Close this window

สอบถามพี่ๆที่เคยมีประสบการณ์เกียร์ออโต้พังค่ะ
อยากทราบอาการเกียร์พังที่พี่ๆเคยเจอกันมามีอาการยังไงกันบ้าง แล้วอาการรุนแรงแค่ไหนถึงตัดสินใจเปลี่ยนเกียร์ใหม่ อยากทราบอาการเป็นสเต็บ ว่าในแต่ละระยะการพังของเกียร์ อาการที่เกิดจะเป็นแบบไหนบ้าง

ตอนนี้ใช้ตาตี่ปี 95 ค่ะ อาการเริ่มแรกคือ เข้าเกียร์แล้วต้องรอ 5-10 นาที กว่ารถจะออกตัวได้ อาการนี้ก็เป็นมาหลายเดือนแล้ว ปกติใช้วิธีสตาร์ททิ้งไว้ซักพักแล้วค่อยเข้าเกียร์ หรือไม่ก็กด hold เพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไปเมื่อต้นเดือน ก็ไม่ดีขึ้น (น้ำมันเกียร์ใช้ Mobil ATF220)

แต่เช้าวันนี้มีอาการเพิ่มขึ้นมา คือ เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ วิ่งได้ถึง 50-60 แล้วหลังจากนั้นเกียร์ก็ไม่เปลี่ยนให้อีกเลย อาการแบบนี้คืออาการโคม่ารึยังคะ

คิดว่าต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่แน่ๆ แต่อยากทราบอาการเพิ่มเติมว่า จะเกิดอาการอะไรมากกว่านี้ได้อีกบ้าง หรืออาการอะไรที่ห้ามใช้รถต่อ จอดไว้บ้านเลย อะไรแบบนี้ ไม่อยากรถพังกลางถนนค่ะ จะได้ลองดูอาการรถตัวเองว่ายังพอใช้รถได้อีกนานแค่ไหน แล้วต้องเตรียมงบไว้ประมาณเท่าไหร่ ...
โดย: NaNa   วันที่: 17 Oct 2012 - 10:21

หน้าที่: [1]   2   3

 ความคิดเห็นที่: 1 / 58 : 746248
โดย: NAIprotege
ถอดเอาปลั๊กไฟเกียร์ ที่อยู่ในห้องเครื่อง
ฉีดโซแนกซ์ทำความสะอาด ถอดมาล้าง เอาแปรงสีฟันเก่าๆขัดๆ เสียบใหม่ อาการอาจหายยยได้ ลองจากสาเหตุง่ายๆก่อน
วันที่: 17 Oct 12 - 10:34

 ความคิดเห็นที่: 2 / 58 : 746251
โดย: nija
อาการนี้ผมเคยเป็นครับ
ผมแนะนำว่าให้หาเกียร์เปลียนใด้เลยครับ
เพราะว่าเกียร์มันน่าจะพังแล้วครับถ้าจะให้ไปล้างระบบเกียร์ผมว่ามันก็ไม่หายครับมันจะสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุครับรถตั้งแต่ปี 95แล้วผมว่าก็สมควนแก่เวลาแล้วครับ
ราคาก็ประมาณ12000ถึง15000ครับ
ถ้าซื้อเกียร์มาให้ช่างเปลียนให้ก็ค่าเกียร์8000ค่าแรงเปลียน1500ค่าน้ำมันเกียร์600
แต่ถ้าเกียร์ไม่ดีเราไปเปลียนอีกก็จะเสียค่าแรงและค่าน้ำมันเครื่องอีกรอบครับ
วันที่: 17 Oct 12 - 10:40

 ความคิดเห็นที่: 3 / 58 : 746252
โดย: NaNa
K.NAIprotege - ปลั๊กไฟเกียร์หน้าตาเป็นยังไงคะ พอจะมีกระทู้ที่มีรูปให้ดูรึเปล่า จะได้ลองเข้าไปศึกษาดูค่ะ

K.nija - อาการเดียวกันเลยเหรอคะ แล้วหลังจากนี้ อาการจะเป็นอะไรต่อไปอีก ใช้รถต่อได้อีกนานมั๊ย หรือว่าไม่ควรใช้แล้ว ปกติก็ขับไม่เร็วนะคะ แต่วิ่งได้แค่ 50-60 มันก็ช้าเกินไป แอบขัดใจ -__-
วันที่: 17 Oct 12 - 10:49

 ความคิดเห็นที่: 4 / 58 : 746263
โดย: ทวีรัฐ
ผมเปลี่ยนมาแล้ว 3 ลูก น่าจะมีประโยขน์บ้าง และเค๊าว่าจะมีลูกที่4 กำลังคืบคลานมา เหมือนเมฆฝนตั้งเค๊ามายังไงยังงั้น

ลูกแรกติดรถมา ใช้โดยยังไม่ค่อยได้มีความรู้ในรายละเอียด เข้า 0 บอกเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก็แล้วแต่เขาว่าเอาอะไรมายัดให้ เข้าอู่ก็นึกว่าเหมือนน้ำมันเครื่อง ไม่มีอะไร

ผลคือเปลี่ยนถ่ายแต่ละครั้งให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป
มารู้ภายหลัง ว่า รุ่นนี้ต้องใช้ dextron II เท่านั้น จะยี่ห้ออะไรก็ตาม แต่ต้องเป็น สเปคนี้เท่านั้น ตอนแรกไม่รู้ ช่างบอกใช้กันได้ก็เชื่อมัน ผลก็ือ ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์เปลี่ยนไป
บางทีต้องลากรอบยาววววววววกว่าจะเปลี่ยน บางทีกด จิ๊ดเดียวเปลี่ยนแระ กลายเป็นอืด ยืดดดด ไปเลยเพราะ มันเปลี่ยนเร็วไป

และลูกแรกก็จากไป เพราะ เกียร์แตก (จากการละเลย เย็นใจ เรื่องยางแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ชำรุด แล้วผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะเปลี่ยน) เสื้อเกียร์แตกร้าว คาทางด่วน เลย
โชคดีที่สังเกตุเห็นควันมันลอยเอื่อยๆ ออกมาจากช่องเบรคมือ ไม่รู้มาไง ก็เลยเอะใจจอดรถชิดซ้ายสุดก้มดู
โห... น้ำมันที่ถูกลมใต้ท้องตี สาดกระเซ้ฯเต็มไปหมด และตรงที่โดนท่อไอเสียก็ควันลอยเอื่อย ขวาเต็มไปหมด ใจเสียเลย ถ้าฝทนวิ่งไม่รู้ แล้วลมพัดแรงๆองค์ประกอบครบ ไฟตืดพรึ่บขึ้นมาละ

วันที่: 17 Oct 12 - 12:02

 ความคิดเห็นที่: 5 / 58 : 746268
โดย: ทวีรัฐ
เจ้าหน้าที่ลากลงทางด่วนบางนา ไปเข้าอู่ข้างถนนอู่นึง เขาบอกว่าแค่เสท้อแตก เขาถอดไปเชื่อม อาร์กอน ได้ เหมือนเราไม่มีทางเลือกเพราะ รู้ว่าหาอู่ซ่อมยาก เห็นมี ป๊อบอัพ สีแดงจอดซ่อมอยู่คันนึง ก็นึกไปเองว่า น่าจะทำมาสด้าได้(มั๊ง) และ จ่ายค่ามัดจำไป ก้อนนึง รถจอดอยู่ที่อู่ ทำไมต้องมัดจำ(ว๊ะ)

ผ่านไป 5 วัน ไปเอารถ ดูด้วยตาเปล่า มีการเปลี่ยน ยางแท่นเครื่องให้แล้วแต่หน้าตาแปลกๆ(รู้ทีหลังว่าเอาของโครโนส มาใส่ให้ซะงั้น) รถวอ่งได้ ก้มดูไม่มีรอยน้ำมันเกียร์หยด รวมค่าซ่อมที่ต้องจ่ายไป 17,800 !
ขับออกมารู้สึกการเปลี่ยนเกียร์ เร้วผิดปกติ แต่ก็ขับเรื่อยๆได้ แล้วก็เจอรอยล้อแม๊กเบียดขอบปูน เป็นรอย เสียหาย ที่ล้อหลังซ้ายเยอะหน่อย และ ล้อหน้าเล็กน้อย

ใช้ได้ 2 เดือนครึ่ง มันก็สร้างความตื่นเต้นก่อนจากไป
ด้วยการที่หยุดวิ่งดื้อๆกลางจุดกลับรถในขณะที่กำลังเลี้ยวกลับรถ!
ดีที่มีแรงส่งจึงปล่อยให้ไหลเข้าข้างทางได้ แต่ก็โดนรถทางตรง บีบแตรไล่ด่าอยู่เหมือนกันเพราะเจาต้องเบรคหัวทิ่ม เนื่องจากเขาไม่รู้หรอกว่ารถเรามีปัญหา คงนึกว่าเหมือนพวกปัญญาอ่อน ที่ชอบกลับรถตัดหน้าคนอื่นแล้วแทนที่จะรีบไปกลับวิ่งเอื่อยๆกลางถนน(ถ้าเป็นสิบล้อมันคงเหยียบไปเลย)

อาการคือ เข้าเกียร์แล้วไม่ไป ทุกเกียร์ทั้งที่วิ่งมาดีๆ แต่พอดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ ก็วิ่งไปได้ 40-50 เมตรก็หวือ ฟรี อีก
ต้องทน ขับไปหน่อย็ชิดซ้าย ดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ เพื่อให้วิ่งต่อได้ จนเจอปั๊ม ปตท จึงเข้าไปจอด ไว้ โทรหาเพื่อนที่เป็นอู่ให้มารับทั้งคนทั้งรถ

หน้าคลัทช์ลื่นหมด เร็วเพราะใช้น้ำมันเกียร์ผิด สเปค จากนั้นก็รู้แล้วว่า DEXTRON II เท่านั้น

ได้เกียร์ลูกใหม่ มือสอง เชียงกงอยุธยา สถาพไม่ค่อยสวย ในราคา 12000 มาเปลี่ยนใส่
แต่สภาพที่ไม่ค่อยดี ทำให้อายุสั้น หน่อย อาการเข้าแล้วลื่น มาเยือนเมื่อผ่านไปปีกว่า

ก็ได้ลูกปัจจุบันมา แล้วนอกจากเติม dextron II แล้ว ยังใช้วิธีเปลี่ยนถ่ายทั้งระบบด้วยเครื่องถ่าย ไม่ใช่แบบ ที่ดูดออกจากสายยางแบบ 0 นั่นมันออกได้แค่หน่อยเดียวก็เติมเข้าไปแทนที่ ของเก่าสกปรกยังตกค้างตรึม

ใช้มาจนวันนี้ อาการแปลกๆเช้นไฟhold กระพริบกมีมาเยือน แก้หายด้วย ถอด ปลักเซนเซอร์ มาทำความสะอาด หายเฉย

อาการเกียร์ไม่เปลี่ยน วิ่งได้แค่ที่ จขกท บอก ก็เจอ แต่เข้าอู่ไปเปลี่ยน ตัวหวีปลั๊กไฟเกียร์ 800 บาท หายปกติ จนวันนี้ มีกาการไฟ S และ N ไม่โชว์ เข้าS แล้วเหมือนออกตัวด้วยเกียร์3 แต่ เข้าD ทุกอย่างปกติ เหยียบได้ยัน red line

ถ้าเกียร์พังมีกรณีเดียวคือ รถไม่วิ่งเลย ทุกเกียร์ไม่ว่าจะช้าหรือร็ว ต้องวิ่งไม่ได้
กรณีเจ้าของกระทู้น่าจะเป็นที่ตัวปลักไฟเกียร์ ถ้ามันสกปรกหรือชำรุด จะไม่มีสัญญาณไปบอกให้เปลี่ยนเกียร์มันก็จะลากรอบเช่นนั้น ความร้อนมันจะขึ้นตามมา เพราะร้ำมันเกียร์ร้อนจัด
วันที่: 17 Oct 12 - 12:26

 ความคิดเห็นที่: 6 / 58 : 746270
โดย: ทวีรัฐ
จขกท คุณNaNa จะทำการซ่อทเองเลยเหรอครับ ถึงอยากได้รูป
ปลั๊กตัวนี้อยู่ใต้กรองอาการครับ ควรถอดหม้อกรองอากาศออก จะทำได้สะดวกกว่า

มีสองตัว ตัวบนที่เห็นชัดๆ ปลี๊ดไฟเกียร์ มันจะส่งสัญญาณไปบอกตำแหน่งเพื่อให้เกียร์เปลี่ยน ตำแหน่งเกียร์
และอีกตัวนึง ที่อยู่ด้านล่างลงไป จะเป็นปลั๊กเสียบที่เรือนเกียร์เลย นั่นคือเซนเซอร์ ที่มักเป็นต้นเหตุให้ไฟกระพริบแบบหาสาเหตุไม่เจอ
ทำความสะอาด ทั้งคู่ แล้วลองดูผลครับ อย่างมากก็เสียแค่ ไม่กี่ร้อย ก่อนยกเกียร์ทั้งลูก หมื่นต้นๆ

ผมเชื่อลึกๆจากอาการที่เล่ามาคร่าวๆ ว่า ยังไม่ถึงกับพังครับ
วันที่: 17 Oct 12 - 12:32

 ความคิดเห็นที่: 7 / 58 : 746271
โดย: krung
555 อาการคล้ายๆกันเลย สงสัยได้เวลาของมัน
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะเปลี่ยนยกเครื่องFPลง หรือเปลี่ยนเฉพาะเกียร์ดี
ค่าใช้จ่ายก็ต่างกันเยอะอยู่แต่กลัวว่าเปลี่ยนเฉพาะเกียร์แล้วมันจะไม่จบ ช่างที่รู้จักกันก็เตือนมากลัวว่าจะต้องจ่ายซ้ำซ้อน เปลี่ยนเครื่องเป็นFPเขาว่าจะจบกว่า

ตอนนี้จอดสนิท รอค่า่ซ่อมอย่างเดียวเลย เครื่องเห็นมีเพียบเลย
วันที่: 17 Oct 12 - 12:36

 ความคิดเห็นที่: 8 / 58 : 746275
โดย: nija
ของผมขับไปอีกสักพักครับ
จากรอสิบนาทีก็จะเป็นรอสิบห้านาทีและจากรอสิบห้านาทีก็ไม่ใด้รอแล้วครับ
เพราะขับไปขับไปอยู่ดีดีก็วิ่งไม่ใด้เร่งใด้แต่เครื่องแต่รถไม่วิ่งครับเหมื่อนเป็นเกียร์ว่าง
ทั้งๆที่รถยังวิ่งอยู่ที่ความเร็วที่80 ครับจนต้องจอดข้างทางครับ
ผมไม่จะทำยังไงต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ใหม่แล้วเข้าเกียร์ก็รออีกสิบกว่านาทีจนเกียร์มันจับ
แล้วก็วิ่งเข้าหาชังเลยครับก็เลยเปลียนเกียร์เลยครับ
วันที่: 17 Oct 12 - 13:00

 ความคิดเห็นที่: 9 / 58 : 746280
โดย: ย้ง
ร้านเอี่ยมอะหลั่ยยนต์ครับ ที่เชียงกงรังสิต ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน กม.39 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี เยื้องๆกับ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-วิทยาเขตรังสิต

สอบถามราคาก่อนที่
เอี่ยมอะหลั่ย เซียงกงรังสิต 02-9017794-95

เคยเอารถโครโนสไปเปลี่ยนเกียร์ออโต้
ทิ้งไว้ 2 วัน เสร็จ
วันที่: 17 Oct 12 - 13:28

 ความคิดเห็นที่: 10 / 58 : 746298
โดย: เดียว protege
อาการเดียวกันเปะ แต่เป็นโปรเต้ ครับ สงสัยงานจะเข้าเหมือนกัน
วันที่: 17 Oct 12 - 14:43

 ความคิดเห็นที่: 11 / 58 : 746309
โดย: NaNa
K.ทวีรัฐ - ถ้ามันไม่ยากมาก พอทำเองได้ ก็อยากจะลองทำเองหรืออาจจะให้คุณพ่อไปดูรูปแล้วช่วยทำให้ค่ะ เพราะเท่าที่ผ่านมาเคยเข้าอู่ ช่างก็บอกว่าต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่ แต่ถ้ายังพอใช้ได้ก็ให้ใช้ไปก่อน ถ้าเข้าไปที่อู่อีกที แล้วบอกให้เค้าทำความสะอาดปลั๊กไฟเกียร์ให้ ก็กลัวว่าช่างจะ(แอบคิด)ว่าเรื่องมาก เพราะก็เคยบอกแล้วว่าเกียร์พัง

แต่อาการที่เจอวันนี้ก็ทำให้แอบระแวงเหมือนกัน เพราะกลัวรถดับกลางทาง แต่ถ้าต้องถอดหม้อกรองอากาศ สงสัยจะทำเองไม่ได้ซะแล้วค่ะ -__-"

K.krung - ที่บอกว่าช่างแนะนำให้เปลี่ยนเกียร์พร้อมเครื่อง เพราะเปลี่ยนแต่เกียร์อย่างเดียวแล้วจะไม่จบ ทำไมถึงไม่จบคะ คือจะมีอาการอื่นๆแทรกซ้อนงั้นเหรอคะ พอจะแชร์ให้ฟังบ้างได้รึเปล่าคะ

K.nija - โห วิ่งอยู่ดีๆแล้วกลายเป็นเกียร์ว่างเลยเหรอคะ น่ากลัวจัง แล้วตอนนั้น รถมันก็จะยังวิ่งไปเอื่อยๆใช่มั๊ยคะ แล้วต้องดึงเกียร์มาที่ N รึเปล่า หรือไว้ที่ D เหมือนเดิม เพราะตอนนี้เบรคมือก็ใช้ไม่ได้เหมือนกันค่ะ -__-"

K.ย้ง - คือหมายถึงว่า K.ย้ง เคยไปเปลี่ยนที่นี่ใช่มั๊ยคะ หรือว่าเป็นเจ้าของร้านเอง

K.เดียว protege - เป็นมานานรึยังคะ แล้วตอนนี้อาการเป็นไงบ้าง
วันที่: 17 Oct 12 - 15:44

 ความคิดเห็นที่: 12 / 58 : 746321
โดย: ทวีรัฐ
แค่ทำความสะอาดทำเองได้ครับ ไม่ยากเลย
ถ้าคุณพ่อทำก็เชื่อว่าทำได้

ถอดหม้อกรอง ง่ายมาก ครับ
เดี๋ยวจะลองถ่าย รูปจุดที่ควรลองทำความสะอาดให้ดูแต่มืดแล้วไม่รู้จะเห็นรึเปล่านะครับ
วันที่: 17 Oct 12 - 18:01

 ความคิดเห็นที่: 13 / 58 : 746325
โดย: nija
จะเอาไว้ที่NหรือDก็ที่ค่าเท่ากันครับเพราะเกืยร์มันไม่จับครับ
ก็แค่เบรคและก็เอารถเข้าข้างทางครับ
แต่ถ้าจะลองดูผมมีเซ็นเซอร์เกียร์ที่มันอยู่ที่เกียร์มีสองตัวคุณจะลองเอาไปเปลียนดูไหมครับ
ผมซื้อมาต้อนที่เกียร์ผมเริ่มมีปัญหาครับจะลองดูไหมครับ
วันที่: 17 Oct 12 - 18:25

 ความคิดเห็นที่: 14 / 58 : 746334
โดย: active175
เดี๋ยวลองทำความสะอาดดูบ้าง เกียร์รถผม เข้าปุ๊บ...ดีเลย์ประมาณ 3 วินาที กว่าเกียร์จะจับ
วันที่: 17 Oct 12 - 20:21

 ความคิดเห็นที่: 15 / 58 : 746343
โดย: NaNa
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่แวะมาให้ความรู้และแชร์ข้อมูลนะคะ

ขออัพเดทสถานการณ์ตอนขับรถกลับบ้านนิดนึง ขากลับไม่พบปัญหาอะไรแล้วค่ะ แต่รถค่อนข้างติดเลยไม่ได้ขับเกิน 60 เลย เหมือนว่าเกียร์จะใช้งานได้ปกติ มีรอบสูงก่อนเปลี่ยนเกียร์บ้างนิดหน่อย แต่ไม่หน่วงแบบเมื่อเช้า คืออธิบายไม่ถูกแต่ความรู้สึกเวลาขับมันต่างกันค่ะ ยังไงคงต้องรอดูพรุ่งนี้เช้าอีกที
วันที่: 17 Oct 12 - 21:17

 ความคิดเห็นที่: 16 / 58 : 746392
โดย: ทวีรัฐ
ตามที่รับปากไว้ ว่าจะหารูปมาให้ (จริงๆ แค่ก้มดูก็เห็นแล้วครับ)

เปิด(ฝา)กระโปรง ยืนหน้ารถและมองดูใต้หม้อกรองอากศ จะเห็นปลั๊ก ดังรูป
วันที่: 18 Oct 12 - 10:13

 ความคิดเห็นที่: 17 / 58 : 746394
โดย: ทวีรัฐ
ปลั๊กตัวบนคือ ปลั๊กไฟ ที่ส่ง-รับสัญญาณ ว่าตอนนี้เลื่อนไปที่ตำแหน่งไหน L-S-D-N-R-P (ช่างบางที่จะเรียกว่า หวีเกียร์ , สวิทช์เกียร์ ฯลฯ)
ส่วนตัวล่าง คือ เซนเซอร์เกียร์ จับสัญญาณว่าตอนนี้เกียร์จริงๆอยู่ที่ตำแหน่งไหน 1-2-3-4

ทั้ง 2 ตัวนี้แหละ ที่เป็นเป้าหมายในการล้าง เพื่อขั้วข้างในอาจสกปรก จนไฟฟ้า ไม่สามารถผ่านได้สะดวก ก็เท่ากับไม่ส่งสัญญาณออกไปตามหน้าที่ของมัน
วันที่: 18 Oct 12 - 10:20

 ความคิดเห็นที่: 18 / 58 : 746395
โดย: ทวีรัฐ
ส่วนถอดกรองออก ง่ายมาก
ตามรูป 1 น๊อตยึดกรองอากาศตัวล่าง เบอร์ 10
2 คลายเข็มขัดรัดท่อยางไอดี ไขควงแฉก
3 ถอดปลั๊ก แอร์โฟลว์ออก
วันที่: 18 Oct 12 - 10:23

 ความคิดเห็นที่: 19 / 58 : 746398
โดย: ทวีรัฐ
วิธีดึงปลั๊กแอร์โฟลว์
อยากแนะนำว่า ไหนๆก็ถอดตรงนี้มาแล้ว ควรถอด แอร์โฟล์ ล้างด้วยเลยครั้งเดียวดีกว่า

คือเมื่อถอดหม้อกรองออกมาแล้ว ตัวแอร์โฟลว์ก็มี น๊อต เบอร์10 อีก 2 ตัว คลายออก ก็ดึงออกมาได้
ลองส่องดู จะเห็นเป็นขดลวดบางๆเล็กๆอยู่ อย่าไปแตะต้องมันเชียวนะครับ หลักพันบาทเลยล่ะ

การทำความสะอาดใช้น้ำยาล้างหน้าคอนแทก ที่เป็นกระป๋องสเปรย์ ฉีดเข้าไปล้างให้สะอาดเยอะหน่อยนะครับ ดูจนมันสะอาดใส นั่นแหละ ปล่อยให้แห้งแล้วประกอบคืน

ส่วนปลั๊ก ที่เหลือ ก็ใช้ น้ำยาตัวนี้ฉีดทำความสะอาดให้เอี่ยมก่อน ต้องให้สะอาดนะครับ
แล้วสามารถใช้ น้ำยาครอบจักรวาล พวกsonax หรือ WD40 ฉีดเข้าไปนิดหน่อย พอให้ช่วยเป็นสะพานไฟได้
ควรล้างทำความสะอาดทั้ง ปลั๊กตัวผู้ และเบ้าปลั๊กตัวเมีย นะครับ

ค่าใช้จ่ายมีแค่ สเปรย์ล้างหน้าคอนแทก 1 กระป๋อง ประมาณ 100 บาท
น้ำยาครอบจักรวาล 60-95 บาท แล้วแต่ขนาด

ค่าแรง ถ้าคุณพ่อทำให้ อาจแพงหน่อยเพราะถ้าดีขึ้นคุณต้องพาท่านไปเลี้ยง
แต่ถ้าทำเองก็ฟรี

ลองดูนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเงิน ค่าแรงช่าง และยืนยันได้ว่าไม่โดนช่างหลอกกินค่าอะไหล่ ให้เปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก ถ้าไม่เสียจริง เซฟเงินไปหลักหมื่นกลางๆ

แต่ถ้ายังไง ก็ไม่ดีขึ้นเลย ก็จะได้ยืนยันได้ว่ามันคงกำลังจะหมดอายุจริงๆแล้ว ซึ่งดูจากอายุที่มันอยู่กับรถมา 17ปี แล้ว ก็ไม่แปลกนะครับ ที่มันจะหมดอายุ
แต่ก็ต้องดูจำนวน กม ที่วิ่ง และ ลักษณะการใช้งาน ของเจ้าของเก่า(กรณีมือสอง)ด้วย

ขอให้หาย นะครับ
วันที่: 18 Oct 12 - 10:38

 ความคิดเห็นที่: 20 / 58 : 746412
โดย: NaNa
อัพเดทอาการตอนเช้าอีกครั้ง ขับมาทำงานก็ปกตินะคะ ไม่มีอาการเปลียนเกียร์ไม่ได้แล้ว พอรอบ 2พันนิดๆ เกียร์ก็เปลี่ยนได้ปกติ ไม่หน่วงไม่อื้อ วิ่งที่ 80 ค่ะ

ขอบคุณ K.ทวีรัฐ มากเลยค่ะ รูปละเอียดดีมากเลย เมื่อเช้าไปยืนดูอยู่ เห็นเจ้าปลั๊กที่ว่านี้แล้ว

ขอสอบถามเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ
- สเปรย์ล้างหน้าคอนแทก ซื้อได้ที่ไหนบ้าง แล้วที่ K.ทวีรัฐ ใช้อยู่ ใช้ยี่ห้ออะไร กระป๋องสีอะไรคะ
- เวลาจะถอดออกมาล้าง ปลั๊กไฟเกียร์ดึงตรงๆ ให้ปลั๊กแยกออกจากกันได้เลยใช่มั๊ยคะ แล้วเอาสเปรย์ล้างหน้าคอนแทก ฉีดล้างเข้าไปด้านในทั้ง 2 ด้าน แล้วเอาแปรงสีฟันถูด้านในทั้ง 2 ด้าน รอจนแห้งแล้วค่อยประกอบกลับเหมือนเดิม ถูกมั๊ยคะ
- เซ็นเซอร์เกียร์ ไม่ต้องดึงออกมาแต่ฉีดสเปรย์ล้างหน้าคอนแทก บริเวณรอบๆ ให้ทั่วๆ แต่ไม่ต้องฉีดอัดลงไปตามรู(ที่มีสายไฟต่อเข้าไป)ใช่มั๊ยคะ เพราะเห็นมีสายไฟด้วย กลัวไฟจะช๊อต
วันที่: 18 Oct 12 - 12:32

หน้าที่: [1]   2   3