1.การทำความสะอาดกระทะล้ออัลลอย (ล้อแม็ก)
การทำความสะอาดกระทะล้ออัลลอย (ล้อแม็ก) สามารถทำความทำความสะอาดได้เช่นเดียวกับการล้างตัวถังรถโดยใช้น้ำยาทำความสะอาดเช่นเดียวกันแล้วใช้น้ำเปล่าล้างอีกครั้ง เนื่องจากกระทะล้อแบบอัลลอยจะถูกเคลือบไว้ด้วยเคลียร์แล็กเกอร์เพื่อป้องการผุ่กร่อน ดังนั้นการใช้น้ำยาหรือสารเคมีทำความสะอาดชนิดเข้มข้นและการใช้แปรงที่แข็งจนเกินไปทำความสะอาดกระทะล้อจะเป็นสาเหตุให้เคลียร์แล็กเกอร์ที่เคลือบไว้หายไปได้ จากสาเหตุที่กล่าวมาจึงควรใช้น้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อนหรือสบู่กับฟองน้ำเท่านั้น
2.หลอดไฟแบบฮาโลเจน
หลอดไฟแบบฮาโลเจน เป็นหลอดไฟที่มีความเข้มของลำแสงส่องสว่างที่สูงมาก ภายในถูกอัดด้วยแก๊สฮาโลเจนความดันสูง ตัวหลอดจึงมีความร้อนสูงกว่าหลอดซีลบีม ดังนั้นเมื่อมีคราบน้ำมันหรือความเค็มจากเหงื่อ จะทำให้หลอดนั้นร้อนยิ่งขึ้นและแตกได้ในที่สุด ด้วยเหตุนี้เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนหลอดฮาโลเจน จึงควรใช้มือจับที่ฐานหลอดที่เป็นโลหะเท่านั้นถ้าบังเอิญจับโดนหลอดแก้วให้ทำความสะอาดโดยใช้ผ้าชุบแอลกอฮอร์เช็ด
3.หลอดไฟรถยนต์
หลอดไฟหน้รถยนต์ส่วนใหญ่มีอยู่ 2 แบบใหญ่ๆ ดังนี้
ก. หลอดไฟหน้าแบบซีลบีม (sealed beam) ประกอบด้วยเลนส์ กระจกสะท้อนแสงซึ่งมีผิวด้านในฉาบด้วยอลูมิเนี่ยมสะท้อนแสง ภายในบรรจุก๊าชเฉื่อยเอาไว้ หลอดซีลบีมที่ใช้มีใส้หลอดแบบไส้เดียวและสองไส้ ลำแสงของไฟสูงและไฟต่ำจะถูกจัดแยกจุดโฟกัสที่ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนั้นจึงมีข้อดีคือป้องกันฝุ่น ความซื้น และการผุกร่อนได้ดี แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีรอยร้าวหรือเลนแตก ไส้หลอดขาดก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดทันที
ข. หลอดไฟหน้าแบบกึ่งซีลบีม (semi-sealed beam) หลอดไฟแบบนี้มีลักษณะที่แตกต่างจากหลอดไฟแบบซีลบีมก็คือ เป็นหลอดที่ออกแบบให้สามารถเปลี่ยนหลอดได้เมื่อไส้หลอดขาดโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโคมไฟหน้าด้วย
4.การเคลือบเงารถ
การเคลือบเงาสีของตัวถังรถจะมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันอยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือ
4.1ยาขัดสี (compound) จะช่วยปรับสภาพของสีรถยนต์ที่ด้านให้เป็นเงางามมากขึ้นได้ ยาขัดสีจะมีส่วนผสมของผงขัดที่ละลายอยู่ในสารละลายหรือนำที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอย่กับขนาดเม็ดของยาขัด โดยจะมีตั้งแต่หยาบ ปานกลาง ละเอียด ละเอียดมาก และละเอียดมากที่สุด ยาขัดละเอียดจะใช้ให้เกิดความเงา มันจะถูกละลายไปในที่ทำการขัด บางครั้งในยาขัดอาจจะมีสารซิลิโคนผสมอยู่ เพื่อใช้สำหรับทำให้เกิดเงางามขึ้น
4.2ไขขี้ผึ้ง(Wax) จะช่วยรักษาให้สีของรถเป็นเงางาม ดังนั้นก่อนที่จะลงไขขี้ผื้งจึงควรล้างรถและเช็ดให้แห้งเสียก่อน
5.ขั้นตอนการล้างรถ
5.1 ใช้น้ำเย็นที่สะอาดล้างรถให้ทั่ว เพื่อเป็นการกำจัดฝุ่น ผง และสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากตัวรถเสียก่อน
5.2 ใช้ผ้าสะอาดใส่ถังผสมกับน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อนหรือน้ำยาล้างรถโดยเฉพาะ
5.3ใช้ถ้านุ่มหรือฟองน้ำกับนำยาทำความสะอาดที่ผสมไว้ล้างรถ โดยล้างจากด้านบนลงด้านล่างจากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดล้างฟองของน้ำยาทำความสะอาดจนหมด
5.4 ถ้ามีคราบของยางมะตอยจับอยู่บนตัวรถ ให้กำจัดด้วยน้ำยาขจัดยางมะตอยหรือน้ำมันสนแล้วล้างด้วยน้ำออกทันที เพื่อป้องกันไม่ให้สีเสีย
5.5 เมื่อล้างตัวถังรถภายนอกเสร็จแล้ว ให้ใช้ผ้านุ่มที่แห้งเช็ดตัวถังรถให้แห้งโดยอย่าปล่อยให้แห้งเองเพราะจะทำให้สีรถหมองและเกิดคราบน้ำ
การดูแลรักษารถยนต์
