Close this window

ขอสำรวจทัศนะคติของทุกท่านเพื่อพิจารณาทัศนะคติของตัวเอง
เรื่องมีอยู่ว่ามีรถที่หอพักเดียวกันถอยมาชนรถผม ซึ่งรถผมจอดไว้ในช่องจอดที่หอพักเตรียมให้ แต่เค้าก็ไม่ได้หนีไปไหนครับ โทรหาประกันมาทำเรื่องให้ ซึ่งผมรู้ขั้นตอนอยู่แล้วว่าเมื่อประกันมาก็มา ก็ถ่ายรูปทำเรื่องโน่นนี้ แล้วก็แจ้งให้เอารถไปซ่อมที่อู่ที่เป็นเครือข่ายกันแต่ประเด็นคือ มันต้องเป็นธุระทุกอย่างของผมซึ่งเป็นผู้ถูกชน ต้องขับรถไปหาอู่เพื่อนำรถของตัวเองไปซ่อม ซึ่งประกันแจ้งที่อยู่เบอร์โทรของอู่ให้มา ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับผม ผมอยู่เฉยๆ ต้องลางาน 1-2 วันเพื่อเอารถไปซ่อมแต่คนที่มาชนรถผมแค่โทรให้ประกันมาแค่นี้จบ แล้วบอกว่ารับผิดชอบแล้ว จบแล้วคุณจบแต่ผมไม่จบสิครับ อย่างที่กล่าวผมต้องเป็นธุระในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำผมขอให้คู่กรณีเห็นใจผม ผมอยากให้เค้าช่วยเป็นธุระโทรหาอู่ หาช่าง มาช่วยถอดกันชนท้ายที่ถูกชนไปซ่อมให้หน่อย ยังไงเราก็อยู่หอเดียวกัน หรือจะเอารถไปซ่อมก็ได้ ผมไม่อยากลางานไปทำ อย่างน้อยก็ 2 วันแน่ๆ คู่กรณีก็ไม่ยอมบอกว่ารับผิดชอบหมดแล้วในทัศนะคติของผม ผมว่ามันไม่ยุติธรรม อย่างนี้ผมเอารถไปทำประกันแล้วขับไปชนรถคนอื่นแล้วแจ้งประกันมาเคลียร์ แล้วเจ้าทุกข์ก็ไปจัดการเอง ส่วนคนที่ชนแค่โทรหาประกัน แค่นั้นจบ ถึงแม้มันจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ตาม แต่ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับเจ้าทุกข์ครับไหนจะค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลาเจ้าทุกข์ ทำไมเค้าไม่คิดถึงเรื่องอย่างนี้บ้างตอนแรกผมก็คิดว่า ผมคิดอย่างนี้ถูกแล้ว แต่เมื่อมีเจ้าของหอมาช่วยเคลียร์ ก็หาว่าผมเล่นแง่มีคนอย่างผม โลกเลยได้เลวร้ายลงทุกที ผมเลยอยากทราบ อยากสำรวจว่า ทัศนะคติอย่างผมเป็นปัญหาของสังผมหรือป่าว? ผมก็อยากให้ win win หรือพอใจกันทั้งสองฝ่ายในกรณีถ้าผมถอยไปชนเค้า ผมจะช่วยเค้าเต็มที่ ผมว่าเค้าปัดความรับผิดชอบเกินไปเอาใจเขามาใส่ใจให้มากกว่านี้ สังคมคงน่าอยู่กว่านี้อย่างที่ขอร้องครับ คิดยังไงกับทัศนะคติผม ช่วยชี้แนะ ช่วยวิจารณ์หน่อย ถ้าผิดผมจะได้ปรับปรุงตัวเองขอบคุณมากๆ ครับ
โดย: Lantis_Samurai   วันที่: 22 Jan 2013 - 21:26


 ความคิดเห็นที่: 1 / 13 : 761450
โดย: เซนท์โซเฟียร์
ส่วนตัวนะครับ

ผมก็เคยโดนผมขี่มอไซด์โดนชน ผมต้องขี่มอไซด์หน้าเอียงๆ ขาเจ็บๆ จากบ้านบางซื่อ ไปเกือบๆหลัก 4 เพื่อให้ ไอ้คุณประกันมันดูรถว่าเสียหายตรงไหน จะได้เคลม -*- ผมถูกทุกอย่างแต่ก็ต้องถ่อสังขารไป เจอแบบนี้ ผมก็เซ็งเหมือนกันครับ อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องให้เสีย เวลา และ ความรู้สึก

ถ้าปล่อยวางได้ก็ปล่อยวางครับ คิดมากฉี่เป็นน้ำพอดี จบเรื่องแล้วก็จบกันไปครับ ต่างคนต่างอยู่

ถ้าอยากแก้เผ็ดก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายครับ ค่าเสียเวลา ค่าอะไรต่างๆ แต่ไม่รู้จะคุ้มหรือเปล่า

สุดท้ายถ้าโลกสวยก็คุยกับเค้าเหมือนปกติให้อภัยกันไปพูดคุยเหมือนเพิ่มเพื่อนคนนึง หวังว่าสักวันเค้าจะละอายใจไปเองครับ

ส่วนผม โลกนี้ไม่ได้สวยงามแน่นอนครับ แต่ผมใจเย็นเป็นที่ซู๊ดดดด

ปล.ผมเคยถูกมอไซด์ด้วยกันชน ชนเสร็จผมแขนข้อศอกหลุด คนชนมานั่งเฝ้าคุยไปคุยมาเล่นเกมส์ออนไลน์เหมือนกัน ถูกคอคุยกันยาว มาเฝ้าผมที่ รพ. เลยครับ มีให้ของในเกมส์ด้วย ฮาดี
วันที่: 22 Jan 13 - 21:58

 ความคิดเห็นที่: 2 / 13 : 761457
โดย: Arhu
คิดว่าคุณ ซวยครับ อุบัติเหตูมักมีแต่ความซวย ผมเสนอความคิดในแง่ของฝ่ายโดนกระทำนะครับ
เพราะเคยจอดรถซื้อส้มตำอยู่ดีดีมอไซร์แว้น ขับมาเฉียวแลวก็แว้นหายไป รถพี่ผมประกันชั้นสาม(ซวยกว่าเยอะ)
และขอเสนอความคิดของฝ่ายผิดนะครับ(เคยชนกับแท็กซี่) มันเปนอุบัติเหตุไม่ได้มีความตั้งใจเลย และที่รอจนประกันมาก็คือการรับผิดชอบกึงนึง แลวถ้าผมแสดงความรับผิดชอบโดยอาสาขับรถคุณไปซอมให้คุณจะกล้าให้ผมขับ หรอป่าวครับ
ในความคิดผมคือ รถก็ต้องเอาไปเข้าอู่กันทั้งคู่เสียเวลากันทั้งคู่ วินวิน แบบนี้ผมก็เหนด้วยนะครับ(เพราะเป็นอุบัติเหตุ)
แต่ที่คุณคิดค่าเสียเวลามันก็ถูกละแต่ผมว่ามันคิดเข้าข้างตัวเองมากไปอะคับ (เพราะเปนอุบัติเหตุ)แต่ถ้าต้องการบริการหรือค่าเสียหายเพิมก็น่าจะทำเรื่องฟ้องศาลได้นะครับแต่ผมว่ามันเสียเวลา เสียค่านํ้ามัน มากกว่าเอารถเข้าอู่นะครับ นี้เป็นความคิดส่วนตัวผมนะครับ ไม่ได้เจตนาเข้าข้างใคร
วันที่: 22 Jan 13 - 22:19

 ความคิดเห็นที่: 3 / 13 : 761501
โดย: ทวีรัฐ
ไม่แน่ใจว่าถ้า ให้วิจารณ์ ตรงๆกลางๆ จะโกรธผมรึเปล่านะ แต่ถ้านำไป พิจารณา ก็จะได้ประโยชน์

อุบัติเหตุ มีใครอยากให้เกิดขึ้นไหมครับ

เกิดแล้ว ก็เสียเวลาทั้งคู่ ทั้งคุณทั้งเขา
ในมุมกลับ ถ้าเขาถอยชนคุณ แล้ว ไม่สน ไปหน้าตาเฉย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ไม่ยินรอ รับผิดชอบทั้งๆที่คุณไม่เห็นด้วยซ้ำ ผมว่าตรงนี้ คู่กรณี เขารับผิดชอบส่วนนึงล่ะ อันนี้ เราน่าจะเป็นฝ่ายขอบคุณที่แสดงความรับผิดชอบ ด้วยอัธยาศัยไมตรี

ทีนี้ ที่คุณรู้สึกลำบากใจ คือ เสียเวลา ใช่ไหมครับ
จริงอยู่ คุณมีความคิดที่ดีมากเลย ในส่วนที่คุณบอกว่าถ้าเป็นคุณเป็นฝ่ายชน จะบริการให้ถึงที่สุด ถ้าสังคม ทุกคนคิดแบบนี้ คงจะเต็มไปด้วยมิตรภาพและน่าอยู่กว่านี้

แต่ในความเป็นจริง คุณทำได้อย่างที่พูดจริงหรือครับ

ถ้าคุณเจอคู่กรณีที่ดีมีจิตใจที่ดี ก็คิดว่าน่าจะลงตัว
แต่ถ้าเจอคู่กรณี ที่เห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว จึ้นมาละครับ คุณจะทำได้อย่างที่พูดแค่ไหน

คุณอาสาจะขับรถไปอู่ให้ คิดว่าเขาจะยอมให้คุณเอารถไปไหม? เป็นคุณตามที่คุณกำลังต้องการให่เขาบริการมากกว่านี้ เหมือนที่ คห 2 บอกมา คุณกล้ายื่นกุญแจ รถ ให้คนอื่น ขับไป บอกว่าเอาไปซ่อมให้ 2-3 วันไหม?

ผมพูดถึงโลกในความเป็นจริง ไม่ใช่โลกในอุดมคติ อย่างที่คุณกำลังคิดนะครับ

ทีนี้ต่อจากเมื่อกี้ ถ้าคุณเจอคู่กรณีนิสัยแย่ๆ เขาเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบ ค่าเสียเวลา ที่เขาไม่มีรถใช้ ขอให้คุณจ่ายค่าพาหนะเดินทาง ระหว่างที่รถไปซ่อม ค่าน้ำมันรถที่วิ่งไปอู่ ตามที่คุณคิด
คุณจะรับไหวไหม คุณจะจ่ายไหมครับ ลองนึกกลับกันดู

คุณก็อาจมานั่งว่าคู่กรณีในใจว่าเขี้ยว หรือฉวยโอกาส หรือ เอาเปรียบคุณ ถึงจะจริง แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าตุณจะยอมจ่ายส่วนนั้นไหมครับ ถ้าคู่กรณีคุณ เป็น sale ที่ต้องวิ่งพบลูกค้าทั้งวันเพื่อขายของทำเป้าให้บริษัท และทำยอดเพื่อรับคอมมิชชั่นก้อนมหาศาล
ลองคิดดูนะครับ ว่าค่าเดินทางด้วยแทกซี่ไปทั่วกรุง ตลอดวัน จะเท่าไหร่ แล้วไม่รู้คำว่าค่าเสียเวลาจะเรียกเอาอะไร เท่าไหร่

จริงๆ การช่วยเหลือตามจิตนาการของคุณ คือส่วนที่เราเรียกกันว่า น้ำใจ ครับ ซึ่งมีก็ได้ ไม่มีก็ไม่ได้ถือว่าผิดร้ายแรงอะไรแค่เราจะรู้สึกว่าคู่กรณี แล้งน้ำใจ ไม่ชอบหน้า

และ คุณก็เป็นผู้เสียหาย ที่กำลังเอาเรื่องของน้ำใจมาโนงใยว่าน่าจะเป็นมาตราฐาน จริยธรรมที่ควรปฏิบัติ เพราะคุณรู้สึกไม่สะดวกสบาย
ใช่ครับ คุณ คิดเข้าข้างตัวเองเต็มๆ

ที่ผมอธิบายว่าถ้ามุมกลับกันตามข้างบน เพราะอยากให้คุณยืนอยู่ตรงเขา(คู่กรณี) ถ้าหากเจอใครเรียกร้องอะไร ที่มันเป็นการได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว
ผมไม่เห็นว่าจะ win win ตามที่คุณบอกตรงไหนเลย
ถ้าได้ตามที่คุณคิด คุณ win คนเดียว คู่กรณี lost ทุกประตู
ขออภัยที่ต้องบอกว่า ทัศนะคติของคุณ ไม่ใช่ win win อย่างที่คุณคิดเขาข้างตัวเองเลยครับ

คู่กรณี เขาก็ไม่มีรถใช้เหมือนคุณ เขาก็ต้องเสียเวลา วิ่งไปอู่เสียค่าน้ำมันเหมือนคุณ หรืออาจ มากกว่าด้วยซ้ำ (ในบางกรณี แล้วแต่ อาชีพ และระยะทางระหว่าง ที่พัก กับที่ซ่อม)

และผมไม่เข้าใจ ว่า เอารถเข้าอู่ ทำไมคุณต้องลางานทั้งวัน?
ในความเป็นจริง คุณกะจะลางานไปนั่งเผ้าที่อู่เลยเหรอครับ เป็นไปไม่ได้หรอก อู่เขาก็คงไม่ชอบใจเท่าไหร่แน่ๆ
อู่ทั่วไป เขาก็เปิดวันเสาร์ หากคุณหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่เห็นต้องลางาน
แต่ถ้าคุณทำงาน 6 วัน คุณก็ลางานเช้า แค่ 1-2 ขั่วโมง เพื่อเอารถไปไว้อู่แต่เช้า(อู่เปิด) หรือโทรนัดให้เร็วขึ้น แล้วคุณก็เดินทางมาทำงาน
วันรับรถก็เช่นกัน ก็เลือกเอาว่าจะเช้าหรือบ่าย

เรื่องแค่นี้ผมเชื่อว่าคุณคิดเองได้และจัดการบริหารเวลาเองได้ ไม่ลงรายละเอียดนะครับ

ต้องขอโทษที่ ขยายความตรงๆนะครับ อย่าใช้คำว่าวิจารณ์เลย เพราะตัวเราเองถ้าไม่ดีจริง ก็ไม่ควรเสนอหน้าไปวิจารณ์ใคร ผมคิดแบบนี้

สรุปว่า คู่กรณีคุณ ก็ไม่ใช่ว่าไม่รับผิดชอบ เขาก็รับในส่วนที่ปถุชน คนทั่วไปเขาทำแล้ว และยังมีข้อดีที่ เขาชนแล้วไม่หนีไปไหน รอแสดงว่ารับผิดชอบให้คุณด้วย

ปัญหาอยู่ที่ คุณคิดเข้าข้างตัวเอง เลยเอาเรื่องในความคิดตัวคุณเองมาเป็นตัวตั้งว่า จะต้องเป็นมาตราฐาน ซึ่งมันก็ทำได้ ก็คือ ฟ้องร้อง ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม

แต่เชื่อไหมครับ ว่าถ้าฟ้องร้องขึ้นศาล คุณเองจะถูกตำหนิ ว่า เรียกร้องเกินกว่าเหตุ
และ แทบไม่มีทางชนะคดีได้เลย เผลอๆโดยตำหนิ กลางศาลอีก(หากเจอ ผู้พิพากษา ตงฉิน จริงๆ)
แต่ที่แน่ๆ ผมเชื่อว่า ตอนนี้ หากคุณพูดเรียกร้องตามที่คุณเล่ามากับคู่กรณีไปแล้ว คุณถูกฝ่ายโน้นมองว่า เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว หรือฉวยโอกาส ฯลฯ ไปเรียบร้อยแล้วครับ

คงจะเป็นตัวละครที่ถูกกล่าวถึงในวงสนทนา ของฝ่ายนู้น อีกหลายเวลาเลยครับ


ย้ำนะครับ ว่าสิ่งที่คุณคิด ถ้าทุกคนทำตามนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
แต่ลองมองไปรอบๆตัวสิครับ มันเคยมีเกิดขึ้นในโลกไหม ถ้ามี จะมีสัก กี่ %

อยู่กับความเป็นจริงเถอะครับ

ขออภัยอึกที ที่อาจไม่ถูกใจคุณ แต่นี่คือในทัศนะของผม ครับ

ลองพิจารณาดูครับ
วันที่: 23 Jan 13 - 01:34

 ความคิดเห็นที่: 4 / 13 : 761508
โดย: Lantis_Samurai
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็นครับ

ผมไม่โกรธหรอกครับ ผมอยากเรียนรู้สังคม ความคิดของคนส่วนใหญ่

ผมปลงแล้วหล่ะ ไม่เครียด ไม่แค้น ไม่โกรธ ไม่ฟ้องร้อง

แค่อยากรู้ ความเป็นไปของสังคมครับ
วันที่: 23 Jan 13 - 07:26

 ความคิดเห็นที่: 5 / 13 : 761518
โดย: NAIprotege
สองปีก่อนเพื่อนผมจอดรถติดไฟแดงอยู่เฉยๆ มีมอเตอร์ไซค์มาขนท้ายตายคาที่ เพื่อนผมไม่ได้ผิดอะไรเลยแค่จอดรถติดไฟแดงแต่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมว่ากรณีของคุณถือว่าไม่มีอะไรต้องคิดมากนะครับ หาเวลาว่างค่อยไปซ่อมก็ได้
วันที่: 23 Jan 13 - 09:54

 ความคิดเห็นที่: 6 / 13 : 761532
โดย: หวอ
ต้องคิดบวกเยอะๆครับจะได้ไม่เครียดคิดซะว่า
ยังดีที่คนชนรับผิดชอบไม่โดนชิ่ง
ได้กันชนสีใหม่
ได้ฟังเพลงระหว่างขับรถ
ได้ลางานพักผ่อนเพิ่มเติม
ได้ขับรถในเวลากลางวันที่รถไม่ติดชมวิวไปเรื่อย


แต่ถ้าคิดลบ
มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นคนที่เจ็บที่สุดก็คือตัวเอง

เปลี่ยนอะไรไม่ได้ให้เปลี่ยนทัศนะคติตัวเองครับ
วันที่: 23 Jan 13 - 10:44

 ความคิดเห็นที่: 7 / 13 : 761534
โดย: พจน์400
ผมคิดเสียว่ามันเป็นชะตากรรมร่วมกันครับ ชดใช้กันไป, คิดให้สบายใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดหรอกครับ, ได้แค่คำขอโทษก็ดีใจแล้ว,
นี่ก็โดนมือใหม่-ป้ายแดง รูดสีข้างมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว , ก็รอปิดเทอมละครับถึงจะได้ทำแผล
วันที่: 23 Jan 13 - 11:08

 ความคิดเห็นที่: 8 / 13 : 761544
โดย: ทวีรัฐ
จากนี้มือใหม่ป้ายแดง จะครองถนนไปอีกพักใหญ่ๆครับ ท่านพจน์
วันที่: 23 Jan 13 - 12:16

 ความคิดเห็นที่: 9 / 13 : 761545
โดย: Fujiwara Takumi
ผมเชื่อว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมแบบเดียวกับท่านมีเยอะครับ

แค่เปลี่ยนมุมมองชีวิตก็เปลี่ยนแล้วครับ ขึ้นอยู่กับท่านว่าจะเลือกมองมุมไหนเท่านั้นเองครับ
วันที่: 23 Jan 13 - 12:20

 ความคิดเห็นที่: 10 / 13 : 761547
โดย: tigerdrex
นึกว่า เรื่อง อะไร ^^

ตามนั้นครับ

win win ทั้งคู่ คือ เอาไปซ่อมอู่ประกันเอง

และ ตามป๋าบอก ไม่มีคัยเขามาจ่ายในส่วนนี้ให้อีกฝ่ายแน่นอน

และคงไม่มีคัยเขาขับรถไปซ่อมให้แน่นอน

มันคือ อุบัติเหตุ ครับ การรับผิดชอบคือ รับผิดชอบในส่วนของ
ที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น

ปล. นานๆที มีอะไรมาเล่าแบบนี้กันก็ดีนะ
จะได้มีสีสัน และ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ^^
ยังไงก็ ขอให้รถซ่อมเสร็จหล่อเหมือนเดิมไวๆนะครับ
วันที่: 23 Jan 13 - 12:56

 ความคิดเห็นที่: 11 / 13 : 761566
โดย: fonce G
แต่เป็นผม ผมเรียกประกันผมมาด้วยครับ
จะผิดจะถูก ก็ไม่สำคัญ ให้ประกันเคลียกัน
แล้วเราก็เข้าอู่ในเคลือประกันเราครับ และเราก็สามารถ ให้ ช่างประจำอู่ประกันมารับรถไปได้ครับ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเด๋วพวกเค้าไปเคลียกันเอง
แค่นี่เอง
วันที่: 23 Jan 13 - 17:56

 ความคิดเห็นที่: 12 / 13 : 761567
โดย: fonce G
อ้อ ไม่เสียประวัฒ ด้วยครับเพราะเป็นฝ่ายถูก
วันที่: 23 Jan 13 - 17:56

 ความคิดเห็นที่: 13 / 13 : 762422
โดย: gabb
แล้วเราก็เข้าอู่ในเคลือประกันเราครับ และเราก็สามารถ ให้ ช่างประจำอู่ประกันมารับรถไปได้ครับ


สมัียก่อนผมขับไปจอดซ่อม 1 อาทิต" เดวนี้มีช่างมารับไปให้แล้วหรอคับ บริการดีๆๆคับ"
นอกเรื่องนิด อู่นั้นบอก 3 วันๆๆๆๆๆๆๆแต่ทำ 1 อาทิต แล้วให้เราไปซ่อม INTERCOOLER เองจ่ายก่อน มาเคลิ้มคืนเงินคืนที่หลัง กำ
วันที่: 30 Jan 13 - 01:01