1.ถ้าซื้อแบตเพิ่ม นอกจากจะเสียเงิน(มาก)แล้ว ยังไงๆ แบตก้อนที่สองก็ หมดอีกอยู่ดีแหละ เพราะฉะนั้น ตัดไป
2.ตัวแปลงไฟ ผมใช้มาแล้วแทบทุกแบบ
ก.แบบ เสียบปลั๊กจุดบุหรี่ใช้ในรถ แบบสั้นที่เสียบแล้วก้นเป็นปลั๊กสามตา
ข้อดี-ใช้ง่าย ไม่เกะกะ
ข้อเสีย-รับกระแสได้ไม่กี่วัตต์-ละลายได้ง่ายๆ-ต้องถอดทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง เพราะไม่มีStabilizer(Sony Vaio ตายไปแล้ว 1 )
ข.แบบ Plug-in Converter
อันนี้หน้าตาคล้ายกล่อง E-manage +Ampเครื่องเสียง
ข้อดี-ใช้ง่าย ไฟแรง ต่อพ่วงได้ (Notebook+Inkjet printer)ไม่จำเป็นถอดทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง
ข้อเสีย-ค่อนข้างแพง ดึงกระแสจากแบตรถมากๆ
3.แบบ Solar Cell Converter
แบบนี้เจ๋งมากๆ ไม่ต้องติดเครื่องรถเหมือนแบบแรก ใช้หลักการชาร์จจากเซลล์สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ไปที่แบตเลยโดยการเสียบเข้า ปลั๊กจุดบุหรี่ แล้ววางแผงรับแสงไว้ที่คอนโซล มันจะมีปลักต่อออกมาให้เสียบปลั๊ก 110-220 v
ข้อดี -ไม่ต้องติดเครื่องให้เปลืองน้ำมัน
ข้อเสีย-Day Use Only นะจ๊ะ กลางคืนหมดสิทธิ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะจอดรถพื่อรับแสงอาทิตย์
แล้วนั่งอบเซาน่าทำงานอยู่ในรถ
ท่านใดเคยใช้ตัวแปลงไฟรถยนต์เป็นไฟบ้านบ้างครับ
คือว่าอยากเอาโน๊ตบุ๊คไปนั่งทำงานนอกสถานที่น่ะครับ (ริมชายหาด , สวนสาธารณะ , ป่าเขาลำเนาไพร , ฯลฯ) แต่เนื่องด้วยอายุแบตมันสั้น ใช้ไม่ถึงสองชั่วโมงก็หมดแระ จึงมีความคิด 2 อย่างคือ ซื้อแบตเพิ่ม กับ หาตัวแปลงมาเสียบไฟจากรถเข้าโน๊ตบุ๊คไปเลย ซึ่งกรณีแรก แบตโน๊ตบุ๊คก้อนนึงมันก็หลายพันอยู่เหมือนกัน ส่วนกรณีที่สอง ตัวแปลงไฟที่ผมเคยเดินๆดูอยู่ เห็นราคาประมาณพันนึง น่าสนใจครับ แต่ไม่รู้ว่า มันจะมีผลเสียมากน้อยประการใด ท่านใดมีข้อคิดเห็น รบกวนช่วยชี้แนะ
