ผมล่ะงง ๆ พอดีมันรั่วน่ะครับ ร้านแอร์มันบอกว่า เอาออกไปถ้าน้ำยาแอร์เหลือ 10% คนขับก็ร้อนทนไม่ได้แล้ว

โดย: งง ๆ   วันที่: 22 Aug 2007 - 11:37

 ความคิดเห็นที่: 1 / 18 : 286782

โดย: koko69

งง เหมือนกันครับ (ช่างแม่มมั่ว) หาร้านอื่นดีกว่าครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 18 : 286803

โดย: ตาหนุ่ม

เอ่อ ถ้ามันไม่จำเป็น มันคงไม่ถูกติดตั้งมาจากโรงงานผลิตรถยนต์หรอกครับ

เปลี่ยนร้านดีกว่า ฟันธง !!!

 ความคิดเห็นที่: 3 / 18 : 286820

โดย: zzzzzzz

หน้าที่กรองสิ่งสกปรก คร๊าบบบบ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 18 : 286829

โดย: Hero

เหมือนข้างบนคับ เอาไว้กรองสิ่งสกปรก ทำหน้าที่เหมือนกรองน้ำมันเครื่องนั่นแหละคับ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 18 : 286835

โดย: ตายล่ะหว่า

มันไม่ได้เป็นตัวตัดน้ำยาแอร์เหรอครับ เวลาน้ำยาแอร์หมด

 ความคิดเห็นที่: 6 / 18 : 286840

โดย: อะตอม

ชื่อตรงตัวตามภาษาอังกฤษเลยครับ "แห้ง" = ตัวดูดความชื้นในระบบน้ำยาทำความเย็นครับ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่ช่างบอกเลยซักนิด
มาช่วย งง อีกคน

 ความคิดเห็นที่: 7 / 18 : 286841

โดย: JimmY_in_323

dryer ตรงตัว ครับ คือตัวทำให้แห้งครับ มีหน้าที่ทำให้น้ำยาแอร์ ปราศจากความชื้น ครับ
เออ ถูกหรือเปล่าหว่า แบบว่าเรียนมาน้อย

 ความคิดเห็นที่: 8 / 18 : 286842

โดย: oxoxox

dryer รั่ว ก็เปลี่ยนแล้วก็แวคน้ำยาใหม่สิครับ ช่าง(มัน)จะเอาออกไปทำไมหว่า?

ตัวตัดน้ำยาแอร์จะเป็นสวิตส์ที่ปักอยู่บนกระป๋อง dryer อีกทีครับ

dryer (filter-dryer receiver ชื่อเต็มมันแบบนี้มั๊งนะถ้าผมจำไม่ผิด) หน้าที่มันก็ตามชื่อเลย คือดูดความชื้นออกจากน้ำยาแอร์และกรองสิ่งสกปรก แต่หลักๆน่าจะดูดความชื้นออกจากน้ำยาแอร์มากกว่า เหมือนพวกปั๊มลม

 ความคิดเห็นที่: 9 / 18 : 286843

โดย: แบบว่าไม่ค่อยรู้เรื่องรถ

เด๊ยวผมขอถ่ายรูปมาให้ดูดีกว่าครับ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วน่ะครับ ว่าตัวนี้มันเรียกว่า dryer รึเปล่า

 ความคิดเห็นที่: 10 / 18 : 286844

โดย: จขกท

ตำแหน่งมันเกือบอยู่หน้ารถ แล้วน่ะครับตัวนี้

 ความคิดเห็นที่: 11 / 18 : 286868

โดย: กลุ้ม

ช่างเถอะแน่ๆ เลยผมว่า

 ความคิดเห็นที่: 12 / 18 : 286926

โดย: king

dryer เสีย ก็เปี่ยน dryer สิครับ
ไปตัดออกทำไม-----งง อีกคน

ตัวนึงก็ไม่ได้แพงอะไรนักหนา ไม่ถึงหลักพันก็มี

 ความคิดเห็นที่: 13 / 18 : 286983

โดย: Yut12

ถ้าช่างมันแกะ Dryer ออกแล้วจะทำอย่างสวิตช์ตัดแอร์ล่ะมันต้องแปะอยู่ด้วยกัน

 ความคิดเห็นที่: 14 / 18 : 287095

โดย: aza

ฟังมาผิดรึป่าวครับ จขกท
ลองตรวจสอบดูดีดีอีกทีนึงนะครับ
drier นี่ยังไงก้อต้องมี
หรือว่าจะเป็นเทคนิกใหม่ งง!!

 ความคิดเห็นที่: 15 / 18 : 287122

โดย: oa1974

ที่ช่างจาถอดออกน่าจะเป็นสวิซ Hi-low ฟรีซเซอร์มากกว่ารีซีฟเวอร์-ดรายเออร์ครับ เพราะมันมีอุปกรณ์รวมกันอยู่4ตัวในตัวเดียวกัน
1.รีซีฟเวอร์ทำหน้าที่กักน้ำยาที่มีสภาพเป็นแก็สแล้วปล่อยน้ำยาเหลวออกซ่ึงจะเป็นผลทำให้น้ำยาที่ผ่านเข้า เอ็กแพนช่ันวาล์ว มีปริมาณของน้ำยาเหลวที่คงที่ซ่ึงจะลดและป้องกันปริมาณน้ำยาที่มีสภาพเป็นแก็สเข้าสู่ เอ็กแพนช่ันวาล์ว และอีวาโปเรเตอร์ (คอยเย็น)และช่วยรับการขยายตัวของน้ำยาในระบบด้วย(ตัวใหญ่รับการขยายตัวได้มาก)
2.ฟิสเตอร์หรือสเตนเนอร์ทำหน้าทีกรองผงหรือส่ิงสกปรกไม่ให้เข้าไปในเอกซ์แพนช่ันวาล์วได้เพระจะทำให้ระบบเกิดการอุดตัน
3.ไซจ์ กลาสส์ทำให้สะดวกเวลาซ่อมครับจะได้มองเห็นสภาพการไหลผ่านของน้ำยาได้ครับ
4.ดรายเออร์ ทำหน้าที่ดูดความช้ืนของน้ำยาโดยการบรรจะผงซิลิก้า เยลไว้ข้างในเพราะความช้ืนเป็นสาเหตุของการตันความชื้นและความช้ืนในระบบจะยังเป็นตัวลดสมรรถนะทางด้านความเย็นและอายุการใช้งานของระรบครับ

 ความคิดเห็นที่: 16 / 18 : 287140

โดย: คนโดนมาเเว้ว อ่ะ

ขอตอบ เเบบ นอก กรอบ หน่อย นะ ครับ มันน่า จะ เป็นตัว ที่ทำให้น้ำยาเเอร์เกิดการเเตกตัวเป็นฝอยเพื่อไปเข้าสู่กระบวนการ cooling ในคลอย์เย็น คับ ที่สำคัญของ โครโนส ปี 93(ตัวยาวนะครับ) ราคาโอ๊วเเม่เจ้าเลยคร๊าบบ หมื่น นิดๆ เลยย ต้องบอกว่าราคานี้เป็นราคาของที่เป็น path ในร้านที่เก็บไว้หรือศูนย์ที่เก็บไว้นะครับ (part เเท้ราคาโรงงาน) เลย เเต่ ในที่สุดหลังจากใช้ความพยายามหาก็ เจอของเทียบครับ ราคาต่างกันราวกับฟ้ากะดิน ครับ สองร้อยห้าสิบเอ็งง คร๊าบบ โล่งสักที่

 ความคิดเห็นที่: 17 / 18 : 287241

โดย: dink UnLocK

ช่วยตอบครับ อิอิ ผมทำงานด้านเครื่องปรับอากาศครับ ตามที่คุณ oa1974 คต.16 กล่าวไว้ถูกกกกต้องงงงงนะคร๊าบบบบบ เพิ่มเติมให้ครับเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของแอร์รถ... เท่าที่ผมเห็นกรรมวิธีที่ช่างแอร์รถยนต์บางเจ้าทำนี่ หยาบมากครับ การแว๊คคั่มหรือทำสูญญากาศจริงๆเพื่อให้ระบบทำงานได้ดีที่สุด และยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที ครับ แล้วยิ่งเครื่องแว๊คที่ใช้กันโดยดัดแปลงมาจากคอมแอร์เก่านี่ ยิ่งต้องนานกว่านี้อีก หรืออาจใช้ไม่ได้ เพราะในระบบต้องเป็นสูญญากาศจริงๆซึ่งมีหน่วยวัดเป็น นิ้วปรอท ต้องไม่น้อยกว่า 28 นิ้วปรอทครับ และไม่ใช่ว่า ถึงแรงดันเท่านี้แล้วปุ๊บหยุดปั๊บนะครับ ต้องรอให้ได้เวลาอย่างที่ว่าไว้ เพื่อให้ความชื้นหรือไอน้ำในระบบเดือดออกมาจนหมดเกลี้ยง ผมเห็นร้านมันเสียบปลั๊กไม่ถึง 10 นาที บอกเรียบร้อยแล้ว...555....น้ำมันคอมเพรสเซอร์นั้นทำปฎิกิริยากับ ความชื้นได้ดีมาก มันจะกลายเป็นกรด ทำลายชิ้นส่วนภายในระบบครับ รวมทั้งเมื่อมันปะปนไปกับน้ำยาแอร์ แล้วบังเอิญไปรวมตัวกันที่ เอ็กซ์แปนชั่นวาล์วหรือตัวลดแรงดันน้ำยาฯเพื่อฉีดเข้าคอล์ยเย็น มันจะกลายเป็นน้ำแข็ง( เป็นฟรอสน้ำแข็งเหมือนในช่องฟรีสตู้เย็นครับ)ทำให้การฉีดน้ำยาฯไม่ดี หรือถึงกับตันครับและดรายเออร์นั้นเป็นสารดูดความชื้นที่ไม่สามรถนำกลับมาใช้ได้ใหม่นะครับ เมื่อมันดูดความชื้นอิ่มแล้วจบกันครับ คุณจะแว๊คคั่มนานแค่ไหน มันก็แค่แห้งไปด้วย แต่จะไม่ดูดใหม่อีกแล้ว ฉะนั้นดรายเออร์เก่าที่ใส่กันนี่ คือ ได้ใช้แค่1.กรองสิ่งสกปรก 2.ดูน้ำยา และ 3.สวิทช์ตัดแรงดันเท่านั้นครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นประโยชน์แก่สมาชิกที่น่ารักทุกท่านนะครับ อิอิ

 ความคิดเห็นที่: 18 / 18 : 287540

โดย: หนึ่งความเห็น

ขอออกความเห็นด้วยคน ไอ้ตัวที่ช่างบอกว่าถอดทิ้งได้น่าจะเป็น สวิชท์แรงดันที่ติดอยู่กับดรายออร์ สามารถถอดออกโดยไม่ต้องใช้ก้อได้ครับ แต่เวลาน้ำยาแอร์มันหมดหรือ น้อยมากๆ คอมเพรสเซอร์มันจะทำงานตลอดถ้าไม่ปิดแอร์ จนร้อนแล้วก้อจะพังเร็ว สวิชท์ตัวนี้ติดมาเพื่อป้องกันว่า ถ้าไม่มีน้ำยาแอร์ คอมจะไม่ทำงานครับ สามารถเอาออกทิ้งได้เลยถ้าคิดว่าเปลืองหรือ ไม่อยากจ่ายแพงกว่าในการซื้อดรายเออร์ที่มีสวิชท์ (แบบไม่มีสวิชท์300กว่าแต่มีสวิชท์600กว่า) แล้วแต่นะครับ ไม่ติดก้อได้ ติดก้อได้แล้วแต่ตังคร๊าบ แต่ตัวดรายเออร์หรือ รีเซิฟเวอร์ต้องใส่นะคร๊าบ ไอ้ตัวที่เป็นกระป๋องกลมๆมีลูกแก้วเหมือนตาแมวหน้ารถน่ะครับ