หนี่..ห่าว...
กลับมาแล้วครับ แหม..เป็น 2 อาทิตย์ที่เหนื่อยสุดๆ เพราะพยายามจะสร้างประวัติศาสตร์ set ไลน์ผลิต ให้เสร็จโดยเร็ว... แต่ก็เกินเป้าไป 5 วัน (ไม่ใช่ความล่าช้าผม แต่เป็นที่ทางโน้นเองครับ)
ขอบคุณ ทุกคนที่ช่วยแช่ง..เอ้ย ช่วยเชียร์ให้งานลุล่วงโดยเร็วครับ
เมืองที่ไป อยู่ระหว่าง เซี่ยงไฮ้ กับ นานจิง ครับ วันที่ไป เป็นวันอาทิตย์ คน(แม่ม) มาจากไหนกันนักหนาก็ไม่รู้...เวลาบิน 4 ชม. พอลงสนามบินเซี่ยงไฮ้ ..โอ้แม่เจ้า..คนยังกะกองทัพมกขึ้นขนมปัง ..มากมายเหลือเกิน
เชื่อไหม กว่าจะผ่าน ตม. ซึ่งไม่มีความเป็นระเบียบเอาซะเลย 2ชม กับ 18 นาที ครับ แล้วก็นั่งรถที่บริษัทฯมารับ อีกร่วม 3 ชม ถึงจะถึงที่พัก (ระยะทางจากสนามบินถึงเมืองนี้ 240 กม ครับ)
ประเทศจีน ขับรถพวงมาลัยซ้าย แล้วคนขับนิยมสวมถุงมือ(ธรรมดา)ขับรถ ครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม(เพราะคุยกับคนขับรถไม่รู้เรื่อง)
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่ นับรถญี่ปุ่นยอดนิยมในบ้านเราได้ ไม่เกิน 20 คันครับ นอกนั้น รถยุโรป(ผลิตในจีน)ทั้งสิ้น คิดว่าเป็นเหตุผลทางการเมืองน่ะ
รถที่นี่ 80% ยี่ห้อ VW รุ่น SANTANA ครับ ดูเหลี่ยมๆเหมือนรถในยุคปี 85 แต่ภายในโดยเฉพาะแผงหน้าปัทม์ เหมือน ยุค ปี 75 ครับ
ที่เหลือซึ่งตอนแรกมองเผินๆนึกว่า cronos แต่พอดูใกล้ๆ ..อ้าว ยี่ห้อ BUICK ครับ รุ้น SHANGHAI 2000 แอ่ะ..ไม่เคยเห็น ..
แล้วส่วนใหญ่ รถยุโรปแทบทั้งสิ้นครับ รถยี่ปุ่นที่พบมากกว่าชาวบ้านคือ มาสด้าเรานี่แหละครับ ทั้งเจ้า 3 ,เจ้า6 และ 323 ซีดาน (ตัวเดียวกะที่คุณ กิ๊บใช้) แต่ astina กะ lantis ไม่มี รถปิ๊กอัพ แทบไม่เห็นเลย ตลอด 2 อาทิตย์มี คันเดียวที่พบ ยี่ห้ออะไรอ่านไม่ออกเป็นโลโก้ภาษาจีน แต่ดูรูปทรงคล้าย อีซูซุตัวเก่าบ้านเรายังกะแกะ
วัฒนธรรม บ้านเขา แน่นอนครับต่างจากเรามาก กลางคืนขับรถสวนกัน เปิดไฟสูงวิ่งสวนกัน ไม่มีปัญหา???? งง เลย... กลางวัน ขับรถกันด้วย แตร..ครับ กดๆๆๆๆๆ (แม่ม)อยู่นั่นแหละ แล้วก็ไม่เห็นมีใครสนใจแตรที่บีบไล่เลย ไม่ว่าจะเป็นคนเดินเท้า(ที่กรูไม่สนใจรถเลย) ไม่ว่าจะเป็น จักรยาน และ มอร์ไซด์ ที่มีจำนวนมหาศาล...หรือ รถยนต์ด้วยกันเอง..ทำให้นึกถึงเหมือนตอน อยู่ ฟิลิปปิน กะ อินเดีย รวมกัน
ถนนเกือบทุกสาย มีการแบ่งกั้นไว้ 1 ช่องจราจร ให้สำหรับ จักรยานและ มอร์ไซด์..แต่..ก็ยังมาวิ่งมันกลางถนนเช่นกัน...เกือบทุก 4 แยกไฟแดง จะมี timerบอกเวลาครับ (บ้านเราเพิ่งจะเริ่ม)
ภาพที่จินตนาการไว้ กับสิ่งที่เห็นจริง แตกต่างกันพอควร..ใครจะไปจีน ถ้าเข้าไปลึกๆในแผ่นดินใหญ่ ก็เก็บภาษาอังกฤษไว้ที่บ้านได้เลยครับ ไม่มีประโยชน์เลย พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว แต่ประมาณ 20% เข้าใจภาษาญี่ปุ่น ง่ายๆ เออ งง....
อยากจะบอกว่าโชคดีแล้วครับ ที่เราเกิดเป็นคนไทย โชคดีที่สุดในโลกเลยจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความเป็นอยู่ วัฒนธรรมอันดีงามของเรา รวมถึง สังคมด้วย
ก็..เมื่อวันที่ 5 ถ้าอยู่เมืองไทย ผมก็คงโดนจับ ข้อหา ทะเลาะวิวาท ไม่ก็ทำร้ายร่างกายแน่ๆ
ที่โน่น ใช้เท้าคือเรื่องปกติอะครับ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนบ่าย ช่วงนี้ของที่โน่น ร้อนพอสมควร(หน้าร้อนเขา) ก็เดินมาที่บริเวณร้านค้าที่มีพวกน้ำอัดลม ขาย ..ด้วยความที่คุยไม่รู้เรื่อง ก็ใช้ภาษาบ้าๆใบ้ๆ กัน เพื่อเลือกซื้อน้ำเย็นๆ แต่ ตู้แช่เย็นเขา น่าจะเรียกตู้เก็บของมากกว่า ไม่มีความเย็นซะเลย ผมก็เลยเลือกเอาที่อยู่ชั้นล่างๆ (เพราะความเย็นจะไหลลงต่ำเสมอ) ก็ชี้มือให้ต่ำลงๆ ...
แล้วก็ต้องสะอึกทันที..(แม่ม)เอาเท้าชี้ครับ.... บอกอาการไม่ถูกเลย โมโหก็โมโห แต่ก็ต้องนึกว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย...ก็เลยเดินหนีออกมาเลยครับ ไม่กินมันแล้ว..(แต่ใจนึกอยากต่อยมันหน้าแหกจัง)
ต้องขอโทษสมาชิกแก๊งค์ใจง่าย ทั้งหลายที่ไม่สามารถหิ้ว..เอ้ย จับอาหมวย ทั้งหลายใส่กระเป๋า มาฝากได้ เดี๋ยว ตม.หาว่าผมเป็นแก๊งลูกหมูละเสร็จเลย
อ้อ..ยังไงก็ ยืยยันครับ ว่า โชคดีที่เป็นคนไทย...สาวไทย ทั้งสวยและน่ารักที่สุดแล้วครับ...ยืนยันตามนั้น
ว่าแต่เช้านี่พอมาเห็นโต๊ะทำงาน....
เขายกทิ้งไปแล้ว
เอ้ย...ไม่ใช่....งานกองท่วมหัวเลย หนำซ้ำพรุ่งนี้มี Management meeting อีก หว๋าย..ยังต่อไม่ติดเลย ไม่รู้จะเริ่มอะไรดี ....อ๋อ เริ่มที่ เบิกตังค์ก่อนน่าจะเข้าที อิ อิ
ปล. ถึงสมาชิกแก๊ง ที่ฝากไปเมืองจีน....ไปถึงแล้วนะคร๊าบบบบบ เหอ เหอ..
และขออภัยบางท่าน(ไม่รู้ใคร) ที่ ถ้าโทรไปแล้วไม่ได้รับสาย ใช้ที่โน่น คนรับสายก็เสียตังค์นะครับ นาที ละ 24 บาท และที่สำคัญ ที่โน่นมันไม่โชว์เบอร์ครับ ทุกครั้ง จะ โชว์ว่า WITHHELD เท่านั้น ซึ่งไม่รู้ครับว่าใครโทร (โทรผิดก็มี...ไม่รู้ใครโทรไปแล้วพูดแค่ 2 คำ แล้วก็วาง ก็มี แต่ 2 คำที่พูดไม่ใช่ชื่อผม อ่ะ เป็นอีกคนที่เคยตั้งกระทู้ส่ง)
บังเอิญกล้องที่ติดไป ถ่ายเกี่ยวกับงานซะจน sd card เต็ม เลยเก็บรูปนอกงานมาฝากได้น้อยมากๆ ขออภัยครับ.....
คิดถึงทุกคนครับ