MazdaClub.NET

อยากรู้ ข้อดีและข้อเสียของ 323 pop up หน่อยครับ


โดย: DJ_JOM วันที่: 9 Mar 2009 - 20:15

ความคิดเห็นที่: 1 / 17 : 436270

โดย: NenG123

ข้อดีเห็นดีหมดละ
ข้อเสียเห็นมีแต่คนแก่ขับ
555

วันที่: 09 Mar 09 - 20:29

ความคิดเห็นที่: 2 / 17 : 436275

โดย: DJ_JOM

ง่าอ่าน่ะๆ

วันที่: 09 Mar 09 - 20:59

ความคิดเห็นที่: 3 / 17 : 436276

โดย: DJ_JOM

เอารูปมาให้ดูกานถ่ายตอนไปต่างประเทศงับ

วันที่: 09 Mar 09 - 21:03

ความคิดเห็นที่: 4 / 17 : 436277

โดย: DJ_JOM

รูปเครื่องยนต์อ่าที่ชึบอ่าของรถผมน่ะแต่ยังไม่ได้ใส่ทีครับกลัวจะเอาไม่อยู่ หาคนช่วยแน่นำหน่อยครับว่าทำไงให้รถหนักดีครับ

วันที่: 09 Mar 09 - 21:05

ความคิดเห็นที่: 5 / 17 : 436286

โดย: OrionRY

ความเห็นส่วนตัว
ข้อดี...รูปทรงยังสะดุดตาอยู่
มีสเน่ห์ตรงตาหวาน (ติดไฟแดงเด็ก ๆ ชี้ให้แม่ดู)
ขับสนุก ถึงจะกระด้างตามอายุรถ

ข้อเสีย....
ต้องขยันเสาะแสวงหาอะหลั่ย
มักโดนอู่หรือเชียงกง โก่งราคาหากรู้ว่าเป็นมาสด้าโดยเฉพาะป็อปอัพ
................................................................................................

ราคาตอนนี้สภาพดี ๆ ณ ปี 2009 ไม่น่าเกิน 10 หมื่นแล้วครับ

ส่วนข้อมูลนี้ผมเอามาจากหนังสือ USED CAR III ปี 2000 ผมซื้อหนังสือมอเตอร์มาร์ทของคุณทิเป็นประจำ ลองอ่านดูครับ...

โดย...สุภัทร (ทิ) ทิสาพงษ์

MAZDA 323 ASTINA 1800 ความน่าใช้อยู่ที่หน้าตา สไตล์ SPORT SEDAN แบบไฟหน้า POP-UP ความน่าขับลงตัวที่ 7000 รอบ จากพลัง 83x85 มม. ที่แรงแต่ประหยัดความน่าซื้อเพราะสนนราคาหล่นมาที่ 20 หมื่นเศษ ,เท่านั้น ถ้าจับมาในสภาพตัวถังดี เครื่องไม่เกิน 150,000 กิโลเมตร ระดับ 220,000 บาทบวกนิด ๆ ถือว่าเป็นรถที่น่าลงทุนคันหนึ่งสำหรับขับวัยจ๊าบประเภทชอบแหย่รถแรง ๆ ให้กวนสายตาเล่นจากการที่เจ้า ASTINA นั้นทาง MAZDA บรรจุพลังทันสมัยแบบ 16 v. ความจุ 1.8 ลิตร พลัง 125-135 PS ให้เช่าได้อย่างมันเท้า เพราะแบกน้ำหนักแค่ตันเดียวเท่านั้น

หลาย ๆ คำถามส่งมาขอข้อข้องใจว่าระยะนี้พบรถ MAZDA รุ่น ASTINA จอดขายบ้าง ประกาศขายบ้างในราคาที่ดูแล้วน่าใช้มาก บางคนแจ้งว่าเจอเข้าในระดับแค่ 188,000 บาท หากจับมาแล้วเอาอยู่ไหมเรื่องการบูรณะ เพราะดู ๆ แล้วรถเข้าสู่ยุค HI-TECH พอควร เกรงจะซ่อมเช้าซ่อมเย็นซ่อมประจำสัปดาห์แบบนี้คงแย่แน่

ว่าดังนี้ก็เลยขอนำมาขยายความให้เข้าใจกันระดับหนึ่งก่อนเผลอใจโดดเข้าจับ อัน ASTINA นั้นก็คือรถ MAZDA รุ่น 323 ในสไตล์แปลกกว่าปกติ ขณะนี้ราคาจะป้วนเปี้ยนอยู่ระดับ 20 หมื่น บวกลบ โดยสภาพที่น่าใช้น่าขับไม่ปวดหัวจะอยู่แถบ 25 หมื่น บวกลบ แม้ว่าบางคนจะจับในราคาค่อนไปทาง 20 หมื่น แต่หากรับมาแล้วค่าซ่อมค่าปรับปรุงก็เริ่มที่ 5,000 จนถึงระดับเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่ 35,000 บาท ฉะนั้นหากหาคันที่สภาพพร้อมใช้จริง ๆ ที่ 23-24 หมื่นก็ถือว่า OK. ดีกว่ามาเสียเวลากับการบูรณะ เพราะว่าไปแล้ว ASTINA คันนี้มีสิ่งที่เหมือน 323 เฉพาะเทคนิค แต่อะไหล่นั้นหลายสิบรายการนั้นเป็นอะไหล่เฉพาะ อย่างตัวถังด้านหน้า, เครื่องยนต์ และระบบเบรก จะแตกต่างกันเพราะเขาออกแบบมาให้แปลก จะมีก็แต่พวกช่วงล่าง เครื่องไฟฟ้า ที่พอหยิบยืมจาก 323 ได้

รูปทรงของ ASTINA นั้นยอมรับว่ามาถึงชั่วโมงนี้หารถยนต์ขนาด CITY-CAR ลงตัวแบบนี้ยากมาก ขนาดความยาว 4.3 เมตร นั้นคล่องตัวมากในเมือง และยิ่งมีพลังสำรองมากพร้อมกับมีพวงมาลัยเพาเวอร์ช่วย ทำให้เป็นรถทะมัดทะแมงมากในเมือง ขณะที่ทางไกลนั้นการเร่งแซงทำหด้รวดเร็วมั่นใจจากพลังที่มีอัตราส่วนระหว่าง 1:8 โดยแรงม้าต่อน้ำหนัก ซึ่งเป็นเกณฑ์เดียวกับรถสปอร์ตดี ๆ คันหนึ่ง

MAZDA สร้าง ASTINA จากโครงสร้างของ 323 โดยยกระดับให้เป็น SPECIAL VERSION แฉกเยวกับ NISSAN PRESEA คือ SPECIAL VERSION ของ SUNNY หรือ TOYOTA MARINO ก็คือรุ่นพิเศษของ COROLLA นั้นเอง ทรวดทรงของ ASTINA จึงค่อนข้างเฉี่ยวเหมาะกับวัยรุ่นวัยจ๊าบที่อยากมีรถเหนือรถในระดับเดียวกัน

ความเป็นมาของ ASTINA นั้นหลังจากที่ MAZDA ได้รับความสำเร็จรุ่น 323 ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเมื่อปลาย ๆ ทศวรรษที่ 80 นั้นค่อนข้างดี โดยเฉพาะเป็นยุคพวกวัยรุ่นมีกะตังค์กับวัยยัปปี้ละอ่อนต้น ๆ ทาง MAZDA เลยสนองตลาด ASTINA ออกมา เพราะอิทธิพลขณะนั้นที่หลายค่ายต่างก็มีรถเจ็บ ๆ ออกมาขายอย่าง HONDA ก็มี INTEGRA, TOYATA มี SPRINTER และNISSAN มี LANLEY รถทั้งหมดนี้สร้างมารองรับลูกค้าวัยรุ่นทั้งนั้น

ความจำเป็นและความที่จะหารถมารองรับการไต่ของตลาด ASTINA เลยเกิดมาในทรวดทรงสุดจ๊าบในสไตล์ไฟหน้าเปิดปิดแบบ POP-UP เหมือนรถสปอร์ตเรียกว่าฉีกแนวชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็ยังต้องการสนองตลาดในแบบรถครอบครัวนั่งได้ 2 2 ที่นั่ง เจ้า ASTINA จึงมีห้องโดยสารขนาดพอดีกับการนั่ง 4 คน ทั้ง ๆ ที่ความลงตัวนั้นค่อนไปทางรถลู่ลมหน้าต่ำท้ายสั้น ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่น 3 ประตู และ 5 ประตู HATCH BACK สำหรับบ้านเรานั้นมีการนำเข้ามาประกอบเฉพาะรุ่น 5 ประตู ซึ่งเข้ามาในยุคขายใบจอง ซึ่ง ASTINA ก็รับผลบุญด้วยยอดจองถึง 5,000 คัน ทำเอาทางตัวแทนปลื้มอยู่พักใหญ่ แล้วก็มากระอักเมื่อพบว่าพอเศรษฐกิจฟองสบู่เริ่มแตกมีการทิ้งใบจองกันทำให้ ASTINA ผลิตแล้วขายไม่หมด จนต้องมีการเทขายลดราคา เหตุนี้ราคารถมือสองของ ASTINA จึงตกต่ำมาตลอดทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะเป็น ตกต่ำจนมาคาที่ระดับ 20 หมื่นอยู่พักใหญ่ เพราะความเป็นรถ HI-TECH ขนาด 1800 จึงไม่ทำให้ค่าตัวร่วงไปกว่านี้ ปัจจุบันราคามือสองคิดว่ายังดีกว่า MAZDA 626 TTL ด้วยซ้ำ เนื่องจากรูปทรงยังดูไม่ล้าสมัย แตะตาประดาวัยจ๊าบพอควร

ทางด้านเทคนิคนั้น จุดเด่นถัดจากรูปทรงแล้วพลัง 1800 ซีซี. นั้นเป็นความดุเดือดที่ดูแคลนไม่ได้ สามารถผลิตพลังได้ 125-135 แรงม้าในแบบรอบแรงบิดสูงถึง 4500 โดยใช้ผาสูบแบบ DOHC ขับด้วยสายพานสูบละ 4 วาล์ว รวม 4 สูบ = 16 วาล์ว โดยรับเชื้อเพลิงจาก ECU และหัวฉีด ECI แบบ MULTI-VALVE INJECTION ให้การตอบสนองที่ดีและจัดถึง 7,000 รอบ สามารถทำความเร็วจา 0-100 กม./ชม. แค่ 10.6 วินาที (บางคันทำได้ต่ำกว่า 10 วินาที) และสามารถทะยานได้ใกล้หลัก 190 กม./ชม. นับว่าไม่ธรรมดาสำหรับรถธรรมดาแม้แต่ตอนนี้อายุ 6-7 ขวบ แทบทุกคันยังวิ่งได้เลย 100 กม./ชม. สบาย ๆ

ในการใช้งานนั้นแม้จะใช้เครื่องยนต์โตถึง 1800 ซีซี. แต่ลูกสูบไม่โตมาก คือมีระดับสูสีกับเครื่อง 1500-1600 ซีซี. เพราะความจุ 1800 ซีซี. มาจากระยะยชักของลูกสูบขนาด 85 มม.ด้วย จึงทำให้ ASTINA ไม่ซดมากนัก โหดสุดก็ระดับ 6.7 กม./ลิตรในเมือง แต่ปกติจะอยู่แถว ๆ 7.4-8.8 กม./ลิตรในเมือง และ 10.5-13.8 กม./ลิตร ทางไกล

คุณสมบัติเด่นอีกส่วนคืระบบช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อตามกติกาของการรถขับหน้า และ ASTINA นั้นคว้าเอาวิทยาการแบบแมคเฟอร์สันสตรัททั้ง 4 ล้อของ 323 มาใช้ โดยด้านหน้ายังเป็นแบบปีกนก A-ARM ทางด้านหลังแบบคานคู่สัมพันธ์ พอบรรจุยางขนาด 185/70 x 14 แล้วก็สามารถทรงตัวอย่างมั่นใจในระดับ 110-140 กม./ชม. ได้ดีกว่า 323 ธรรมดาตรงที่โช๊คอัพทั้ง 4 เป็นแบบแก๊สในย่านความเร็ว 160 กม./ชม. ขึ้นไปอาจต้องตั้งใจหน่อยตรงที่ด้านท้ายจะเบานิด ๆ จากการที่มีขนาดสั้น ส่วนแรงกดด้านหน้านั้นหายห่วงเพราะการออกแบบคุณค่าทาง AERODY NAMIC ที่ดีและน้ำหนักกดของเครื่องยนต์ที่หนักกว่า 323 ปกติ ช่วยให้เกาะไม่แพ้รุ่น 626 ระดับสูสี CRONS ก็ว่าได้

สิ่งที่ใครขับใครต้องชอบคือ ระบบเบรกจานทั้ง 4 ล้อที่ติดตั้งมาให้มันอย่างมั่นใจว่า ทุกระยะการแตะเบรกสามารถสั่งได้อย่างวางใจถือว่าเป็นจุดเด่นที่ถัดจากเครื่องยนต์ก็คงไม่ผิด เพียงแต่ว่ายังมีระบบ ABS มาเสริมเท่านั้น

การจับ ASTINA นั้นเหมาะกับการลงทุนระดับ 25 หมื่น คือจับมาสภาพพร้อมใช้สัก 23 หมื่น จากนั้นก็เก็บงานด้านเบรกกับช่วงสัก 20,000 บาท แล้วก็ใช้ได้นานถึง 3 ปี สบาย ๆ จัดว่าเป็นรถครอบครัวขนาดเล็กที่สามารถใช้ได้ทั้งบ้านก็คงไม่ผิด หรือเป็นรถคันที่สองก็ยิ่งดี

วันที่: 09 Mar 09 - 21:31

ความคิดเห็นที่: 6 / 17 : 436302

โดย: ยอดไผ่

เรื่องทำให้รถหนัก ผมว่าหาคนนั้งข้างที่หนักซะ80-90 ก.ก หรือหาเพื่อนร่วมทางซัก4-5คน แบบว่าทางเดียวกันไปด้วยกัน คนไปด้วยประหยัด รถคนขับก็หนักด้วย

วันที่: 09 Mar 09 - 22:27

ความคิดเห็นที่: 7 / 17 : 436317

โดย: Gapmy

ข้อดี รถสวย รถแรง เท่ๆๆ ข้อเสีย เท่เกิน แรงเกิน คนเค้าหมั่นไส้

วันที่: 09 Mar 09 - 23:25

ความคิดเห็นที่: 8 / 17 : 436330

โดย: แตะฯ

รุ่นนี้

ขับแล้วกลัวเมีย

วันที่: 10 Mar 09 - 00:45

ความคิดเห็นที่: 9 / 17 : 436367

โดย: BIG DDT @ MCT

เดี๋ยวโดน ทั้ง คห 1 และ 8

แก่ซะที่ไหนละ ยังเปิดเพลง เปิดกระจก เผื่อชาวบ้านฟังอยู่เลย เฟ้ยยยยยยยย ตาเหน่ง

เรื่องกลัวเมีย มันเป็นมาตรฐานชายไทยเฟ้ยยยยย เฮีย

"อันว่าการกลัวเมีย คือพรอันประเสริฐ" เข้าใจม่ะ