Close this window

Protege 2.0 ล้างเครื่องมาแล้วกระตุก
ผมไปเข้าคาร์แครและล้างห้องเครื่อง ปรากฏว่า หลังจากรับรถมาเครื่องกระตุกที่รอบต่ำ บางครั้งต่ำจนดับ ออกตัวเร่งไมขึ้น ยิ่งถ้าคอมแอร์ทำงานรอบจะตกมาก เคยล้างเครื่องและเป็นมาแล้ว 2ครั้ง ครั้งแรกขับไปสักสองสามวันก็หายเอง ครั้งที่2 ก้อเป็นอีก เอาไปให้ช่างดูบอกว่าคอยล์รั่ว เปลี่ยนแล้วก้อไม่หาย มาไล่ดูเองเจอตัวเวคคั่มหักเอากาวต่อหายสนิท ล่าสุดล้างเครื่องอีก ปรากฏว่าเป็นเหมือนเดิมอาการเดิม ขับมา1อาทิตย์แล้วเป็นระยะทาง500โลก็ยังไม่หาย เวลลาจอดมีกลิ่นน้ำมัน รบกวนสอบถามผู้ที่รู้หรือเคยเป็นแแบเดียวกัน ช่วยชี้แนะด้วยว่าต้องทำอย่างไร
ขอบคุณครับ
โดย: Petch   วันที่: 12 May 2014 - 18:08


 ความคิดเห็นที่: 1 / 10 : 812728
โดย: หลังคาแดง
ลองเชคหัวเทียนดู น้ำเข้าไหม ไม่ก็คอยส์ ว่าช็อตไหมครับ เป็นไปได้ ล้างแห้งดีกว่าครับ เช็ดเอา มีกลื่นน้ำมัน ลองเช็คที่ห้องเครื่องดูครับ ถ้าได้กลิ่นแถวห้องเครื่องอาจจะท่อน้ำมัน หรือหัวฉีด ลองหาที่มากลิ่นก่อนครับ ถ้าไม่ใข้ ลองรื้อเบาะหลังดู บางทีหัวเสียบกรองเสียบสายท่อน้ำมัน อาจแตก ลองใล่ดูครับ
วันที่: 12 May 14 - 20:52

 ความคิดเห็นที่: 2 / 10 : 812733
โดย: sampu
น่าจะเป็นที่สายหัวเทียน หายืมจากคันอื่นมาลองดู

เคยเป็น ล้างห้องเครื่องแล้วกระตุก
วันที่: 12 May 14 - 22:54

 ความคิดเห็นที่: 3 / 10 : 812761
โดย: Petch
ถอดปลั๊กหัวเทียนมาแล้ว แห้งดีครับ กลิ่นจะมาจากห้องเครื่อง ถ้าหันหน้าเข้าเครื่องจะได้กลิ่นมาจากด้านขวามือ ครับ แต่สงสัยอยู่ว่าการล้างเครื่องจะทำให้มีปัญหาถึงหัวฉีด หรือสายหัวเทียน เลยหรือครับ รบกวนชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ
วันที่: 13 May 14 - 15:20

 ความคิดเห็นที่: 4 / 10 : 812772
โดย: tonต้น
ระบบไฟมันไม่ถูกกับน้ำมากที่สุดครับ แค่น้ำซึมเข้าไปเล็กน้อยก็ทำให้เครื่องเดินไม่เรียบแล้วครับ ให้ไล่พวกปลั๊กไฟให้หมดครับว่ามีตัวไหนมีน้ำอยู่บ้าง ถ้าไม่หายให้หาสายหัวเทียนเสเนใหม่เลยครับ
วันที่: 13 May 14 - 19:23

 ความคิดเห็นที่: 5 / 10 : 812779
โดย: tonต้น
ต่อจากข้างบนเมื่อกี้มือพลาดไปโดนผิดปุ่มครับ
ถ้าไม่หายให้หาสายหัวเทียนเส้นใหม่มาเปลี่ยนดูก่อนครับ น้ำมันอาจจะไหลซึมเข้าไปในสาย เปลี่ยนแล้วไม่หายให้ไล่ไปที่คอย
ส่วนกลิ่นน้ำมันคาดว่ามาจากที่หัวฉีด อาจจะทำงานไม่ค่อยปกติ ให้ลองดึงปลั๊กไฟของหัวฉีดแต่ละตัวมาดูว่าแน่นเป็นปกติมั้ย ผมเคยเป็นอยู่ครั้งนึงสายไฟขาดพอแก้ไขแล้วเครื่องเดินเรียบเหมือนเดิม

แต่อาการโดยรวมทั้งหมดผมคาดว่ามาจากหัวเทียนลองเปลี่ยนให้ตรงรุ่นตามคู่มือถ้าเป็นเครื่องเดิมๆ
วันที่: 13 May 14 - 19:37

 ความคิดเห็นที่: 6 / 10 : 812813
โดย: sampu
เคยเป็นเหมือนกัน. เอาเข้าคาร์แคร์. เด็กล้างบางคนมักจะถอดโน่นนี่ออกมาเป่าลมให้ละอองน้ำแห้งหายไป. บางคนไม่มีประสพการณ์จะดึงสายหัวเทียนแบบตรงๆแรงๆเพราะมันแน่น. เลยทำให้สายไฟขาดใน. มองจากข้างนอกก็ปกติ. สภาพเหมือนเดิม

วิธีถอดที่ถูกต้องควรจับสายหัวเทียนให้โยกซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนแล้วค่อยๆดึง

นี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่มักพบบ่อยหลังจากรถออกจากคาร์แคร์ที่ล้างห้องเครื่อง. ผมไม่ได้ล้างฉีดห้องเครื่องมาเป็น 10 ปีแล้ว. ใช้ชุบหมาดแล้วเช็ดเอา. หรือสเปย์โฟมฉีดแล้วเช็ด

ลองหาสายหัวเทียนมาเส้นเดียว.ยาวๆ แล้วลองเปลี่ยนทีละเส้นไล่ดูเรื่อยๆ. อาจเจอเส้นใดเส้นหนึ่งขาดใน
วันที่: 14 May 14 - 09:04

 ความคิดเห็นที่: 7 / 10 : 812816
โดย: tonต้น
จริงอย่างที่ท่าน sampu พูดครับ ตามคาร์แคร์ผมเห็นเด็กบางคนจับที่สายดึงเอาเลยครับ ไม่ได้ค่อยๆขยับ ขนาดแค่เอาไปล้างอัดฉีดเฉยๆ เด็กที่รับรถไป ขับรถเราไปที่ล้าง ผมตกใจเลยเหยียบคันเร่งแบบว่ายังกับอยู่ในสนามแข่ง ครั้งเดียวพอเลยครับ ทุกวันนี้ผมไปล้างตามร้านอัดฉีดทั่วๆไปดีกว่าครับ สามารถยืนกำกับอยู่ข้างๆได้เลย ขับเข้าไปจอดเองเลื่อนรถเองสบายใจกว่า แล้วแถมสามารถขอผ้าเก่าๆมาเช็ดห้องเครื่องเองได้อีกด้วย แต่ช่วงหลังๆผมล้างเองซะส่วนใหญ่ ลดปัญหาความชื้นไปได้เยอะเลยครับ
วันที่: 14 May 14 - 09:52

 ความคิดเห็นที่: 8 / 10 : 812871
โดย: Petch
ยังหาสายหัวเทียนไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไง วันนี้เลยลองถอดคอยล์มาเช็ค ผมแกะปลั๊กที่ติดอยู่กับคอยล์ออกมา(ไม่ใช่ที่เป็นสาย) ข้างในจะเป็นสปริงที่ไว้เพื่อดันแตะเป็นสะพานไฟจากคอยล์ไปหัวเทียน พบว่าเป็นตระกรันที่ปลายสปริงด้านคอยล์ ด้านที่แตะกับหัวเทียนเป็นปกติ จึงเอากระดาษทรายมาขัดที่หัวสปริงทั้งสองด้าน แล้วเอาไขควงตัวเล็ก(ไขควงไขนาฬิกา) แหย่เข้าไปขูดในรูคอยล์ ทำแบบนี้ทั้งสองคอยล์แล้วลองใหม่ ปรากฏว่า ดีขึ้นมาหน่อยนึงครับ ดีขึ้นตรงที่ตอนจอดรอบไม่ตกจนรถสั่นหรือดับ(ก่อนทำ เวลาจอดรอบจะตกมากต้องคอยเร่งเครื่อง) แต่ตอนออกตัวยังมีเร่งไม่ขึ้นบ้าง ตอนนี้จึงคิดว่าเขยิบเข้ามาใกล้กับตัวปัญหานึงนึงละ ฝากๆว้สำหรับผู้ที่พอจะวิเคราห์ได้ช่วยต่อยอดทีครับว่าน่าจะไปตรงไหนต่อดี อ่อ...ลืมบอกไปครับสำหรับผู้ที่จะลองทำอย่างผมต้องระวังอย่างมากในการถอดปล๊กที่ติดกับคอยล์ เนื่อจากคราวที่แล้วผมเสียคอยล์ไปสองหัวเพราะการถอดนี้แหละครับคราวนี้พอรู้จึงระวังเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าคอยล์ใช้มานานแล้วพลาสติกหัวคอยล์มันจะกรอบและหักง่าย ถ้าหักแล้วก้แจบกันครับ ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ขอบคุณครับ
วันที่: 14 May 14 - 20:10

 ความคิดเห็นที่: 9 / 10 : 813679
โดย: Petch
หายแล้วครับ อาการสะดุด เช็คเองปรากฏว่าแวคคั่มที่ต่อกับท่ออากาศหัก ถ้าต่อด้วยกาวตราช้างไม่หายครับ เนื่องจากกาวตราช้างไม่สามารถปิดรอยหักได้หมดอากาศเข้าได้ พอกกาวอีพอกซี่ถึงจะหาย ครับ มั่นใจได้เลยว่าอาการสะดุดทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นที่คอยล์หรือหัวเทียนเสมอไป เพราะผมเป็นแบบนี้มาแล้วสองครั้ง อาการเดียวกัน ต้นตอและจุดที่เสียที่เดียวกัน แต่ไม่ใช้หัวเทียนกับคอยล์ แล้วจะถ่ายรูปใหดูอีกครั้ง ไม่กล้าถอดมาถ่ายตอนนี้ครับกลัวจะหักอีก รอซื้อของใหม่ได้ก่อนแล้วจะถ่ายให้ดูเพื่อแชร์ประสบการณ์ครับ
วันที่: 27 May 14 - 20:21

 ความคิดเห็นที่: 10 / 10 : 832080
โดย: โปเต้
ผมก็เป็นเหมือนกันตั้งแต่เปลี่ยนเครื่องยนต์มามันสกปรกมากมีคราบน้ำมันเต็มไปหมดเลยตัดสินใจล้างห้องเครื่อง อุตส่าห์หาร้านที่ล้างได้ย้ำแล้วยย้ำอีก เสียค่าล้างไปตั้ง 580 บาท ขับมา 2 อาทิตย์ ประมาณจะ 500 กิโลเมตรแล้วยังไม่หายกระตุกเลย และวันนี้กระตุกแรงกว่าเดิมอีก จอดติดไฟแดงกระพือทั้งคันเลย ไม่รู้จะทำยังไงจะเช็คคอยล์ หัวเทียนก็ทำไม่เป็นเดี๋ยวหาอู่ทำดีกว่าแต่อู่แบบไหนรับทำเนี่ยผมก็ไม่รู้เลยไดนาโมทำได้ไหมครับ
วันที่: 17 Nov 15 - 23:01