่งสังเคราะห์ดีๆหน่อย โดยไม่ต้องใส่ สารตัวนี้ แล้วลองจับอาการดึครับ ว่าแตกต่างหรือไม่

สารเติมแบบนี้จะแยกเป็น2กลุ่มครับ กลุ่มแรกคือการใช้ความหนืด ไปทำให้ช่องว่างของชิ้นส่วนลดลง ก็มาในรูปของ หัวเชื้อ ทั้งหลายแหล่

กลุ่มที่2 คือการใช้สารสังเคราะห์ ที่มีความลื่น เข้าไปช่วนบางอย่างก็บอกว่าเข้าไปเติมชิ้นส่วนที่สึกหรอให้ได้ระยะเดิม เป็นสารสังเคราะห์กลุ่ม เทฟล่อน เป็นต้น
สารที่แนบลิ๊งนี้ อยู่ในกลุ่มนี้ครับ

เคยลองแชเห็นผล คือเสียงวาล์วดัง เวลาสตาร์ทเช้าๆหลังจากใช้น้ำมันเครื่องไปสักระยะ(กรณีเกรดธรรมดาทั่วไป) ผมซื้อสารประเภทนี้ จาก จืฟฟรี่ ราคา115บาท เท่านั้นเติมลงไป
เสียงวาลวดังตอนเช้าก็ไม่มาเยือนอีกเลย จนหมดอายุน้ำมันเครื่องครับ

แม้กระทั่งขวดละ 1100 ในสมัยก่อนก็เคยลองมาแล้ว จริงอยู่เครื่องลื่นขึ้น แต่ถึงอายุน้ำมันเครื่องก็ต้องถ่ายใมิ้งอยู่ดี
กลายเป็น ค่าน้ำมันเครื่องแต่ละครั้งแพงเกินไปโดยประโยชน์ที่ได้ ไม่คุ้มค่าครับ

แต่ถ้าคุณเติมน้ำมันเครื่องราคาถูกๆ แล้วเติมสารนี้ลงไป อันนั้น อาจได้คุณสมบัติความลื่นเหมืแนน้ำมันเกรดดรค แต่ก็หมดอายุเร็วตามอายุน้ำมันเครื่องที่ใช้เช่นเดิม รวมราคาแล้ว ใช้เกรดที่ดีหน่อย ราคาเท่ากันและอาจถูกกว่านิดหน่อย แต่ใช้ได้ระยะทางมากกว่า
ผมคิดว่าความคุ้มค่ามันอยึ่ที่นรัวเงินด้วยนะคนับ

เว้นแต่คุณเอาไปวิ่งในสนาม อย่างพวกเราบางคน อันี้ อะไรก็ใส่ไปเถอะถ้าลื่นขึ้น เพราะ หมกเ รัน สนามนั้นก็ถ่ายทิ้งอยู่แล้วครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 13:01

 ความคิดเห็นที่: 7 / 59 : 764582
โดย: at โปเต้ช็อก
ตอบป๋าวีครับ
รถผมๆใช้นำ้มันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ตลอดครับแต่ที่ผมสนใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพราะว่า เขารับรองว่าถ้าสมมุติรถเราเกิดOverheat นำ้ในหม้อนำ้แห้ง หรือนำ้มันเครื่องแห้ง เราสามารถขับรถต่อไปได้อีกไม่ตำ่กว่า50กิโลถ้าเครื่องพังเขายินดีชดใช้ อีกอย่างผลิตภัณฑ์ตัวนี้เคยถูกนำไปแสดงคุณภาพในงาน Nec tech งานวิทยาศาสตร์ของประเทศมาแล้วครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ แค่อยากให้ลองผลิตภัณฑ์ของคนไทยดูเท่านั้นเองครับ ไม่มีเจตนาอย่างอื่น
วันที่: 11 Feb 13 - 13:32

 ความคิดเห็นที่: 8 / 59 : 764608
โดย: ทวีรัฐ
เรื่องเจตนา โอเคครับ ไม่เป็นไร เพราะไม่เจตนา

เรื่องน้ำแห้ง แล้วขับต่อไปได้ 50 กม

คิดตามโลจิคพื้นๆ นะครับ
รถยนต์ทั่วไป ความร้อน ใช้น้ำ เป็นตัวระบายความร้อน เมื่อน้ำผ่านไปตามช่องทางต่างๆน้ำความร้อนมาระบายทิ้งที่หม้อน้ำ เพื่อถ่ายเทความร้อนออก แล้วเอาน้ำที่เย็นกว่าเข้าไปน้ำความร้อนออกมาใหม่ ไหลวนอยู่เช่นนี้

(ยกเว้น ซุปเปอร์คาร์บางยี่ห้อ บางรุ่น ใช้น้ำมันเครื่องระบายความร้อน แต่ก็ใช้ได้เฉพาะเมืองหนาวครับ ใช้เมืองร้อนไม่ได้)

ที่นี้ ถ้าไม่มีน้ำระบายความร้อน แล้ว มีแต่น้ำมันเครื่อง ที่มีความร้อนสะสมมากกว่าน้ำ และถ่ายเท ความร้อน ช้ากว่าน้ำ

ยังไงๆ ก้มีปัญหาแน่ๆ
ผมไม่แน่ใจว่า คำว่ายินดีชดใช้ ของเขา มีเงื่อนไขและขอบเขตแค่ไหน

จริงๆผมก็เคยเห็นในหลักการ มอร์ไซด์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศนะครับ น้ำมันหล่อลื่นเกรดรถแข่ง ช่วยให้เครื่องไม่ร้อน ประมาณว่า วิ่งๆอยู่จอดเอามือจับเครื่องได้ (เวลากลางคืน)

ไท้ได้มีเรื่องผิดหรือถูกนะครับ เพราะท่านไม่มีเจตนา
แต่มันดูโฆษณาเกินจริงไปหน่อยครับ

สุดท้ายก็แล้วแต่พิจารณญาณ แต่ละท่าน
(ส่วนตัว ผมไม่ยอมลองแน่ๆ น้ำแห้งแล้ววิ่ง จากบางนาไป ชลบุรีเนี่ย)
วันที่: 11 Feb 13 - 14:57

 ความคิดเห็นที่: 9 / 59 : 764641
โดย: at โปเต้ช็อก
ขอบคุณครับป๋าวี ที่เข้าใจผม ที่ผมกล้าลองเพราะผมดูคลิปนี้ครับ
http://m.youtube.com/#
วันที่: 11 Feb 13 - 16:32

 ความคิดเห็นที่: 10 / 59 : 764642
โดย: Yut13
รถโฟลค์เต่าวิ่งได้ไม่มีน้ำ

การจดสิทธิบัตรใครๆก็จดได้
ใบรับรองว่าเป็นสารหล่อลื่นหรือช่วยหล่อลื่นผมก็เอาน้ำมันพืชปาล์มผสมทานตะวันบวกระหุ่งนิดหน่อย
แล้วก็ไปออกใบได้ แล้วยังไง เทคนิคสร้างความเชื่ออย่างนี้ ในต่างประเทศยิ่งกว่านี้อีก เอาแค่หลักฐานส่งว่าทดสอบแล้วเป็นพอไม่สนผลการทดสอบเพื่อให้คนเชื่อ อันนี จนท.สถาบัน KEMA เชาเล่าให้ฟัง
วันที่: 11 Feb 13 - 16:37

 ความคิดเห็นที่: 11 / 59 : 764643
โดย: at โปเต้ช็อก
http://www.youtube.com/watch?v=yYJY8esUzcM ขอโทษทีครับ ใช้ link นี้ครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 16:42

 ความคิดเห็นที่: 12 / 59 : 764644
โดย: ทิว
ตามป๋าทั้ง 2 เลยครับ สุดท้ายแล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละท่านครับ
จริงๆแล้วถ้าเปรียบมันก็เหมือนพวกซุบไก่ กับ นมถั่วเหลืองบางยี่ห้อ(เปป...อะไรซักอย่าง) ที่โฆษณาในบ้านเราตอนนี้แหละครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 16:50

 ความคิดเห็นที่: 13 / 59 : 764655
โดย: at โปเต้ช็อก
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 19:34

 ความคิดเห็นที่: 14 / 59 : 764696
โดย: pkae
ขออนุญาตออกความเห็นสักนิดน่ะครับ ผมเคยใช้น้ำมันประเภทนี้น่ะคับ เติมผสมในน้ำมันเครื่องเลย ตอนนั้นใช้นิสสัน บี13 ซาลูนๆๆ ผมวิ่งจากอุตรดิต ถึงพิษณุโลก ร้อยกว่ากิโล...วิ่งมาได้ 50 กม. แอร์เริ่มไม่เย็น ผมก็ไ่ม่ได้สงสัยไร...วิ่งจนถึงพิษณุโลกครับ...ปรากฏว่า...เครื่องดับครับเลยสงสัย ดึงก้านน้ำมันมาดู โหน้ำมันเครื่องแห้งครับ...น้ำในหม้อน้ำก็แห้งครับ...แต่ไม่รู้รอดมาได้ไง...แต่น่าจะมาจากสารที่เติมลงไปครับ..มันจะเกาะลูกสูบไว้ตลอดเวลา...เสียดาย จำยี่ห้อไม่ได้แล้ว...
วันที่: 11 Feb 13 - 22:50

 ความคิดเห็นที่: 15 / 59 : 764699
โดย: pkae
โอ้แต่แม่เจ้า ขวดล่ะ 2,000 บาท ขอโบกมือล่ะกัน..จำได้ตอนนั้นซื้อแค่ 500 บาท เอง ฮ่าๆๆ
วันที่: 11 Feb 13 - 22:56

 ความคิดเห็นที่: 16 / 59 : 764700
โดย: ทวีรัฐ
ในกรณีที่รถสมบูรณ์อยู่ ถ้าท่านat โปเต้ช็อก จะใส่ ก็ไม่ได้มีผลเสียหายอะไร นอกจากเสียตังค์เพิ่ม ถ้าชอบและพึงพอใจก็ใช้ไปเถอะครับ รถของเรา ดีร้ายยังไงก็เราซื้อเราซ่อมเองครับ


ผมดูคลิป แล้ว แต่อาจเป็นเพราะ ไบแอส ในใจ เลยเหมือนจะพบสิ่งผิดปกติ เกี่ยวกับเข็มความร้อนน่ะครับ

รถ ขนาดมีน้ำแต่น้ำขาด เข็มยังตีเกินครึ่ง
แล้วนี่เขาบอกไม่มีน้ำเลย
มี2 กรณีครับ
1 ตำแหน่งที่temp sensor อยู่ ปลายทางน้ำออก มาที่หม้อน้ำ ในเมื่อหน้าที่มันคือจับความร้อนที่น้ำมาแปลงเป็นความต้านทาน เพื่อส่งไปแปลงค่าเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าที่ เข็มความร้อน พอไม่มีน้ำ มันก็จับไม่ได้สมบูรณ์ อุณภูมิ ต้องเพี้ยนแน่ครับ

2 รถวิ่งโดยไม่มีน้ำ ไม่มีพัดลม ยิ่งวิ่ง เข็มต้องยิ่งขึ้นสูงเรื่อยๆ ใช่ไหมครับ
แต่ตอนก่อนจบ แอบเห็น เข็มความร้อนตกลงมาในระดับปกติ มันเป็นไปได้ไง

อันนี้ เป็นคำถามที่ผมตั้งไว้ในใจนะครับ ไม่ต้องการคำตอบใดๆครับ

ที่น่าสนใจคือ เรื่องพวกนี้ ในวงการ motor sport เขาบอกต่อและรับรู้กันรวดเร็วครับ ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน มีสารหล่อลื่น ยี่ห้อนึง ชื่อ สลิค ราคา สูงมาก ขนาดเท่ากระป๋องกาแฟ ราคา 1100 บาท(ในสมัยนั้น ถ้าเทียบ ค่าเงินปัจจุบันก็น่าจะ 2000 กว่าบาทแล้วมั๊ง)

ด้วยความสงสัย ผมก็ซื้อมาลองครับ
จากปกติ เวลากระทืบคันเร่ง แบบเครื่องเปล่า จอดกับที่ เมื่อยกคันเร่ง จากรอบเครื่อง 3000 รอบ ตกลงมาที่รอบเดินเบา ประมาณ 2 วินาที กว่าๆ เกือบ 3 วิ

แต่พอใช้แล้ว ที่รอบเท่ากัน กว่าจะลงมาที่รอบเดินเบา ใช้เวลามากกว่าอย่างเห็นชัดเจน ประมาณ 1-1.5 วิ ครับ
นั่นแปลว่ามันทำให้ลื่นขึ้นจริง ส่วน สารตัวนี้ เป็นอย่างไรครับ ช้ากว่ากันชัดเจน วัดเป็นตัวเลขได้ไหมครับ ถ้า ช้ากว่าแบบรู้สึกได้ชัดเจนระหว่างใส่กับไม่ใส่ น่าจะบอกได้ว่าลื่นขึ้น

ทีนี้ ของัดความรู้ วิศวกรรม ที่ร่ำเรียนมา วิเคราะห์จริงๆจังๆกันดู

วัตถุ สองสิ่ง ที่เสียดสีกันย่อมเกิดพลังงาน โดยเฉพาะถ้ามีFriction (ความฝืด) ยิ่งสูงยิ่งเกิดความร้อนสูง นั่นคือชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว และหากเสียดสีกันต่อไปจะทำให้ความร้อนสูงมากเรื่อยๆจนถึงจุดที่วัสดุ หลอมละลาย ที่เราเห็นเป็นประกายไฟ เริ่มแรก และโลหะเริ่มแดงขึ้นๆ จนถึงจุดหลอมเหลว ก็จะเริ่มเสียรูป และหลอมละลายติดกัน ที่เราได้ยินว่าพอน้ำมันเครื่องขาด ทำให้ ชาร์ฟละลาย นั่นแหละ(แต่จริงๆ มันเป็น แบริ่ง ของ เพลาข้อเหวี่ยงที่หลอมละลายติดกับเพลาข้อเหวี่ยงครับ ไม่ใช่ตัวเนื้อเพลา)

เขาก็มีน้ำมันหล่อลื่น มาเพื่อลดความฝืด ระหว่างโลหะ 2 ชิ้น ซึ่งเมื่อลื่นขึ้น ความฝืดน้อยลง ความร้อนก็น้อยลง ความร้อนก็ไม่เกิดมาก โลหะ ก็ไม่ร้อน จนเหมือนข้างบน อันนี้ มีความเป็นไปได้

แต่ความร้อนในเครื่องยนต์ มากที่สุดมาจาก ห้องเผาไหม้ ซึ่ง ไม่มีทางที่จะไม่ให้เกิด เพราะมันต้องเผาเชื้อเพลิงเพื่อให้เกิดกานขยายตัวของอากาศอัดแน่น เพื่อดันลูกสูบให้เลื่อนลง โดยมีแหวน อยู่ ซึ่งแหวนอัด จะกันไม่ให้กำลังอัด ไหลรั่วลงสู่ห้องเพลาข้อเหวี่ยง ข้างล่างได้ และแหวนตัวล่างสุดคือแหวนกวาดน้ำมัน ช่วยกวาดน้ำมันเครื่องที่สาดเข้ามาหล่อลื่นผนังเสื้อสูบในจังหวะลูกสูบขึ้นไปอัดข้างบน เพื่อไม่ให้เล็ดลอดเข้าห้องเผาไหม

ทีนี้ หากสารตัวนี้ ใช้นานเท่าคนทำคลิป บอกคือ 1 ปี อาจเป็นไปได้ที่สารเคลือบ คุณสมบัติพิเศษอะไรนั่นจะเคลือบเป็นฟิล์มบางๆระหว่างโลหะแต่ละชิ้น คือเติมเข้าไปแทนช่องว่างที่สึกหรอ ก็อาจเป็นได้ที่มันลื่น มากกว่าปกติ ทำให้ความร้อน ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ไม่มี(มากนัก)

แต่ความร้อนจากการจุดระเบิด ก็ย่อมมีวันยังค่ำครับ และความร้อนส่วนนั้นคือ การเอาน้ำ มาพาออกไป อย่างเดียว

หากคุณสมบัติเรื่องความลื่นปรื๊ด ช่วยให้รถวิ่งประหยัดขึ้น เครื่องเดินเรียบ ดีขึ้น อันนี้ ใช่เลยครับมีผลโดยตรงแน่นอน

แต่เรื่องความร้อน จากการเผาไหม้ มันคนละส่วนกันนะครับ

กรณี หลักการรถโฟลค์เต่าอย่างป๋ายุทธกล่าว นั่นคือเครื่องที่ออกแบบมาให้ระบายความร้อนด้วยอากาศ ตั้งแต่เริ่ม ซึ่งก็เกิดที่เยอรมัน อากาศเย็น กว่าเมืองไทยเป็นไหนๆ ลองติดแอร์เข้าไป เห็นบ่นกันทุกราย(รถสมัยเกือบ 40 -50 ปีก่อน ไมามีแอร์นะครับ มีพัดลมหมุนติดรถมาให้ โหลดเครื่องก็ไม่เยอะเท่าระบบทำความเย็นในปัจจุบัน

ท่านat โปเต้ช็อก ลองสังเกตุดูเข็มความร้อนก็ได้ครับ ว่าก่อนใช้กับหลังใช้ เข็มความร้อน ต้องต่ำกว่าก่อนใช้เป็นอย่างมาก หากเป็นไปตามที่ คลิป บอก

หรือวิธีทดสอบ ก็ง่ายมาก แต่ถ้าพลาดแล้วไม่คุ้ม
ลองถอดพัดปลั๊กพัดลมออก แล้วขับดูสิครับ ในสภาพน้ำมันเครื่องธรรมดา พอรถติดความร้อนขึ้น H แน่ๆ ต่อให้วิ่งไป ก็ไม่ลงเร็วนัก เราจำลองแบบเดียวกับคลิป แต่ไม่ต้องเอาน้ำออกให้แห้งอย่างเขา

แต่เสี่ยง หม้อน้ำจะ รั่วจริงๆเอาน่ะครับ หรือปริแตก หากฝาหม้อน้ำไม่ใช่สเป็กโรงงาน และหากไม่ดีจริงเครื่องฮีทขึ้นมาจริงๆละแย่เลย

อันนี้ผมลองวิเคราะหฺเอามันส์ นะครับ
อย่าลองเลยเดี๋ยวพลาดแล้วไม่คุ้มครับ เพราะยังไม่เคลียร์เรื่องที่คุณบอกว่าเขารับประกัน หรือ ยินดี ชดใช้ เพราะในคลิป ไม่มีบอก


วันที่: 11 Feb 13 - 23:02

 ความคิดเห็นที่: 17 / 59 : 764701
โดย: gabb
เออๆๆๆ ของเค้าดีจิงๆๆๆ น้ำในหม้อน้ำไม่มี ก้อไม่เห็นเปิดฝาให้ดูเลย เปิดแต่หม้อพัก
ผมเคยใช้รถติดโบ แล้วชนเค้า...อินเตอร์หัก เสียงโบไม่ใช่แบบนี้อ่ะ ( แหมๆๆรถโดน เสียงแน่นจังเนอะ )


ผมคนหนึ่ง ไม่คิดอยากจะใช้หลอกคับ
วันที่: 11 Feb 13 - 23:06

 ความคิดเห็นที่: 18 / 59 : 764702
โดย: ทวีรัฐ
อย่าลองนี่ผมหมายถึงพิสูจน์ นะครับ อย่าลองพิสูจน์ ถ้าใช้แล้วรู้สึกสบายใจก็สุดแท้แต่จะพิจารณาครับ
วันที่: 11 Feb 13 - 23:07

 ความคิดเห็นที่: 19 / 59 : 764718
โดย: B4LL
เห็นเขาบอกเติมแล้วน้ำมันเครื่องอยู่ได้ถึง 100,000 โล...โอ้วแม่เจ้า !!
วันที่: 12 Feb 13 - 01:11

 ความคิดเห็นที่: 20 / 59 : 764722
โดย: Fujiwara Takumi
ขอตินิดเดียว โฆษณาเวอร์ไปหน่อยน่ะครับ ( จริง ๆ ไม่หน่อยอ่ะน่ะ ผมว่าออกไปทางเยอะเวอร์เลยล่ะ )
วันที่: 12 Feb 13 - 05:59

หน้าที่: [1]   2   3