Close this window

++++เรื่องงานบุญครับ+++++
ในวันอาทิตย์ที่ 2 ที่จะถึงนี้ หลังจากไปทำบุญที่วัดแล้ว ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเที่ยง
หลังจากนั้น เราจะไปไหนกันต่อ ผมใคร่ขอความเห็นจากพี่น้องชาวคลับ ผู้ที่จะร่วมเดินทางหน่อยนะครับ ต้องขออภัยมา ณ จุดนี้ด้วย เพราะผมไม่ใช่คนในพื้นที่ และมุ่งประเด็นเน้นไปทางการบริจาคของเป็นอันดับแรก จึงอาจบกพร่องในการ เตรียมตัวและศึกษาเส้นทางที่เราจะไปกินเที่ยวกันต่อ และในการไปทำบุญครั้งนี้ ก็ได้มี เพื่อนกลุ่มอื่นไปด้วยเล็กน้อย ผมจึงยังไม่ทราบว่าหลังจากทำบุญแล้ว จะมีการแยกย้ายไปเฉพาะกลุ่มย่อยหรือเปล่า แต่ที่ผมคิดๆ ไว้คือ หลังจากที่เราไปเจอกันและทำบุญแล้ว ก็จะมาดูฟ้าดูฝน แล้วค่อยว่ากันว่าจะไปต่อไหนดีครับ.....

จึงใคร่ขออภัยและขอคำแนะนำมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณพี่น้องมากครับ

ปล. พี่ซันได้ให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ๆ จะไปต่อกับผมมาด้วย 2 ที่ คือ
1. พระราชวังบางปะอิน
2. ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร

ขอบคุณพี่ซันมากๆ ครับ
โดย: aoosolid   วันที่: 30 Jul 2009 - 17:52

หน้าที่: [1]   2   3   4   5   6   7   8

 ความคิดเห็นที่: 1 / 154 : 488055
โดย: rat626_____

หลังจากที่เราไปเจอกันและทำบุญแล้ว ก็จะมาดูฟ้าดูฝน แล้วค่อยว่ากันว่าจะไปต่อไหนดีครับ.....



เห็นด้วยครับ...เพราะฟ้าฝนช่วงนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้ เรยยย จิง ๆ




>>>หรือถ้าสมาชิกท่านใด มีข้อเสนอแนะดีๆ หลังจากทำบุญ ก้อจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง
รีบจัดมาด่วนเรยยย คับ...เวลาเหลือไม่มากแระ
วันที่: 30 Jul 09 - 18:08

 ความคิดเห็นที่: 2 / 154 : 488056
โดย: one2smile
ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร/ Royal Folk Arts and Crafts Center at Bang Sai

*** ค่าเข้าชมจ่ายก่อนเข้าผู้ใหญ่ 50 บาท จ่ายแล้วขับรถเข้าไปได้เลย ***

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ภายในมี "วังปลา" เป็นสถานจัดแสดงปลาน้ำจืดที่ใหญ่แห่งหนึ่ง มีปลาบึกตัวโตๆ และปลาอื่นๆ ให้เรียนรู้ วังปลา จัดสร้างและดำเนินงานโดยกรมประมง เป็นสถานแสดงพันธุ์ สัตว์น้ำจืด ตัวอาคารหลักมีตู้กระจกขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตู้ ตู้ใหญ่รูปเมล็ดถั่ว มีขนาดความจุ 1,400 ตัน อีกตู้หนึ่งทรงกลมขนาดความจุ 600 ตัน ภายในตู้ จะแสดงให้เห็นถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ ที่เป็นปลา พื้นเมืองของไทย เปิดให้ชม เวลา 10.00 - 16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ และวันอังคาร
วันที่: 30 Jul 09 - 18:09

 ความคิดเห็นที่: 3 / 154 : 488057
โดย: one2smile
สวนนก ดำเนินงานโดยมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพรรณพืชแห่ง ประเทศไทย ในพระราชินูปถัมภ์ สวนนกเป็นกรงนกขนาดใหญ่ 2 กรง ภายในมีนกพันธุ์ที่หาชมได้ยากมากกว่า 30 ชนิด มีการจัดสภาพแวดล้อม ภายในให้เหมือนธรรมชาติ อาทิ น้ำตกและธารน้ำจำลอง มีป่าจำลองที่ร่มรื่น ใกล้เคียงกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น
ไปชม และถ่ายภาพนกจากด้านบนของกรงได้อย่างชัดเจน และบริเวณรอบ ๆ กรงนกยังมีสัตว์ป่าอื่น ๆ ให้ชมอีกด้วย เปิดใหชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 19.00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
วันที่: 30 Jul 09 - 18:11

 ความคิดเห็นที่: 4 / 154 : 488058
โดย: one2smile
ศาลาพระมิ่งขวัญ เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ จตุรมุขสูง 4 ชั้น ตั้ง ตระหง่านอยู่กลางศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ชั้นล่าง เป็นศูนย์สาธิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพ ของศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ และศูนย์ศิลปาชีพอื่น ๆ ทั่วประเทศ ชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 เป็นนิทรรศการผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพชิ้นยอด เยี่ยมของศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ชั้นที่ 4 เป็นห้องประชุมสัมนา เปิดให้ชม ทุกวัน วันธรรมดา 09.00 - 17.00 น. วันหยุดราชการ 09.00 - 18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม
วันที่: 30 Jul 09 - 18:14

 ความคิดเห็นที่: 5 / 154 : 488059
โดย: one2smile
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันพระหัตถ์ นายถู เจี๋ย ในนามของประชาชน ชาวจีน ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม พันพระหัตถ์ ซึ่งแกะสลักจากไม้ จันทน์เหลือง สูง 6 เมตร จำนวน 1 องค์ แด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนม- พรรษาครบ 6 รอบ และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้นำมาประดิษฐานไว้ ณ พระตำหนักชั่วคราว ศาลาโรงช้าง ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ เพื่อให้ ประชาชนที่มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในพระโพธิสัตว์กวนอิม ได้มานมัสการ และ สักการะบูชา ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.

หมู่บ้านศิลปาชีพ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุน หมู่บ้านแห่งนี้ให้แก่ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ เพื่อเป็นสถานที่แสดงถึงสถาปัตย- กรรม ในการสร้างบ้านเรือนของคนไทยภาคต่าง ๆ การจำลองชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมไทยจากทั่วประเทศ ภายในหมู่บ้านมีการสาธิตวิถีชีวิต ความเป็นอยู่อย่างไทย ๆ ในแต่ละภาค และการสาธิตงานศิลปาชีพ เปิดให้ชม
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 -19.00 น. นอกจากนี้ยังมีการแสดงนาฏศิลป์ และการละเล่นพื้นบ้านทั้ง 4 ภาค ให้ชมด้วย
วันที่: 30 Jul 09 - 18:15

 ความคิดเห็นที่: 6 / 154 : 488062
โดย: one2smile
วังปลา
เปิดเวลา 10.00-16.00 น. เว้นวันจันทร์-อังคาร มีตู้แสดงพันธุ์ปลาสองตู้ ตู้ใหญ่ขนาดความจุ 1,400 ตัน อีกตู้เป็นตู้ทรงกลมขนาด 600 ตัน มีปลาน้ำจืดหลากหลายชนิด ทั้งปลาพื้นเมืองใกล้สูญพันธุ์ และปลาที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่น กระเบนราหู ปลาตะเพียนทอง ปลาเสือพ่นน้ำ ปลาบึก ปลากดดำ เป็นต้น ภายในอาคารยังมีภาพเขียนปลาไทยพร้อมคำบรรยาย
วันที่: 30 Jul 09 - 18:26

 ความคิดเห็นที่: 7 / 154 : 488063
โดย: one2smile
ตู้ปลาใหญ่ของศูนย์
วันที่: 30 Jul 09 - 18:27

 ความคิดเห็นที่: 8 / 154 : 488064
โดย: one2smile
.........
วันที่: 30 Jul 09 - 18:31

 ความคิดเห็นที่: 9 / 154 : 488065
โดย: one2smile
...........
วันที่: 30 Jul 09 - 18:31

 ความคิดเห็นที่: 10 / 154 : 488066
โดย: one2smile
พระราชวังบางประอินทร์

ในปัจจุบัน พระราชวังบางปะอินอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และยังใช้เป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย แต่ได้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยต้องแต่งกายให้สุภาพ
วันที่: 30 Jul 09 - 18:35

 ความคิดเห็นที่: 11 / 154 : 488069
โดย: one2smile
พระราชวังบางปะอิน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ไม่เว้นวันหยูดราชการ) ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น.อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก-นิสิต นักศึกษา (ในเครื่องแบบ)-พระภิกษุ สามเณร 20 บาท นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 50 บาท ผู้ที่ประสงค์จะเข้าชมโปรดแต่งกายสุภาพ

ภายในพระราชวังบางปะอินมีสิ่งที่น่าสนใจ

พระที่นั่งไอศวรรยทิพยอาสน์
วันที่: 30 Jul 09 - 18:41

 ความคิดเห็นที่: 12 / 154 : 488071
โดย: one2smile
พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร

อยู่ทางทิศตะวันออกตรงข้ามกับสระน้ำ เป็นพระที่นั่งเรือนไม้หมู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีเฉลียงตามแบบชาเลตของสวิส ทาสีเขียวอ่อนแก่สลับกันด้วยงานช่างที่ประณีต สิ่งประดับตกแต่งภายใน ประกอบด้วย เครื่องไม้มะฮอกกานีจัดสลับลายทองทับที่สั่งจากยุโรปทั้งสิ้น นอกนั้นเป็นสิ่งของหายากในประเทศ อันเป็นเครื่องราชบรรณาการจากหัวเมืองต่างๆ ทั่วราชอาณาเขตรอบๆ มีสวนดอกไม้สวยงาม เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรได้เกิดเพลิงไหม้ ขณะที่มีการซ่อมรักษาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ทำให้พระที่นั่งถูกทำลายไปกับกอง เพลิงหมดสิ้นทั้งองค์คงเหลือแต่หอน้ำ ปัจจุบันได้สร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมทุกประการ แต่เปลี่ยนวัสดุจากไม้เป็นอาคารคอนกรีตแทน
วันที่: 30 Jul 09 - 18:42

 ความคิดเห็นที่: 13 / 154 : 488072
โดย: one2smile
หอวิฑูรทัศนา

เป็นพระที่นั่งหอสูงยอดมน ตั้งอยู่กลางเกาะน้อยในสวนเขตพระราชวังชั้นในระหว่างพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียรกับพระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ เป็นพระที่นั่ง 3 ชั้น มีบันไดเวียน เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศบ้านเมืองโดยรอบสร้างในรัชกาลที่5 เมื่อปี พ.ศ. 2424
วันที่: 30 Jul 09 - 18:42

 ความคิดเห็นที่: 14 / 154 : 488074
โดย: one2smile
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของพระราชวังถัดจากหอวิฑูรทัศนาขึ้นไป พระที่นั่งองค์นี้มีนามเป็นภาษาจีนว่า "เทียน เม่ง เต้ย" (เทียน=เวหา, เม่ง=จำรูญ, เต้ย=พระที่นั่ง) ประชาชนทั่วไปเรียกว่า "เก๋งจีน" เพื่อเป็นพระที่นั่งสำหรับประทับ ในฤดูหนาว โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนในไทยสร้างถวาย รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2432 ลักษณะเป็นพระที่นั่งศิลปะ แบบจีน ที่มีลายแกะสลักได้อย่างงดงามวิจิตรยิ่ง โถงด้านหน้าปูด้วยกระเบื้อง แบบกังไส เขียนภาพด้วยมือทุกชิ้น แม้ว่าภาพจะเหมือนกันแต่เนื่องจากเป็นงานฝีมือ จึงมีความแตกต่าง กันในรายละเอียดที่ทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
วันที่: 30 Jul 09 - 18:43

 ความคิดเห็นที่: 15 / 154 : 488075
โดย: one2smile
พระที่นั่งวโรภาษพิมาน

เป็นท้องพระโรงอยู่ทางตอนเหนือของ "สะพานเสด็จ" ซึ่งเป็นท่าน้ำสำหรับเสด็จพระราชดำเนินขึ้นลง เดิมเป็นเรือนไม้สองชั้น เป็นที่ตั้งประทับและท้องพระโรงร่วมกัน ต่อมารัชกาลที่5 โปรดฯให้รื้อสร้างใหม่เป็นอาคารทรงวิหารกรีกแบบคอรินเธียรออร์เดอร์ ใช้เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออก ขุนนางในงานพระราชพิธี สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2419 เคยเป็นที่รับรองแขกเมืองหลายครั้ง เช่นปี พ.ศ. 2436 รับรองพระเจ้าชาร์ลคลัสแห่งประเทศรัสเซีย ปี พ.ศ. 2436 รับรองมองซิเออราวีร์ ฑูตฝรั่งเศส และปี พ.ศ. 2452 รับรองดุ๊กและดัชเชสโยฮันเบรต แห่งเมืองบรันทวีท แห่งประเทศเยอรมัน ถึงในปัจจุบัน ก็ยังใช้เป็นที่รับรองแขกเมืองสำคัญอยู่เสมอ สิ่งสำคัญในพระที่นั่งเป็นภาพชุดพระราชพงศาวดาร กับภาพเรื่องอิเหนา พระอภัยมณีและรามเกียรติ์
วันที่: 30 Jul 09 - 18:44

 ความคิดเห็นที่: 16 / 154 : 488076
โดย: one2smile
หอเหมมณเฑียรเทวราช
เป็นปรางค์ศิลาในเขตพระราชวังชั้นนอกริมสระใต้ต้นโพธิ์ เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างขึ้นแทนศาลเดิมที่ชาวบ้านสร้างไว้ อุทิศถวายพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2422
วันที่: 30 Jul 09 - 18:44

 ความคิดเห็นที่: 17 / 154 : 488077
โดย: one2smile
อนุสาวรีย์พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์และเ จ้าฟ้าสามพระองค์หรือ อนุสาวรีย์ราชานุสรณ์
ในปี พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเศร้าโศก เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง อีกครั้งหนึ่ง ด้วยทรงสูญเสียพระอัครชายาเธอฯ พระราชโอรสและพระราชธิดาถึง 3 พระองค์ ในปีเดียวกัน คือ สมเด็จเจ้าฟ้าสิริราชกกุธภัณฑ์ เมื่อวัน พฤษภาคม พ.ศ. 2430 พระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ เมื่อวันที่ กรกฎาคม พ.ศ. 2430 สมเด็จเจ้าฟ้าพาหุรัตมณีชัย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2430 และสมเด็จเจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตมดำรง เมื่อ พฤศจิกายน พ.ศ. 2430 ดังนั้นในปี พ.ศ. 2431 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์ ที่ระลึกทำด้วยหินอ่อนแกะสลักพระรูปเหมือนไว้ใกล้กับ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
วันที่: 30 Jul 09 - 18:45

 ความคิดเห็นที่: 18 / 154 : 488078
โดย: one2smile
อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม)

ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระราชวัง ก่อสร้างด้วยหินอ่อนก่อเป็นแท่ง 6 เหลี่ยม สูง 3 เมตร บรรจุพระสริรังคารของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทา กุมารีรัตน์พระมเหสีในพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


-----------------------------------------

สภาคารราชประยูร
เป็นตึกสองชั้นริมลำน้ำตรงหน้าพระที่นั่งวโรภาษพิมาน ในเขตพระราชวังชั้นนอกสร้างในรัชกาลที่ 5 สำหรับใช้เป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายหน้าและข้าราชบริพาร


-----------------------------------------

เก๋งบุปผาประพาส
เป็นตำหนักเเล็กอยู่กลางสวนริมสระน้ำในเขตพระราชวังชั้นใน สร้างในสมัยรัชกาลที่5 เมื่อ ปี พ.ศ. 2424 ใช้เป็นหอส่องกล้องชมภูมิประเทศและดูดาว


-----------------------------------------
วันที่: 30 Jul 09 - 18:46

 ความคิดเห็นที่: 19 / 154 : 488079
โดย: one2smile
ตลาดโก้งโค้ง (บ้านแสงโสม) อำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
ตั้งอยู่ที่ บ้านแสงโสม หมู่ 5 ถนนบางปะอิน-วัดพนัญเชิง (ติดวัดบ้านเลน) ตำบลขนอนหลวง หรืออยู่ห่างจากตัวอำเภอพระนครศรีอยุธยา 11 กิโลเมตร เป็นตลาดโบราณย้อนยุคที่ น่าสนใจแห่งหนึ่งเรียกว่า " บ้านแสงโสม" ลักษณะเป็นบ้านเรือนไทยหมู่ใหญ่ คงความเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณ และสามารถสัมผัสกับบรรยากาศเก่าๆ แบบสมัยกรุงศรีอยุธยา และพบกับวิถีชีวิตของไทยในอดีตที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาเพืออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

บริเวณบ้านแสงโสม ในอดีตเป็นด่านขนอน (ด่านเก็บภาษีในอดีต) และเป็นสถานที่ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้านานาชนิด ทั้งที่เป็นสินค้าชุมชนและสินค้าที่มาจากต่างเมือง ส่วนคำว่า ตลาดโก้งโค้ง นั้น เป็นคำที่ใข้เรียกตลาดในสมัยโบราณที่เคยมีคู่กับกรุงศรีอยุธยามาเป็นเวลา นาน โดยคนขายสินค้าจะนั่งขายสินค้าอยู่บนพื้นดิน ดังนั้นคนที่มาซี้อสินค้าจะต้อง โก้งโค้ง เพื่อเลือกดูสินค้าที่ตนสนใจ โดยอากัปกริยาโก้งโค้งของคนไทยนั้น ทำได้สุภาพ นุ่มนวล เป็นกิริยาที่แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน

ภายในตลาด จำหน่ายพืช ผัก ผลไม้ปลอดสารพิษจากสวนชุมชน สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารคาว-หวานนานาชนิด โดยพ่อค้าแม่ค้าจะแต่งกายชุดไทยย้อนยุค

เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น
วันที่: 30 Jul 09 - 18:48

 ความคิดเห็นที่: 20 / 154 : 488080
โดย: aoosolid
เลือกไม่ถูกแล้ว
วันที่: 30 Jul 09 - 18:49

หน้าที่: [1]   2   3   4   5   6   7   8