Close this window

ใครรู้จักร้านจูนเครื่องเสียงฝีมือๆ บ้างครับ
มีใครติดตั้งเครื่องเสียงแล้วพบร้านจูนเครื่องเสียงดีๆ บ้างครับ
ไปติดตั้งมาแล้ว จูนมาแล้ว แต่ดูเหมือนยังขาดอะไรไปบ้าง

ความหวานครับ

ความหวานของเสียงยังขาดไป
แต่มีความแข็งของเสียงสูงที่ยังไม่ลงตัวเท่าไร

ซึ่งรถผมมีอุปกรณ์ดังนี้นะครับ

front blaupunkt bremen MP74
amp xetex 440.5 5 channel
speaker pca (peerless) แยกชิ้น หน้าหลัง 4 คู่
sub JL 10W0

front มี EQ 3 ชุด 54 แบนด์ ต่ดชุด (หน้า27 หลัง 27)
preout 4 ชุด แต่ใช้ 3 ชุดเข้าแอมป์ เป็น Tri-Amp
สามารถปรับ sub จาก front ได้

ใครพอแนะนำ ก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ
(แฟนบ่นว่าเสียดหู เครื่องเดิมดีกว่า ทั้งๆ ที่เครื่องเดิมเป็นเครื่องติดรถ รู้สึกแย่ที่แฟนติน่ะครับ)
โดย: oddodd   วันที่: 17 Jan 2006 - 22:05


 ความคิดเห็นที่: 1 / 13 : 168227
โดย: 1425
rocket sound
noom car audio
วันที่: 18 Jan 06 - 00:15

 ความคิดเห็นที่: 2 / 13 : 168261
โดย: Mazdalism
ไม่หวานก็พกน้ำตาลไว้ในรถซิครับ ฮ่า ล้อเล่น
อุปกรณ์ของคุณ od นี่ดูแล้วก็ครบและมีเกรดเลยทีเดียว ถ้าคุณเพิ่งติดมาอย่าเพิ่งเอาไปจูนนะครับ รอรันอินสักเดือน สองเดือน ให้อุปกรณ์ต่างๆ มันเข้าที่เข้าทางก่อนระหว่างนี้ก็เบิดหนักเบาสลับกันไป สักพักนึงคุณก็จะรู้เองแหละว่าสภาพอคูสติคในรถคุณกับชุดนี้จะต้องปรับแบบไหน ให้ร้านจูนยังไงมันก็ไม่ได้เสียงแบบที่เราต้องการหรอกครับเพราะว่าหูช่างกับหูคุณ+แฟนคุณไม่เหมือนกับช่างแน่นอน แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าปรับยังไงจริงๆ ก็ต้องให้ร้านที่คุณไปทำมาปรับให้ครับ โดยบอกแนวฟังของเราไป ขอให้มีความสุขกับเพลงโปรดครับ
วันที่: 18 Jan 06 - 08:18

 ความคิดเห็นที่: 3 / 13 : 168280
โดย: Tong-ha
อยากได้ความหวานเหรอครับ อย่าใช้ EQเลยครับ ตัว Front ปรับFlat เลย เพราะถ้าใช้EQ
การตัดความถี่ จะห้วนเกินไป ขาดความลื่นไหล ต่อเนื่องของแต่ละความถี่ ปรับเฉพาะที่แอมป์นะครับ
EQ ปรับ มันเป็นเรื่องความต้องการรายละเอียด ที่เด็ดขาด เพราะ แต่ละความถี่ จะไม่ค่อยมา
นัว กันเท่าไหร่ หรือที่เรียกกัน ว่า แนว เชี๊ยย บึ้ม ไงครับ แต่ก่อนจะปรับอะไร ก็อย่างที่ คุณ Mazdalism บอกแหละครับ รอให้พ้น Burn in ไปก่อน



ปล.ใช้ลำโพงยี่ห้อเดียวกัยเลย แต่ ทวิสเตอร์ ผมไม่ได้ใช้ของPCA อ่ะแสดงว่าชอบ ฟังเสียง
คนร้องหวานๆ ใช่ป่าว ครับ เพราะลำโพง ยี่ห้อนี้ ให้เสียง ร้องได้หวานคุ้มราคามากๆ
ในราคาระดับนี้ หาตัวจับยากครับ เอ๊ะ กรวยฟ้า หรือ ดำครับ
วันที่: 18 Jan 06 - 09:29

 ความคิดเห็นที่: 4 / 13 : 168350
โดย: Mazdalism
ใช่ๆ burn in ลืมไป
ถ้าชอบฟังเสียงหวานๆ ก็ต้องไปทะเลครับ หวานจนมดในนี้ตอมกันบึ้ม อ้อ แล้วก็บึ้มจริงๆด้วยแบบเนี๊ย
(ขออนุญาตป๋าวีนำภาพนี้ลงประกอบคำอธิบายน๊ะครับ คงไม่หวงน๊ะครับ)
วันที่: 18 Jan 06 - 13:09

 ความคิดเห็นที่: 5 / 13 : 168577
โดย: JipManU
sub JL 10W0 ตัวนี้พอลงแล้วเสียงเป็นยังไงมั่งครับ

แล้วถ้าเป็นตัว JL10 w3v2 หละครับ

แนวเสียงมันจะต่างกันเยอะไหมครับ
วันที่: 19 Jan 06 - 01:53

 ความคิดเห็นที่: 6 / 13 : 168649
โดย: เล็กจัง
PCA ตัวนี้เคยใช้เหมือนกัน ต้องเอาแหลมไว้ไกลๆ หน่อยครับ เพราะจัดไปหน่อย ..ผมว่าที่แฟนคุณชอบแบบเดิมๆ มากกว่าเพราะแหลมมันจะจัด เลยฟังไม่สบายหูเท่าไร แต่เสียงร้องนี่อืมม์ ยอมรับครับ ..หวานจับใจจริงๆ (ในราคาระดับนี้) ...ร้านจูนลองดูร้านคุณไมค์ ใน pantip/ratchada ( ร้านแย่แถว นวมินทร์ Yes in deed ประมาณเนียะมั้ง ไม่เคยไปเหมือนกัน ) ดูสิครับเห็นหลายๆ ท่านแนะนำอยู่เหมือนกัน แต่แกคงไม่จูนเองหรอก น่าจะให้คุณ เสริมสกุล เป็นคนจูนกระมัง ค่าจูนคงราวๆ 2-3 พันนี่แหละ เพราะ EQ นี่น่าจูนยากพอสมควรนะ ......- ไม่ได้เป็ฯหน้าไหนทั้งสิ้นครับ เคยแค่คุยกันเท่านั้น พอรู้สึกได้ว่าอัธยาศัยพอรับได้ ....เท่าที่ฟังเสียงคนใช้บริการ อย่างเช่น เด็พบูรพา ก็ชอบใจพอสมควร.แต่ก็ต้องลองคุยกแกดูก่อนครับ ....ส่วนเบอร์ลองหาดูในกระทู้เก่าในห้องเครื่องเสียงละครับ)
ขอให้มีความสุขครับ ...จากอาเองหลาน ณ พันทิพย์
วันที่: 19 Jan 06 - 10:42

 ความคิดเห็นที่: 7 / 13 : 168650
โดย: oddodd
เพื่อนๆ ครับ

ก็ยังเป็นปัญหาที่ต้องทนฟังอยู่ทุกวัน(ก็มันเป้นเครื่องเสียงในรถนี่)
มีเพื่อนผมรายหนึ่งบอกว่าให้นำรถไปจูนอัพกับร้านที่มีคอมพิวเตอร์และsoftware จูนเครื่องเสียง
ซึ่งก็คงเป็นพวก rocket sound หรือ สุชาติ อะไรทำนองนี้
แต่ยังติดขัดว่า ผมไม่ได้ติดที่เขา แล้วเขาจะดูแลผมหรือ หรืออาจถูกฟันหัวแบะกลับมาก็ได้

ก็คงต้องลองสักตั้ง

ตอนนี้เพิ่งติดตั้งมา 20 วัน แล้ว คงลอง burn ให้ครบ 2 เดือนก่อน แล้วค่อยไปปรับตั้งอีกที
ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไปปรับตั้งร้านที่ติดมา 2 ครั้ง ครั้งละ 3-4 ชั่วโมง แล้ว
ตอนฟังที่ร้าน เอ...มันก็ดีนี่นา ฟังไปฟังมา เอ.....ทำไมเสียงมันเป็นแบบนี้ฟะ ถ้าเราจะเรื่องมากนิ

ส่วนเรื่องความหวาน .....

ทำไงได้ ผมชอบหวานๆนี่ครับ
และหากไม่ใช้ eq ปรับ(flat) เสียงมันจะออกไปทางตู้มู่ ทึบๆน่ะครับ มันไม่ใช่โทนเสียงที่ชอบ
เพราะผมฟัง jass และ pop jass เป็นหลัก


ส่วนลำโพง peerless ที่ใช้น่ะ กรวยฟ้าครับ
ส่วนคุณ JipManU ตัว ตัว JL10 w3v2 ผมไม่ทราบจริงๆ
และผมไม่ได้ฟัง hiphop หรือ Dance ตัว sub เลยไม่จำเป็นต้องเน้นมากนัก
แต่ตัวที่ใช้อยู่ก็อยู่ในเกณฑ์นิ่มนวลครับ ไม่กระแทกหลัง ปุปุ เน้นนุ่มลึกมากกว่า
ยังไง วันหลังมาลองฟังรถผมก็ได้ครับ

ส่วนคุณ Mazdalism ..
เอื้อ...ก ......... ผมก็.....ชอบบื้มๆ แต่
แต่นี่เครื่องเสียงนะครับ ม่ายใช่เครื่อง......เอื้อก....................

แต่อย่างไรก็ขอบคุณทุกคนที่ให้ความเห็นครับ
วันที่: 19 Jan 06 - 10:43

 ความคิดเห็นที่: 8 / 13 : 168778
โดย: Tong-ha
ปรับFront ให้ Flat แล้วไปปรับตัวตัดความถี่ กับ gain ที่แอมป์ใหม่ สิครับ ดูซะก่อนว่าแอมป์เค้าปรับไว้อย่างไร ทำไมมันFlat ถึงเสียงอู้ ลองปรับFront Flat แล้วจูนที่แอมป์ใหม่แล้วลองเทียบ กัน ดูนะครับ ว่าแบบไหนฟังแล้วลื่นหูกว่ากัน

กรวยฟ้า เหมาะกับ Hi power มากว่าครับ เสียดายจัง น่าจะซื้อกรวยดำ หวานผิดกันเยอะเลยครับ
วันที่: 19 Jan 06 - 16:58

 ความคิดเห็นที่: 9 / 13 : 168821
โดย: oddodd
อ้าว..............จริงเหรอครับคุณ Tong-ha
เดี๋ยวจะลองไปซนกับ power amp สักหน่อย
เต็มที่ก็ขับไปให้ร้านเดิมจูนใหม่อีก

วันก่อนน้องชายผมก็ไปเล่นซะเละมารอบแล้ว

แล้วเป็นไปได้ไหมครับว่าสายลำโพงหน้าสลับขั้วผิดไป
ทำให้เสียงที่ออกมาบางทีฟังแล้วปวดหู

เอ หรือจะเปลี่ยนลำโพงด้านหน้าใหม่ดีครับ

เฮ้อ.......................หรือว่าจะต้องเสียตังอีกแล้วหนอตู
วันที่: 19 Jan 06 - 20:20

 ความคิดเห็นที่: 10 / 13 : 168901
โดย: Tong-ha
การต่อลำโพง กลับ Phase ก็เป็นสว่นหนึ่งที่ทำให้เวลาฟัง แล้วรู้สึกมันแปลกๆรู้สึกเหมือนกับว่า โดน เค้นให้ร้องให้เล่น ครับ เสียงจะติดออกแนว บางลีบ ไม่ทราบว่าตอน ติดตั้ง เค้าใช้เครื่องCHK Phase ,CHK ให้หรือเปล่าครับ ไม่ดู ไม่ได้นะครับ ของแบบนี้ ผมเคยเจอนะ ว่าเดินสายมาถูกต้องทุกอย่าง แต่อุปกรณ์ กลับ Phase มาจาก โรงงาน ผู้ผลิต เลย

อืม เรื่องเปลี่ยน ลำโพงอย่างเพิ่งใจร้อนครับ ปรับจูนให้เข้าที่เข้าทางที่สุดก่อน แล้วถ้ายังไม่พอใจ
ค่อยมาว่ากัน อืม ลืมบอกไป ลำโพง ทวิตเตอร์ ของPCA จะแหลมจัดไปหน่อย ผมเลยไม่ใช้ครับ
เพราะ มันเป็น โดมโลหะอ่ะ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เลยหาแบบ โดมผ้าไหม มาใส่แทน มันมาลงตัว
ที่ Stage Logic ครับ แล้วสร้างPassive เอา ผมก็ชอบแบบ หวานๆ เช่นเดียวกันครับ
ความหวานและ ความอิ่ม จำเป็นกับผมมาก เลยเถิดไปถึงขนาด เล่น หลอด ไปแล้ววววววว
ขอให้มีความสุขในการฟังเพลง ครับ
วันที่: 20 Jan 06 - 09:06

 ความคิดเห็นที่: 11 / 13 : 169053
โดย: oddodd
ขอบคุณอีกครั้งครับคุณ Tong-ha

เดี๋ยวจะลองเอารถไปตรวจ
แต่ตอนนี้รถคันที่เปลี่ยนเครื่องเสียงเข้าศูนย์อยู่ครับ
เนื่องจากไฟ airbag ติดอยู่ตลอดเวลา
ช่างก็ทำการล้างข้อมูลแล้ว ยังไม่หาย
(ผมใช้ lantis กับ passat TDi 2 คัน เป็นพาหนะส่วนตัวครับ)

คงต้องสัปดาห์หน้า

แต่เรื่องแอมป์หลอดคงต้องสักพักอะครับ
รอให้สร้างบ้าน แต่งงานก่อน
แล้วพอ มีตังเยอะสักหน่อยค่อยเล่น

ทำไงได้ ก็ชอบหวานๆ นี่ครับ
วันที่: 20 Jan 06 - 21:47

 ความคิดเห็นที่: 12 / 13 : 241878
โดย: mr.ali
สวัสดีครับ * ผมเป็นคนหนึ่งที่รักการเต้น Hip hop มากๆๆ * เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว * เริ่มต้น ผมแค่เต้น pop ธรรมดาๆตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลาย * พอเห็น mv- baby one more time ของ Britney spears เท่านั้นแหละ ก็ชอบขึ้นมาทันที * ตอนแรกแค่ทำสนุกๆขำๆ เต้นไปเรื่อยเปื่อย * แต่เมื่อผมได้ดู MV ของ Janet Jackson, J.Lo, Justin Timberlake หรือ Christina Aguilera มากขึ้น ผมก็เริ่มสนใจการเต้น body lock, hip-hop ต่างๆ (ผสมป๊อพนิดๆ) * โดย copy ท่าต่างๆจากการอัดวีดิโอ แล้วมาสอนเพื่อนๆคนอื่นในทีม (เน้น step บน ไม่ใช่แบบ b-boy นะคับ ย้ำว่าไม่ใช่แนวb-boy) * ที่รร.ผมก็จะมีผู้ชายอีกคนสองคนที่เรียนรู้เร็ว และมีความตั้งใจจริง * ส่วนผู้หญิงที่เหลือก็พอได้ แต่ยังไม่ถึงกับเยี่ยมนัก และมักจะถอนตัวหรือไม่ค่อยตั้งใจเต้นเท่าไหร่ พูดง่ายๆว่าไม่ได้รักการเต้นอย่างจริงจังเข้าสายเลือดเหมือนผม * ซึ่งในตอนนั้น ผมกับเพื่อนก็จะ form team กันเต้นในงานกีฬาสีมั่งล่ะ งานกลางคืนโรงเรียนมั่ง * มันเป็นความรู้สึกที่สนุกมากๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรัก * และพวกผมยังได้เข้าประกวดเต้นในห้างของจังหวัดของผมด้วยในขณะนั้น...และก็ไปแข่งยังต่างจังหวัดบ้าง * สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง ปนๆกันไป ตามสภาพ เพราะในตอนนั้น ไม่ได้มีรายได้เป็นของตนเอง เพราะยังเรียนอยู่ ประกอบกับที่รร.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้มากนัก * เพราะที่รร.เขาจะเน้นกีฬากับวิชาการ ส่วนเรื่องเต้นของพวกผมนั้น เป็นการทำขึ้นกันเอง ไม่มีครูสอน เงินค่าชุดต้องออกกันเอง * พอจบม.ปลายแล้ว ผมเองก็ถอดใจ และก็เบื่อหน่าย รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับด้านนี้ * เลยวางมือและตั้งใจว่าจะไม่แตะเรื่องเต้นอีกเลย * แต่เมื่อผมอยู่ปี5 (ตอนนี้เรียนอยู่ม.ราม) ช่วงสิงหาคม2549 มีการคัดตัว dancer ของ Tata young อัลบั้ม Temperature rising...แฟนผมก็ชวนผมให้ลองไป ซึ่งผมก็นึกอะไรไม่รู้ ดันอยากลองทำดู เป็นเพราะผมดูหนังเรื่อง Honey ด้วย ทำให้เกิดอาการอินกับหนัง ก็เลยไปร่วมคัดตัว * แต่ก็ไม่ได้รับเลือก เพราะผมก็ห่างการเต้นมาตั้ง5ปี และดูแล้วที่เขาเต้นกัน มันก็ไม่ใช่แนวผม * ตอนนั้นผมก็ผิดหวังอยู่เหมือนกัน ว่าจะไม่ทำอีกแล้ว * แต่เรื่องอย่างนี้มันอยู่ในสายเลือดน่ะครับ คงเลิกยาก * และผมก็ไปเจอว่ามีประกวดเต้น street jam, dancing contest ของ Seacon square จัดขึ้นวันที่ 9-10 ธ.ค.2549 ซึ่งตอนที่ผมเจอใน internet นั้น มันประมาณวันที่ 28 พ.ย.2549 มีเวลาประมาณอาทิตย์กว่าๆ ผมว่าน่าจะทัน * เลยโทรไปชวนเพื่อนเก่าซึ่งฝีมือใช้ได้ เค้าก็โอเค เพื่อนคนนี้เขาเรียนที่ Abac และเขาเองก็มีเรียนหนักมาก แต่ก็ยังทำเพราะใจรักจริงๆ และชวนเพื่อนของเพื่อนอีก3คน * ตอนนั้นเขาบังคับทีม 5-8คน ผมกะเอา5คน และคนก็ลงตัวแล้ว โดยมีผู้ชาย3(รวมผม) ผู้หญิง2คน * แต่กว่าจะลงตัวได้ ก็หืดขึ้นคอเหมือนกัน ค่าโทรศัพท์บานเลย แต่ก็ต้องยอมเพื่อให้ได้ทีมมา * ผมเลยนัดซ้อมกันวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค.2549... 4 คนก่อน เพราะผู้หญิงอีกคนไม่ว่าง * จริงๆแล้ววันศุกร์ผมต้องทำงาน แต่ผมกลับยอมลางาน1วัน ทั้งๆที่ยังไม่ผ่าน probation ซึ่งผมยอมเสียเงินเพื่อส่วนรวม และอยากให้ทีมออกมาดีที่สุด * ผมไปซ้อมกันที่ Abac สโมสรนักศึกษา ในห้องที่มีกระจก ซ้อมกันหนักมาก แค่ 11.30ถึงประมาณ16.00 ผมปวดตัวมากๆ * ระบมไปทั้งตัว ตอนนั้นซ้อมท่า Doesn’t Really Matter ของ Janet Jackson เอาท่ามา50% * ผมเป็นคนลอกท่ามาเองเพราะชอบมาก เป็นท่าที่สวยมาก * มันต้องใช้การ ล็อกตัวและความตั้งใจสูงมาก ซึ่งเพื่อนๆเค้าก็พอได้ และก็จะคิดท่าเองอีกครึ่งนึง * จากนั้นผมก็นัดกันว่าวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. เราจะมาพร้อมกันที่เดิม 5 คน * และวันที่ 5 ธ.ค.ก็จะได้ซ้อมอีกเพราะเป็นวันพ่อ ซึ่งทุกคนว่างตรงกัน * ในขณะนั้นผมเจ็บตัวและปวดตัวมากๆแต่ก็มีความสุข และกลับไปเตรียมตัวเปิดเพลงดูท่าดูรายละเอียดเพิ่มเติมและคิดอะไรเพิ่มเพื่อที่จะนำไปใช้แข่ง * แต่แล้ววันเสาร์ตอนเย็น ซึ่งผมก็เตรียมจะออกไปข้างนอกเพื่อซื้อกางเกงผ้าร่มเพื่อที่จะใส่ซ้อม เพื่อนก็โทรมาบอกข่าวร้ายว่า เพื่อนผู้หญิงอีก2คนถอนตัว เพราะเขามีงานด่วนเข้ามา กะทันหัน กินเวลาของเราไปด้วย * ผมอึ้งมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขอร้องให้เพื่อนช่วยหาคนมาแทนที เพราะเรามีเวลาไม่มาก * เพื่อนก็โทรตามคนอื่นอย่างเต็มที่ * ผมเองเหมือนหัวใจแทบจะสลาย เหมือนสิ่งที่เรากำลังสร้างอยู่ดีๆมันพังครืนลงมา * ตอนกลางคืนเพื่อนก็ยังหาไม่ได้สักคน บางคนน่าจะเต้นได้ ก็ติดต่อไม่ได้อีก ผมก็เริ่มท้อใจ บอกกับเพื่อนว่าช่วยขอร้องเพื่อนผู้หญิงอีก2คนที่ออกได้ไหมว่า ผมขอร้อง ให้ผมไหว้ก็ได้ แต่เพื่อนมันก็บอกว่าอย่าเลยไม่อยากไปง้อ ซึ่งผมก็ยังไม่หมดหวัง ไม่อยากให้มันล่ม ก็ยังอุตส่าห์นัดเพื่อนผู้ชายอีก2คนที่เหลืออยู่ว่า เรามาเจอกันที่เดิมละกัน และมาคุยกันว่าจะทำอะไรต่อไป * วันรุ่งขึ้นเราก็มาเจอกันที่ Abac และปรึกษากันว่า เราจะไปที่ Seacon ชั้น4 ตรงที่ b-boy เขามาซ้อมบ่อยๆ เพื่อดูว่าเผื่อจะมีใครบ้างที่ช่วยเราได้ * พวกผมก็นั่งรถเมล์ไปกัน (ด้วยความหวัง) แต่ตรงลานว่างนั้นมันมีการตั้งโชว์ประกวดพระพิฆเนศ เลยทำให้ไม่มีใครมาซ้อม ผมกับเพื่อนก็เดินดุ่มๆด้วยความผิดหวัง และก็มาเจอ to be number one friend เป็นเหมือนศูนย์กิจกรรมที่สมัครฟรี ในนั้นผมก็ได้เห็นน้องคนนึงเขาเต้นแนว b-boy ได้ เลยชวนมาซ้อม เขาเองก็บอกว่ามีเพื่อนอีกคนเต้นเจ๋งมาก แต่จะมาประมาณ4โมงเย็น (ตอนนั้นที่เจอน้องเขาประมาณ13.00) * ผมเลยชวนน้องเขาซ้อมท่า โดยเดินไปหาลานว่างๆที่ไม่มีคน ซึ่งซ้อมไปสักพักก็ต้องหยุดเพราะเสียงเพลงในห้างดังเหลือเกิน กลบเพลงวิทยุน้อยๆของเราหมด * เราเลยย้ายไปที่ศูนย์กิจกรรมเดิม พี่พนักงานเขาก็ใจดีมาก ให้เราใช้ที่ในศูนย์ได้ เพราะเป็นช่วงว่าง * ผมก็สอนน้องเขาเต้นต่อ น้องเขาก็มีความพยายามนะ แต่ทำได้ไม่ดีนัก และคิดว่าไม่ทันแน่ เพราะน้องเขารับท่าได้ช้า * ทำให้ผมได้รู้ว่าท่านี้นั้นยากจริงๆ ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องมีความตั้งใจจริง+กับพรสวรรค์และพื้นฐานด้วย * พวกผมซ้อมจนถึง16.00 แล้วน้องอีกคนที่ว่าเจ๋งๆที่เป็นความหวังของผม เขาก็มา แต่lookเขาเหมือนเด็กเรียนห้องวิทย์มาก ใส่แว่น ผมเกรียน ตัวเล็กๆ แต่เขาเต้น b-boy ได้ ตีลังกาได้ (ทั้งที่ใส่แว่นนะ) ผมก็ทึ่งเหมือนกัน แต่เขาเต้นท่าstepบน แบบพวกผมไม่ได้ * ผมเลยต้องเลิกล้มความตั้งใจลง * ในใจก็ท้อมากๆ แต่ในเมื่อมันไม่พร้อมจะให้ทำยังไง พวกผมดิ้นรนกันสุดๆแล้ว แต่สวรรค์ไม่เข้าข้าง * ผมเจ็บมาก เหมือนคนอกหัก เทียบได้กับว่า มีคนที่ผมชอบมากๆ แล้วผมชวนเขาเป็นแฟนแล้วเขาก็ตกลง ผมก็ทุ่มทุกสิ่งทุกอย่าง พาไปเที่ยว กินข้าว....วาดฝันไว้ว่าจะแต่งงาน ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่อีกวันเขาก็บอกเลิก ความรู้สึกแบบนั้นเลยครับ * ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าผมนี่ช่างปัญญาอ่อนจริงๆ แต่ผมบอกเลยว่า ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ * มันคือความฝันของผม การที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ได้นึกถึงตอนที่ยังเรียนม.ปลายอยู่ มันมีความสุขจริงๆถึงแม้ว่าจะต้องออกเงินของตัวเอง ต้องกินข้าวน้อยลง ต้องเหนื่อย ผมก็ยอม * ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่ฝัน ผมมีความสามารถ มีความพยายามสูงมีความตั้งใจจริง แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงออก...เสียดายจริงๆ * อยากให้บรรยากาศนั้นกลับมา บรรยากาศที่ซ้อมกันหนักๆ บรรยากาศที่ไปเดินหาซื้อชุด * บรรยากาศที่ยืนรอหลังเวที เตรียมตัว และพอเพลงดังขึ้นเราก็ทำเต็มที่ มีเสียงคนปรบมือ * บรรยากาศที่เราเต้นเสร็จ และเข้ารอบ หรือแม้แต่ตกรอบ * และผมก็คิดว่า มีอีกหลายคนที่คล้ายๆกับผม มีความฝันมีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ * ถ้าท่านผู้อ่านท่านใด สนใจอยากให้โทรมาคุยกับผมหรือ mail มาก็ได้นะครับ มาเจอกัน ผมเป็นคนง่ายๆสบายๆ แต่เวลาเต้นเวลาซ้อมจะเอาจริงและตั้งใจมาก * เผื่อว่ามีงานแข่งช่วงใดเราจะได้รวมทีมกันทำในสิ่งที่เรารักที่เราชอบเหมือนกัน * ขอบพระคุณมากครับ ที่เสียเวลาอ่านเรื่องน่าเบื่อของผม * ขอบพระคุณมากคับ * ali_rezar_[email protected] (msn ก็ได้คับ คุยกันก่อน จ.-ศ.9.00-17.00)* 086-085-1697 (นายอาลีสุดหล่อ...ล้อเล่น) ตอนนี้ผมอยู่ในกรุงเทพ เรียนม.รามคำแหง อยู่และทำงานด้วย ผมอยู่หน้ารามครับ อยากให้คนที่รักการเต้น hip hop, body-lock แนวๆ Janet, Rain คุยกับผมได้...ได้เพื่อนใหม่นี่เป็นสิ่งวิเศษมากนะคับ ปล.ระวังหมดอายุ... รอคุณอยู่นะคับ ผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลาย ชาย หรือ หญิง ก็ได้ขอให้รักการเต้นจริงๆมาคุยกับผม (6/12/2006) ********อย่าลืมดูที่ผมlink ไว้ให้ ว่าผมเต้นแนวๆนี้*********
http://www.youtube.com/watch?v=fMvNPm2ZhRg&mode=related&search=
http://www.youtube.com/watch?v=DI9epXYo-hk&mode=related&search=
วันที่: 26 Dec 06 - 09:39

 ความคิดเห็นที่: 13 / 13 : 241879
โดย: mr.ali
สวัสดีครับ * ผมเป็นคนหนึ่งที่รักการเต้น Hip hop มากๆๆ * เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว * เริ่มต้น ผมแค่เต้น pop ธรรมดาๆตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลาย * พอเห็น mv- baby one more time ของ Britney spears เท่านั้นแหละ ก็ชอบขึ้นมาทันที * ตอนแรกแค่ทำสนุกๆขำๆ เต้นไปเรื่อยเปื่อย * แต่เมื่อผมได้ดู MV ของ Janet Jackson, J.Lo, Justin Timberlake หรือ Christina Aguilera มากขึ้น ผมก็เริ่มสนใจการเต้น body lock, hip-hop ต่างๆ (ผสมป๊อพนิดๆ) * โดย copy ท่าต่างๆจากการอัดวีดิโอ แล้วมาสอนเพื่อนๆคนอื่นในทีม (เน้น step บน ไม่ใช่แบบ b-boy นะคับ ย้ำว่าไม่ใช่แนวb-boy) * ที่รร.ผมก็จะมีผู้ชายอีกคนสองคนที่เรียนรู้เร็ว และมีความตั้งใจจริง * ส่วนผู้หญิงที่เหลือก็พอได้ แต่ยังไม่ถึงกับเยี่ยมนัก และมักจะถอนตัวหรือไม่ค่อยตั้งใจเต้นเท่าไหร่ พูดง่ายๆว่าไม่ได้รักการเต้นอย่างจริงจังเข้าสายเลือดเหมือนผม * ซึ่งในตอนนั้น ผมกับเพื่อนก็จะ form team กันเต้นในงานกีฬาสีมั่งล่ะ งานกลางคืนโรงเรียนมั่ง * มันเป็นความรู้สึกที่สนุกมากๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรัก * และพวกผมยังได้เข้าประกวดเต้นในห้างของจังหวัดของผมด้วยในขณะนั้น...และก็ไปแข่งยังต่างจังหวัดบ้าง * สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง ปนๆกันไป ตามสภาพ เพราะในตอนนั้น ไม่ได้มีรายได้เป็นของตนเอง เพราะยังเรียนอยู่ ประกอบกับที่รร.ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้มากนัก * เพราะที่รร.เขาจะเน้นกีฬากับวิชาการ ส่วนเรื่องเต้นของพวกผมนั้น เป็นการทำขึ้นกันเอง ไม่มีครูสอน เงินค่าชุดต้องออกกันเอง * พอจบม.ปลายแล้ว ผมเองก็ถอดใจ และก็เบื่อหน่าย รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับด้านนี้ * เลยวางมือและตั้งใจว่าจะไม่แตะเรื่องเต้นอีกเลย * แต่เมื่อผมอยู่ปี5 (ตอนนี้เรียนอยู่ม.ราม) ช่วงสิงหาคม2549 มีการคัดตัว dancer ของ Tata young อัลบั้ม Temperature rising...แฟนผมก็ชวนผมให้ลองไป ซึ่งผมก็นึกอะไรไม่รู้ ดันอยากลองทำดู เป็นเพราะผมดูหนังเรื่อง Honey ด้วย ทำให้เกิดอาการอินกับหนัง ก็เลยไปร่วมคัดตัว * แต่ก็ไม่ได้รับเลือก เพราะผมก็ห่างการเต้นมาตั้ง5ปี และดูแล้วที่เขาเต้นกัน มันก็ไม่ใช่แนวผม * ตอนนั้นผมก็ผิดหวังอยู่เหมือนกัน ว่าจะไม่ทำอีกแล้ว * แต่เรื่องอย่างนี้มันอยู่ในสายเลือดน่ะครับ คงเลิกยาก * และผมก็ไปเจอว่ามีประกวดเต้น street jam, dancing contest ของ Seacon square จัดขึ้นวันที่ 9-10 ธ.ค.2549 ซึ่งตอนที่ผมเจอใน internet นั้น มันประมาณวันที่ 28 พ.ย.2549 มีเวลาประมาณอาทิตย์กว่าๆ ผมว่าน่าจะทัน * เลยโทรไปชวนเพื่อนเก่าซึ่งฝีมือใช้ได้ เค้าก็โอเค เพื่อนคนนี้เขาเรียนที่ Abac และเขาเองก็มีเรียนหนักมาก แต่ก็ยังทำเพราะใจรักจริงๆ และชวนเพื่อนของเพื่อนอีก3คน * ตอนนั้นเขาบังคับทีม 5-8คน ผมกะเอา5คน และคนก็ลงตัวแล้ว โดยมีผู้ชาย3(รวมผม) ผู้หญิง2คน * แต่กว่าจะลงตัวได้ ก็หืดขึ้นคอเหมือนกัน ค่าโทรศัพท์บานเลย แต่ก็ต้องยอมเพื่อให้ได้ทีมมา * ผมเลยนัดซ้อมกันวันศุกร์ที่ 1 ธ.ค.2549... 4 คนก่อน เพราะผู้หญิงอีกคนไม่ว่าง * จริงๆแล้ววันศุกร์ผมต้องทำงาน แต่ผมกลับยอมลางาน1วัน ทั้งๆที่ยังไม่ผ่าน probation ซึ่งผมยอมเสียเงินเพื่อส่วนรวม และอยากให้ทีมออกมาดีที่สุด * ผมไปซ้อมกันที่ Abac สโมสรนักศึกษา ในห้องที่มีกระจก ซ้อมกันหนักมาก แค่ 11.30ถึงประมาณ16.00 ผมปวดตัวมากๆ * ระบมไปทั้งตัว ตอนนั้นซ้อมท่า Doesn’t Really Matter ของ Janet Jackson เอาท่ามา50% * ผมเป็นคนลอกท่ามาเองเพราะชอบมาก เป็นท่าที่สวยมาก * มันต้องใช้การ ล็อกตัวและความตั้งใจสูงมาก ซึ่งเพื่อนๆเค้าก็พอได้ และก็จะคิดท่าเองอีกครึ่งนึง * จากนั้นผมก็นัดกันว่าวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. เราจะมาพร้อมกันที่เดิม 5 คน * และวันที่ 5 ธ.ค.ก็จะได้ซ้อมอีกเพราะเป็นวันพ่อ ซึ่งทุกคนว่างตรงกัน * ในขณะนั้นผมเจ็บตัวและปวดตัวมากๆแต่ก็มีความสุข และกลับไปเตรียมตัวเปิดเพลงดูท่าดูรายละเอียดเพิ่มเติมและคิดอะไรเพิ่มเพื่อที่จะนำไปใช้แข่ง * แต่แล้ววันเสาร์ตอนเย็น ซึ่งผมก็เตรียมจะออกไปข้างนอกเพื่อซื้อกางเกงผ้าร่มเพื่อที่จะใส่ซ้อม เพื่อนก็โทรมาบอกข่าวร้ายว่า เพื่อนผู้หญิงอีก2คนถอนตัว เพราะเขามีงานด่วนเข้ามา กะทันหัน กินเวลาของเราไปด้วย * ผมอึ้งมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ขอร้องให้เพื่อนช่วยหาคนมาแทนที เพราะเรามีเวลาไม่มาก * เพื่อนก็โทรตามคนอื่นอย่างเต็มที่ * ผมเองเหมือนหัวใจแทบจะสลาย เหมือนสิ่งที่เรากำลังสร้างอยู่ดีๆมันพังครืนลงมา * ตอนกลางคืนเพื่อนก็ยังหาไม่ได้สักคน บางคนน่าจะเต้นได้ ก็ติดต่อไม่ได้อีก ผมก็เริ่มท้อใจ บอกกับเพื่อนว่าช่วยขอร้องเพื่อนผู้หญิงอีก2คนที่ออกได้ไหมว่า ผมขอร้อง ให้ผมไหว้ก็ได้ แต่เพื่อนมันก็บอกว่าอย่าเลยไม่อยากไปง้อ ซึ่งผมก็ยังไม่หมดหวัง ไม่อยากให้มันล่ม ก็ยังอุตส่าห์นัดเพื่อนผู้ชายอีก2คนที่เหลืออยู่ว่า เรามาเจอกันที่เดิมละกัน และมาคุยกันว่าจะทำอะไรต่อไป * วันรุ่งขึ้นเราก็มาเจอกันที่ Abac และปรึกษากันว่า เราจะไปที่ Seacon ชั้น4 ตรงที่ b-boy เขามาซ้อมบ่อยๆ เพื่อดูว่าเผื่อจะมีใครบ้างที่ช่วยเราได้ * พวกผมก็นั่งรถเมล์ไปกัน (ด้วยความหวัง) แต่ตรงลานว่างนั้นมันมีการตั้งโชว์ประกวดพระพิฆเนศ เลยทำให้ไม่มีใครมาซ้อม ผมกับเพื่อนก็เดินดุ่มๆด้วยความผิดหวัง และก็มาเจอ to be number one friend เป็นเหมือนศูนย์กิจกรรมที่สมัครฟรี ในนั้นผมก็ได้เห็นน้องคนนึงเขาเต้นแนว b-boy ได้ เลยชวนมาซ้อม เขาเองก็บอกว่ามีเพื่อนอีกคนเต้นเจ๋งมาก แต่จะมาประมาณ4โมงเย็น (ตอนนั้นที่เจอน้องเขาประมาณ13.00) * ผมเลยชวนน้องเขาซ้อมท่า โดยเดินไปหาลานว่างๆที่ไม่มีคน ซึ่งซ้อมไปสักพักก็ต้องหยุดเพราะเสียงเพลงในห้างดังเหลือเกิน กลบเพลงวิทยุน้อยๆของเราหมด * เราเลยย้ายไปที่ศูนย์กิจกรรมเดิม พี่พนักงานเขาก็ใจดีมาก ให้เราใช้ที่ในศูนย์ได้ เพราะเป็นช่วงว่าง * ผมก็สอนน้องเขาเต้นต่อ น้องเขาก็มีความพยายามนะ แต่ทำได้ไม่ดีนัก และคิดว่าไม่ทันแน่ เพราะน้องเขารับท่าได้ช้า * ทำให้ผมได้รู้ว่าท่านี้นั้นยากจริงๆ ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องมีความตั้งใจจริง+กับพรสวรรค์และพื้นฐานด้วย * พวกผมซ้อมจนถึง16.00 แล้วน้องอีกคนที่ว่าเจ๋งๆที่เป็นความหวังของผม เขาก็มา แต่lookเขาเหมือนเด็กเรียนห้องวิทย์มาก ใส่แว่น ผมเกรียน ตัวเล็กๆ แต่เขาเต้น b-boy ได้ ตีลังกาได้ (ทั้งที่ใส่แว่นนะ) ผมก็ทึ่งเหมือนกัน แต่เขาเต้นท่าstepบน แบบพวกผมไม่ได้ * ผมเลยต้องเลิกล้มความตั้งใจลง * ในใจก็ท้อมากๆ แต่ในเมื่อมันไม่พร้อมจะให้ทำยังไง พวกผมดิ้นรนกันสุดๆแล้ว แต่สวรรค์ไม่เข้าข้าง * ผมเจ็บมาก เหมือนคนอกหัก เทียบได้กับว่า มีคนที่ผมชอบมากๆ แล้วผมชวนเขาเป็นแฟนแล้วเขาก็ตกลง ผมก็ทุ่มทุกสิ่งทุกอย่าง พาไปเที่ยว กินข้าว....วาดฝันไว้ว่าจะแต่งงาน ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่อีกวันเขาก็บอกเลิก ความรู้สึกแบบนั้นเลยครับ * ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าผมนี่ช่างปัญญาอ่อนจริงๆ แต่ผมบอกเลยว่า ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ * มันคือความฝันของผม การที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ได้นึกถึงตอนที่ยังเรียนม.ปลายอยู่ มันมีความสุขจริงๆถึงแม้ว่าจะต้องออกเงินของตัวเอง ต้องกินข้าวน้อยลง ต้องเหนื่อย ผมก็ยอม * ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่ฝัน ผมมีความสามารถ มีความพยายามสูงมีความตั้งใจจริง แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงออก...เสียดายจริงๆ * อยากให้บรรยากาศนั้นกลับมา บรรยากาศที่ซ้อมกันหนักๆ บรรยากาศที่ไปเดินหาซื้อชุด * บรรยากาศที่ยืนรอหลังเวที เตรียมตัว และพอเพลงดังขึ้นเราก็ทำเต็มที่ มีเสียงคนปรบมือ * บรรยากาศที่เราเต้นเสร็จ และเข้ารอบ หรือแม้แต่ตกรอบ * และผมก็คิดว่า มีอีกหลายคนที่คล้ายๆกับผม มีความฝันมีความสามารถ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ * ถ้าท่านผู้อ่านท่านใด สนใจอยากให้โทรมาคุยกับผมหรือ mail มาก็ได้นะครับ มาเจอกัน ผมเป็นคนง่ายๆสบายๆ แต่เวลาเต้นเวลาซ้อมจะเอาจริงและตั้งใจมาก * เผื่อว่ามีงานแข่งช่วงใดเราจะได้รวมทีมกันทำในสิ่งที่เรารักที่เราชอบเหมือนกัน * ขอบพระคุณมากครับ ที่เสียเวลาอ่านเรื่องน่าเบื่อของผม * ขอบพระคุณมากคับ * ali_rezar_[email protected] (msn ก็ได้คับ คุยกันก่อน จ.-ศ.9.00-17.00)* 086-085-1697 (นายอาลีสุดหล่อ...ล้อเล่น) ตอนนี้ผมอยู่ในกรุงเทพ เรียนม.รามคำแหง อยู่และทำงานด้วย ผมอยู่หน้ารามครับ อยากให้คนที่รักการเต้น hip hop, body-lock แนวๆ Janet, Rain คุยกับผมได้...ได้เพื่อนใหม่นี่เป็นสิ่งวิเศษมากนะคับ ปล.ระวังหมดอายุ... รอคุณอยู่นะคับ ผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลาย ชาย หรือ หญิง ก็ได้ขอให้รักการเต้นจริงๆมาคุยกับผม (6/12/2006) ********อย่าลืมดูที่ผมlink ไว้ให้ ว่าผมเต้นแนวๆนี้*********
http://www.youtube.com/watch?v=fMvNPm2ZhRg&mode=related&search=
http://www.youtube.com/watch?v=DI9epXYo-hk&mode=related&search=
วันที่: 26 Dec 06 - 09:39