ผมแนะนำเป็นลำโพงขนาด 6*9 นะครับ เนื่องจากมีขนาดกรวยของวูฟเฟอร์ค่อนข้างใหญ่ ทำให้การผลักอากาศเพื่อสร้างมวลเสียงทุ้มทำได้ดี

อุปกรณ์ที่ใช้
1.ฟร้อนที่มีกำลังขับแบบ 4ch หน้า 2หลัง2
2.ลำโพงขนาด6*9 แล้วแต่ชอบ (5นิ้ว หรือ6นิ้ว 2ทางแกนร่วมก็ทำได้นะครับ)
3.สายลำโพงคุณภาพดี 4ชุด

วิธีเล่นของผมแบบนี้นะครับ ลำโพง6*9 ยกขึ้นมาเหนือบหัวละยกมือไหว้พร้อมอธิฐานว่า "จงเสียงดี"มะใช่ครับ ผมต่อเป็นลักษณะ ไบแอมป์แบบพาสซีพ สำหรับชุดเครื่องเสียงราคาไม่แพงที่ฟร้อนมีภาคขับ 4ch

ขั้นแรกนะครับ นำลำโพง 6*9 มา สังเกตุสายอ่อนๆที่ต่อระหว่างลำโพงทุ้มไปหาลำโพงแหลม ให้จัดการตัดมันออกจากกันนะครับ ฉะนั้นตอนนี้เราจะได้ลำโพง2ชุดที่ติดตั้งบนแกนเดียวกัน (จุดกำเนิดเสียงใกล้กันทำให้เสียงที่ออกมานั้นเหมือนออกจากจุดเดียวกัน (ตัวอย่างลำโพง Uni Q ของ KEF)
พอตัดสายออกจากกันแล้ว ให้บัดกรีสายที่ต่อที่ขั้วลำโพงเสียงกลางแหลมให้หลุดเหลือแต่ขั้วมันเปล่าๆ (ทำไว้เพื่อพร้อมจะบัดกรีเข้ากับสายใหม่)

ขั้นที่สอง จัดการเดินสายลำโพงจากฟร้อนมา4ชุด ชุดขวา2 ซ้าย2 ผมใช้รหัสดังนี้นะครับ
LL คือ ลำโพง Low Left (เสียงต่ำข้างซ้าย)
LR คือ ลำโพง Low Right (เสียงต่ำข้างขวา)
HL คือ ลำโพง High Left (เสียงสูงข้างซ้าย)
HR คือ ลำโพง High Right (เสียงสูงข้งขวา)

ขั้นที่สาม จัดการต่อดังนี้
เดินสาย LL เข้าลำโพง6*9 ชุดวูฟเฟอร์คือที่ขั้วลำโพงหลักเลย
เดินสาย HL เข้าชุดลำโพงเล็ก(กลางแหลม) ด้านบนกรวยวูฟเฟอร์ อีก1ชุด

ด้านขวาทำซ้ำด้านบนแต่ใช้ชุด LR HR

หลังจากทำเสร็จ สมมุติว่าฟร้อนเรามีกำลังขับขนาด 50w*4 ชุดด้านซ้ายและขวาเราจะได้กำลังขับจากแอมป์ในฟร้อนราวๆ100w
ในการต่อแบบนี้นอกจากได้กำลังขับเพิ่มสองเท่าแล้ว ยังจะสามารถปรับเสียงกลางแหลมและทุ้มจากการ Faderได้อีกด้วย เช่นเราต้องการให้แหลมมากขึ้นเราก็เฟดไปทางด้านหลัง(ในฟร้อนเรา) เสียงทุ้มจากสายชุดลำโพงด้านหน้าก็จะเบาลงเอง

การทำเช่นนี้เปนการลดเอฟเฟคจากการเดินทางของสัญญาณ ในลักษณะ Simple of The Best สัญญาณจะผ่านน้อยมากไม่จำเป็นต้องใช้ตัวครอสโอเวอร์ต่างๆเพื่อมาลดรึเพิ่มเสียงในและแชนแนล

ข้อเสียของการต่อแบบนี้ ฟร้อนเราจะกินไฟจากแบตมากขึ้น เนื่องจากเราใช้พร้อมกันทั้ง4แชนแนล แนะนำให้หา Capacitor มาต่อขนาดกับสายไฟเลี้ยงเข้าฟร้อน ค่า10000UF+ และนำค่าC ขนาดเล็กมาต่อคร่อมตัวใหญ่อีกทีนึงเพื่อช่วยให้ตัวใหญ่คายประจุได้ไวขึ้นทันต่อการดึงไฟของสัญญาณเสียงจริง

ข้อดีของการต่อเช่นนี้คือ ประหยัดงบประมาณเพราะใช้แค่ฟร้อนกะลำโพงเพียง1คู่ แถมได้อิมเมจของเสียงที่ไม่ผิดเพี้ยน(ขึ้นอยุ่กับองค์ประกอบต่างๆในระบบด้วยนะครับ) แต่ที่แน่ๆเปิดดังได้กว่าตอนต่อเพียงชุดเดียวแน่นอน เนื่องจากตัวกลางแหลมไม่ดึงกำลังขับจากพาวเวอร์แอมป์ตัวเดียวกับเสียงทุ้ม จึงส่งผลให้กลางแหลมสะอาดและชัดขึ้น

ทริคอีกนิดนึงสำหรับคนที่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิคส์ ค่า C ที่ตัวลำโพงของชุดกลางแหลม ปกติของเดิมจะเป็นแบบ อิเล็กทรอไลติค ซึ่งมีขนาดเล็กและหาซื้อง่ายราคาถูก แต่คุณภาพห่วย ท่านสามารถเปลี่ยนเป็นแบบ ฟิลม์ได้ เช่นยี่ห้อ SCR Bennic Q4 2ยี่ห้อหลังหาได้ที่นัฐพงศ์บ้านหม้อครับ อันนี้จะได้ความสะอาดและชัดเจนของเนื้อเสียงกลางและแหลมมากขึ้น(ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของC)

โดย: wit@stina   วันที่: 1 Jun 2009 - 09:54

 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 460561

โดย: wit@stina

ภาพตัวอย่างง่ายๆนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 461340

โดย: bert

ตามผังข้างบน เป็นการต่อไบแอมป์พาสซีฟนั่นเอง ตามที่ลำโพงยอดฮิตสมัยก่อน JBL T595 ทำมา

แต่อย่าลืมครับ ว่าลำโพงต้องมี พาสซีฟเพื่อแบ่งแยกความถี่เสียงก่อนเข้าสู่ดอกลำโพง ลำโพงราคาไม่แพงขนาด 6 x 9 ส่วนใหญ่มักจะมีแค่ C คร่อมที่ tweeter ตัวเดียว ตัดความลาดชันที่ 6 db/oct หรือ coil แกนอากาศต่อก่อนเข้า woofer

ดังนั้นจึงเป็นการขับแบบ full range สำหรับดอกลำโพงเสียงกลาง และแหลมผ่าน passive crossover เสียงที่ได้ อาจจะดังมากกว่าเดิมเพียงเล็กน้อยหรืออาจจะแทบจะจับความแตกต่างไม่ได้

กำลังวัตต์วัดแบบ rms ของวิทยุปัจจุบันไม่น่าเกิน 20w rms/channnel ถ้าจะต่อ capacitor แนะนำให้ใช้ 1,000uf/วัตต์ครับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 461368

โดย: wit@stina

อิๆเซียนมาตอบเองเลย ขอบคุณครับคุณ bert แต่ประเด็นของผมจริงๆคือ เอาอุปกรณ์เดิมๆมาทำให้มันดีขึ้นอีกหน่อยนะครับ เนื่องจากผมงบประมาณไม่มาก

สำหรับเรื่องพาสซีพครอสโอเวอร์ที่เป็นตัว C ต่อคร่อมตัวเดียวมันตัดไม่ค่อยลาดชันมากนักเพียง6db/octave ทำให้ความถี่ข้างเคียงยังหลุดออกมาพอสมควร นั้นมันก็จริงนะครับ แต่ผมมองไปที่การบิดเบือนทางเฟสของสัญญาณอันส่งผลไปถึงความแม่นยำของตำแหน่งชิ้นดนตรีนะครับ ยิ่งครอสตัดสูง 12db/oct 18db/oct 24db/oct มันตัดได้ชัดก็จริงแต่เฟสของสัญญาณจริงก็ถูกบิดเบือนไปมากพอสมควร อันนี้พูดในแง่ของพาสซีพนะครับ ใจจริงอยากได้ full range แบบ bose 101 ถอดแต่ไดรเวอร์มาติดนะครับแต่งบไม่มี แหะๆ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 461381

โดย: "ลุง"

ถ้าจะเล่นแนวนี้ ผมขอแนะนำอีกทางเลือกแล้วกัน ขออภัยเจ้าของกระทู้นะครับ

1.ฟร้อนต์ ออกเหมือนเดิมที่ จขกท.บอกไว้

2.ลำโพงกลางแหลม ขอเป็น 6" แยกชิ้น ซึ่งเราจะได้ พาสซีพมาด้วย แต่ถ้าจะเอาง่ายสุด

คือลองหาลำโพงที่ พาสซีฟทำมาเพื่อทำ ไบแอมป์ ซึ่งจะมี ขั้ว In Put 2ช่องออก 2 ช่อง

ไม่มีไม่เป็นไร ถ้างบจำกัด แต่ดูสเป็กมันหน่อยให้เลือกความไวประมาณ 93 db

หรือ 92 db ก็พอทน

ขั้นตอนต่อไปคือการวางระบบ ชุดนี้ที่ผมแนะนำคือจัดแบบ ไฮพาวเวอร์ฟ้อนต์สเตจ ครับ

ขั้นตอนแรก ดูพาสซีฟก่อน ถ้าเข้า 2 ออก 2 ก้ไม่ต้องเหนื่อย จบ

แต่ถ้าเข้า 1 แร้วออก 2 ลองไล่วงจรพาสซีฟดูไม่ยากครับ มีแค่ C. กับ คอยล์ ไล่ลายน์ดู

ว่าอันใหนออก กลาง อันใหน ออกแหลม แร้วก็ แบ่งเองเลยครับ ทำขั้วเพิ่มหรือ ย้ายมาลง

ปริ๊นท์ใหม่ก็ได้ ให้มันแยก กลางกับแหลมให้เป็นของใครของมัน

ขั้นตอนที่สอง ก็ นำเอาสายลำโพงคู่หน้าเข้า พาสซีฟแหลมเพียวๆทั้งซ้ายขวา

ขาออกก็นำมาขับทวีตเตอร์ ส่วนสายลำโพงคู่หลังก็เข้าพาสซีฟเสียงกลางแล้วมาขับ 6"

ต่อไปก็เป็นการ จูนให้เสียง แมท์ชิ่งกัน โดยจูนในฟ้อนต์

ระบบนี้ก็จะมีแค่ ฟ้อนต์(เครื่องเล่นCD 1 ตัว)ลำโพงหน้าแยกชิ้น 1 คู่ สายไฟ สายลำโพง

ถ้าใครอยากต้องการความอิ่มของเสียงในราคาเบาๆก็เพิ่ม C.(Capacitor)ได้ครับ

ใช้ซ๊าก 150,000 ไมโครฟาราสก็พอ แล้วอนาคตถ้าอยากได้ เบสที่มีมวลมากกว่านี้

ค่อยเพิ่มซับบ๊อก ซักตัว ระบบโดยรวม ก็สุนทรีย์ในระดับหนึ่งแล้ว

ที่สำคัญระบบเสียงจะดูดี ตำแหน่งลำโพงกลางแหลงสำคัญมาก เพราะจะแสดงเวทีเสียง

แล้วก็ง่ายๆ ต่อไปครับ "กินง่าย ถ่ายคล่อง" คือสายไฟดีได้มาตรฐานระบบนี้เบอร์ 8 ก็น่าจะพอ

ถ่ายคล่อง- ก็ฟ้อนต์ดี ลำโพงดี สายลำโพงดี ติดตั้งดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 461382

โดย: "ลุง"

เพิ่มเติมอีกนิดครับ การฟังเพลงอย่าลืมว่าเราอยากนั่งดูดนตรีอยู่หน้าเวที

ไม่ใช่อยู่กลางเวทีหรือหลังเวที เพราะฉะนั้นลำโพงคู่หลัง เป็นได้แค่เรียฟิลล์

เพื่อสร้างบรรยากาศ ส่วนใหญ่นักฟังทั้งหลายจะไม่ค่อยใส่คู่หลังกันเท่าใหร่เพราะ

จะมากวนเวทีด้านหน้า ที่ใส่ก็ต้องจูน ให้มีเหมือนไม่มี ดังนั้นคู่หน้าคู่เดียวก็พอครับ

แล้วระบบอุปกรณ์ยิ่งน้อยชิ้นเราก็จะได้ซึมซับ เสียงที่โดนบิดเบือนน้อยลงเท่านั้น

พวกปรีแอมป์ที่ร้านยัดมาให้ลองถอดออกแล้วฟังเพียวๆจูนดีๆ เสียงจะออกมา

โดยที่ท่านคิดไม่ถึงครับ ลองดูก็ได้ไม่เสียหาย

****ขอให้มีความสุขกับการฟังครับ****

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 461439

โดย: wit@stina

ตาม คห.3กะ4 ก็น่าสนนะครับ แต่จะลงทุนแยกปริ้นครอสโอเวอร์ผมว่าเดิน Hard wire ไปเลย เต็มที่กว่าใช้ปริ้นนะครับ สามารถจูนเสียงจากสายที่เดินตรง Hard wire ได้อีกครับ


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 461553

โดย: bert

เสริมนิดครับ ลำโพงที่ความไวมาก ส่วนใหญ่นะ จะไม่มีพาสซีฟสำหรับลำโพงเสียงกลางทุ้ม มีแต่ C กับตัวต้านทานสำหรับเสียงแหลม

พาสซีพถ้าไม่แยกสำหรับ ไบแอมป์ เราสามารถถอดอุปกรณ์ออกมาทำฮาร์ดไวร์ได้เช่นกัน เอาขาพันขาเลย แต่คงต้องหาแผ่นไม้มายึดอุปกรณ์ครับ

เรื่องลำโพง จากที่เคยฟังมา ลำโพงกลมมักจะเสียงดีกว่าลำโพงรูปไข่ครับ เข้าใจว่าการทำงานของมันลงตัวและขับเคลื่อนกรวยได้แบบลูกสูบครับ และที่สำคัญ มันไม่มีลำโพงมาบังกรวยลำโพงครับ เสียงออกเต็ม ๆ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 461568

โดย: wit@stina

วันนี้ได้ลำโพงมาละครับ ลองสั่งจากในเวปเป็นของมือสอง ยังไม่รู้ผลจะเป็นไงพอดีลองกะลำโพงเก่าในรถ เต้นเขาใส่มาได้สุดยอดจริงๆครับ เต้นกม.8 ผมยังอึนกะเขาอย่เลยตอนนี้ผมซื้อตาตี่กะเต้นเขาละในข้อตกลงบอกจะเปลี่ยนขอบยางประตูให้ด้วย สั่งมาจะเดือนนึงละไม่ได้ซักที พอมาดูในส่วนเครื่องเสียง ลำโพงคู่หน้า เป็น6.5นิ้วแยกชิ้น ตัว6.5นิ้วเสียงกลางทุ้มใช้ได้ แต่แหลมไม่มีเสียงดูสายไฟปรากฏว่า มีลักษณะคล้ายหนูแทะ ลองต่อสายดูลำโพงแหลมขาดทั้ง2ข้างอีก คู่หลัง เป็น6.5 3ทางแกนร่วม ผมเลยย้ายตัวหลังมาไว้ตัวหน้าแทนกะใช้ไปก่อน ปรากฏว่า(อีกและ) ตัวด้านขวาชุดกลางแหลมขาดอีก ละวัดค่าความต้านทานด้วยมัลติมิเตอร์ที่ลำโพงด้านขวาตัวเสียงทุ้มปรากฏว่าค่าความต้านทานวิ่งไปที่24 โอมห์ แม่เจ้าสุดยอดจริงๆเต้นนี้ ผมเลยต่อไว้ฟังแก้เครียดไปพลางๆตอนรถติด จนเก็บเงินได้ก้อนนึง เลยลองซื้อลำโพงมือสองจากในเวปนี้ดู เป็นยี่ห้อ kenwood กรวยเป็นเคฟล่า (ดูจากโหงวเฮ้งน่าจะให้เสียงกลางที่สะอาดและโปร่งชัด) ตัวแหลมเป็นโดมโพลีขนาด3/4นิ้ว ราคาไม่แพงมากมาย 1,100บาทรวมค่าส่ง วันนี้ผมได้รับของละกะเลิกงานจะไปต่อแทนของเดิม อยากฟังเพลงที่มันเหมือนเพลงกะเขาซักที

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 461775

โดย: bert

อ่านแล้วสุดยอดเลยครับ ขอให้ประสบกับความสำเร็จกับลำโพงคู่ใหม่ครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 461779

โดย: "ลุง"

"ขอให้มีความสุขกับการฟังครับ จริงม่ะพี่เบิร์ท"

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 461937

โดย: wit@stina

ผลออกมาละงับหลังจากล้างลำโพงดด้วยแผ่น ล้างคลื่นไฟฟ้าสถิตของเชฟฟิลแลป เสียงที่ได้มาค่อนข้างสะอาดแต่ขาดเสียงเบสเนื่องจากแผ่นไม้ที่ยึกลำโพงเขาเจาะมาแบบไม่พอดีกับตัวลำโพง และเป็นไม้แบบขอไปที ขัดนอตละหวานเจี้ยบมดขึ้น จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้ปืนกาวความร้อนยึดรอบลำโพงอีกที ไว้รอเปลี่นแผ่นไม้เป็น mdf น่าจะแน่นขึ้น

พอต่อเสร็จผมก็ลองเปิดฟัง เสียงกลางแหลมที่ออกมาค่อนข้างลอยจากลำโพงพอสมควร (เนื่องจากกำลังขับจากแอมป์น้อย) แต่ความสะอาดและชัดเจนพอรับได้ครับ เสียงร้องไม่ครุมเครือจนฟังลำบาก เสียงแหลมไม่จัดจนหูแสบ ติดตรงเสียงทุ้ม เนื่องจากคลื่นเสียงด้านหลังมันรอดผ่านรูไม้ที่ยึดลำโพงมาหักล้างกับคลื่นด้านหน้า ทำให้เสียงทุ้มหายไปพอสมควร

กะอีกสาเหตุที่เจอมาคือเครื่องมันกะท่อมันดังเข้ามากวนเสียงจากลำโพงมากมาย สงสัยต้องหาเงินจากรัฐบาลก้อนใหม่ มาทำต่อ