ช่วงนี้หากสังเกตดีๆ จะเห็นมีป้าย ติดอยู่หน้าสถานีเติมน้ำมัน และร้านรับเปลี่ยน ยางรถยนต์เขียนบอกว่า "บริการเติมลมไนโตรเจน" ชวนให้นึกสงสัยว่ามันคืออะไรกัน
ปกติแล้วรถยนต์ที่ใช้ไนโตรเจนเติมลมยางนั้น จะมีใช้กันเฉพาะในการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นการแข่งรถท้ามัจจุราช หากพลาด เพียงนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิต ความเร็วจากการ แข่งรถที่วิ่งกันเป็น เวลานานจะสะสมความร้อนให้กับยางรถ ซึ่งหากการควบคุมอุณหภูมิ ภายในยางและเนื้อยางไม่ดีพอ ยางอาจระเบิดได้ง่ายๆ
เหตุที่นักแข่งรถใช้ก๊าซไนโตรเจนเติมยาง ก็เพราะไนโตรเจนล้วนๆ มีความชื้นน้อยกว่า อากาศทำให้อัตรา การขยายตัวหรือหดตัว ค่อนข้างแน่นอน กว่าเมื่อเทียบกับอากาศปกติ ปกติแล้ว แรงดันลมครึ่งปอนด์ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการบังคับ และการควบคุมรถ นอกจากนี้ อุณหภูมิถนน และยางรถยนต์ ยังมีความแตกต่างกันในระหว่างการแข่งขัน ดังนั้น อุณหภูมิที่คงที่จากการใช้ลมไนโตรเจน จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนเหตุที่แรงดันของไนโตรเจนมีความเสถียรกว่าอากาศปกตินั้น เนื่องจากอากาศปกติจะมีปริมาณ ของไอน้ำอยู่แตกต่างกัน เพราะความ ชื้นสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการแข่งรถ เจ้าน้ำนี่เองที่เป็น สาเหตุสำคัญที่ทำให้อากาศปกติมีอัตราขยายตัว และหดตัวไม่คงที่ ด้วยเหตุนี้ การแข่งขันในพื้นที่ที่มีความชื้น อย่างใน ภาคตะวันออกเฉียงใต้ ของสหรัฐ หรือในการแข่งในพื้นที่แห้งแถบทะเลทราย ทางภาคตะวันตก ของสหรัฐก็อาจส่งผล ที่ไม่คาดคิด ได้กับแรงดันลม ของยางรถได้หากทีมแข่งขันไม่ได้ใช้ไนโตรเจนแห้งเติมลม
ที่นี้ร้านซ่อมและจำหน่ายยาง มองว่า แนวทาง ดังกล่าวน่าจะเป็นบริการเสริมรูปแบบใหม่ได้ สถานีให้บริการน้ำมัน และร้านเปลี่ยนยางหลายแห่งจึงเริ่ม ให้บริการเติมลมยางด้วยก๊าซไนโตรเจนกัน
นายธีระ ทวีสัตย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จันทร์เกษม อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับซ่อมบำรุงรถยนต์ กล่าวว่า อุปกรณ์เติมลมยาง ด้วยไนโตรเจน เป็นเครื่องผลิตไนโตรเจน (Nitrogen generator) ที่สามารถสกัด ออกซิเจนออกจากอากาศให้เหลือเฉพาะไนโตรเจนได้
อุปกรณ์ชิ้นนี้ ใช้ร่วมกับเครื่องปั๊มลมปกติทั่วไป หลักการทำงานก็เพียงแต่อัดอากาศเข้าถัง และปล่อยออกมาตามสายที่ต่อเข้ากับเครื่องกรอง ซึ่งจะมีตัวกรอง 3 ชั้น โดยชั้นแรก จะทำหน้าที่กักน้ำ ฟองลม และฝุ่น ชั้นที่ 2 กรองลมให้บริสุทธิ์มากขึ้น และชั้น 3 สกัดออกซิเจนออกให้เหลือไนโตรเจนราว 95-98%
ปกติอากาศทั่วไปที่เราหายใจเข้าไป จะมีส่วนผสมของก๊าซไนโตรเจนอยู่ 78% ที่เหลือจะเป็นออกซิเจนและก๊าซอื่นๆ อุปกรณ์เติมไนโตรเจน ที่บริษัทนำเข้ามาจำหน่ายนั้น มี 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบเคลื่อนที่ที่สามารถเติมลมยางได้ราว 20 เส้นต่อชั่วโมง และแบบติดตั้งเฉพาะพื้นที่ ซึ่งเติมลมยางได้มากกว่าที่ระดับ 80-90 เส้นต่อชั่วโมง
ขั้นตอนการเติมไนโตรเจนนั้น จะเริ่มด้วยการปล่อยลมเก่าออกให้หมด และเติมไนโตรเจนเข้าไปจนเต็มพื้นที่เพื่อไล่ลมเก่าที่ตกค้างอยู่ จากนั้นก็ปล่อยลมออกอีกครั้ง และเติมก๊าซไนโตรเจนเข้าไปใช้เวลาราว 10 นาทีก็แล้วเสร็จ ที่สำคัญ ผู้ให้บริการจะเปลี่ยนจุกลมยางจากสีดำปกติ ให้เป็นสีเขียว เพื่อแสดงให้รู้ว่ารถคันนี้เติมลมยางด้วยไนโตรเจน
สำหรับข้อดีของการใช้ก๊าซไนโตรเจนเติมลมยางมีหลายประการ อาทิ ลดปัญหาเรื่องยางระเบิด ขณะขับขี่ยานยนต์ในระยะไกล เนื่องจากไนโตรเจนจะไม่ร้อน และไม่ขยายตัวดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ดังนั้น ยางจะไม่ร้อนขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ความดันอากาศภายในยางสม่ำเสมอ ทำให้ขณะขับขี่รู้สึกนุ่มนวล ลดเสียงดังของยางเวลาบดถนนตรงรอยต่อ หรือเส้นขณะที่ใช้ ยืดอายุการใช้งานของยาง การสึกหรอของดอกยางลดน้อย
นอกจากนี้ ทางผู้ให้บริการ ยังกล่าวว่า การเติมลม ด้วยก๊าซไนโตรเจนจะช่วยลดการสั่นสะเทือนของตัวถังรถขณะที่รถวิ่งได้นุ่มนวลขึ้น เวลารถวิ่ง ทำให้ยึดเกาะถนนดีขึ้นและปลอดภัยสูงขึ้น วิ่งเข้าโค้งดีขึ้น ลดความชื้นภายในยางรถยนต์ โดยทั่วไปแล้วการเติมลม ปกติจะมีออกซิเจนปะปน อยู่ภายใน ยางรถยนต์ ซึ่งจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ทำให้ยางเสื่อมเร็ว พร้อมกับเกิดสนิมที่กระทะล้อ นอกจากนี้ ยังไม่ต้องตรวจเช็คลมยางบ่อยครั้ง เพราะลมยางจะไม่เพิ่มหรือลดในขณะที่รถวิ่งหรือจอดอยู่
อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวอาจมีให้เห็นไม่มากนัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่งนำเข้ามาได้ 2 ปี และมียอดจำหน่ายไปแล้วราว 100 เครื่อง ส่วนใหญ่ จะมีให้บริการในพื้นที่เขตชานเมืองมากกว่า
เจ้าของร้านเปลี่ยนยางแห่งหนึ่งในย่านบางบัวทอง ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่นำผลิตภัณฑ์นี้มาให้บริการกับลูกค้า กล่าวว่า จุดเด่นของอุปกรณ์เติมลม ไนโตรเจน อยู่ตรงที่เป็นความแปลกใหม่ แต่อาจมีปัญหากับลูกค้ารุ่นเก่าบ้างที่ยังไม่กล้าเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ อัตราค่าบริการเส้นละ 50 บาท ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หลายคนชั่งใจอยู่
ขณะที่เจ้าของสถานีให้บริการน้ำ มันคาลเท็กซ์แห่งหนึ่งบนถนนรัตนาธิเบศร์ มองว่า บริการใหม่นี้ เป็นจุดขายที่ดี และเป็นบริการเสริมที่น่าจะนำมา ใช้ในปั๊มน้ำมัน เนื่องจากไนโตรเจนที่ได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม สามารถสกัดออกมาจากอากาศได้ตลอดเวลา ที่สำคัญช่วยผู้บริโภค ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ได้
"สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้หลังจากเปลี่ยนมาใช้ก๊าซไนโตรเจน คือ ความนุ่มและความยืดหยุ่นของยางขณะเคลื่อนตัว ข้ามทางลูกระนาด และไม่ต้องตรวจลมยางบ่อยๆ เหมือนการเติมลมในรูปแบบเดิม" หนุ่มใหญ่เจ้าของปั๊ม กล่าว
คัดลอกมาจาก :
http://www.bangkokbiznews.com/scitech/2003/0313/index.php?news=p2.html