เรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้นเมื่อวานครับ เป็นพนักงานในบริษัทผมเอง
เพิ่งพบศพเมื่อวานตอนเย็น

มาเตือนภัยพวกเราเพื่อป้องกันไว้ นะครับ เวลากลางคืน หรือกลางวันก็ตามแต่ หากใครมาเคาะประตู อย่าเปิดโดยไม่สอบถาม หรือพละการเป็นอันขาด ถามวัตถุประสงค์ให้แน่ชัดก่อนครับ ภัยสังคมมีอยู่รอบตัว
จากเหตุโศกนาฏกรรมนี้ ไม่ได้ทำลายแค่ชีวิต น้องนุ่นเท่านั้น
แฟนหนุ่มน้องนุ่น ก็คือ นายอำรุง เป็นพนักงาน1ใน4 ที่พวกผมพิจารณาส่งตัวไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 11 พค นี้ เป็นเวลา 1 ปีเต็มด้วยครับ วันนี้สภาพที่เห็นแย่มากครับน่าห่วงมาก แต่ก็จะดูแลแก้ไขกันต่อไป
สำหรับน้อง นุ่น ขอให้เธอสู่สุขคติ

นี่คือเนื้อข่าว จาก นสพ ไทยรัฐ ฉบับเช้านี้
เชือดคอสาว หมกห้องพัก

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 4 พ.ค. ร.ต.ต.ประยูร ประกอบจันทร์ ร้อยเวร สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่อพาร์ตเมนต์ศรีรุ่งเรือง เลขที่ 18/253 ปากซอยเทพกุญชร 38 ถนนเลียบคลองหนึ่ง หมู่ 13 ต.คลองหนึ่ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก. พ.ต.ท.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฤทธิ์นันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ สว.สส.นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
พบอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวเป็นตึกสูง 3 ชั้น จุดเกิดเหตุภายในห้องเลขที่ 101 ชั้น 1 พบศพ น.ส.กมลทิพย์ หรือนุ่น แพรวกลาง อายุ 21 ปี พนักงานแผนกคอยล์ บริษัทพานาโซนิค จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนครโครงการใหม่ บ้านเดิมอยู่เลขที่ 10 หมู่ 3 ต.ชีวึก อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา สภาพศพนอนคว่ำหน้ากึ่งตะแคงซ้าย บนพื้นปูนปลายที่นอน ศพสวมชุดฟอร์มบริษัท กางเกงขายาวสีเทา เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเทา มีบาดแผลลำคอถูกเชือดด้วยของมีคมฉกรรจ์ 1 แผล หลังมือซ้าย 1 แผล กลางหลัง 1 แผล และฝ่ามือขวาอีก 1 แผล ในมือขวากำเส้นผมไว้แน่นกระจุกใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่ผู้ตายสวมใส่อยู่หายไป และเหลือเงินสดติดตัว 100 บาท ภายในห้องข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ คล้ายมีการต่อสู้รุนแรง ข้างมุมห้องพบมีดปลายแหลมสำหรับปอกผลไม้ มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนแห้งกรัง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจวิทยาการเดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
สอบสวนนายธีระเดช ยิบงาม อายุ 29 ปี ผู้จัดการอพาร์ตเมนต์ให้การว่า ผู้ตายเช่าพักที่อพาร์ตเมนต์มานานปีเศษ เมื่อเวลา 20.37 น. วันที่ 3 พ.ค. น.ส.กมลทิพย์ กลับจากทำงานเข้าห้องพัก โดยใช้คีย์การ์ดเปิดประตูทางเข้าอพาร์ตเมนต์ โดยมีชาย-หญิงคู่หนึ่งเดินตามหลังผู้ตายคล้ายคนรู้จักกัน คล้อยหลังประมาณ 5 นาที ได้ยินผู้หญิงส่งเสียงหวีดร้องเหมือนถูกทำร้าย 2 ครั้ง พอตนออกมาดูเสียงก็เงียบหายไป และไม่ทราบว่าเสียงร้องดังกล่าวออกมาจากห้องใด นั่งสังเกตดูก็เห็นไม่มีอะไรผิดปกติ จึงไม่สนใจอะไรมาก พอดีทางอพาร์ตเมนต์ได้ติดตั้งกล้องวีดิโอวงจรปิดไว้ นำมาเปิดดูแล้วไม่พบเห็นชาย-หญิง ที่เดินตามหลังผู้ตายเข้าไปในห้องกลับไปตอนไหน เพราะได้ปิดกล้องตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่มทุกวัน
ด้านนายอำรุง สุพิมาย อายุ 22 ปี แฟนหนุ่มผู้ตาย ให้การว่า ทำงานที่เดียวกับ น.ส.กมลทิพย์ แต่อยู่คนละแผนกกัน เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา แฟนสาวทำโอทีเลิกงานตอนเวลาประมาณ 20.15 น. และนั่งรถบัสของบริษัทกลับห้องพัก ใช้เวลาราว 15 นาที จากนั้น 3 ทุ่มตนเลิกงานซื้อกับข้าวมาหาผู้ตาย พบว่าห้องปิดใส่กุญแจด้านนอก จึงแขวนกับข้าวไว้ที่ประตู เพราะคิดว่าแฟนสาวคงออกไปธุระข้างนอก แล้วออกไปนั่งรอที่หน้าอพาร์ตเมนต์ กระทั่ง 4 ทุ่มยังไม่เห็นแฟนสาวกลับ เลยกลับไปนอนที่หอพักห่างกันมาก จนเย็นวันเดียวกันเห็นผิดสังเกตที่แฟนสาวไม่ไปทำงาน จึงชักชวนเพื่อนมาดูพบว่าประตูห้องยังคล้องกุญแจ แถมกับข้าวก็ยังแขวนอยู่ เลยงัดกุญแจเข้าไปดูพบว่า แฟนสาวถูกฆ่าตายแล้ว ส่วนสาเหตุไม่ทราบมาจากปัญหาใด
หลังสอบสวนตำรวจนำพยานเพื่อนผู้ตายมาดูวีดิโอวงจรปิด พบหลังเสื้อของหญิงสาวที่มากับผู้ตายมีข้อความคำว่า “ฟูจิกุระ” ซึ่งพยานแต่ละคนยืนยันตรงกันว่า หญิงสาวคนดังกล่าวคล้ายกับเพื่อนสนิทผู้ตายรายหนึ่ง เคยทำงานบริษัทเดียวกัน ล่าสุดได้ลาออกไปทำงานอีกบริษัทหนึ่ง หลังทราบเรื่องตำรวจระดมกำลังตามล่าตัวหญิงต้องสงสัยเต็มที่ แต่ยังไร้วี่แวว เบื้องต้นมุ่งปมฆ่าชิงทรัพย์กับขัดแย้งส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งจะได้สอบสวนคลี่คลายคดีให้แน่ชัดต่อไป

นสพ ไทยรัฐ ฉบับ วันที่ 5 พค.2549

ขอให้เจ้าหน้าที่ลากคอ คนร้ายมาลงโทษโดยเร็วด้วยนะครับ
เพราะคดี เชือดคอ เป็นลักษณะ คดี อุกฉกรรจ์
อย่าให้เหมือนหลายๆคดี ในพื้นที่ นวนคร ที่ถูกปิดเงียบหาตัวคนร้ายไม่คืบหน้าเลย
อย่างน้อยก็เพื่อแสดงให้ประชาชน อุ่นใจว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ชีวิตแต่ละชีวิต ที่เป็นกำลังของชาติ
อย่างอดีต ที่ล่ำลือเลยครับ

น้องๆที่อยู่ที่พักอาศัยคนเดียวก็ขอให้หาทางป้องกันให้เข้มแข็งนะครับ โดยเฉพาะ ผู้หญิง

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของน้องนุ่นที่เสียชีวิต ครับ

ปล. ขอนุญาติไม่ลงภาพเพื่อให้เกียรติผู้ตายครับ

โดย: ทวีรัฐ   วันที่: 5 May 2006 - 10:34

 ความคิดเห็นที่: 41 / 46 : 193467

โดย: AL Fargo

ประจำ ฆ่ากันตาย ยิงกันตายประจำ

แถวคลองหลวงเนี่ย ก่อนหน้านี้ก็บุกค้นแหล่งผลิตยาบ้าหลายใหญ่
ไม่รู้มันเอาเวลาที่ไหนมาปั้นเม็ด บนสะพานลอยยังโดนปล้นกันประจำ แม่ค้าโดนดักตีหัวแต่เช้าตรู่ หน้าไวท์เฮ้าส์ (เพื่อนเล่าให้ฟัง) ถุงพริกแกงกระจาย

น่าสงสารมั่กมาก


สังคมนี้มันเสื่อมทรามจริง ๆ

 ความคิดเห็นที่: 42 / 46 : 193468

โดย: AL Fargo

ปล.ลืมแซวป๋าเลย


ยัยลูกแมวไปทำไรกับเครื่องคอมพ์ป๋าดึก ๆ ดื่น ๆ 5ทุ่ม เที่ยงคืนไม่กลับบ้าน ฮึ




คิดนะเนี่ย คิดนะ

 ความคิดเห็นที่: 43 / 46 : 193481

โดย: ทวีรัฐ

เฮ้ย..+ +

นึกว่าไม่เห็นแล้วเชียว....

ก็.. (ว่าไงดี หว่า...)

ก็..โน๊ตบุ๊ค มันสามารถเคลื่อนย้ายได้นี่ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้านผมก็ได้นี่(หว่า)

(ฟังขึ้นมั๊ยเนี่ย...)


คิดมากน่า.......บร้า...อะตัวเอง...

แหม ก็เมื่อวานต้องไปงานศพ นี่นา ก็เลยไม่อยากย้อนไปย้อนมา ..น่ะ น้ำมันแพง ช่วยชาติประหยัด

ผิดตรงไหนย๊ะ

คิดมากน่า..วู้...........
วันเสาร์ ก็ไปฟังสวดมา กลับมาก็เกือบ เที่ยงคืนแล้ว....

 ความคิดเห็นที่: 44 / 46 : 193486

โดย: *~B3S~*

ถ้าแซวกันต่อไปอีกสักหน้าสองหน้า รับรองว่าป๋าได้ฟังสวดอีกรอบแน่ ๆ


อ่อมาต่อสาระบ้าง...นอกจากเรื่องจัดงานที่บ้านแล้วนะ ผมไปงานที่ลำปางมา ที่นั้นยังนิยม เผาด้วยเชิงตะกอนอยู่เลยอ่ะ ขนาดชาปณสถานที่ไปเนีย ก็มีเมรุแล้วนะ แต่ก็ยังต้องมี เชิงตะกอนอีกตั้ง 2 เชิงด้วย ถามได้ความว่า คนที่นั้นยังนิยมแบบนั้นอยู่ ไม่เข้าใจเหมือนกัน

 ความคิดเห็นที่: 45 / 46 : 193500

โดย: Amy

ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม ตายแล้วต้องเผา แล้วทำไม ตายแล้วต้องฝังอ่ะ

ทำไมไม่ตายแล้ว ก็ตายไปอ่ะ ยึ้ยยยย คุยไรฟ่ะเนี่ยเรา

 ความคิดเห็นที่: 46 / 46 : 193502

โดย: T@dT@ ^_^

++ขอแสดงความเสียใจด้วยกับครอบครัวของน้องเค้าที่น้องเค้าต้องมาเสียชีวิตเพราะคนพาล
++ขอ แสดงความเสียใจกับป๋าวีที่ต้องขาดพนักงาน(สาว)ไปอีกนึ่งคน
++ขอแสดงความใจกับ(เอมี่)คนที่มีคดีให้ผู้กองลี่ ต้องคอยตามจับ
++ขอแสดงความยินดีกับน้องแคทที่กล้าออกแจ้งจับป๋าวีในความ(แก่)ดื้อ

+++อ่ะทีนี้ข้อสงสัยของเจ้าภู เท่าที่เคยได้ยินพ่อแม่ปู่ยาตายายพูดก็คือ
ศพคนตายส่วนมากถ้าเป็นสมัยก่อน ศพตายโหงจะไม่เอากลับเข้ามาตั้งสวดที่บ้าน(บางคนไม่ถืออย่างบ้านพี่น้องชายมอร์ไซด์คว่ำตายเอาศพตั้งสวดที่บ้าน เพราะสะดวก)แต่ถ้าคนแก่ตายป่วยตายธรรดาถึงจะตั้งสวดที่บ้าน

แต่สมัยนี้ถือความสะดวกสบายเป็นส่วนใหญ่