Close this window

อยากทราบว่าทำไมตาตี่กินน้ำมันจังครับ
คือใช้มาหลายปี ก็เลยชินแล้วที่ได้ 8-10 โลลิตร แต่พอดีวันนี้ เพื่อนเค้าถามว่ารถเราคันมันก็ไม่ใหญ่ ล้อก็แค่ 14 นิ้วฯลฯ แล้วทำไมมันซดจัง.....ผมก็เลยไม่รู้จะตอบไง เลยแถๆไปว่าคงเพราะเป็นเครื่อง 1800 แต่ก็ยังเก็บมาคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมหว่า พี่ๆท่านไหนไขข้อข้องใจได้บ้างครับ เอาแบบไม่ต้องละเอียดก็ได้ ปกติไม่ค่อยรู้เรื่องรถมากเท่าใดนัก ขอบคุณครับ
โดย: นนท์   วันที่: 15 Feb 2009 - 16:42

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 22 : 429107
โดย: Navigator
ผมว่ามันอยู่ใน สมรรถนะปานกลางหมดนะ ตาตี่เนี่ย
แรงปานกลาง กินปานกลาง ราคาปานกลาง(ออกจะถูกด้วย)
กดน้อยมันก็กินพอๆกะรถรุ่นนิยมหลายๆรุ่น กดมาก อันนี้ซดจิงๆครับ ไม่เถียง

ส่วนถ้ารู้สึกว่ามันเปลืองไปต้องมาลองนึกดูถึงลักษณะการขับขี่ของเรา กะความสมบูรณ์ของรถแล้วล่ะครับ
วันที่: 15 Feb 09 - 16:54

 ความคิดเห็นที่: 2 / 22 : 429134
โดย: nuum97
ปกติของรถครับเยียบมากกินมากครับ
วันที่: 15 Feb 09 - 20:30

 ความคิดเห็นที่: 3 / 22 : 429136
โดย: หมอหมา
ถ้าขับในเมือง และชอบออกตัวแรงๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ
รถอายุขนาดนี้ แล้ว

ถ้าเอาไปฟิตเครื่องใหม่อาจจะช่วยได้บ้างครับ กับ ปรับพฤติกรรมการขับขี่ซะใหม่น่ะ

ช่วยได้แน่นอน
วันที่: 15 Feb 09 - 20:44

 ความคิดเห็นที่: 4 / 22 : 429158
โดย: aod cronos
ติดแก็สครับ
วันที่: 15 Feb 09 - 21:57

 ความคิดเห็นที่: 5 / 22 : 429162
โดย: Switch_ON!
ใช้คำว่ารถอายุขนาดนี้ไม่ถูกต้องครับ ควรใช้คำว่า เทคโนโลยีสมัยนั้นทำได้ขนาดนี้น่าจะดีกว่า

ประเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว น้ำมันมันจะลิตรละกี่บาทกันเอง ทำได้แค่นั้นก็นับว่าดีแล้วครับ จะเรียกว่าอัตราบริโภคกับความแรงสัมพันธ์กันอย่างลงตัวก็ว่าได้

รถผมเองขับเอง ก็ได้ราว ๆ 7-8 โลลิตรเป็นปกติ จนคิดว่าเครื่องมันกินจุ แต่ตอนขับไปเชียงใหม่ เปลี่ยนมือให้คุณแม่ขับ ปรากฎว่าถังนั้นทำได้ถึง 10-11 กม. ลิตรเลยที่เดียว แล้วอีตอนขากลับมาม๋าขับยาวเลย ก็ลากไปเกือบ 12-13 กม.ลิตรเลยเหมือนกัน ตอนนั้นเป็น 1600 auto ด้วยซ้ำนะ

ดังนั้นผมเห็นผมคือคนขับมีส่วนอย่างยิ่งเลยครับ ไม่ชื่อลองเปลี่ยนคนขับดูครับ แล้วจะเห็นว่ารถคันเดียวกันตอบสนองได้ทุกรูปแบบจริงๆ
วันที่: 15 Feb 09 - 21:59

 ความคิดเห็นที่: 6 / 22 : 429165
โดย: Totsaporn
เปลี่ยนคนขับ แสดงว่าต้องเปลี่ยนเมียสิครับ
เรื่องใหญ่น่าดู
จะพยายามเปลี่ยนดูแล้วกันครับ
วันที่: 15 Feb 09 - 22:04

 ความคิดเห็นที่: 7 / 22 : 429237
โดย: นะ
ลองล้างแอร์โฟลดูนะ บางที่มันอ่านค่าอากาศเพี้ยนก็เลยสั่งจ่ายน้ามันมากไป ( ผมคิดเอง ) เพราะหลังจากล้างแล้วของผมเพิ่มขึ้นตั้ง 2 โล
วันที่: 16 Feb 09 - 10:05

 ความคิดเห็นที่: 8 / 22 : 429246
โดย: ด้าเอง
^
^
น่าสนๆ
วันที่: 16 Feb 09 - 10:22

 ความคิดเห็นที่: 9 / 22 : 429256
โดย: อะตอม
จำได้ว่าสเเป็กโรงงานเค้าก็ว่าได้เท่านี้แหละ 10ปีแล้วยังเหมือนเดิมผมว่าเยี่ยมแล้วนะ
อีกอย่างบุคลิกของเครื่องทำมาแบบนี้ รอบจัด ตืบเป็นมา มันก็เลยต้องแลกกัน
ถ้าเทียบกับโลโก้อื่นๆมันก็ดูว่าซดกว่า แต่กับมิตซูไม่แตกต่างกันเพราะเครื่องสันดานเดียวกัน อาจทำให้เรารู้สึกดีขึ้นด้วยซ้ำ บอดี้+ช่วงล่างหนักกว่า cc.ก็มากกว่า ยังซดเท่ากันเลย
วันที่: 16 Feb 09 - 10:40

 ความคิดเห็นที่: 10 / 22 : 429352
โดย: aoosolid
7 โลลิตรง่ะ
วันที่: 16 Feb 09 - 16:39

 ความคิดเห็นที่: 11 / 22 : 429475
โดย: alan
รถลักษณะแบบนี้ ให้ขับแบบประหยัด ขายดีกว่า
8โล/ลิตร เหมือนกัน
วันที่: 17 Feb 09 - 00:17

 ความคิดเห็นที่: 12 / 22 : 429573
โดย: จะเด็ด
ผมว่าส่วนหนึ่งนิสัยรถมันเป็นอย่างนั้นอ่ะนะ แล้วถ้าถามต่อว่า ทำไมเขา Set มาเป็นยังงั้น มันก็คงเป็นความตั้งใจตั้งแต่เมื่อครั้งออกแบบโน่นมั้ง

Mazda ทำแต่รถ จะอยู่หรือรอด ก็ขึ้นกับรถอย่างเดียว ไม่มีสินค้าอื่นมาช่วยโปะเงินเผื่อเหลือเผื่อขาดเหมือนบางยี่ห้อ ดูๆ ไปเงินทุนก็ไม่เยอะมาก ผ่านวิกฤตการเงินมาแล้วหลายรอบแบบเฉียดๆ

ทำไงให้รถรุ่นเดียวมันขายได้มากที่สุด โดยที่ไม่เสียบุคลิกของตัวเองไป

ผมว่าเขาคงทำมาให้มันผ่าน Standard ที่เข้มงวดต่างๆ ให้ได้มากสุด เพื่อให้ผลิตจากโรงงานเดียวแล้วส่งขายได้ทั่วโลก รักษา Feeling การขับแบบ Mazda เอาไว้ให้ได้ รถแต่ละรุ่นของ Mazda กวาดรางวัลเยอะมากๆ ในแง่ความปลอดภัย และความสนุกในการขับ เทียบกับราคาค่าตัวแล้ว ถือว่าคุ้ม

ทำไงให้มันหนึบด้วย และปลอดภัยด้วย ส่วนหนึ่งก็คือการหาน้ำหนักตัวที่เหมาะสมนั่นเอง น้ำหนักตัวที่มากกว่า เพิ่มการยึดเกาะถนนให้มากขึ้น แต่เพราะมันหนัก เครื่องก้อต้องออกแรงฉุดให้มากขึ้น จึงกินน้ำมันค่อนข้างมากกว่าระดับเดียวกันของยี่ห้ออื่นๆ

ในขณะเดียวกัน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมานั้นไปอยู่ตรงไหนบ้าง ก็น่าจะเป็นตัวถัง เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนในการเพิ่มความแข็งแรง และอุปกรณ์กันโคลงต่างๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็น Safety Factor ยิ่งมากก้อยิ่งดีใช่ไหม

รถยุโรปหลายยี่ห้อ ก้อกินน้ำมันราวๆ นี้เหมือนกัน เพราะ Safety Factor ที่เผื่อไว้ให้แบบนี้แหละ

สมาชิกบางท่านในคลับที่ประสบอุบัติเหตุ คงเข้าใจสิ่งนี้เป็นอย่างดี Body ของ Mazda ช่วยได้มากทีเดียว

ดังนั้นถ้าใครมามองเราแบบเหยียดๆ แล้วพูดว่า Mazda โค..รกินน้ำมัน ขายไปเถอะ

ก็ให้บอกเขาไปเลยว่า มันกินมากกว่า เพราะรถมันดีครับ แล้วไม่ต้องไปใส่ใจเขา ตั้งหน้าตั้งตาใช้ของเราต่อไป

ถ้ามันไม่ดีจริง เพื่อนผมคนหนึ่งที่ทั้งบ้านใช้ Honda มาตลอดชีวิต คงไม่เปลี่ยนมาเป็นน้อง 3

ขณะที่ Civic แรงบิดดี ออกตัวปรู๊ดปร๊าด แต่ใช้ความเร็วได้ไม่เท่าไร รถเริ่มส่ายและโคลง แต่เมื่อใช้น้อง 3 แตนๆ โดยที่ไม่ได้แต่งอะไรเลย เขาสามารถขับได้ถึง 190 โดยไม่รู้สึกถึงอาการข้างต้น แบบนี้เรียกว่าวิ่งดีได้ไหม?
วันที่: 17 Feb 09 - 11:32

 ความคิดเห็นที่: 13 / 22 : 429577
โดย: จะเด็ด
อ้อ มีหนหนึ่ง ตอนผมเอาโปเต้ 1.8 ไปติด LPG คันข้างๆ ที่ติดวันเดียวกัน เป็น Lancer วาง 4G63 มา เท่าที่ดูผ่านๆ ขนาดเครื่องยนต์เล็กกว่า FP-DE ของโปเต้มาก ถึงจะรู้ว่า 4G63 เป็นแคมเดี่ยวก็เหอะ แต่เห็นเครื่องแล้ว ผมว่า FP-DE ของผมยังดูอึดว่าเลยนะ
วันที่: 17 Feb 09 - 11:52

 ความคิดเห็นที่: 14 / 22 : 429589
โดย: จะเด็ด
อ้อ เนื่องจากโดยเฉลี่ย Mazda จะน้ำหนักตัวเยอะ คาดว่าพลังงานสะสมในตัวรถตอนที่วิ่งออกไปแล้ว (ไม่รู้เรียกว่าแรงเฉื่อยหรือเปล่า) จะยิ่งมากตามระดับความเร็ว เวลาขับทางไกล ตัวเลขกม./ลิตร จะต่างจากในเมืองค่อนข้างมากครับ
วันที่: 17 Feb 09 - 12:12

 ความคิดเห็นที่: 15 / 22 : 429590
โดย: Yut13
เมื่อวานไปโคราชตั้งใจจะประหยัดสุดๆแต่ก็ทำใจไม่ได้ขาไปแข่งกับ Vios กดแซงไป 170 เลยขากลับไล่กวด 325 เล่นลาก 150 ต่อเนื่องเมื่อเช้าเติมน้ำมันแล้วสรุปได้ 12.5 กม./ลิตร ไปกลับ 550 กิโล
สรุปว่ากินที่คนขับจริงๆ
วันที่: 17 Feb 09 - 12:12

 ความคิดเห็นที่: 16 / 22 : 429732
โดย: Totsaporn
มันอดไม่ได้จริง ๆ เช่นนั้นเองครับ ลุง Yut
ผมก็เช่นกัน วิ่งยาว ๆ กะประหยัด 12 โลลิตร เจออีพวกลูกอ๊อดทำฮึด ก็เลยคิกดาวน์ซะงั้น
ลูกอ๊อดหางขาดหายไปไหนก็มะรู้ .....อ๊อด ๆ
วันที่: 17 Feb 09 - 21:55

 ความคิดเห็นที่: 17 / 22 : 429866
โดย: *Toon*
ของผมใช้ ตาตี่ ปี 98 เกียร์ธรรมดา บวก ลบ คูณ หาร แล้วยังไงก็ ได้ 11-12 กิโลลิตร ก็ยังงงทำไมรถเรามันประหยัดกว่าคนอื่นหรือไง รถใช้ กทม. บ้าง ต่างจังหวัดก็ไปบ่อย ก็ประมาณนี้ทุกที ครับ แต่ผมจะขับอยู่ที่ 120-140 กม/ชม ไม่ค่อยได้เกิน 140 เท่าไหร่ ( ตอนออกไปต่างจังหวัด ) แต่ตั้งแต่ใช้ mazda มาก็เป็นรถที่ขับสนุกมากครับ แต่กว่าจะคุ้นกับเค้าก็หลายเดือนเลย ( ปล.ผมว่าตาตี่นี้มันขับยากน๊ะ ) รถเตี้ยๆ เบาะก็ต่ำๆ กดคันเร่งออกตัวทีไรพุ่งได้ดังใจ ฮิฮิ เกือบชนท้ายคันหน้าหลายครั้ง จนแฟนว่าอยู่เป็นประจำว่าทำไมต้องไปใกล้เค้าขนาดนั้นตอนเบรค แอบนึกอยู่ในใจ " ก็รถมันแรงนี้หว่า"
ฮิฮิ เล่าสู่กันฟัง
วันที่: 18 Feb 09 - 11:27

 ความคิดเห็นที่: 18 / 22 : 429905
โดย: 323 ซีดาน สีน้ำเงิน คนแปด
ตอนเราไป ตจว มา ได้ 9.57 ก.ม./ลิตร เราดีใจมากเลยค่ะ ปกติขับรถติดในเมืองได้แค่ 5.5 ก.ม./ลิตรเองค่ะ เพื่อนบอก รถเบนซ์ของเค้า ยังกินไม่เท่าของเราเลยค่ะ..
วันที่: 18 Feb 09 - 13:42

 ความคิดเห็นที่: 19 / 22 : 429985
โดย: จขกท.
ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ไขข้อข้องใจครับ

ขอถามเพิ่มเติมได้ไหมครับ คือว่า ตาตี่ที่ทำตลาดในไทยเป็นรถ CBU หรือ CKD ครับ ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตรงนี้ รบกวนด้วยนะครับ
วันที่: 18 Feb 09 - 17:51

 ความคิดเห็นที่: 20 / 22 : 430114
โดย: กร
ผมก็แข่งกะ 2 j bo อยู่เหมือนกันคับ ผมว่ากินน้ำมันพอๆกันเลยอ่ะ 323นิว
วันที่: 19 Feb 09 - 09:30

หน้าที่: [1]   2