Close this window

ผลจากการเอารถไปทำที่ ming เมื่อวานคับ
ผมไปถึงเมื่อเวลา 8.30 น. ทางฝ่ายบริการก็ได้นำรถของผมไปเซ็กรอยขนแมวมาคับใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ผมก็รอเพื่อรับรู้คับ พอเซ็กเสร็จผมก็ได้รู้ว่า โอ้ แม่เจ้าทำไมรอยมานเยอะยั้งงี้เนี่ย คิดในใจทำไมเวลาเรามองดูมานเห็นไม่กี่รอยเอง สงสัยรอยเกิดมาจากตอนขนส่ง เวลาระยะการทำทั้งหมด 6 ชั่วโมงครึ่ง ผมก็ได้ไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่เซ็นทรัลลาดพร้าวคับ พอถึงเวลารับรถทางศูนย์ก็ได้โทรมาแจ้งให้มารับได้แล้วคับ แต่รถดูเหมือนเป็นคนละคนักับที่มาตอนแรกเลยคับ มันแวววาว ทั้งภายในภายนอกเลยคับ

ราคาค่าเสียหายทั้งหมด คือ ภายนอก 7500 + ภายใน 4500 = 1200 ลด 30% = 8400 บาทคับ
แต่พอตอนจะกลับผมก็ได้ถามทาง ming ว่าค่าติดอุปกรณ์กันสนิมอิเล็กโทรนิกส์มันราคาเท่าไหร่ ทางศูนย์บอกว่า ราคามันอยู่ที่ 800 กว่าบาท แต่ผมเป็นลูกค้าแล้ว เลยลดให้เหลือ 7500 แต่ถ้าจะทำอ่ะจ่ายพร้อมกันกะ 8400 อ่ะ ลดให้เหลือ 7000 บาท ผมคิดในใจ เอาก็เอาว่ะถึงไหนถึงกัน ตกลงค่าเสียหายทั้งหมดคืออยู่ที่ราคา 15400 บาทคับ แต่ยังไม่ติด (จ่ายเงินไปแล้ว)

ภายนอกรับประกัน 6 ปี ใช้เวลาทำ 5 ชั่วโมง
ภายในรับประกัน 3 ปี ใช้เวลาทำ 1ชั่วโมงครึ่ง ทั้งหมดใช้เวลา 6 ชั่วโมงครึ่ง

วันนี้จะนำรถไปติดตัวกันสนิมอิเล็คโทรนิกส์ รับประกันตลอดอายุการใช้งาน ใช้เวลาติดตั้ง 1 ชั่วโมง

ส่วนรูปเด๋วผมจาถ่ายมาให้ดูทีหลังนะคับ เพราะยังไม่มีเวลาถ่ายครับ

ของผม 5 ประตูสีดำตัวท๊อปคับ

(คุณ webmaster ไม่ทราบว่าผมโพสผิดกระทู้หรือป่าวคับ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยนะคับ)
โดย: analysis   วันที่: 22 Feb 2005 - 00:54

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 24 : 040331
โดย: rex 2.0
ผิดครับ (อืม น่าเห็นใจ) ก๊อปไปโพสท์ที่ Mazda 3 Lounge ด้วยนะครับ เพื่อน ๆ ที่ใช้รุ่นเดียวกัน จะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าด้วยครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 08:24

 ความคิดเห็นที่: 2 / 24 : 040333
โดย: Magicman
ดีใจด้วยครับ ที่ทำถูกใจ
แต่ตัวกันสนิมอิเลคโทรนิคส์ เนี่ย.......
ผมยืนยันว่าไม่ได้ผลครับ ไม่คุ้มค่านะ
บริษัทเก่าที่ผมเคยทำงานด้วย เค้าทำการศึกษาและวิจัยมานานพอดู เมื่อกว่า 10 ปีแล้วครับ
แถมยังทำขายด้วย ช่วงแรกขายดีมาก สินค้าตัวอย่างแสดงการทำงานได้ดี
แต่ของจริง คนละเรื่องเลย ภายหลังโดนลูกค้าเคลมเยอะ เลยเลิกทำครับ
ไอ้เรื่องการชดเชยอิเลคตรอนให้โลหะ มันเปงทฤษฎีครับ จะใช้งานจริง เนี่ย ยุ่งยากและลงทุนสูงกว่านี้
ปัจจุบัน มีการใช้งานกับเรือขนาดใหญ่ที่ทำด้วยโลหะ เพื่อชลอการเกิดสนิมเท่านั้น ไม่ได้กันสนิมนะ
วันที่: 22 Feb 05 - 08:31

 ความคิดเห็นที่: 3 / 24 : 040336
โดย: rex 2.0
อ้าว ทักพี่เล็กแมจิกจ้า่่าาาา ไม่ได้คุยกันเลยคราวที่แล้ว ได้แต่ยักคิ้วหลิ่วตา ปิ๊งป๊าาง
วันที่: 22 Feb 05 - 08:39

 ความคิดเห็นที่: 4 / 24 : 040397
โดย: บาส
เดี๋ยวนี้ท่านยักคิ้ว หลิ่วตา ให้ผู้ชายแล้วเหรอ

น่ากลัวจริง จริง
วันที่: 22 Feb 05 - 10:35

 ความคิดเห็นที่: 5 / 24 : 040425
โดย: โอ๊ะ
ก็ไม่น่าถึงกับผิดหรอกครับกระทู้นี้ก้ำกึ่ง เป็นเรื่องราวทั่วไป เพียงแต่ว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ออกรถใหม่เท่านั้นเองครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 11:39

 ความคิดเห็นที่: 6 / 24 : 040428
โดย: พงษ์ อัมเทล
ming นี่ดีครับ ก่อนโน้นเคยจะเอาเข้าไปทำ แต่แบบว่ามันชนบ่อย
ทำสีมายังไม่ครบ 6 เดือน เขาเลยไม่ทำให้ครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 11:45

 ความคิดเห็นที่: 7 / 24 : 040526
โดย: *~ชั่วมั้งต้องภู~*
ถือว่ามาบอกเล่ากันไม่ผิดที่ผิดทางหรอกครับ

อีกอย่างไอ้ที่ทำก็ไม่ใช่เรื่องเฉพาะรุ่นซะทีเดียว แบบนี้เยี่ยมครับ

ว่าแต่รถเก่า ๆ อายุจะสิบปีแบบพวกกระผมจะเอาไป ming บ้างเนียพอจะไหวป่ะครับ

หรือว่าต้องสาด ไปขัดสีมาให้แว๊บซะก่อน
วันที่: 22 Feb 05 - 14:11

 ความคิดเห็นที่: 8 / 24 : 040587
โดย: ก็เห็นสนิมอยู่ดี
กันสนิมในรถ lantis ที่ผมไปซื้อมาก็เห็นติดไว้น่ะ แถวๆ ที่เครื่องกันสนิมอิเล็กทรอนิคส์ตั้งอยู่ ก็มีสนิมเกาะน่ะ เลยถอดสายไฟมันออกไปแล้ว
วันที่: 22 Feb 05 - 15:50

 ความคิดเห็นที่: 9 / 24 : 040633
โดย: Jan-Cronos
อยากเห็นรูปจังเลยครับ รถที่เอาไปทำ Ming มาน่ะ อยากเห็นเจรงๆ เลย
รับประกันตั้ง 6 ปี ผมว่าถ้าซื้อรถใหม่แล้วเอาไปทำเนี่ย คุ้มมากๆ เลยนะ
แต่ถ้าใครชนบ่อย ก็เสียดายตังน่าดู ทำแล้วไม่คุ้ม
วันที่: 22 Feb 05 - 17:00

 ความคิดเห็นที่: 10 / 24 : 040701
โดย: glocky
เห็นด้นกับคุณ Magic man เรื่องกันสนิมไฟฟ้าครับ

ตอนแรกก็หาข้อมูลมาว่าเจ้า กันสนิมไฟฟ้ามันไม่ได้ผล แต่ด้วยความอยากลอง และไม่อยากให้รถเหม็นน้ำยากันสนิมก็เลยลองติดตั้งด้วยความเชื่อมั่นว่ามันใช้งานได้ดี
แต่พอวันนึง รถผมโดนหินดีดใส่จนสีถลอกถึงเนื้อเหล็กซักพัก เราก็ไม่สนใจจะแต้ม เพราะยังเชื่อมั่นในระบบกันสนิมไฟฟ้า จนมาวันนึงก็สังเกตุเห็นว่ามีสนิมเกิดขึ้นแล้วที่รอยกระเทาะดังกล่าว ผมเลยเชื่อทันทีว่ามันไม่ได้ผลครับกับเจ้าระบบนี้ เก็บเงินทำอย่างอื่นดีกว่าครับ แต่ถ้าอยากจะกันสนิมจริงๆผมว่าพ่นแบบขี้ผึ้งใส ที่ไม่มีกลิ่นเหม็น เช่นของบิลสไตน์ R2000 ดีกว่าครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 21:09

 ความคิดเห็นที่: 11 / 24 : 040721
โดย: analysis
รูปเด๋วเอามาโพสให้ดูที่หลังคับ เพราะกล้องพี่เอาไปใช้รออยู่คับ แต่ถ้าผมโพสผมจะตั้งกระทู้ใหม่นะคับ
วันที่: 22 Feb 05 - 21:37

 ความคิดเห็นที่: 12 / 24 : 040727
โดย: analysis
แต่ผมยังยังคงมั่นใจในตัวสินค้าตัวนี้อยู่คับ ถึงแม้มันจะไม่ได้ผลก็ตาม แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณ glocky ว่าผมคิดว่ามันก็น่าทดสอบดูนะคับ แต่ถ้ามันเกิดสนิมขึ้นมาจิง ๆ สักพักมันก็คงจะเกิดรูขึ้น ผมก็คงจะเอารถไปให้ทาง ming ดูคับ เพราะเนื่องจากมันมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานของตัวสินค้าอ่ะคับ

การคุ้มครองมีอยู่ 5 ประการ
1 บริษัทรับประกันประสิทธิภาพและชิ้นส่วนการทำงานของอุปกรณ์
2 สำหรับรถใหม่ - การรับประกันประสิทธิภาพจะอยู่นานเท่าที่ท่านยังครอบครองกรรมสิทธิ์ใช้งานรถคันดังกล่าว
3 สำหรับรถเก่า - การรับประกันสูงสุด 6 ปี นับจากวันผลิต กรณีอายุเกินดังกล่าว การะรับประกันมีผลเพียง 2 ปีนับจากวันติดตั้ง
4 หากมีการเกิดสนิมจนเป็นรูบนเนื้อโลหะของตัวรถดังกล่าว บริษัทยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมทั้งหมด ของการเกิดรูสนิมดังกล่าว
5 ผู้รับประกันมีหน้าที่ต้องนำรถมาตรวจสอบสภาพระยะเวลากำหนดในคู่มือการรับประกัน

ขอบคุนคับที่ให้คำแนะนำ
วันที่: 22 Feb 05 - 21:49

 ความคิดเห็นที่: 13 / 24 : 040772
โดย: Magicman
ยินดีครับคุณ analysis ที่นำข้อมูล ประสพการณ์และความคิดเห็นมาแลกเปลี่ยนกัน
ก่อนอื่น ผมต้องออกตัวว่า ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณขาดความมั่นใจในเรื่องสินค้า เพราะผมก้อไม่ได้มีส่วนได้เสียกะสินค้าใดๆ นะครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 23:43

 ความคิดเห็นที่: 14 / 24 : 040774
โดย: Magicman
สำหรับคุณ คห ที่8 และคุณ glocky ครับ
จากประสพการณ์ที่ผมเคยคลุกคลีกับสินค้าประเภทนี้
พบว่า อุปกรณ์ดังกล่าวอาจจะเร่งปฏิกริยาให้เกิดสนิมเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
วันที่: 22 Feb 05 - 23:49

 ความคิดเห็นที่: 15 / 24 : 040777
โดย: Magicman
พอคุยกันเรื่อง การป้องกันสนิมสำหรับรถยนต์ ก้อเลยอยากให้ข้อมูลที่อาจจะเป็นปะโยชน์ สำหรับคนที่สนใจในเรื่องนี้
การป้องกันสนิมสำหรับรถยนต์ เป็นเรื่องที่ผู้ผลิตรถยนต์ทุกยี่ห้อ ต่างตะหนัก และให้ความสำคัญอย่างมาก ปัจจุบันเทคโนโลยีเรื่องนี้พัฒนาไปไกลมากแล้วครับ จะพบว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาในช่วง 10 กว่าปีนี้ พบปัญหาการเกิดสนิมน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้านั้นมาก
เพราะอะไร หรือครับ
วันที่: 22 Feb 05 - 23:59

 ความคิดเห็นที่: 16 / 24 : 040781
โดย: Magicman
เริ่มกันด้วยแผ่นเหล็กที่นำมาผลิตตัวถัง ปัจจุบันการผลิตแผ่นโลหะก้าวหน้าขึ้นมาก มีการชุบซิงค์กันสนิมดีขึ้น เมื่อนำมาปั๊มขึ้นรูป และเชื่อมติดกัน แน่นอนย่อมมีโอกาสเกิดสนิมโดยเฉพาะจุดเชื่อม รวมทั้งการออกแบบโครงสร้างซับซ้อนที่มีมุมอับต่างๆ เดี๋ยวนี้มีการพัฒนากระบวนการชุบโครงสร้างและชิ้นส่วนเกือบทั้งคัน โดยเริ่มจากการต้มล้างชิ้นงานด้วยด่างในบ่อ แล้วชุบรองพื้นด้วยแมงกานีส ฟอตเฟส พื้นป้องกันสนิมและเพื่อให้สีสามารถยึดเกาะดีขึ้น
วันที่: 23 Feb 05 - 00:10

 ความคิดเห็นที่: 17 / 24 : 040784
โดย: Magicman
หลังจากนั้น จึงพ่นสีรองพื้น แล้วพ่นสีจริง และแลคเกอร์เคลือบผิวสี ด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า หรือ _แคตไออน อีดีพี ซึ่งช่วยในการยึดเกาะดีกว่า การพ่นสเปย์ด้วยลม เคยสังเกตุมั๊ยครับ ว่าสีที่พ่นจากโรงงานทำไม สวยทน สวยนาน กว่าสีที่พ่นจากอู่ในภายหลัง เพราะพระเอกอย่างแมงกานีส ฟอตเฟส และระบบอีดีพี นั่นเอง
วันที่: 23 Feb 05 - 00:17

 ความคิดเห็นที่: 18 / 24 : 040788
โดย: Magicman
นี่เป็นเพียงเทคโนโลยีการป้องกันสนิมส่วนหนึ่งเท่านั้น จริงๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่ผูู้ผลิตรถยนต์เลือกใช้ ทำให้สามารถรับประกันเรื่องนี้ได้นานขึ้น บางยี่ห้อ ว่ากันเป็น 10 ปีทีเดียว โดยทั่วไปในกรณ๊รถยนต์ใหม่ ในระยะ 3-5 ปี แรก ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือ มีรอยขีดขูดบนผิวแผ่นโลหะ เชื่อว่า ไม่น่าเกิดปัญหาเรื่องสนิม ชนิดทะลุแผ่นเหล็กแน่ๆ
วันที่: 23 Feb 05 - 00:24

 ความคิดเห็นที่: 19 / 24 : 040790
โดย: Magicman
แต่ถ้ารถถูกใช้งานในสภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ไกล้ทะเล โรงงานอุตสาหกรรมเคมี เหมืองถ่านหิน หรือ มีมลภาวะ จะโอกาสเกิดสนิมจะสูงกว่ารถใช้งานแบบปกติ
วันที่: 23 Feb 05 - 00:26

 ความคิดเห็นที่: 20 / 24 : 040793
โดย: Magicman
โดยส่วนตัวถ้าซื้อรถใหม่ ผมจะไม่เอาของแถมพวกพ่นกันสนิม เพราะเป็นเรื่องการตลาด เพื่อขายบริการแฝงอย่างอื่น เช่น พ่นกันสนิมฟรีทุก 3 เดือน แต่เวลาคุณไปใช้บริการฟรี คุณจะโดนเรียกเก็บ ค่าล้างอัดฉีดรถก่อนเสมอ โดนแล้วครับ 300-500 บาทต่อครั้ง และศูนย์ยังเชียร์ ให้ทำการป้องกันสนิม เสียงรบกวนหรืออย่างอื่น เพื่อเพิ่มความมั่นใจสูงสุด (คุณต้องจ่ายสูงสุดด้วยเหมือนกัน)
วันที่: 23 Feb 05 - 00:32

หน้าที่: [1]   2