Close this window

ทดสอบเจ้า 3 ตัว 2.0 ซีซี
มาสด้า 3 อาร์ 2.0 ลิตร ยกระดับมาตรฐานรถซีดาน

หน้ายานยนต์ เอ็กซ์ไซท์ มอเตอริ่ง เคยนำมาสด้า 3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติมาลงไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของรุ่นท็อปออฟเดอะไลน์ มาสด้า 3 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สปอร์ตซีดานที่มีดีไซน์ล้ำเกินหน้ารถระดับเดียวกัน

หน้าตาภายนอกของมาสด้า 3 บ่งบอกความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย รวมไปถึงตัวถังที่มีส่วนโค้งมนรับกันได้อย่างลงตัว สำหรับรุ่น 2.0 ลิตรมีจุดที่แตกต่างจากรุ่น 1.6 ลิตร ตรงที่ล้ออัลลอยใช้ขนาดใหญ่ 17 นิ้ว สวมทับด้วยยางขนาด 205/50 R17 บนหลังคาเพิ่มซันรูฟไฟฟ้าเข้ามาหนึ่งบาน
ภายในห้องโดยสารดูสปอร์ตไม่แพ้ภายนอก พวงมาลัยสามก้านแบบมัลติ-ฟังก์ชั่นขนาดกำลังดี มองถัดไปเป็นมาตรวัดสามช่องที่มีส่วนโค้งยื่นออกมาดูดีมีชาติตระกูล เข็มวัดรอบและความเร็วชี้ลงแนวดิ่งแบบสปอร์ตขนานแท้ ช่องแอร์ทรงกลม แผงคอนโซลละลานตาด้วยแสงไฟโทนแดงอมส้ม ดูแล้วเบื่อยาก

จุดด้อยภายในห้องโดยสารของมาสด้า 3 คือ พื้นที่ที่ค่อนข้างคับแคบ อีกทั้งวัสดุที่นำมาประกอบดูจะก๋องแก๋ง ไม่ค่อยแข็งแรงทนทานเท่าใดนัก

ขุมพลังใต้ฝากระโปรงเป็นบล็อก 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 181 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที

พละกำลังนับว่ามีเหลือเฟือครับ จะค่อยๆ ละเลียดคันเร่งออกตัวแบบเนิบนาบ หรือกดจมคันเร่งพุ่งออกไปก็ทำได้ตามเท้าสั่ง เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดเปลี่ยนขึ้นรวดเร็วถ้าขับแบบเรื่อยเปื่อยธรรมดา ช่วยให้การขับขี่ไหลลื่นและประหยัดน้ำมัน แต่ถ้ากดลึกหน่อยก็สามารถลากรอบเครื่องได้จนเกือบแตะที่ 7,000 รอบ/นาทีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ระบบเกียร์ของมาสด้า 3 ยังมีโหมดเกียร์ธรรมดาแบบบวก-ลบให้ใช้ด้วย เพียงดันเกียร์มาทางขวา ก็สามารถ "เล่น" กับเกียร์ได้อย่างสนุก สามารถลากรอบเครื่องเพื่อเค้นพละกำลังได้ตามใจ เหมาะสำหรับการเร่งแซง และเส้นทางแบบไต่ขึ้นลงเขา

อัตราเร่งแซงในช่วงความเร็วไม่เกินหลักร้อย มีมาให้ใช้แบบสบายๆ กดเมื่อไหร่ กำลังเครื่องยนต์ก็พร้อมจะสำแดงเดชเมื่อนั้น ขณะที่อัตราเร่งตั้งแต่ 100-140 ก.ม./ช.ม. ก็ยังทำได้แบบสบายๆ ความเร็วจะไปหนืดลงก็เมื่อพ้นช่วง 150 ก.ม./ช.ม.ไปแล้วนู่นล่ะครับ สำหรับความเร็วปลายของมาสด้า 3 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อยู่ที่ประมาณ 190 ก.ม./ช.ม. บวกอีกเล็กน้อย

ในส่วนของระบบช่วงล่างใช้แบบแม็คเฟอร์สัน สตรัทที่ด้านหน้า และแบบมัลติลิงค์ที่ด้านหลัง ยังคงเป็นจุดเด่นสำคัญของมาสด้า ถึงแม้ในรุ่นมาสด้า 3 จะลดทอนความแข็งแน่นกระแทกกระทั้นลงพอสมควรเมื่อเทียบกับรุ่นโปรทีเจ 2.0 ลิตร แต่ก็ยังมีความรู้สึกแข็งๆ ให้สัมผัสบ้าง เพียงแต่สอดแทรกความนุ่มนวลเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เหมือนเป็นการเอาใจลูกค้าหลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งพวกที่ชอบแนวสปอร์ต และพวกที่ชอบรถนุ่มนั่งสบาย

ช่วงล่างของมาสด้า 3 เกาะถนนเหนียวแน่นดีทีเดียว การเข้าโค้งทั้งแคบและกว้างทำได้อย่างมั่นใจ ขณะวิ่งบนความเร็วสูงไม่ค่อยออกอาการโยนตัว จะมีบ้างก็พ้นช่วง 140 ก.ม./ช.ม.ไปแล้ว จุดเด่นอีกอย่างในมาสด้า 3 ก็คือ พวงมาลัยที่ค่อนข้างแม่นยำ มีน้ำหนักกำลังเหมาะมือ ซึ่งทำให้การขับขี่มีอรรถรสดีทีเดียว

พูดถึงจุดเด่นมาเยอะ ลองมาดูจุดด้อยกันบ้าง มาสด้า 3 มีจุดด้อยที่ยังไม่เข้าตานัก ที่เสียงรบกวนจากภายนอก ทั้งเสียงลมและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระพือเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ เสียงจากพื้นถนนและอาการสะเทือนจากล้อขนาด 17 นิ้ว ก็สามารถรับสัมผัสได้ชัดเจนแจ่มแจ้งกว่ารถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ ในระดับเดียวกัน ทั้ง โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส และฮอนด้า ซีวิค

ในเรื่องของอัตราบริโภคน้ำมัน ซึ่งหลายคนถามไถ่มาว่าจะกินมูมมามหรือไม่ จากการลองขับตามปกติกว่า 270 ก.ม. ทั้งในเมืองและนอกเมือง บวกลบคูณหารออกมาได้ที่ประมาณ 9 ก.ม./ลิตร ถือว่าไม่กินสวาปามแต่ก็ไม่ถึงกับจิบ เรียกว่า กินตามบุคลิกการขับขี่ของแต่ละคน ถ้าเท้าขวาหนักกว่าปกติ มือก็ต้องหมั่นเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันล่ะครับ

ระบบความปลอดภัยมีพอตัว ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านนิรภัย ระบบเบรกเอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรกอีบีดี และโครงสร้างตัวถังนิรภัย

ทางมาสด้าเคาะค่าตัวของมาสด้า 3 ไว้ที่ 1,009,000 บาท ถ้าพูดถึงความสะดวกสบาย ความกว้างขวางของภายในและราคาขายต่อ อาจจะสู้รถยี่ห้ออื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกันไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องดีไซน์ รูปลักษณ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ส่งให้มาสด้า 3 เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานรถญี่ปุ่นในเวลานี้
โดย: เจ้าสัว   วันที่: 16 Jan 2005 - 17:02