Close this window

ขอไว้อาลัยแด่คุณพ่อของ “น้องปุ้ย” ญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา นักกีฬาเหรียญทองคาราเต้-โดทีมชาติไทย
หลังจากที่ “น้องปุ้ย” ญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา นักกีฬาคาราเต้-โด สุดปลาบปลื้ม ที่สามารถคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้เป็นเหรียญแรกในชีวิต และเป็นเหรียญทองประวัติศาสตร์ ของไทยในกีฬาประเภทดังกล่าว และยังได้เหรียญเงิน ในรุ่นน้ำหนักไม่ 53 กก.มาก่อนหน้านี้ด้วย แต่แล้วต้องมารับรู้ข่าวสุดช็อกว่า นายกิตติพงศ์ บิดา ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ถึง 4 วัน ด้วยน้ำมือของนายฐิรวัฒน์ หรือ แจ๊ค อายุ 27 ปี ลูกชาย ซึ่งก็เป็นพี่ชายของน้องปุ้ยเอง ติดยาบ้าคลุ้มคลั่งแทงพ่อบังเกิดเกล้าดับอนาถนั้น เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงเรื่อง น.ส.ญานิศา ต่อรัตนวัฒนา หรือน้องปุ้ย ที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไปอย่างน่าสลดใจว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องปัญหาในครอบครัว การช่วยเหลือคงทำได้ในแง่ของการให้กำลังใจ คือขนาดที่ยังไม่รู้ว่าพ่อเขาเสียแล้ว ระหว่างที่เขาพูดออกมาคล้ายกับรู้สึกว่าพ่อมาช่วยเขาตลอด เขามีความรู้สึกว่าใจเขาผูกพันกับพ่อ เพราะปกติลูกสาวกับพ่อจะมีความผูกพันต่อกัน ก็ต้องแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล ผกก.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายฐิรวัฒน์ หรือแจ๊ค ต่อรัตนวัฒนา วัย 27 ปี ลูกชายนายกิตติพงศ์ ที่แทงพ่อตัวเองจนเสียชีวิตไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านประกันตัว เนื่องจากในเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าในช่วงที่ลงมือแทงบิดาทำไปโดยไม่รู้สึกตัว เพราะเคยเข้ารับการรักษาอาการเครียด เบื่อหน่ายชีวิต ซึมเศร้าและทำร้ายตัวเอง อันเป็นผลมาจากการเสพยาบ้าอย่างหนัก ส่วนยาบ้าอ้างว่าไปซื้อมาจากซอยโรงแก้ว ย่านวัดไผ่เงิน สำหรับนายฐิรวัฒน์เคยถูกจับกุมคดีครอบครองยาบ้าเพื่อเสพมาแล้ว 3 ครั้ง คดีลักทรัพย์ 1 ครั้ง โดยคดีครอบครองยาบ้าครั้งสุดท้ายถูกจำคุก 9 เดือน เพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือน แต่การสอบสวนไม่น่าเชื่อว่าระหว่างผู้ต้องหาลงมือกระทำมีอาการป่วยทางประสาท ต้องรอให้ญาตินำหลักฐานการรักษาจาก รพ.มายื่นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อนำตัวไปตรวจสุขภาพจิตต่อไป สำหรับมีดที่ใช้ก่อเหตุ ทางผู้ต้องหารับสารภาพว่าซื้อมาในราคา 70 บาท เนื่องจากชอบสะสม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นภายในห้อง พบมีดปลายแหลมอยู่ในห้องอีก 4 เล่ม คดีนี้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฆ่าบุพการี มีโทษถึงประหารชีวิต

ด้าน พ.ต.ท.สมชาย เชยกลิ่น รอง ผกก.สส.สน. วัดพระยาไกร กล่าวว่า ในชุมชนโรงแก้วย่านวัดไผ่เงิน ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายสืบสวนก็กวาดล้างจับกุมผู้เสพ และผู้ค้ารายย่อยอยู่เป็นประจำ แต่ปราบให้หมดยาก นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ยังได้ไปจัดกิจกรรมร่วมมือกับชาวบ้านในชุมชน จัดงานร่วมใจต้านยาเสพติด เพื่อให้ประชาชนเป็นแนวร่วมช่วยกันแก้ปัญหาการระบาดของยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากข่าวสุดสลดในชีวิตน้องปุ้ยเผยแพร่ออกมา ในวันเดียวกัน ได้มีหลายหน่วยงานแสดงความจำนงให้ความช่วยเหลือน้องปุ้ย ได้แก่ มูลนิธิซิเมนต์ไทย โดยบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศมอบทุนการศึกษาให้น้องปุ้ยจนจบปริญญาตรี เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยฯได้จัดตั้งกองทุนนางสาวญาณิศา เพื่อให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยเบื้องต้นมอบเงินตั้งกองทุน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังให้ทุนเรียนฟรีทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก ส่วนประชาชนที่อยากร่วมช่วยเหลือ น.ส.ญาณิศา สามารถนำส่งไปได้ที่ธนาคารทหารไทย สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลขที่บัญชี 069-2-35252-9 ชื่อบัญชี กองทุนนางสาวญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา

ด้านนายเฉลิมชัย บุญรักษ์ รักษาการผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้นำพวงหรีดเคารพศพนายกิตติพงศ์ ต่อรัตนวัฒนา บิดาของนางสาวญาณิศา ที่วัดสุทธิวราราม ยานนาวา กรุงเทพฯ ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งอนุมัติเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 30,000 บาทตามระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนางสาวญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา ที่ต้องสูญเสียบิดาในระหว่างการเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วย

ขณะที่ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานเตรียมนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า น้องปุ้ย-ญาณิศาเป็นเด็กดี มีความตั้งใจดีที่จะทำเหรียญทองให้พ่อ ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าเศร้าใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบมาว่า น.ส.ญาณิศารักพ่อมาก จึงอยากให้พ่อได้รับรู้ถึงความสำเร็จเขาก็เตรียมจะเอาเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ เผาไปกับโลงของพ่อด้วย ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมจีนที่คนที่จากไปอยากได้อะไรก็ให้เผาส่งไป แต่ได้แนะนำไปว่าให้ทำเหรียญขึ้นมาใหม่แล้วเผาไปจะดีกว่า

ส่วนนายปราโมชย์ เมษะมาน ผู้จัดการทีมคาราเต้-โดทีมชาติไทย เปิดเผยข้ามประเทศจากฟิลิปปินส์ว่าสมาคมพร้อมที่จะดูแลนักกีฬาคนนี้อย่างดี ซึ่งทราบมาว่าทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย หรือแม้ กระทั่งการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะช่วยเหลือเช่นกัน และเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ขณะนี้มีหลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องปุ้ย เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ส่วนกรณีที่ น.ส.ญาณิศาตั้งใจจะเผาเหรียญทองไปในโลงของพ่อ ทางสมาคมไม่ได้ขัด โดยตอนนี้ก็กำลังประสานที่จะขอเหรียญทองเพิ่มอีกอันให้กับเขาเพื่อจะได้มีเก็บไว้กับตัว แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า

จากนั้นเวลาประมาณ 15.45 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ 6 ท่าอากาศยานกรุงเทพ นางเตือนใจ หงษ์กันทะอายุ 49 ปี แม่ของน้องปุ้ย-ญาณิศา และนางชลิดา อานันท์นิตยะ แม่บุญธรรม พร้อมด้วยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ได้มารอรับน้องปุ้ยเดินทางกลับ จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยนางเตือนใจเปิดเผยว่า ปกตินายฐิรวัฒน์ หรือแจ๊ค ลูกชาย มีเรื่องทะเลาะกับ นายกิตติพงศ์เป็นประจำ แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกัน แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ค่อยได้พบหน้าน้องปุ้ย เพราะลูกพักอยู่หอที่ ม.เกษตรฯ 2 อาทิตย์จึงกลับมาบ้านครั้ง ส่วนตอนที่น้องปุ้ยได้เหรียญก็ โทร.มาเข้าเครื่องของนายกิตติพงศ์แต่ตนรับไม่ทัน ต่อมาลูกโทร.เข้าเครื่องตน ซึ่งพอรับสายปุ้ยบอกว่าได้เหรียญแล้วก็รีบวางสาย จึงไม่ได้บอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

กระทั่งเวลา 17.50 น. น้องปุ้ยและคณะนักกีฬาบางส่วน เดินทางมาถึงด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 621 โดยน้องปุ้ยอยู่ในชุดทีมชาติไทย ตาบวมช้ำ จากการร้องไห้อย่างหนัก และมีผ้าขนหนูสีฟ้าเช็ดซับน้ำตาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนางเตือนใจได้เข้าไปรับลูกสาวทันที พร้อมแสดงความยินดีที่ได้เหรียญทองกลับมา ขณะที่น้องปุ้ยอยู่ในอาการโศกเศร้าและร้องไห้เป็นระยะ ได้กล่าวตัดพ้อกับแม่ว่า “วันไปพ่อไปส่งหนู แต่วันนี้หนูได้เหรียญมาแล้วทำไมพ่อไม่มารับหนู หนูอยากกอดพ่อ ได้เหรียญทองแล้วปุ้ยอยากกอดพ่อ ไหนว่าพ่อจะรอหนู หนูทำตามสัญญาแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พอน้องปุ้ยพูดจบ นางเตือนใจก็คว้าตัวลูกสาวที่เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้าไปกอดปลอบใจ ทำให้บรรยากาศภายในห้องรับรองยิ่งเศร้าสลด ซึ่ง นางเตือนใจกล่าวกับลูกสาวว่า วันที่ปุ้ยแข่งขันมีเพื่อนบ้านในซอยเดียวกันได้ตะโกนบอกให้วิญญาณของพ่อ ไปช่วยลูกสาวเพราะกำลังจะถูกโกง ซึ่งพอน้องปุ้ยได้ฟังเช่นนั้นถึงกับร้องไห้โฮออกมาอีก และกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า“ระหว่างแข่งขันเหมือนพ่อไปช่วยหนู เหมือนพ่ออยู่ใกล้ๆ พ่อสอนตลอดเวลาที่แข่งขัน หนูได้เหรียญทองให้พ่อแล้ว ทำไมพ่อไม่เอา” ขณะที่นางเตือนใจก็กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ป๊ะช่วยลูกจริงๆ ช่วยลูกได้เหรียญ”

อย่างไรก็ดี หลังจากน้องปุ้ยได้รับการปลอบใจจากคุณแม่จนหยุดร้องไห้แล้ว ก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอย่างเนืองแน่นถึงอนาคตตนเองว่า คงต้องเล่นคาราเต้-โดต่อไป จะทำให้ดีที่สุด อยากให้กีฬา คาราเต้-โดเข้าโอลิมปิก จะได้ไปแข่งขันด้วย เพราะพ่อเคยบอกว่าอยากให้ตนได้เหรียญอะไรก็ได้ แต่ถ้าเล่นดี แล้วทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรพ่อไม่ว่า

จากนั้นนางปรัศนีย์ กิจไกรลาศ อาจารย์สอนคาราเต้ให้น้องปุ้ยมาตั้งแต่เด็ก เดินทางมาถึงห้องรับรองซึ่งพอเห็นหน้าน้องปุ้ยทั้งสองได้โผเข้าหากันและร้องไห้อีก ก่อนที่นางปรัศนีย์จะตั้งสติได้ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาระหว่างนายกิตติพงศ์กับลูกชายคนนี้มีมานานแล้ว ปุ้ยเองก็เคยเล่าให้ฟังและออกอาการกลัวพี่ชายคนนี้มาก โดยครอบครัวนี้มีพี่น้อง 3 คน ปุ้ยเป็นคนเล็ก ส่วนคนก่อเรื่องเป็นพี่คนโต เคยเรียน ม.หอการค้าแต่ไม่จบเพราะติดยา พ่อของปุ้ยเคยเล่าให้ฟังว่าเคยถูกลูกชายทำร้าย ด้วยการเอาเล็บข่วนแต่ไม่เป็นอะไรมากกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ ก็รู้สึกเสียใจ ส่วนน้องปุ้ยตนจะพยายามดูแลเอาใจใส่ให้มากขึ้น

ส่วนนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมงานศพพ่อของน้องปุ้ย ที่วัดสุทธิวราราม ว่า การกีฬาฯจะมอบเงินช่วยเหลือ 3 หมื่นบาท โดยนายกิตติพงศ์เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ และน้องปุ้ยยังจะได้เงินรางวัลอัดฉีดเหรียญทองอีก 1 แสนบาท จากนั้นคณะกรรมการฯจะประชุมกันเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเพิ่มเงินช่วยเหลืออีก ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับให้ ช่วยเหลือน้องปุ้ยให้ดีที่สุด

ต่อมาเวลา 19.00 น. น้องปุ้ย พร้อมคุณแม่ ได้เดิน ทางมาถึงศาลา 2 วัดสุทธิวราราม ที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพ นายกิตติพงศ์ ปรากฏว่า ทันทีที่ลงจากรถน้องปุ้ยได้เดินตรงไปกอดโลงศพนายกิตติพงศ์แล้วร่ำไห้ โดยปากก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะที่มือก็เคาะโลงไปด้วยว่า “ทำไมพ่อไม่รอหนู หนูชนะได้เหรียญทองแล้ว” สร้างความเศร้าสลดแก่ผู้ที่มาร่วมงานศพ ที่อยู่แน่นศาลาเป็นอย่างมาก ซึ่ง น.ส.ธนพร ต่อรัตนวัฒนา พี่สาวของน้องปุ้ย ต้องเดินเข้าประคองและปลอบใจน้องปุ้ย ก่อนพาไปจุดธูปเคารพศพ โดยที่น้องปุ้ยยังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา และจู่ๆ ก็ลุกขึ้นไปกอดรูปพ่อที่ตั้งอยู่หน้าศพ ร่ำไห้อย่างหนักอีกครั้ง จนญาติๆต้องรีบเข้ามาดึงตัวไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่โซฟา กระทั่งน้องปุ้ยเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น จึงเดินนำเหรียญทองและเหรียญเงินที่ได้มาไปคล้องที่รูป ก่อนร้องไห้ออกมาอีกรอบ ญาติๆต้องเข้าไปปลอบใจและนำตัว กลับมานั่งที่เก้าอี้อีกครั้ง ซึ่งน้องปุ้ยได้นั่งก้มหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จาอีกเลย

ต่อมา น.ส.ธนพร ต่อรัตนวัฒนา พี่สาวของน้องปุ้ย เปิดเผยว่า น้องปุ้ยเรียนจบ ปวช.แล้วได้เข้าเรียนต่อใน ม.เกษตรฯ ตามโครงการช้างเผือก โดยมีความฝันเปิดโรงยิมเป็นของตัวเอง ซึ่งคงจะช่วยกันดูแล

“น้องปุ้ยสนิทกับพ่อมาก และชอบเลี้ยงหมาเหมือนพ่อ โดยไปเก็บหมาจรจัดมาเลี้ยงไว้หลายสิบตัว ส่วนที่ต้อง ปกปิดข่าวนี้กับน้องแต่ต้น เป็นความต้องการของครอบครัว ที่บอกกับสมาคมไว้ว่าไม่อยากให้บอก เพราะอยากให้ปุ้ยจะได้มีสมาธิทำให้ได้เหรียญทอง ซึ่งระหว่างนั้นปุ้ยโทร. มาที่บ้านบ่อยๆ แต่แม่จะรับสายแทน และบอกว่าพ่อติดธุระอยู่ให้คุยกับแม่ไปก่อน” น.ส.ธนพรกล่าว

จากนั้น นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ให้สัมภาษณ์ เพิ่มเติมอีกว่า ได้สอบถามเรื่องงานศพกับครอบครัวต่อรัตนวัฒนาแล้วว่า จะยังมีการสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 2 ธ.ค. นี้ จากนั้น หากทางครอบครัวจะขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษก็จะประสานให้ แต่คงต้องรอคุย กันกับครอบครัวนี้ก่อน ส่วนเรื่องที่ ม.เกษตรฯ ตั้งกองทุนนางสาวญาณิศา ต่อรัตนวัฒนา นั้น ตนได้สมทบเงินส่วนตัว ให้ไปอีก 5 หมื่นบาท รวมเงินเบื้องต้นเป็น 1 แสนบาท โดยจะเริ่มเปิดกองทุนในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ รวมทั้งจะช่วยสร้างโรงยิมตามที่นายกิตติพงศ์เคยพูดไว้

อย่างไรก็ตาม หลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จสิ้น น้องปุ้ยที่เริ่มตั้งสติและควบคุมความโศกเศร้าได้แล้ว ก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวจำนวนมากว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เหรียญรางวัลมาในครั้งนี้ ตลอดการแข่งขัน นึกถึงพ่อตลอด เพราะพ่อเป็นครูคนแรกที่สอนคาราเต้ให้ เป็นผู้ให้ฝีมือ เคี่ยวเข็ญ ให้ความคิด กล้าเป็นนักสู้ พ่อจะภูมิใจกับเหรียญรางวัลที่ได้มาจากการต่อสู้อย่างยากลำบาก สำหรับเรื่องของพี่ชายยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้จัดการ ทีมบอกแต่เพียงว่าพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเท่านั้น และตอนนี้ยังคิดเล่นกีฬานี้ต่อโดยฝันไปให้ถึงโอลิมปิก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีข่าวว่าน้องปุ้ยจะนำเหรียญทองที่ได้รับเผาไปพร้อมร่างบิดาจริงหรือไม่ ปรากฏว่า น้องปุ้ยไม่ยอมปริปากใดๆทั้งสิ้น โดยนางเตือนใจ แม่ของน้องปุ้ย กล่าวแทนว่ายืนยันไม่เผาแน่นอน เพราะขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีพิธีฌาปนกิจศพวันไหน
โดย: +=FIRST=+   วันที่: 1 Dec 2005 - 08:53

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 21 : 154436
โดย: +=FIRST=+
โฉมหน้าไอ้ลูกละยำ

ที่มา : http://www.thairath.co.th

รักในหลวงห่วงลูกหลานร่วมกันต้านยาเสพติด.....
วันที่: 01 Dec 05 - 08:55

 ความคิดเห็นที่: 2 / 21 : 154437
โดย: H@NK
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอให้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งด้วยครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:01

 ความคิดเห็นที่: 3 / 21 : 154439
โดย: Nong_Shine
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:04

 ความคิดเห็นที่: 4 / 21 : 154443
โดย: Amy
สุดยอดแห่งความเลวเลยอ่ะ
ยาเสพติดไม่เคยทำให้ใครเจริญเลย
วันที่: 01 Dec 05 - 09:10

 ความคิดเห็นที่: 5 / 21 : 154450
โดย: THANA
เศร้า จิงๆ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:21

 ความคิดเห็นที่: 6 / 21 : 154451
โดย: ทศ
เป็นกรรมของลูก แท้ๆ ที่ไม่มีสติ ในการควบคุม จิตใจตัวเองไม่อยู่
ขอให้น้องปุ้ยเข็มแข็ง
วันที่: 01 Dec 05 - 09:23

 ความคิดเห็นที่: 7 / 21 : 154452
โดย: BigJod
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:27

 ความคิดเห็นที่: 8 / 21 : 154453
โดย: +=FIRST=+
น่าจะยิงเป้าให้รู้แล้วรู้รอด หรือเชือดกระเดือกมันเลย...
วันที่: 01 Dec 05 - 09:30

 ความคิดเห็นที่: 9 / 21 : 154456
โดย: Red Metalic
ทำแล้วค่อยมาขอขมา..............เพื่ออะไร.........

เสียใจกับน้องปุ้ยด้วยจริงๆที่ต้องเสียคุณพ่อไป.......ขอให้อยู่อย่างเข้มแข็งต่อไปครับ

ขอแสดงความชื่นชมคุณแม่ของน้องปุ้ยด้วย....เป็นแม่ที่เข้มแข็งมากๆในยามวิกฤตแบบนี้
วันที่: 01 Dec 05 - 09:33

 ความคิดเห็นที่: 10 / 21 : 154457
โดย: ManualMan
ได้ยินเรื่องนี้ตอนแรกน้ำตาแทบร่วงเลย เสียใจด้วยจริงๆครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:34

 ความคิดเห็นที่: 11 / 21 : 154463
โดย: n i n e t ! k ... (ม่ายได้โลจิ้น)ตัวจิงๆ
ชีวิตม่ายจีรังจิงๆๆ ทำไรรีบๆทำกันนะ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:50

 ความคิดเห็นที่: 12 / 21 : 154464
โดย: A-MT
ยาเสพติด ไม่เคยให้ผลดีกับใครเลย

ใครมีเพื่อนที่ริจะลอง หรือติดมันเข้าไปแล้ว ก็เตือนให้เค้าเลิกเถอะ

ไม่แน่ฅนที่เป็นเหยื่อรายต่อไป อาจเป็นคุณ

ขอแสดงความเสียใจกันครอบครับน้องปุ้ยครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 09:50

 ความคิดเห็นที่: 13 / 21 : 154470
โดย: โอ๋
ยาบ้า
ปราบอย่างไรก็ไม่หมดสักที


ไว้อาลัย ผู้จากไปด้วยเหตุไม่ควร
วันที่: 01 Dec 05 - 10:16

 ความคิดเห็นที่: 14 / 21 : 154477
โดย: O-Omega
อยากด่าพวกสื่อด้วย
ที่พยายามย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ ให้เค้าเสียใจมากขึ้นไปอีก
วันที่: 01 Dec 05 - 10:24

 ความคิดเห็นที่: 15 / 21 : 154489
โดย: taer
นายเป็นคนที่ แย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
วันที่: 01 Dec 05 - 11:13

 ความคิดเห็นที่: 16 / 21 : 154549
โดย: nun626
เห็นด้วยกับคุณโอเลยครับ
ดูสรยุทธ เมื่อคืน รู้สึกไม่ดีที่ ไปถามน้องเค้าว่า
รู้สึกยังไง ที่มีเรื่องดีใจสุดๆ (ได้เหรียญทอง) กับเสียใจสุดๆ ในวันเดียวกัน

จะไปตอกย้ำความรู้สึกน้องเค้าทำไม ในเมื่อคำตอบรู้อยู่เเล้วว่า เสียใจ
วันที่: 01 Dec 05 - 14:24

 ความคิดเห็นที่: 17 / 21 : 154551
โดย: นู๋เองง่ะ
ขอแสดงความเสียใจกับน้องปุ้ย และครอบครัว ด้วยค่ะ
วันที่: 01 Dec 05 - 14:29

 ความคิดเห็นที่: 18 / 21 : 154702
โดย: ~!GunGGinG!~
วันที่: 01 Dec 05 - 21:53

 ความคิดเห็นที่: 19 / 21 : 154705
โดย: RollriderS
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
วันที่: 01 Dec 05 - 21:57

 ความคิดเห็นที่: 20 / 21 : 154767
โดย: J!MMY
สลดครับ

ฟังข่าวนี้แล้วเศร้ามาก

ปลงต่อชะตากรรมของมนุษย์เราได้ดี

พาให้นึกถึงเพลง "โลกคือละคร" ของคุณนันทิดา แก้วบัวสาย ในฉับพลัน

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดลึกเกินจะหยั่งถึงครับ
วันที่: 02 Dec 05 - 02:08

หน้าที่: [1]   2