Close this window

มีสูตรตู้ซับของกระบะมาบอกครับ boyคอนถม
BT-50 แจ่ม คำนวนเองได้
โดย: Boy khomthom audio sound   วันที่: 19 Mar 2008 - 17:37


 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 335788
โดย: Boy khomthom audio sound
งามแบบกลางๆงับ
วันที่: 19 Mar 08 - 17:47

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 335790
โดย: Boy khomthom audio sound
ว่างแล้วจะมาบอกตอนนี้ติดงานครับ ตีตู้ให้ลูกค้าก่อนไม่ว่างเลยครับ รอหน่อยนะ สำหรับคนรัดเครื่องเสียงคือกัน
วันที่: 19 Mar 08 - 17:53

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 337883
โดย: บอย ครถม
ความต้องการของตัวเราคืออะไร

อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ตอบตั้งโจทย์ไว้ในใจให้ได้ก่อนว่าต้องการอะไร เพราะถ้าไม่กำหนดโจทย์หรือเป้าหมายเอาไว้ โอกาสที่จะ "ไม่จบ" และ "งบบานปลาย" มีสูงมากครับ สิ่งที่ควรจะต้องกำหนดไว้ก็คือ
1. จะเอาเครื่องเสียงแบบไหน - ฟังเพลงอย่างเดียว, ดูหนังเป็นหลัก ฟังเพลงเรื่องรอง , หรือระบบเอนกประสงค์
2. ถ้าเล่นแบบไหน ถ้าฟังเพลงก็เช่น Audiophile , เพลงตลาดๆ ธรรมดาทั่วๆ ไป , MP3, IPOD ฯลฯ หรือถ้าจะดูหนัง จะเอาแนวไหน DVD 5.1, VCD หรือเอาไว้ดูละครช่อง 7
3. สำหรับการฟังเพลง ชอบแนวเพลงแบบไหน POP, JAZZ, ROCK, HIPHOP อุปกรณ์แต่ละรุ่นตอบสนองต่อแนวเพลงไม่เหมือนกัน
4. จะเอาแบบทีเดียวจบ หรือว่าค่อยๆ ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ทีเดียวจบ ก็เลือกหาอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วนไปเลยทีเดียว ในกรณีที่งบประมาณจำกัด ก็อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เกรดธรรมดาๆ แต่สำหรับท่านที่เล่นแบบค่อยๆ ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ในตอนแรกอาจจะใช้ระบบเล็กๆ ไปก่อน แต่เน้นซื้ออุปกรณ์ที่เกรดดีๆ หรือรุ่นสูงๆ เช่น front รุ่น top กับลำโพงแยกชิ้นรุ่นสูงๆ หน่อยแล้วใช้ hipower ขับไปก่อน แล้วค่อยซื้อ poweramp มาปรับปรุงเพิ่มเติม เป็นต้น
5. งบประมาณเท่าไร อันนี้สำคัญ สำหรับกลุ่มที่เลือกแบบทีเดียวจบ อาจจะต้องคุมให้ดีหน่อย แต่สำหรับกลุ่มที่ค่อยๆ ปรับปรุงไปเรือยๆ ก็คงแล้วแต่ศักยภาพในการ "เม้ม" ล่ะครับ


รูปแบบการฟัง

ที่นิยมๆ กันก็จะมี

1. Front stage (rear fill) เป็นการจัดรูปแบบเสียงให้เวทีของเสียงอยู่ด้านหน้าคนฟัง เปรียบได้กับการนั่งหันหน้าฟังเพลง โดยอาจจะมีเฉพาะด้านหน้าอย่างเดียว หรืออาจจะมีเสียงด้านหลังเสริม (เบาๆ ) ด้วยก็ได้
2. Rear stage (front fill) เป็นการจัดรูปแบบเสียงให้เวทีของเสียงอยู่ด้านหลังคนฟัง เนื่องด้วยข้อจำกัดในการติดตั้งลำโพงในรถยนต์ซึ่งมักจะมีพื้นที่ในการติดตั้งหลักๆ อยู่ที่บริเวณแผงหลังรถ ซึ่งสามารถติดตั้งลำโพงขนาดใหญ่ รวมทั้งมีพื้นที่ในกระโปรงหลังเป็นตู้ ทำให้สามารถทำให้มีคุณภาพเสียงที่ดีได้ง่ายกว่าการติดตั้งที่ด้านหน้า
3. Surround อันนี้จะเป็นระบบหลักของการดูหนัง โดยจะมีลำโพงอยู่ล้อมรอบตัวผู้ฟัง ลำโพงแต่ละชุดจะเปล่งเสียงออกมาในระดับใกล้เคียงกัน ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางวงดนตรี
วันที่: 28 Mar 08 - 15:43

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 337889
โดย: บอย ครถม
configuration ของระบบ

คือการเลือกรูปแบบของการต่ออุปกรณ์ในระบบเสียง

1. Front + ลำโพง โดยใช้ hi-power ในตัว front ขับ อาจจะมีลำโพง 1 คู่ หรือ 2 คู่ ในกรณีนี้อาจจะต้องดู front ที่มีกำลังขับในตัวสูงหน่อย และลำโพงพยายามเลือกพวกที่ไม่กินวัตต์ (ความไวสูงๆ ตัวเลข dB/m มากๆ เช่น มากกว่า 92 dB/m ขึ้นไป)
2. Front + Poweramp + ลำโพง อาจจะใช้ amp แบบ 2 channel ขับลำโพงคู่หลัก ส่วนคู่เสริมใช้ hipower หรืออาจจะใช้ amp 4 channel เลยก็ได้
3. Bi-amp มีการใช้ crossover มาแบ่งความถี่ เพื่อแยกความถี่ออกเป็น 2 ชุด โดยใช้ poweramp แยกขับแต่ละช่วงความถี่ ซึ่งอันนี้มักจะใช้แยกความถี่ต่ำในช่วง sub-woofer ออกมา
4. Tri-amp, Quad-amp แยกความถี่ออกเป็นหลายๆ ช่วง เช่น 3 หรือ 4 ช่วง แล้วใช้ poweramp แยกขับในแต่ละช่วงความถี่
5. สำหรับระบบดูหนัง ก็คงจะเป็น 2.1 (ลำโพงซ้ายขวา + sub) 4.1 (ลำโพงหน้า+หลัง + sub) หรือ 5.1 (หน้า+หลัง+center+sub)
ที่กล่าวมานี้ยังเป็นแค่ระบบคร่าวๆ เท่านั้น ยังมีวิธีการและรูปแบบในการต่อใช้งานอีกมากมายครับ


การติดตั้ง

อันนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เรื่องหนึ่งเลย หลายระบบบางทีใช้อุปกรณ์ชั้นยอด แต่ดันมาตกม้าตายเอาตอนนี้ ลงทุนค่าอุปกรณ์ไปหลายตังค์ แต่เสียงที่ได้แค่ไม่ถึงครึ่งก็มี
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการตัดตั้ง เช่น

1. การเลือกใช้สายไฟ ทั้งสายไฟบวก สายกราวน์ ต้องเลือกให้มีขนาดที่เหมาะสม และใหญ่เพียงพอ การเดินสายกราวน์ต้องติดตั้งในจุดที่เหมาะสม ไม่งั้นจะมีเสียงวี้ด เป็นต้น
2. การเลือกใช้สายสัญญาณ สายสัญญาณแต่ละยี่ห้อ ก็จะมีบุคคลิกเสียงของมันเอง ซึ่งบางส่วนจะมาจากวัสดุที่ใช้ผลิตด้วย เช่น สายทองแดง กับเสายเงิน ก็มักจะให้บุคลิกเสียงที่แตกต่างกัน การเดินสายต้องเดินแยกจากสายไฟ เพื่อป้องกันการรบกวน
3. การติดตั้งลำโพง ควรจะมีแผงไม้รองรับ ไม่ควรยึดโดยตรงกับโครงเหล็กของรถ ตรวจสอบว่าขอบลำโพงต้องแนบสนิทไม่มีการรั่วตามขอบของลำโพง ด้านหลังของตัวลำโพงบริเวณแม่เหล็กไม่ควรใกล้กับโครงหรือชิ้นส่วนที่เป็นโลหะมากเกินไป การติดบริเวณแผงประตูหน้าควรจะมีการ damp เพื่อเพิ่มความแข็งแรกของแผ่นโครงประตู และเป็นการกั้นให้เป็นตู้ไปในตัว ฯลฯ
4. การวางตำแหน่งของทวีตเตอร์ ในกรณีที่เป็นลำโพงแยกชิ้น ถ้าติดแบบ front stage ก็ต้องเลือกตำแหน่งให้เหมาะสม เช่น วางบน console หรือมุมกระจกประตู ก็จะให้เสียงที่แตกต่างกัน มุมในการวางก็จะให้ผลของเสียงที่ต่างกันด้วย
5. การตีตู้ sub การเลือกใช้รูปแบบของตู้ให้ถูกกับสไตล์เสียง ตู้ปิด ตู้เปิด ตู้แบนด์พาส รวมทั้งการคำนวณปริมาตรของตู้ และการประกอบตัวตู้
6. การปรับตั้งความถี่ของ crossover ในกรณีที่ใช้ bi-amp หรือมากกว่า การปรับตั้งความถี่ของจุดตัด รวมทั้งความดัง ก็จะมีผลต่อคุณภาพเสียงเช่นกัน
วันที่: 28 Mar 08 - 15:46

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 364076
โดย: ซิด
ชุดนี้กี่ตังอะพี่
วันที่: 08 Jul 08 - 20:42