Mass Air Flow (g/s) = ประมาณอากาศ หน่วยเป็นกรัมต่อวินาที
Intake Air Temp = อุณหภูมิอากาศในท่อไอดี หน่วยเป็น Celsius
Intake Manifold Air Pressure = ความดันอากาศในท่อไอดี หน่วยเป็น Bar
ก็ log ค่าที่ว่ามาแล้วมาคำนวนหา VE ครับ
ถ้าค่า VE เพิ่มขึ้นก็แสดงว่า ดีขึ้น ถ้า VE ลดลงก็แสดงว่าแย่ลง
ซึ่งท่อ เฮดเดอร์ กรองเปลือย พวกนี้จะมีรอบที่เขาคำนวนให้มีค่า VE สูงสุดอยู่ครับ
รถตีนต้น ค่า VE สูงสุดก็จะอยู่รอบต่ำหน่อย
รถตีนปลาย ค่า VE สูงสุดก็จะอยู่แถวรอบสูงๆ
ในกรณีของ Mazda3 เครื่อง 2 ลิตร รุ่นไม่มีวาวล์แปรผัน
ได้แรงม้าสูงสุดที่ครื่อง 141 HP
เมื่อคำนวนค่า VE ออกมาจะพบว่า VE ของเครื่องโรงงานนั้นอยู่ที่ 94.3%
อย่างใน Mazda3 ก็มีระบบนี้มาคือ VIS
ระบบ VIS จะไปลดพื้นที่หน้าตัดท่อไอดีลง
ทำให้อากาศที่ไหลเข้ามา ไหลเข้ามาที่ความเร็วสูงขึ้น
ทำให้เปิดวาวล์ไอดีได้นานขึ้นด้วย
การจะตรวจค่า VE ต้องมี Data logger ครับ
ใช้วิธีวัดค่า MAF เอา ซึ่งเป็นหน่วย g/s แล้วมาแปลงเป็น cc ที่ความดันบรรยากาศครับ
แล้วดูว่าตอนนี้รอบเครื่องอยู่ที่เท่าไร มีกี่สูบ สูบละกี่ cc เราก็จะรู้ว่า อากาศวิ่งเข้าแต่ละสูบไป สูบล่ะกี่ cc พอเอาอากาศที่วิ่งเข้า หารได้ขนาดสูบ เราก็จะได้ค่า VE ออกมาครับ
ว่าง่ายๆ คือ ถ้าเรามี Data logger แล้วเขียนโปรแกรมตรวจ VE ไว้
ก่อนแต่งอะไร ก็วิ่งจับค่า VE ไว้ก่อน พอ
ทำท่อไอเสีย ไอดี เฮดเดอร์เสร็จ ก็เอาออกไปวิ่งอีกรอบ เก็บค่า VE มาเทียบกับของเดิม