Close this window

เพิ่มเติมครับ
เปิดคู่มือจราจรแนะปชช." ใช้เส้นทางสัญจรเลี่ยงรถติด



ในพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8, 9, 10, 12 และ 13 มิถุนายนนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เป็นกำลังหลักในการจัดเส้นทางขบวนเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีในต่างประเทศทั้ง 26 ประเทศ พร้อมทั้งจัดกำลังถวายการรักษาความปลอดภัยร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-8 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และกองบังคับการกองปราบปราม

การจัดเส้นทางขบวนเสด็จฯ ทาง บช.น.ได้มอบหมายกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โดย พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร. เป็นกำลังหลักในการวางแผนจัดเส้นทาง และคำนวณเวลาตั้งแต่เสด็จออกจากโรงแรมที่ประทับทั้ง 13 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ โรงแรมคอนราด โรงแรมเชอราตัน สุขุมวิท โรงแรมแชงกรี-ลา โรงแรมโอเรียนเต็ล


โรงแรมสุโขทัย โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ โรงแรมเพนนินซูล่า โรงแรมดุสิตธานี โรงแรมออร์คิด เชอราตัน โรงแรมปาร์คนายเลิศฯ เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดพระราชพิธี ประกอบด้วย พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และหอประชุมกองทัพเรือ ตลอดจนเส้นทางเสด็จฯกลับโรงแรมที่ประทับ


เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ทาง บก.จร.ได้ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเสด็จฯดังนี้ ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปีนั้น เริ่มจากเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน ทรงประกอบพิธีพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จะไม่มีการปิดเส้นทาง จึงไม่มีผลกระทบต่อการจราจรแต่อย่างใด


ในวันที่ 9 มิถุนายน ทรงประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเสด็จออกมหาสมาคมถวายพระพรชัยมงคล ในช่วงเวลา 10.00 น. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งพระราชทานวโรกาสให้ประชาชนจากจังหวัดต่าง ๆ เข้าเฝ้าฯ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า


ทาง บก.จร.คาดว่าจะมีประชาชนเป็นเรือนแสนเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ จึงต้องปิดการจราจร ตั้งแต่เวลา 06.00-13.00 น. บริเวณถนนศรีอยุธยา แยกวัดเบญจมบพิตร ถึง แยก พล.1 ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชย์พระนคร ผ่านแยกสวนมิสกวัน ถึงแยกวังแดง และจากแยกอู่ทองใน ผ่านลานพระบรมรูปทรงม้า ผ่านแยกสวนมิสกวัน ถึงสะพานมัฆวาน อาจจะต้องขยายเส้นทางปิดการจราจรไปถึงสะพานผ่านฟ้าหากมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก


ทาง บก.จร.จึงขอให้ผู้สัญจรไปมาหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รวมทั้งถนนใกล้เคียงที่เชื่อมต่อกับเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจนครบาลได้จัดสถานที่จอดรถบัสและรถตู้โดยสารที่ประชาชนใช้เป็นพาหนะเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ ไว้ให้บริเวณรอบนอก อาทิ ถนนโลคัลโรด เลียบคลองผดุงกรุงเกษม โรงปูนย่านสวนจตุจักร และถนนพุทธมณฑลสาย 1 เป็นต้น


ในวันที่ 10 มิถุนายน ทรงประกอบพระราชพิธีภายในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จะไม่มีการปิดการจราจร วันที่ 11 มิถุนายน แม้จะไม่มีหมายกำหนดการพระราชพิธี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องจัดเส้นทางขบวนรับเสด็จฯของสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ส่วนมากจะเสด็จพระราชดำเนินมาถึงประเทศไทยในวันดังกล่าว จะต้องปิดเส้นทางการจราจร บนทางยกระดับโทลล์เวย์ ทางด่วนขั้นที่ 1 ลงถนนเพลินจิต และทางด่วนขั้นที่ 2 ลงถนนสีลม เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น. เพื่อเสด็จฯ ไปยังโรงแรมที่ประทับทั้ง 13 แห่ง


รวมถึงวันที่ 12 มิถุนายน ในช่วงเช้ายังคงมีสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีบางประเทศเสด็จมาถึงประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 05.50-12.00 น. และเสด็จฯ ไปโรงแรมที่ประทับเช่นกัน จากนั้นช่วงบ่าย วันที่ 12 มิถุนายน สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ทั้ง 26 ประเทศ จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงแรมที่ประทับไปร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม


โดยขบวนเสด็จฯจะออกจากโรงแรมที่ประทับ 9 แห่ง ย่านถนนสุขุมวิท และถนนสาทร ใช้เส้นทางในถนนสีลม ถนนสาทร ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ ถนนสุขุมวิท เพื่อขึ้นทางด่วนจากเพลินจิต ลงด่วนยมราช อีกสายหนึ่งที่ออกจากโรงแรมที่ประทับฝั่งถนนเจริญกรุงและถนนเจริญนคร 4 แห่ง เพื่อขึ้นทางด่วนสุริวงศ์ ลงทางด่วนอุรุพงศ์ ทุกขบวนจะมาบรรจบกันบริเวณทางรถไฟช่วงลงทางด่วนยมราช


แต่ละขบวนทิ้งระยะเวลาห่างกันขบวนละ 30 วินาที จากนั้นขบวนเสด็จฯ จะวิ่งผ่านสนามม้านางเลิ้ง แยกสวนมิสกวัน เข้าลานพระบรมรูปทรงม้า โดยเรียงลำดับตามลำดับอาวุโสการครองสิริราชสมบัติ ซึ่งจะใช้เวลาในการปิดเส้นทางจราจรที่ขบวนเสด็จฯ วิ่งผ่านประมาณ 30 นาที จากนั้นตามหมายกำหนดการพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี จะใช้เวลา 45 นาที


หลังเสร็จพระราชพิธีสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ทั้ง 26 ประเทศ จะทยอยเสด็จฯกลับโรงแรมที่ประทับ ทุกขบวนจะเสด็จขึ้นทางด่วนยมราช ไปลงทางด่วนเพลินจิต และทางด่วนสีลม ทั้งนี้ บริเวณถนนโดยรอบพระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า จะปิดการจราจร บริเวณถนนราชดำเนินนอก ถึงแยกสวนมิสกวัน เพื่อจอดรถขบวนเสด็จฯ และเพื่อการถวายการรักษาความปลอดภัย


จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนสุขุมวิท ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนเพชรบุรี ทางด่วน และถนนโดยรอบพระที่นั่งอนันตสมาคมในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ต่อมาเวลา 17.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน เข้าสู่หมายกำหนดการทอดพระเนตรนิทรรศการ และกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ หอประชุมกองทัพเรือ และอาคารราชนาวิกสภา โดยขบวนเสด็จออกจากโรงแรมที่ประทับ 9 แห่ง ย่านถนนสุขุมวิท และถนนสาทร จะใช้เส้นทางขึ้นทางด่วนเพลินจิต ลงทางด่วนยมราช


และจากโรงแรมที่ประทับ 4 แห่ง ย่านถนนเจริญกรุงและถนนเจริญนคร จะใช้เส้นทางขึ้นทางด่วนสุริวงศ์ ลงทางด่วนอุรุพงศ์ มาบรรจบกันที่ทางรถไฟบริเวณทางลงด่วนยมราช ผ่านบ้านพิษณุโลก ทำเนียบรัฐบาล แยกสวนมิสกวัน เลี้ยวซ้ายผ่านสะพานมัฆวาน เวทีมวยราชดำเนิน แยก จปร. เลี้ยวขวาขึ้นสะพานพระราม 8 ลงถนนอรุณอัมรินทร์ ผ่านโรงพยาบาลศิริราช เข้าสู่หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งต้องปิดการจราจรในเส้นทางดังกล่าวประมาณ 30 นาที โดยพระราชพิธีดังกล่าวจะเสร็จสิ้นเวลา 20.30 น.


ทั้งนี้ ช่วงเวลาพระราชพิธี จะมีการปิดการจราจรบริเวณโดยรอบหอประชุมกองทัพเรือ ในถนนอรุณอัมรินทร์ ตั้งแต่แยกโรงพยาบาลศิริราช ถึงถนนพระราชวังเดิม ส่วนเส้นทางเสด็จกลับโรงแรมที่ประทับ จะใช้เส้นทางถนนอรุณอัมรินทร์ ผ่านโรงพยาบาลศิริราช ขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ผ่านสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สี่แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้า แยก จปร. แยกสวนมิสกวัน เลี้ยวขวาเข้าถนนพิษณุโลก ผ่านทำเนียบรัฐบาล สนามม้านางเลิ้ง ขึ้นด่วนยมราช มุ่งหน้าโรงแรมที่ประทับ


ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวและเส้นทางเชื่อมต่อตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเวลา 21.00 น. เนื่องจากจะต้องปิดเส้นทางการจราจรจากฝั่งพระนครเชื่อมต่อกับฝั่งธนบุรี วันที่ 13 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีต่างประเทศ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท


โดยขบวนเสด็จออกจากโรงแรมที่ประทับเวลา 18.00 น. ใช้เส้นทางเดิม ลงทางด่วนยมราช ผ่านแยกสวนมิสกวัน สะพานมัฆวาน สะพานผ่านฟ้า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าถนนราชดำเนินใน เลี้ยวขวาหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะต้องปิดการจราจรในเส้นทางดังกล่าวประมาณ 30 นาที จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางด้วย นอกจากนี้ พล.ต.ต.ภาณุได้ทยอยออกคำสั่ง พ.ร.บ.การจราจรทางบก เกี่ยวกับเรื่องการห้ามจอดรถและคำสั่งเดินรถทางเดียวเป็นการชั่วคราว บริเวณถนนรอบโรงแรมที่ประทับ


ประกอบด้วย ช่วงเวลาวันที่ 11-14 มิถุนายน ห้ามจอดบนถนนศรีเวียง ตั้งแต่เจริญกรุงถึงใต้ทางด่วนสีลม ถนนเจริญเวียงตลอดสาย ซอยเจริญกรุง 42, 42/1, 44, 46, 50 ซอยทางลงท่าน้ำสาทร ถนนโดยรอบโรงแรมแชงกรี-ลา จุดตัดซอยเจริญกรุง 42 กับ ซอยเจริญกรุง 42/1 ถึงซอยทางลงท่าน้ำสาทร และให้รถเดินทางเดียวในซอยเจริญกรุง 50 ถนนเลียบข้างโรงแรมแชงกรี-ลาไปถนนเจริญกรุง


วันที่ 12-13 มิถุนายน ให้รถเดินทางเดียวในถนนสุขุมวิท ฝั่งทิศเหนือขาออก ตั้งแต่แยกนานา ถึงอโศก และเข้าทางแยกนานา ออกแยกอโศก-สุขุมวิท ห้ามรถทุกชนิดเดินในถนสุขุมวิท ทิศใต้ (ฝั่งขาเข้า) ให้เปลี่ยนแปลงทางจราจรไปทางขวา (เบี่ยงขวา) เข้าช่องเดินรถสวนทางในถนนสุขุมวิท ฝั่งเหนือ (ขาออก) ปากซอยสุขุมวิท 19 ตลอดเวลา ห้ามจอดบริเวณถนนราชดำริทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่แยกศาลาแดงถึงแยกราชประสงค์ และถนนวิทยุทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงเพลินจิต


วันที่ 11-14 มิถุนายน ห้ามจอดทั้ง 2 ฝั่งของถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกศาลาแดง ถึงแยกวิทยุ และให้รถเดินทางเดียวในถนนสาทรเหนือ แยกคอนแวนต์ถึงแยกถนนวิทยุ และถนนสาทรใต้ แยกถนนวิทยุ ถึงแยกคอนแวนต


นอกจากนี้ ในวันที่ 11-14 มิถุนายน ห้ามจอดรถในซอยเจริญนคร 12 จากปากซอยถึงสามแยก ระยะทาง 130 เมตร ซอยเจริญนคร 11 จากบ้านเลขที่ 725/7 ถึงบ้านเลขที่ 32 ระยะทาง 100 เมตร ซอยเจริญนคร 13 จากปากซอยถึงทางแยก ระยะทาง 30 เมตร และซอยเจริญนคร 14 จากปากซอยถึงทางแยกระยะทาง 200 เมตร ซึ่ง บก.จร.จะทยอยออกคำสั่งต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด และถวายการรักษาความปลอดภัย
โดย: เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน   วันที่: 6 Jun 2006 - 08:36