ผมใช้รถ Mazda Frighter 2500Turbo OpenCab 2002 อยู่ครับ
ปัญหาที่ผมประสบมามีหลายเรื่อง จะเขียนให้อ่านนะครับ
ปัจจุบันรถผมอายุเกือบ 3 ปี วิ่งไปยังไม่ถึง 40,000 กม.
1. ขาเหยียบคลัชท์ มีเสียงดัง เอี๊ยดๆ เวลาใช้คลัชท์มากๆ เช่น เวลารถติด หรือ ตอนที่ต้องเลี้ยงคลัชท์
เคยเข้าศูนย์ เขาเอา Sonex ฉีดให้ ใช้ไม่นานก็เป็นอีก เป็น 2 หนแล้วก็ทำเหมือนเดิน ตอนนี้ก็เป็นอยู่ มันหายไม่ขาดหนะครับ
2. ยางรองแท่นเครื่องแข็งตัวเร็ว
ตอนที่อายุได้ประมาณ 2 ปี ผมรู้สึกว่า แรงสั่นสะเทือนจากเครื่องเข้ามาห้องโดยสารมากกว่าเดิมมาก จึงเข้าไปให้ทางศูนย์ตรวจสอบให้
ทางศูนย์ว่า " ยางรองแท่นเครื่องทรุด " แล้วเขาก็เคลมให้ ( มาทราบภายหลังว่า ที่จริงยางรองแท่นเคลมไม่ได้ )
แต่หลังจากนั้น ใช้มาได้ประมาณ 3 เดือน ก็เริ่มรู้สึกกระด้างอีกแล้วครับ
3. โคมไฟใหญ่ ( ไฟส่องสว่าง ) เป็นรอยไหม้ เหมือนกับเอากระทะสแตนเลส ตั้งไฟบนเตาโดยที่ในกระทะไม่มีอะไรเลย
ผมเคลมดวงไฟมาแล้วทั้งสองดวงครับ ดวงแรกผมเคลมเพราะ เห็นว่าภายในมีรอยเป็นจุดๆด่างๆเห็นชัดๆเลย
ส่วนดวงที่สอง มาสังเกตเห็นทีหลังว่า เป็นรอยไหม้อย่างที่บอกหนะครับ ( ต้องมองด้วยมุมพอเหมาะจึงจะเห็น )
แต่ปัจจุบัน ดวงที่เปลี่ยนมาดวงแรก เริ่มเป็นรอยไหม้อีกแล้วครับ ถ้านับเป็นชั่วโมงการใช้ไฟ ก็คงไม่กี่สิบชั่วโมง ยังไงก็ไม่ถึงร้อยครับ
4. เปลี่ยนเกียร์ยากเวลาเครื่องเย็น แต่จะเป็นเฉพาะเกียร์ 1 และ 2
ตอนเครื่องเย็น เมื่อออกตัวไปแล้ว จะออกจากเกียร์ 1 ยาก พอหลุดออกมาแล้วจะเข้าเกียร์ 2 ก็ยาก หรือถ้าอยู่เกียร์ 3 จะมาเข้า 2 ก็ยาก
ของผมเริ่มมีอาการตอนประมาณ 20,000 จนถึงตอนนี้ปีกว่ายังสรุปและแก้ปัญหาให้ไม่ได้เลยครับ
5. ปัญหาใหญ่ครับ ผมมีปัญหากับเรื่องระบบอัดอากาศ ( Turbo ) ของรถผมเองครับ
คือ ปกติถ้าผมเร่งความเร็วไปเรื่อยๆ เมื่อรอบเครื่องยนต์ถึงประมาณ 2,000 กว่ารอบ/นาที
ผมจะได้ยินเสียง วี๊ด ( Turbo เริ่ม Boost ) แล้วรถก็จะมีกำลังมากขึ้น ผมจะรู้สึกว่ารถพุ่งออกไปเร็วขึ้น
เมื่อตอนที่เพิ่งได้รถมาใหม่ๆ ( ป้ายแดง ) ผมเคยสังเกตเห็นว่า ถ้าผมจอดรถ เปิดฝากระโปรง แล้วลองเร่งเครื่องที่ประมาณ
2,000 กว่ารอบ/นาที ผมจะเห็นท่ออากาศจาก Turbo ไปยัง Inter Cooler ด้านหน้า และจาก Inter Cooler ไปเข้าเครื่อง
ซึ่งเป็นท่อยางสีดำ จะมีการพองออก และแข็ง ( สังเกตแบบคร่าวๆ ) แต่ปัจจุบัน อาการทั้งหมดไม่มีเลย
ตอนนี้พอเร่งประมาณ 2,300 รอบ/นาที กำลังจะะตก อัตราเร่งลดลง พอถึงประมาณ 2,800 รอบ/นาที
กำลังจะค่อยๆกลับมาแต่ก็ไม่ดีเหมือนเดิม เสียงเครื่องก็ดังขึ้น
ทางศูนย์เปลี่ยนตัว Turbo ให้แล้วก็ไม่ดีขึ้น เขาเลยบอกว่ารถคันอื่นก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน
และทางศูนย์กำลังพยายามบอกว่า " รถของผมเครื่องยนต์ปกติ "
**สุดท้าย ผมอยากให้คุณทดลองรถของคุณเองว่า ถ้าคุณเร่งเครื่องประมาณ 2,000 กว่าถึง 2,500 รอบ/นาที
ท่อยางรถคุณพองออกหรือไม่ ถ้าไม่คุณลองไปวิ่งรถดูว่า ที่ 2,000 รอบ/นาที รถคุณมีอัตราเร่งสูงขึ้นอย่างที่เคยมีหรือไม่ ( ตอนป้ายแดง )
ถ้าไม่มีอีก ผมอยากให้คุณโทรหาผม แล้วเราจะเรียกร้องพร้อมๆกัน
แต่ถ้ารถคุณมีอาการปกติ ผมอยากให้คุณช่วยผม โดยการนัดเจอผมที่ศูนย์บริการ Mazda สุขุมวิท36
เพื่อทำอย่างที่ผมบอกให้ช่างที่นั่นดู
คุณอาจสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ขอให้ช่างเทียบกับรถคันอื่นในศูนย์
คำตอบคือ " ถ้าผมไปเจอเอารถคันที่มีอาการแบบผม แต่ไม่รู้ตัวคิดว่ารถเขาปกติผมก็แย่เลยซิครับ "

ติดต่อผมได้ที่ 03-0046225 ผมชื่อ " สุพจน์ " ครับ

โดย: สุพจน์   วันที่: 9 Sep 2005 - 22:55

 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 120387

โดย: bhp =^.^=

อืม..ปัญหาเยอะมากเลยนะครับ.......ลองเทียบกับข้อมูลของผมดูนะครับ ผมใช้ 2500 turbo 4wd 4 door ปี 2000 ตอนนี้ใช้ไป 220000 โล เริ่มเลยแล้วกัน

1. ขาคลัทช์มีเสียงดัง ..ของผมมีเสียงเป็นบางครั้ง ยังไม่ได้แก้ไขอะไร แต่ในกรณีของคุณผมว่าใช้จารบีน่าจะได้ผลดีกว่าโซแน็กนะครับ หรือน้ำมันหล่อลื่นสักเบอร์ 140 หยอดดูก็น่าจะได้ผลที่ยืนยาวกว่า

2. ยางรองแท่นเครื่องของผมเริ่มมีอาการเครื่องสั่นตอนประมาณ 150000 โล ตอนนั้นก็ใช้ไปได้สัก 3 ปี...แต่มาเปลี่ยนตอน 180000 โล....ใช้มาถึงวันนี้ก็ยังไม่ออกอาการอีกนะ....
........อันนี้เป็นจุดบอดจากการออกแบบของรถรุ่นนี้ที่ใช้ยางรองแท่นเครื่องเล็กเกินไป... แต่กรณีของคุณก็ไปเร็วไปหน่อย.. ข้อนี้ไม่มีคำแนะนำครับ คงต้องทำใจ

3. ข้อนี้ขอข้ามเพราะใช้ไฟคนละแบบกันกับของผม..... แต่ของรุนที่ผมใช้ไม่มีปัญหาครับ

4. ไม่เคยเป็นเหมือนกัน.. เคยเป็นเฉพาะเข้าเกียร์ 1 และเกียร์ถอยยาก ซึ่งเกิดจากปัญหาของชุดคลัทช์ที่รุ่นนี้พอใช้ไปได้ประมาณ 150000 ก็จะมีอาการออกตัวสั่น..แต่อาการจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นทีละน้อย...ของผมใช้ไปจนถึง 220000 ถึงได้เปลียนชุดคลัทช์ทั้งหมด.. ซึ่งคาดว่าในอนาคตคุณคงต้องเจออาการแบบนี้เหมือนกัน......แต่ปัญหาตรงจุดนี้ของคุณเริ่มมีอาการที่ 20000 โล ก็ดูจะเร็วไปหน่อย..ยังไงลองตั้งคลัทช์ดูก่อนนะครับ...ถ้าไม่หายก็น่าจะเป็นที่ชุดเกียร์ ถ้ารถอยู่ในระยะประกันก็จะได้รีบเคลม...แต่ผมยืนยันได้ว่า จริงๆ แล้วเกียร์รุ่นนี้ไม่ได้เปราะเลยนะครับ....ผมใช้รถโหดมากๆ กระชากตลอด ก็ยังไม่เป็นอะไรนะครับ

5. การเร่งรอบถ้าเร่งรอบที่ 2000 รอบระหว่างที่ไม่มีโหลด (จอดอยู่กับที่) กับตอนมีโหลดอัตราการบูสจะต่างกันนะครับ (พอดีรถผมติดวัดบูสด้วยเลยรู้)... ตอนจอดบูสจะขึ้นแค่ 1-3 ปอนด์ ซึ่งการเปิดฝากระโปรงสังเกตท่ออากาศอาจมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงนะครับเพราะบูสน้อย...
.......สำหรับปัญหานี้อาจเป็นแค่เส้นผมบังภูเขา อยากให้คุณลองสำรวจท่ออากาศทั้งระบบดูก่อนว่ามีจุดรั่วตรงไหนบ้างหรือเปล่า.....และอีกจุดหนึ่งที่อาจถูกมองข้ามคือ ท่อยางเล็กๆ ที่ต่อไปยังปั๊มหัวฉีด ซึ่งถ้ารั่วรับรองว่าบูสไม่ขึ้นแน่นอน...เพราะปั๊มมันจะจ่ายน้ำมันตามแรงบูส ถ้าสายรั่วแรงดันที่จะไปดันให้ปั๊มฉีดน้ำมันก็ไม่มี เครื่องก็เลยเร่งไม่ขึ้น.. ปัญหานี้ผมเคยเจอมาแล้วครับ..... ถ้าทุกอย่าง ok ค่อยมุ่งประเด็นไปที่ตัวเทอร์โบ

....สำหรับทุกปัญหาอยากให้ลองแก้ไขในส่วนที่ง่ายๆ ก่อนน่ะครับ...ถ้าไม่หายค่อยไปดูจุดใหญ่ๆ ..

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 120545

โดย: Jerry

ผมใช้ Fighter 4WD cab ปี 99หรือ 2000 เนี่ยละครับ 6 ปีแล้ว รุ่นแรกเลยที่ใช้ระบบะ Lock wheel Hub ด้วยมือ มีแอร์แบกคู่หน้า วิ่งมา 210,000 กิโลแล้วครับ
1. อาการเสียงดังเวลาเหยียบคลัทช์ ไม่มีครับ มีแต่เวลาถอนคลัทช์แล้วจะมีเสียงดัง กร๊อบ (เสียงเหมือนคลัทช์ไปจับกับ fly wheel นะครับ
2. เครื่องไม่สั่น นิ่งเป็นปรกติ ไม่เคยเปลี่ยนยางรองแท่นเครื่องครับ
3. รอยไหม้ที่โคมไฟไม่มี (ไฟหน้าคนละรุ่นกัน) มีแต่รอยมัวที่ไฟเลี้ยงเนื่องจากมีไอน้ำเข้าไปเกาะ
4. เกียร์เข้าเป็นปรกติ แต่เกียร์ถอยเข้ายากนิดหน่อย
5. ผมคิดว่า turbo ยังทำงานปรกติ เมื่อก่อนมีรอยน้ำมันเครื่องซึมออกมาตรงทางออก turbo ช่างก็ขันเข็มขัดรัดให้แน่นกลับไปอย่างเดิม อัตราเร่งเวลากระทืบ เน้นว่ากระทืบนะครับ ก็มีตกไปบ้าง ถ้าเทียบกับตอนออกรถใหม่ๆ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 120625

โดย: คนดี

ผมใช้ มาสด้าไฟเตอร์ Lemans อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน ปัจจุบัวิ่งประมาณ 40,000 กิโลเมตร มีปัญหาเหมือนคุณคนแรกนั่นแหละ
1.แป้นเหยียบคลัชดังเอี๊ยดๆ เป็นตั้งแต่ประมาณ 15,000 กิโลเมตร
2.มีเสียงดังอื้ออึงในห้องโดยสารมากๆ ปวดหูที่สุด ซึ่งเป็นในรอบต่ำโดยเฉพาะเกียร์ 3 รอบเครื่อง
ประมาณ 1,500 รอบ ผมว่ายางแท่นเครื่องน่าจะไปเกิดแล้ว แจ้งศูนย์ไม่ยอมรับ บอกว่าปกติ()เดี๋ยว
จะไปอีกเร็วๆ นี้
3.เวลาออกตัวเกียร์ 1 บรรทุกสัก 500 กิโลกรัม เครื่องมันสั่นเกือบตาย แจ้งศูนย์บริการเขาบอกว่า
ต้องให้อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบคลัทหรือระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการนี้มันเสีย(จริงๆ) ก่อนถึงจะ
เคลมให้ ถ้าถอดออกมาแล้วไม่เสียจะถูกเสียเงินค่าถอดฟรี หากถอดออกพบว่าเสียจริงต้องเคลมแต่ก็
ต้องเสียเงิน
4.ตอนนี้ล้อแมกซ์ขวาหน้าสีโป่งออกมาเหมือนตั้งแต่ 15,000 กิโลเมตร ศูนย์บริการไม่ยอมเคลม
5.ขอควาคิดเห็น หน่อยครับ รถยนต์ที่เราใช้งาน ยังอยู่ในระยะประกัน หากอุปกรณ์ยังอยู่ใน
ระยะประกัน เกิดเสียขึ้นมาทางบริษัทรถยนต์ควรจะรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายใน
การซ่อมแต่ศูนย์บริการมาสดาคิดเงิน

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 120700

โดย: เจ้าของกระทู้

ตอบคุณ คนดี
ข้อ 5 ถ้ายังอยู่ในประกันและสอุปกรณ์หรืออะไหล่ที่เราต้องการเคลม เป็นสิ่งที่ไม่ใช่อุปกรณ์สิ้นเปลือง เช่น หวีคลัชท์ ล้อแม็ค จะต้องเคลมได้ถ้าพบว่าบกพร่องโดยไม่ต้องรอให้เสียหายถึงที่สุดและไม่มีค่าแรงด้วย อันนี้ทางศูนย์บริการบอกครับ
แต่ถ้าเป็นแผ่นคลัชท์ เคลมไม่ได้ครับ นอกจากพิสูจน์ได้ว่าเสียหายจากสายงานผลิต

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 247172

โดย: ปั่น

สวัสดีครับ
ผมใช้ Mazda Frighter Freestyle Cab 2500 Turbo ปี 2003 ตั้งแต่ใช้งานมาไม่มีปัญหาจุกจิกครับ ระยะ 150,000 กิโลเมตร
การบำรุงรักษาปกติ แต่ไม่ได้ใช้บริการศูนย์มากนัก โดยการบำรุงรักษาเอง ปัจจุบันมีปัญหา สตาร์ทติดยาก กรณีเครื่องเย็นครับ ต้องสตาร์ทยาวหลายครั้ง(3-5) หรือไม่ต้องสตาร์ทสั้นหลายครั้ง (4-8)
โดยมีสาเหตุดังนี้ (อาการยังเหมือนเดิม)
1. ประมาณต้นเดือน 11/2006 หัวเผาขาดทั้ง 4 หัว ต้องใช้เบนซินล่อ จึงติดไปทำงานตอนเช้าได้
2. เปลี่ยนชุดหัวเผาของปลอม 1ชุด 4 หัว (ราคา 600.-)
3. กลางเดือนเข้าศูนย์ เช็ค เปลี่ยนสวิทช์ความร้อน 1 ตัว (ราคาประมาณ 1,500.-)
4. สิ้นเดือน 11/2006 เปลี่ยนชุดหัวเผาใหม่ของเทียทแท้ 4 หัว (ราคา 1,000.-)
5. สิ้นเดือน 12/2006 เปลี่ยนหัวเผา ของแท้ศูนย์ 4 หัว (ราคา 2,200.-)
6. ต้นเดือน 1/2007 ขัดหน้าคอนแทค รีเลย์หัวเผา แล้วลองใช้งาน 1 สัปดาห์
7. วันที่ 5/1/2007 เปลี่ยนกลองเชื้อเพลิง พบมีเศษฝุ่นมาก (ราคา 220.-)
8. วันที่ 15/1/2007 เปลี่ยนชุดรีเลย์หัวเผา (ราคา 1,700.-)
9. วันที่ 20/1/2007 ลองใช้กล่องคอนโทรลไฟ (อยู่ขวาข้างคันเร่ง) ของ Ford Rager (รุ่นธรรมดา)
-----------------------
ปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุ มีใครพบปัญหากรุณาแนะนำด้วยครับ แต่คาดการณ์ไว้ว่า
1. บ่าวาล์วมีการรั่วเล็กน้อย ต้องบดวาล์วใหม่ (ราคาประมาณ 500.-)
2. ชุดกรองละเอียดในตัวปั๊มอาจมีปัญหา ต้องเช็คปั๊ม (เสียชุดซ่อมประมาณ 5,000.-)