Close this window

มีวิธีหรืออุปกรณ์ใดทดสอบไฟรั่วจาก Battery ไหมครับ
พอดีจอดไว้ 2 วันแบตหมด ทุกที
ถ้าจอดไว้วันเดียว ไม่เป็นไร แต่รู้สึกว่า Bat อ่อนลง
หลังจากขับแล้วจอด พบว่า ไฟแรงขึ้น

ส่วนตัวคิดว่า
1. ไดไม่น่าเป็นไรใช่ไหมครับ
2. แบต เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ 4 เดือน
3. น้ำกลับไม่พร่อง ดูแลตลอด
4. น่าจะมีไฟรั่วที่กินไฟ ทีละน้อยๆ จากแบต
รถผมติดเครื่องเสียง Power 2 ตัว ขับ sub และ ชุดลำโพงปกติ
ถามเป็นความรู้อีกว่า ถ้าสมมุติ มีสายไฟอะไรที่เป็นสายบวก แล้ว ขาด มีทองแดงไปติดกับตัวถังรถ
จนทำให้ไฟมัน ถึงกัน ( แต่ว่าเป็นสายที่ใช้ไฟไม่เยอะ ) แบบนี้ มันจะช๊อด ไหม้เลย หรือว่า มันจะกินไฟ อย่างที่ผมเป็นอยู่ครับ เป็นไปได้หรือป่าว ครับ
รบกวนแค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณครับ
โดย: x   วันที่: 15 Jan 2010 - 13:32


 ความคิดเห็นที่: 1 / 15 : 536677
โดย: mid
คุณต้อมมี volt meter , amp ,meter เป็นอุปกรณ์หลักครับหากจะทำด้วยตนเอง
วันที่: 15 Jan 10 - 14:01

 ความคิดเห็นที่: 2 / 15 : 536684
โดย: Yut13
ต้องเอา DC ampmeter วัดดูปกติจะมีกระแสไหลเมื่อเครื่องดับ (Dark current) 20 mA DC
ลองดูสเปคของ New Sedan เปรียบเทียบ
วันที่: 15 Jan 10 - 14:21

 ความคิดเห็นที่: 3 / 15 : 536686
โดย: Yut13
แก้ไข Dark current ไม่เกิน 20 mA
ลองเช็คกระแส/แรงดันของการชาร์ทแบตด้วย
วันที่: 15 Jan 10 - 14:26

 ความคิดเห็นที่: 4 / 15 : 536693
โดย: หมอหมา
เรื่องนี้ต้องถามป๋ายุทธ ตอบเนียนๆ วิชาการมั๊กๆๆ
วันที่: 15 Jan 10 - 14:47

 ความคิดเห็นที่: 5 / 15 : 536780
โดย: @@วุฒิ@@

แอบเข้ามาอ่าน ได้ข้อมูล ดีๆ อีกแล้ว
วันที่: 15 Jan 10 - 21:53

 ความคิดเห็นที่: 6 / 15 : 536802
โดย: Switch_ON!
ช่วยแปลหรืออธิบายคำว่า dark current หน่อยได้มั๊ยป๋า มันหมายถึงกระแสอะไรอ่ะ
วันที่: 16 Jan 10 - 02:21

 ความคิดเห็นที่: 7 / 15 : 536812
โดย: เด็กดี
ลองถอดฟิวส์ เครื่องเสียงออกก่อนครับ แล้วลองจอดรถไว้สัก 2 วันแล้วลองมาสตาร์ดไหม่ว่าติดหรือเปล่า ถ้้าไม่ติดลองให้ ร้านได เช็คกำลังไฟของไดชาร์ท อีกครั้งว่า ไฟมาพอกับกำลังแบตหรือเปล่าครับ
วันที่: 16 Jan 10 - 08:22

 ความคิดเห็นที่: 8 / 15 : 536819
โดย: บอมบ์
กระแสไฟที่ยังมีการไหลอย่างคงที่ในสภาวะที่อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ถูก power off ไปแล้วน่ะครับ

ถ้าเป็นรีโมททีวี ก็ตอน วางทิ้งไว้เฉย dark current จะเป็น ไมโครแอมป์ หรือต่ำกว่านั้น
ถ้าเป็นรถ ก็ตอนบิดกุญแจดับเครื่องแล้ว

ที่ยังมีไหลอยู่ก็เพราะ อุปกรณ์นั้นๆยังต้องการให้บางส่วนแอบทำงานอยู่เงีียบๆ หรือ มืดๆ
เช่น เลี้ยงหน่วยความจำหรือนาฬิกาให้จำค่าที่ตั้งไว้ได้ตลอด
หรือ การกลับมาทำงานแบบอัตโนมัติทันทีที่สัมผัสปุ่ม

ประมาณเนี้ย น่าจะใช่นะครับ
วันที่: 16 Jan 10 - 08:59

 ความคิดเห็นที่: 9 / 15 : 536841
โดย: Yut13
อธิบายไว้ใต้ตารางนั่นแหละ และอย่างที่คุณบอมบ์อธิบาย
วันที่: 16 Jan 10 - 10:46

 ความคิดเห็นที่: 10 / 15 : 536851
โดย: PapaRo@ch~*
เอาวิธีทดสอบง่ายๆดูก่อนละกัน

ผมจำมาจากร้านแบตอีกที

1.หาหลอดไฟLEDก้อได้ ที่มีสายไฟ+ -
2.ถอดแบตขั้วลบออก
3. เอาสายไฟข้างนึงของหลอดไฟจิ้มที่ขั้วลบของแบต อีกข้างจิ้มนี่ขั้วลบของรถ ไอ้ห่วงที่มันเคยครอบกขั้วแบตนั่นแหละ
4. เท่ากับว่าเราต่อหลอดไฟที่ลบกับลบ ถ้ารถปกติ หลอดไฟจะไม่สว่าง
5. ถ้าหลอดสว่างแสดงว่ามีไฟรั่วแน่นอน คราวนี้ค่อยๆลองถอดสายไฟที่ต่อกับขั้วบวกทีละอย่่าง
6.ถอดสายขั้วบวกอันไหนแล้วหลอดไฟดับ แสดงว่าระบบที่สายนั้นต่อนั่นแหละ คือตัวการทำไฟรั่ว

ลองดูนะครับ
วันที่: 16 Jan 10 - 11:47

 ความคิดเห็นที่: 11 / 15 : 536908
โดย: Yut13
ถ้า Dark current มันถึง 10 mA ขึ้นไป LED มันจะติดนะ
วันที่: 16 Jan 10 - 15:15

 ความคิดเห็นที่: 12 / 15 : 536957
โดย: พีร บางบัวทอง
ผมว่า วงจรมันต่อกันครบอยู่ ถ้าทำตามวิธีดังกล่าว ยังไงก็ไฟติดครับ
เช่น
หลอดไฟกระโปรงหลัง ไฟบวกมันก็วิ่งผ่านมารออยู่
พอจั้มไฟทดสอบ มันก็ครบวงจร ไฟติดแน่ๆ

ถ้าจะถอดอุปกรณ์ที่พร้อมทำงานแบบนี้
ก็ไม่รู้ว่าต้องปลดสายไหนบ้าง คงจะเยอะไปหมด
วันที่: 16 Jan 10 - 21:02

 ความคิดเห็นที่: 13 / 15 : 537156
โดย: PapaRo@ch~*

ผมว่า วงจรมันต่อกันครบอยู่ ถ้าทำตามวิธีดังกล่าว ยังไงก็ไฟติดครับ



ไม่ใช่ครับ

การต่อขั้วลบที่แบต กับขั้วลบของรถ ไฟต้องไม่ติดครับ เพราะเป็น ลบ กับ ลบ
ถ้าหลอดติด แสดงว่ามีไฟรั่วแน่นอนครับ
วันที่: 17 Jan 10 - 22:04

 ความคิดเห็นที่: 14 / 15 : 537186
โดย:
ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ
เดีญวจะลองไปทดสอบดูครับ ว่าจะเจออุปรณ์ที่กินไฟไหม ?
เพราะว่าสาย บวก ที่ นอกเหนือจาก Main มันก็มีอยู่ 3-4 เส้น
รู้สึกว่าจะเป็น สาย Power กับสาย sport light
จะลองเช็คดูครับ ตอนนี้ ต้องหาอุปกรณ์ทดสอบก่อน
แต่ เอ...... ผมมี meter มันเอามาใช้แทน เจ้าตัวหลอดไฟ ที่ว่าได้ไหมครับ แบบว่า
พอต่อปุ๊บ แล้วเข็มกระดิก แทนไฟติดน่ะครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ
วันที่: 17 Jan 10 - 23:31

 ความคิดเห็นที่: 15 / 15 : 554179
โดย: พงษ์
ให้ใช้หลอดไฟรถ 12V เล็กๆ เช่นหลอดไฟหรี่,ไฟท้าย5W ดีกว่าครับ เพราะหากมีกระแสวิ่งไหลมากเกิน forward current ของLED เช่น ช่วงขณะที่แตะขั้วแบตวินาทีแรก C ในเครื่องเสียงหรือระบบกันขโมยจะCharge ทำให้เกินกระแสไหลจำนวนมาก ทำให้LED น่าจะขาดได้ครับ
วันที่: 31 Mar 10 - 12:09