ขอเล่าย้อนถึงพื้นหลังของชีวิตกวางก่อนนะคะ (ถ้าไม่มีเวลา ไม่อยากอ่าน ก็ข้ามตรงนี้ไปและกันค่ะ)
ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่กวางลำบากมาตั้งแต่เด็ก พอมีกวางจึงไม่อยากให้กวางลำบากอย่างท่าน ประกอบกับกวางเป็นลูกคนเดียวก็เลยรักมากๆ ก็เลยเลี้ยงดูกวางแบบไม่ให้กวางทำอะไรเลย พอกวางมีปัญหาคุณพ่อก็จะกระโดดเข้ามาแก้ปัญหาให้ตลอด จนกวางคิดเองไม่เป็น ทำอะไรเองไม่เป็น แก้ปัญหาก็ไม่ได้ ก็เลยเป็นพวกหนีปัญหาซะ แล้วก็ด้วยความที่ได้รับความรักความอบอุ่นมากมายขนาดนี้ กวางว่ามันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กวางอ่อนแอ
และอีกส่วนหนึ่งคือมาจากตัวของกวางเอง
คือกวางจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะถ่อมตัวเอามากๆ จนกลายเป็นการมองไม่เห็นคุณค่าตัวเอง ลืมข้อดีของตัวเอง ไปตอนไหนก็ไม่รู้
กวางว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุ และเป็นบุคคลิกของคนที่ง่ายต่อการเป็นโรคซึมเศร้า
กวางไม่ได้โทษว่าพ่อแม่กวางทำผิด อย่างที่พี่สักคนเคยว่าเอาไว้ในนี้ว่า พ่อแม่กวางก็ไม่ได้เกิดมาแล้วมีใครมาสั่งสอนเรื่องการเลี้ยงลูกว่าต้องเลี้ยงยังไง และอีกอย่างที่สำคัญก็คือ กวางรู้ดีและเข้าใจดีว่าที่พ่อแม่กวางเลี้ยงกวางมาอย่างนั้นก็เพราะความรักที่มากมายเหลือเกิน
แต่กวางก็ไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องมาเป็นอย่างกวางอีก เพราะกวางรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน
ค่ะ กวางเป็นโรคซึมเศร้า (สารเคมีในสมองผิดปกติ ทำให้ส่งผลต่อความคิดและอารมณ์) แต่ที่กวางทำอยู่นี้ก็มีแค่การกินยาเท่านั้น ซึ่งกวางก็รู้ดีว่า มันไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะสาเหตุจริงๆส่วนที่ฝังรากลึกมานานมันยังอยู่ และคงต้องใช้วิธีการอะไรสักอย่างเพื่อมาปรับเปลี่ยนความคิด จากการหนีปัญหาให้มาเผชิญหน้า และ ก้าวไปข้างหน้า (ให้คิดน่ะ คิดได้ค่ะ ทราบดีทุกอย่าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ มีปัญหามากองอยู่ตรงหน้าก็คิดแต่จะหนี หนักเข้านิดก็จะหาทางทำร้ายตัวเอง ไม่ก็หาทางฆ่าตัวตายไปนู่นเลย)
ทีนี้ก็มาถึงปัญหาที่กวางกำลังเผชิญอยู่ แต่ก็ไม่เคยจะทำใจยอมรับมันได้เลย จนอยากจะกรีดข้อมือเป็นร้อยๆรอบ อยากจะตายไปให้พ้นๆเป็นสิบๆรอบ (ที่พิมพ์มานี่ไม่ได้เว่อร์นะคะ กวางอยากจะกรีดข้อมือเป็นร้อยๆรอบ จะตายให้ได้เป็นสิบๆรอบแล้ว เพราะปัญหานี้)
ตัวปัญหาก็คือเรื่องเรียน
หลังจากที่เลิกกับแฟนคนแรกที่คบกันมาสี่ปี และยึดเค้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเอง พอไม่มีเค้าก็เหมือนโลกแตก อาการซึมเศร้าก็เริ่มออก และก็เสียศูนย์ ไม่กินไม่นอนไม่ทำอะไร เกรดก็เลยดิ่งลงเหว
จากที่ไม่เคยเครียดเรื่องเรียนมาก่อนเลย ก็เริ่มเครียด และ เริ่มกลัวการสอบ จน panic
ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องเรียน และกลายเป็นเด็กมีปัญหาของคณะไป
จากที่เคยอยู่ระดับกลางๆของชั้นปี ก็กลายมาอยู่รั้งท้ายให้ใจหายอยู่ตลอด จนในที่สุดก็สอบไม่ได้ เริ่มมีการถอนรายวิชา ดรอป ติดเอฟ เป็นว่าเล่น แล้วมหาวิทยาลัยกวางก็ไม่ได้มีให้เด็กเลือกลงวิชาเองเหมือนมหาวิทยาลัยอื่นๆ และคณะกวางก็ไม่มีซัมเมอร์ให้แก้เอฟ ไม่มีให้สอบซ่อม และอาจารย์ที่เคยสอนกวางมาก็ไม่เคยให้ทำรายงานเพื่อเป็นคะแนนเพิ่มไม่ให้เอฟ กวางจึงต้องเรียนกับรุ่นน้อง ซึ่งก็ไม่คุ้นเคย และมีพื้นฐานไม่เท่ากับกวาง
อย่างแรกคือ รุ่นน้องกวางเข้ามาคนละรุ่นกับกวาง ซึ่งรุ่นหลังๆ คะแนนการสอบเข้าสูงขึ้นกว่ารุ่นกวางมาก เด็กที่เข้ามาจึงเป็นเด็กที่ไม่เรียนเก่งจริง ก็คือขยันมากๆ เพราะคะแนนที่จะติดคณะกวางก็ถือว่าสูงเอาการอยู่
อย่างที่สองคือ รุ่นของกวาง อาจารย์ประจำคณะส่วนใหญ่ยังเรียนต่ออยู่ต่างประเทศ ทางคณะจึงต้องจ้างอาจารย์จากต่างมหาลัยมาสอน ซึ่งก็ไม่ได้สอนเจาะลึกมากมาย เหมือนสอนแค่เอาไปใช้งานจริง แต่รุ่นน้องกวางเรียนกับอาจารย์ประจำคณะที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งสอนลงลึกมากๆ และเรียนกับอาจารย์เหล่านั้นมาตั้งแต่เริ่มเข้าวิชาคณะ จึงเข้าใจพื้นฐานและสิ่งที่สอนมาแล้ว และกำลังจะสอนต่อไปได้ดี
แต่กวางไม่ได้เข้าใจด้วย เพราะพื้นฐานกวางไม่เหมือนเค้า และก็เป็นความผิดของกวางเองที่ไม่ได้ไปค้นคว้าสิ่งที่พวกน้องๆรู้ เพราะกวางคิดว่ามันคงไม่ได้เอาไปใช้งาน แต่มันก็สะสมอยู่ในใจว่า กวางไม่เหมือนคนอื่น ไม่รู้เรื่องเหมือนคนอื่น
และในที่สุด ความกดดันจากสังคมในคณะ ความกดดันจากการเรียนที่เหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าคนอื่น และความกดดันอื่นๆแวดล้อม ก็มาผสมๆกัน และทำให้กวางรู้สึกว่า กวางเรียนคณะนี้ให้จบปริญญาไม่ได้ และตั้งแต่ที่กวางเริ่มเรียนไม่ได้ กวางก็ไม่เคยมีความสุขกับการเรียนคณะนี้อีกเลย
แต่กว่าจะคิดอย่างนี้ กวางก็เสียเวลามาแล้ว 5 ปี ไม่รวมเวลาที่ออกไปเอนท์ใหม่ เพราะปัญหาทางบ้านอีก 1 ปี (รวมเป็น 6 ปี ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เพื่อนๆกวางเรียนจบ ได้มีโอกาสรับปริญญากันไปหมดแล้ว รวมทั้งเพื่อนที่เรียนแพทย์ด้วย) ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ของกวาง ที่ทำให้กวางท้อแท้ และรู้สึกไร้ค่ามากๆ เพราะที่บ้านกวางเป็นหนี้อยู่เพราะกู้เงินมาซื้อบ้านหลังปัจจุบันนี้ (หนีน้ำท่วมที่ท่วมแทบทุกวันที่บ้านหลังเดิม) มันก็เลยติดอยู่ในใจกวางตลอดว่า แทนที่กวางจะเรียนจบ มีงานทำ มีเงินเลี้ยงตัวเองไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ และ ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ ช่วยผ่อนบ้าน แต่กลายเป็นว่า กวางต้องมาเป็นภาระให้พ่อแม่ต้องรับผิดชอบ ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว และ ยังต้องมาคอยดูแลกวางตอนใกล้สอบ(เพราะกวางจะอาการกำเริบและทำร้ายตัวเองเอาบ่อยๆ) แถมยังต้องมาเป็นห่วงกวางทั้งๆที่กวางอายุ 24 แล้วอีก
ยังค่ะ ยังไม่จบเรื่องเรียน พอคิดว่าเรียนไม่จบจากคณะนี้ กวางก้อเริ่มหาทางออก ก็คิดไว้หลายๆทาง และลงมือทำ ซึ่งก็ล้มเหลว ไปทางนั้นก็ไม่ได้ ทางนี้ก็ไม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆกัน ซึ่งก็อดที่จะรู้สึกท้อ และ ผิดหวังไม่ได้ (ก็ขอแก้ตัวกับพี่เอมี่นะคะ ไม่ใช่ว่ากวางเปลี่ยนใจบ่อย เปลี่ยนใจง่ายหรอกค่ะ แต่ที่กวางจะย้ายคณะไปคณะนั้นคณะนี้ แล้วมาโพสต์ใหม่เป็นทางเลือกอื่น ไม่ใช่เพราะกวางเปลี่ยนใจนะคะ แต่ว่ากวางเดินเรื่องแล้ว แล้วคณะนั้นทั้งไม่รับ ทั้งไล่ให้ไปรักษาตัวแล้วให้กลับไปเรียนคณะเดิม ทำนองว่ากรูไม่เอามึมหรอกอ้ายเด็กมีปัญหา รับมาก็เป็นปัญหากับคณะเค้าเปล่าๆ อะไรแบบนั้น และส่วนเรื่องอื่นๆที่เคยโพสต์ กวางจำไม่ได้แล้ว แต่ก็ทำนองเดียวกันคือ ทำไม่ได้ จนสุดท้ายก็สรุปได้ว่า ความผิดกวางเองแหละ ที่กวางมาเป็นโรคนี้ และ เลือกคณะนี้ ที่มหาลัยนี้) ที่กวางหายๆไป ไม่มาโพสต์อะไรก็เพราะกวางกลัวพี่ๆจะรำคาญ หรือเห็นเป็นเรื่องเรียกร้องความสนใจ แต่คราวนี้กวางขอโพสต์เป็นครั้งสุดท้ายแล้วกันค่ะ แล้วจะไม่มาโพสต์อะไรอีกแล้ว
ลำพังแค่ไม่ได้คิดหาทางออก กวางก็ต้องเผชิญกับความรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปตั้ง 6 ปี และความรู้สึกดูถูกตัวเองต่างๆนานา อย่างที่ได้พิมพ์ไปแล้วข้างต้น เพราะกวางอายุก็เยอะแล้ว แต่ก็เรียนไม่จบ เรียนให้จบไม่ได้ แถมยังต้องมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดตอนอายุเท่านี้
และท้ายที่สุด ทางออกที่น่าจะดีที่สุด ก็คือเรียนราม ซึ่งมันก็ทำให้กวางเสียดายมากๆ เพราะกวางเคยเรียนในมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าเป็นที่หนึ่งทางการแพทย์ ที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะเรียน แต่กวางก็เรียนไม่ได้ และต้องมาเริ่มต้นใหม่ในมหาลัยเปิด เพื่อเอาปริญญาใบแรก ด้วยอายุ 24 กว่าจะจบจะรับปริญญาก็คงใกล้ๆ 30 นู่น (ทุเรศตัวเองนะเนี่ย คนอื่นเค้ารับกัน 23 24)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับเรื่องที่จะปรึกษาตอนนี้ ก็เป็นทางเลือกที่น่าจะเป็นไปได้ ณ ตอนนี้
1. ดันทุรังเรียนที่เดิมให้จบ (ใช้เวลา 4 ปี เพราะตอนนี้หน่วยกิตอยู่ที่ปี3 และยังขาดวิชาของปี3 อีก 2 ตัว)
2. ลงเรียนใหม่ ซึ่งที่คิดไว้ตอนนี้ก็มีสองคณะ คือ วิทยาการคอมพิวเตอร์ กับ เทคโนโลยีสารสนเทศ
คือตัวกวางพอจะทำเวปได้ ใช้โฟโต้ชอปได้บ้าง แล้วก็รู้สึกชอบที่จะทำเวป ชอบที่จะอยู่หน้าคอม ก็เลยว่าจะหันมาเอาดีมันทางนี้ซะเลย และก็ว่าจะศึกษาพวกเวปโปรแกรมมิ่ง กับ แฟลชด้วย จะได้ทำส่วนนั้นได้ ไม่งั้นกวางก็ทำได้แค่จับนู่นนี่มายัดใส่ดรีมวีฟเวอร์ให้ออกมาเป็นเวปเพจแค่นั้น
แต่เท่าที่เข้าไปดูหลักสูตรของสองคณะนี้ มันก็ไม่ตรงทางซะทีเดียว ก็เลยว่าจะเอาอันที่น่าจะรุ่งกว่า เรียนได้แฮปปี้กว่า และก็ที่เหลือค่อยไปเรียนเสริมเอาข้างนอก + เรียนและหัดทำด้วยตัวเอง และก็ทำงานด้านพวกนี้ไปด้วย กว่าจะจบปริญญาออกมา คงรู้เรื่องพวกนี้และก็มีประสบการณ์การทำงาน เอาไปใช้ได้แล้วล่ะมั้ง
แต่ที่คิดเอาไว้ตอนนี้ ก็คงจะทดลองเดินเรื่องย้ายไปวิทยาการสัตวแพทย์ มหาลัยเกษตร ดูก่อน เพราะตอนนี้ยังมีสถานะเป็นนักศึกษาของที่เดิมอยู่ ถ้าดันทุรังย้ายได้ ก็อาจจะเรียนแค่ไม่ปี สองปี ก็น่าจะได้ วท.บ. มาอันนึงก่อน
แต่ระหว่างนั้นก็จะลงวิทย์คอม ม.ราม ไว้ก่อน เพราะปีนี้ลงได้เลย แล้วปีหน้าค่อยเอนท์ดูใหม่ เผื่อจะได้
คณะที่แอบหวัง คณะที่ดีกว่า หรือในกรณีที่จะเอาคณะเทคโนสารสนเทศ (ถ้าที่คณะนี้เหมาะกับกวางมากกว่า และไปได้ดีกว่า วิทย์คอม)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เฮ่อออ ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปติดต่อเรื่องงานพิเศษอีก ต้องตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้า ขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ เท่านี้ก็พิมพ์มาเสียเยอะแยะมากมายแล้ว
ก็ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เสียเวลาอ่านจนจบ และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำ ข้อคิด และ กำลังใจต่างๆค่ะ และก็ขอโทษนะคะ ถ้ากระทู้นี้ทำให้ใครรำคาญ หรือ ไม่พอใจอะไรน่ะค่ะ กวางไม่ได้ตั้งใจ และก็ไม่มีเจตนาจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
กวางป่า